" การปกครองซากปรักหักพังโบราณแห่งสวรรค์ นี่….. ซากปรักหักพังโบราณแห่งสวรรค์มันสามารถควบคุมได้ด้วยเหรอ ?? "
ยี่ เทียนหยุนนัยน์ตาส่องประกายแวววาว คนอื่นจะต้องไม่รู้ข้อมูลอันนี้เป็นแน่แต่….. ด้วยระบบคลั่งยกระดับเดี๋ยวก็รู้ผลลัพธ์เอง ถ้าเขาไม่สามารถสำเร็จภารกิจเควสหลักนี่ได้ก็จะไม่รู้ผลลัพธ์อย่างแน่นอน
เมื่อมองจากรางวัลแล้วความยากไม่ต้องพูดถึงอย่างแน่นอน ฉี ซุ่หยุนพูดก่อนหน้านี้ว่าปรับแต่งวิญญาณขั้นที่ 2 ซึ่งจริงๆแล้วมาตรฐานนี้อยู่ในเกณฑ์ขั้นต่ำสุดในการสำรวจ นั่นหมายความว่าการจะเข้าข้างในสถานที่แห่งนั้นได้นั้นพื้นฐานการบ่มเพาะพลังจะต้องแข็งแกร่งมากกว่านี้
เขาจมอยู่กับความประหลาดใจที่น่ายินดีของรางวัลที่ระเบิดออกมา แต่สีหน้าของผู้อาวุโสคนอื่นๆไม่ค่อยน่ามองโดยเฉพาะอย่างยิ่งสีหน้าของผู้อาวุโสสองนั้น ดูน่าเกลียดยิ่งขึ้น
โควต้าของลูกศิษย์ตัวเอง มันดูเหมือนว่าได้หลุดลอยไปแล้ว เธอไม่มีทางที่จะหาเหตุผลมาหักล้างฉี ซู่หยุนได้เลย ทำได้แต่เพียงแค่ยอมรับยี่เทียนหยุนเป็นศิษย์นอกเท่านั้นแต่….. ข้อกำหนดพิเศษนี้ศิษย์นอกมีฐานบ่มเพาะพลังอยู่ในขั้นปรับแต่งวิญญาณ นี่เป็นเกณฑ์ที่ร่ำรวยเลอะเทอะอะไรอย่างนี้
ในเกรดอายุเพียงเท่านี้สามารถบ่มเพาะมาถึงขั้นนี้ได้ จะต้องได้เป็นศิษย์หลักอย่างแน่นอน กุญแจดอกสำคัญจุดมุ่งหมายนับจากนี้ ยี่ เทียนหยุนจะต้องสามารถกลายมาเป็นผู้ท้าชิงตำแหน่งเจ้าตำหนักได้อย่างแน่นอน ติดแต่เพียงว่า….. เขาเป็นผู้ชาย
" ไม่ทราบว่าผู้อาวุโสมีความคิดเห็นอะไรอีก?? " ฉี ซู่หยุนมองดูสามผู้อาวุโส
" พวกเราไม่มีความคิดเห็น….. " พวกเขาต่างก็มองหน้าซึ่งกันและกันด้วยความผิดหวังทำได้แต่เพียงเผยรอยยิ้มที่ขมขื่น เมื่อเจ้าตำหนักพูดแบบนั้นแล้วพวกเขายังจะพูดอะไรต่อได้อีก ??
ทักษะยุทธ์อันหลากหลายของยี่ เทียนหยุนค่อนข้างมาก ฐานการบ่มเพาะพลังก็ยังสูงอีกด้วย ยิ่งไปกว่านั้นยังเป็นเพียงแค่ศิษย์นอก นี่พวกเขาสามารถเห็นดีเห็นงามด้วยเท่านั้นหรือ ถึงแม้ว่าผู้อาวุโสสองจะไม่เต็มใจนัก แต่ก็ทำได้เพียงก้มหน้าก้มตายอมรับเท่านั้นเอง
" ดี ในเมื่อปราศจากความคิดเห็นก็เตรียมตัวเริ่มต้นหล่ออาวุธกันเลย ไม่ทราบว่าท่านปรมาจารย์ได้มีใครเชิญท่านมาแล้วหรือยัง มาถึงที่นี่แล้วหรือไม่ ?? " ฉี ซู่หยุนสอบถาม
" พักผ่อนและรออยู่ที่ตำหนักเรียบร้อยแล้ว ตอนนี้เราจะไปพบเขาเลยไหม ?? " ผู้อาวุโสใหญ่ถาม
" ตอนนี้เลยเราไม่สามารถที่จะละเลยต่อเขาได้ " ฉี ซู่หยุนหันศีรษะไปพูดกับยี่ เทียนหยุนว่า " ตอนนี้เจ้าไปกับข้า ข้าจะให้ปรมาจารย์ข่งช่วยเจ้าประเมินอาวุธที่เหมาะสม ถุงมือนั้นแม้ดูว่าเป็นอาวุธที่ดีแต่การเลือกดาบหรือหอกยาวและอื่นๆจะทำให้ตัวเองมีผู้ช่วยที่หลากหลายมากยิ่งขึ้นอย่างไม่ต้องสงสัย "
พวกเขาคิดถึงอาวุธอยู่เสมอ แน่นอนที่สุดก็คือมองหาอาวุธที่ใช้งานระยะไกลซักเล็กน้อยเป็นการดี ระยะประชิดมันจะเป็นการพัวพันกับความตายเกินไป ถ้าศัตรูโจมตีระยะใกล้โดยพื้นฐานก็คือมีสิทธิ์ถูกโจมตี ดังนั้นอย่างน้อยก็จะต้องใช้รูปแบบดาบยาว สิ่งนี้จะช่วยทำให้รู้สึกดีขึ้นอยู่เสมอ มันจะช่วยให้โจมตีทางด้านข้างได้ นี่จะเป็นการเพิ่มความยากให้กับคู่ต่อสู้ได้อย่างไม่ต้องสงสัย
" นี่….. ยังงั้นก็ดีเหมือนกัน ไปดูกัน " ยี่ เทียนหยุนไม่ได้คิดอย่างจริงๆจังๆว่าปรมาจารย์จะหล่ออาวุธชั้นดีอะไรออกมา ถุงมือแช่แข็งของเขาแม้ว่าจะเป็นเหล็กทั่วไปแต่เอฟเฟคช่างน่าทึ่ง เทคนิคพิเศษของมันคือสิ่งที่ล้ำค่าของอาวุธชนิดนี้
ว่าแต่การหล่ออาวุธสามารถใช้แต้มคลั่งได้ไหมน่ะ ?? ชัดเจนว่ามันไม่ถูกต้อง อาชีพนักเล่นแร่แปรธาตุของเขามันประมาณได้ว่ามันมีเอฟเฟคนี้
พริบตาพวกเขาก็เข้ามาในตำหนัก ส่วนนี้จะใช้ต้อนรับแขกผู้มีเกียรติอย่างเป็นกันเอง ไม่ต้องสงสัยเลยว่าปรมาจารย์ข่งจะต้องเป็นแขกผู้มีเกียรติอย่างแน่นอน พวกเขาเพิ่งจะมาถึง ยี่ เทียนหยุนก็พบกับชายวัยกลางคนผู้หนึ่ง ผู้ซึ่งนั่งดื่มชาอยู่ในห้องโถงหลักอย่างสบายๆและไร้ซึ่งกังวล ชายผู้นี้ลักษณะภายนอกดูหยาบกร้าน ร่างกายสูงใหญ่กำยำ พื้นฐานพลังก็ไม่ได้ต่ำ เขาอยู่ในขั้นปรับแต่งวิญญาณระดับที่ 2
แม้ว่าพื้นฐานพลังจะอ่อนแอกว่าผู้อาวุโสของที่นี่แต่บุคคลนี้ถูกเรียกว่า ปรมาจารย์ !! เหตุผลนี่ง่ายมากเขาเป็นปรมาจารย์ตีเหล็กเกรด 3 สามารถหล่ออาวุธอุปกรณ์วิญญาณออกมาได้ ( อุปกรณ์วิญญาณเป็นอาวุธระดับ 2 ที่ต่อจากเหล็กทั่วไป ) ในโลกใบนี้ผู้บ่มเพาะพลังเมื่อมาพบกันก็มีสถานะเดียวกันแต่….. เมื่อพบกับพวกความสามารถพิเศษ แม้ระดับพลังจะเท่ากันแต่บุคคลเหล่านี้จะได้รับการขนานนามว่า ปรมาจารย์ !!
เพราะว่าความสามารถพิเศษเหล่านี้ไม่มีใครทำแทนได้ มีความชำนาญนี้ในร่างกายใครๆก็อยากที่จะสร้างความสัมพันธ์ด้วย สถานะจึงต้องสูงโดยปกติ
" ปรมาจารย์ข่งครั้งนี้ต้องรบกวนท่านช่วยหล่ออาวุธอุปกรณ์วิญญาณให้เราจำนวน 3 ชิ้น เรื่องราคาท่านว่ามาได้เลย " ฉี ซู่หยุนยิ้ม กริยาท่าทางที่ปรากฏเหมาะสมเป็นอย่างมาก ถึงแม้ว่าเธอจะเป็นถึงเจ้าตำหนักแต่ก็ต้องเจียมเนื้อเจียมตัว
ผู้อาวุโสทั้ง 3 คนที่เหลือต่างก็ทักทายปรมาจารย์ข่งด้วยรอยยิ้มแต่สีหน้าของปรมาจารย์ผู้นี้กลับขัดแย้งกับผู้อาวุโสทั้งสาม เขาทำตัวห่างเหินและพูดกับพวกเขาอย่างไม่แยแสว่า " อุปกรณ์วิญญาณไม่ใช่จะหล่อกันออกมาได้ง่ายๆราคาก็ไม่ใช่น้อยๆ เอาอย่างนี้เป็นไรอุปกรณ์วิญญาณทั้ง 3 ชิ้นนี้ข้าสามารถที่จะหล่อให้พวกเจ้าได้แต่ข้ามีเงื่อนไขอยู่หลายอย่าง หากไม่ตกลงก็ไม่ต้องคิดเรื่องหล่ออาวุธอีกต่อไป "
" เงื่อนไขอะไร ?? " ฉี ซู่หยุนไต่ถาม " ถ้าความต้องการของท่านไม่สูงจนเกินไปนัก เราก็ตอบสนองให้ได้ "
" จริงๆแล้วเงื่อนไขของข้านั้นง่ายมาก เงื่อนไขแรก อนุญาตให้ศิษย์ของข้าเข้าร่วมกับตำหนักหยกสวรรค์กลายมาเป็นศิษย์ภายนอก " ปรมาจารย์ข่งเปรย
" นี่….. ตกลง " ฉี ซู่หยุนย่นคิ้วทั้งสองอันงามระหงแต่ก็ตอบรับข้อเสนอในที่สุด กลายมาเป็นศิษย์ภายนอกไม่ใช่ปัญหา นิกายวิญญาณสวรรค์ก็เป็นศิษย์ภายนอกของที่นี่ ที่นี่จัดแบ่งออกเป็นโซนที่แตกต่างกัน โดยทั่วๆไปแล้วจะไม่ให้ก้าวก่ายซึ่งกันและกัน
" เงื่อนไขที่สอง อุปกรณ์วิญญาณทั้ง 3 วัตถุดิบมีราคาแพง แต่เนื่องจากพวกเจ้าตอบรับข้อเสนอแรกของข้า ข้าก็จะให้คำปรึกษาที่ดี วัตถุดิบเจ้าเป็นคนจัดหาหรือจะจัดการเรื่องค่าใช้จ่ายแล้วให้ข้าเป็นคนไปซื้อ " ปรมาจารย์ข่งพูด
นี่ก็ไม่มีปัญหาเช่นกัน ราคาของอุปกรณ์วิญญาณแรกเริ่มก็ไม่ถูกอยู่แล้ว ไม่ทราบว่าท่านจะตีราคาอยู่ที่เท่าไร ?? " ฉี ซู่หยุนสอบถาม
" มันก็ไม่ได้สูงมากนักซัก 12,000 เหรียญทองก็เพียงพอ " ปรมาจารย์ข่งปล่อยราคาออกมา
หลังจากพวกเขาได้ยินก็เกิดอาการช็อคในทันทีทันใด 12,000 เหรียญทอง มันเป็นราคาที่สูงเทียมฟ้า!! พวกเขาไม่สามารถสู้ราคานี้ได้ นี่เท่ากับมากกว่า 30,000 เหรียญทองจึงจะสามารถซื้อได้ ราคาช่างน่าทึ่ง
" ราคานี้….. สามารถลดลงได้อีกหน่อยหรือไม่ ?? " ฉี ซู่หยุนค่อนข้างกลืนไม่เข้าคายไม่ออก
โรงเรียนของตำหนักหยกสวรรค์ไม่ได้ใหญ่โตก่อตั้งมาได้ไม่นานทำให้มีหนี้สินเป็นจำนวนมาก การพัฒนาจึงจำเป็นที่จะต้องค่อยเป็นค่อยไป
" ราคานี้ต่ำมากแล้ว เจ้าตำหนักฉีเชื่อว่าท่านคงจะเข้าใจราคาอุปกรณ์วิญญาณน่ะ ในโลกภายนอกอย่างน้อยๆราคาก็ตกอยู่ที่ราวๆ 52,000 เหรียญทอง ราคาที่ข้าคำนวณนี่เป็นราคาที่ต่ำมากแล้ว!! " ปรมาจารย์ข่งกล่าวด้วยใบหน้าที่จริงจัง
เหล่าผู้อาวุโสต่างก็มองหน้าซึ่งกันและกันด้วยความสลดใจ เปิดเผยเพียงรอยยิ้มที่อับจนหนทาง ราคาภายนอกเป็นดั่งที่ปรมาจารย์ข่งพูดจริงๆที่ราคา 52,000 เหรียญทอง
" ตกลง ตามราคานี้ " ฉี ซู่หยุนทำได้แค่เพียงประนีประนอมเท่านั้น
" เงื่อนไขสุดท้าย อันนี้จริงๆเกี่ยวข้องกับตัวข้าเอง" ปรมาจารย์ข่งกล่าวออกด้วยรอยยิ้มอย่างไม่แยแส
" ปัญหาอะไรยังงั้นรึ ?? " ฉี ซู่หยุนขมวดคิ้วเข้าหากัน ปรมาจารย์คองผู้นี้ช่างมีเงื่อนไขมากมายซะจริงๆ
" จริงๆก็ไม่ได้เป็นปัญหาที่ยากอะไร คือว่าข้าหมายตาศิษย์ของที่นี่เอาไว้ ไม่รู้ว่าจะสามารถกลายมาเป็นคู่ฝึกเต๋ากับข้าได้หรือเปล่า?? หากสามารถกลายมาเป็นคู่ฝึกเต๋ากับข้าได้ อุปกรณ์วิญญาณทั้งสามชิ้นนี้ ข้ายินดีจะมอบมันให้กับพวกเจ้า!! " เมื่อปรมาจารย์ข่งพูดคำว่าที่นี่ ใบหน้าของเขาพลันเบิกบานใจอย่างชัดเจน
หลังจากที่พวกเขาได้ฟังสิ่งที่ปรมาจารย์ข่งพูดแล้ว คิ้วก็ย่นเข้าหากัน ไม่คิดเลยว่าปรมาจารย์ข่งผู้นี้จะเสนอข้อเรียกร้องแบบนี้ แต่ตำหนักหยกสวรรค์ก็ไม่ได้ห้ามข้อเสนอที่เกี่ยวข้องกับการแต่งงานตราบใดที่ทั้งสองฝ่ายต่างก็เหมาะสมซึ่งกันและกัน
" นี่ก็ไม่มีปัญหาแต่….. ผู้ที่ท่านเลือกคือใคร ?? " ฉี ซู่หยุนพยายามในการระงับอารมณ์
" เธอถูกเรียกว่าเหลียนน้อย ตราบใดที่เธอเต็มใจที่จะตอบรับเป็นคู่ฝึกเต๋าของข้า สามอุปกรณ์วิญญาณจะถูกส่งมอบให้กับพวกเจ้าในทันที !! " ปรมาจารย์ข่งกล่าวด้วยรอยยิ้ม
" พี่สาวเสียวเหลียน!? " ยี่ เทียนหยุนตื่นตระหนกไม่คิดว่าจะเป็นพี่สาวเสียวเหลียน!!
สีหน้าของปรมาจารย์ข่งจมลง จริงๆถ้าเหลียนน้อยเต็มใจ เรื่องนี้ก็จะไม่มีปัญหา แต่ถ้าเธอไม่เต็มใจ เขาก็ยังสามารถที่จะเรียกร้องได้อย่างไม่มีเงื่อนไข เหตุที่เขาไม่ได้ความพึงพอใจ !!!
