Crazy Leveling System - ตอนที่ 14 รางวัลของภารกิจหลัก !!
ยี่ เทียนหยุนยังคงทดลองรัศมีนำโชคอย่างต่อเนื่อง ในที่สุดผลที่ออกมาก็เป็นที่ชัดเจนอย่างแท้จริง เขาได้พบกับเหรียญเงิน….. แถมตกอยู่ที่มุมห้อง!! อย่างไรก็ตามบรรดาพวกทักษะยุทธ์หรือผลไม้วิญญาณและอื่นๆนั้นไม่พบเลย
นั่นก็เพราะที่นี่มันไม่มีของจำพวกนี้ ความโชคดีต้องท้าทายสวรรค์เท่านั้นถึงจะเจอได้ ประมาณได้ว่าต้องใช้เอฟเฟ็ค 10 เท่า พละกำลังอาจจะหล่นลงมาจากก้อนเมฆ
" บางทีสิ่งนี้ต้องนำไปใช้ด้านนอกมันจึงจะให้ผลที่ดียิ่งขึ้น "
ตามธรรมชาติของที่นี่แล้วนั่น ด้านนอกจะเป็นผืนป่า คำว่าโชคดีมันเป็นคำที่ดีแต่….. มันจะต้องพบวัตถุดิบสวรรค์และสมบัติระดับปฐพีด้วย ยี่ เทียนหยุนหยุดการใช้รัศมีนำโชคชั่วคราว การเผาผลาญแต้มทุกๆวินาทีมันทำให้เขาพอใจอย่างสุดซึ้งเป็นอย่างมาก ฆ่าหมาป่าหิมะได้ 5 แต้มแต่ทนได้แค่ 5 วิเท่านั้น ผลลัพธ์มันช่างน่าอนาถยิ่งนัก
เมื่อเขาวางแผนที่จะออกไปด้านนอก เหลียนน้อยก็มาหาเขาแต่เธอก็ยังคงหน้าแดงอยู่ ไม่กล้าที่จะมองหน้าของยี่ เทียนหยุนตรงๆ
" นายน้อย เจ้าตำหนักเรียกให้ท่านเข้าร่วมการประชุมในหมู่ผู้อาวุโสที่กำลังประชุม….. "
" การประชุมผู้อาวุโส ?? "
การประชุมผู้อาวุโส !!
ยี่ เทียนหยุนเดาได้อย่างถูกต้องทันทีเกี่ยวกับปัญหาของตนเอง สถานการณ์ของตัวเขาเองบางอย่างเกิดข้อพิพาทที่ร้ายแรงขึ้น นี่ประมาณได้ว่าเขาไม่ได้รับการยกเว้น !!
" ข้าสามารถเข้าร่วมประชุมได้ด้วยเหรอพี่สาวเสียวเหลียนก็ไปด้วยกันตอนนี้ซิ ?? " ยี่ เทียนหยุนไม่ต้องการที่จะพูดถึงหัวข้อของการประชุมเพื่อที่จะหลีกเลี่ยงไม่ให้พี่สาวเสียวเหลียนต้องรู้สึกยุ่งยากลำบากใจ
" ข้าไปไม่ได้หรอก ผู้อาวุโสให้นายน้อยไปเท่านั้นตัวข้าไม่มีคุณสมบัติที่จะเข้าร่วมหรอก " สถานการณ์ของเหลียนน้อยดีขึ้นเล็กน้อยอย่างน้อยเธอก็เงยหน้ามองเขา
พรสวรรค์ของเหลียนน้อยไม่ได้สูงมากนัก นางมีหน้าที่คอยรับใช้เหล่าผู้อาวุโสเป็นพิเศษ ดังนั้นโดยธรรมชาติแล้วสถานะของนางจึงไม่สูง
ยี่ เทียนหยุนไม่ได้กล่าวสิ่งใดยกเท้าเดินไปทางผู้อาวุโส เขาเดินมาอย่างรวดเร็วก็มาถึงห้องประชุมใหญ่ของผู้อาวุโส ที่นั่งอยู่แถวหน้าก็คือ ฉี ซู่หยุน ด้านข้าง 2 ด้านก็คือ 3 ผู้อาวุโส นอกนั้นผู้อื่นที่นั่งอยู่ก็จะเป็นศิษย์หัวกะทิของตำหนักหยกสวรรค์จะอยู่ในขั้นปรับแต่งวิญญาณ ผู้อาวุโสหลักที่นี่จะอยู่ในขั้นแก่นการควบแน่นแต่อายุเมื่อเปรียบเทียบกับฉี ซู่หยุนแล้ว อายุจะมากกว่าเสียเป็นส่วนใหญ่
ยี่ เทียนหยุนเพิ่งจะมาถึงพลันสายตาของผู้คนต่างก็เพ่งมองดูพินิจพิจารณาเขา สายตาที่มองนั้นมีความแตกต่างกันอย่างมหาศาล
ก่อนหน้านี้เราได้หารือกันว่าพูดโดยทั่วไปแล้วมีปัญหาอยู่ 2 ข้อ ข้อแรกก็คือ ทำให้ยี่ เทียนหยุนกลายเป็นศิษย์ของตำหนักหยกสวรรค์ ส่วนข้อสองคือ โควต้าซากปรักหักพังโบราณแห่งสวรรค์ที่เจ้าได้รับมานั้น มอบให้กับเจ้า " ฉี ซู่หยุนพูดอย่างเคร่งขรึม " ไม่ทราบว่าผู้อาวุโสท่านใดมีปัญหาอะไร ?? "
" ปฏิเสธไม่ได้ว่าประสิทธิภาพของเขาน่าประหลาดใจแต่….. ตั้งแต่ตำหนักหยกสวรรค์ก่อตั้งขึ้นมาไม่เคยเลยที่เราจะรับศิษย์ผู้ชาย ธรรมเนียมประเพณีมิอาจจะทำให้เสื่อมเสียได้ และยิ่งไปกว่านั้นพื้นฐานพลังของเขาก็ไม่ได้สูงมากนัก หากเข้าไปในซากปรักหักพังโบราณแห่งสวรรค์ อาจจะประสบกับหายนะ!! ในตอนนี้เขากลายมาเป็นอาชญากร เราสามารถให้ที่หลบซ่อนแก่เขาได้ เป็นการยกโทษให้ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดแล้ว!! " คนแรกที่พูดก็คือผู้อาวุโสสอง เจี้ยน ยู้ปิง เธอมองดูยี่ เทียนหยุนด้วยสายตาอย่างไม่เป็นมิตร ทุกถ้อยคำล้วนเป็นการผลักไสไล่ส่งเขาโดยสมบูรณ์
คำพูดของเธอชัดเจนมากธรรมเนียมประเพณีมิอาจจะทำให้เสื่อมเสีย พื้นฐานพลังยังไม่บรรลุมาตรฐานที่กำหนด โดยธรรมชาติแล้วเป็นไปไม่ได้ที่จะได้รับโควต้านี้ แม้ว่าโควต้านี้เขาจะพยายามอย่างหนักแต่….. ธรรมเนียมประเพณีมิอาจทำให้เสื่อมเสีย !!
ยี่ เทียนหยุนรู้สึกว่าทั่วทั้งร่างกายพลันอึดอัด คนหัวโบราณพวกนี้แสดงท่าทีแบบนี้กับตัวเขา แน่นอนว่าเขาจะทำให้เจี้ยน ยู้ปิงผู้นี้โกรธไม่ได้แต่….. ความขุ่นข้องหมองใจของมารดาของเขามันไปกระตุ้นต่อมโลหิตของเขา !!
" ข้าเห็นด้วยกับความคิดเห็นของผู้อาวุโสสอง ธรรมเนียมประเพณีก็คือธรรมเนียมประเพณี ศิษย์ผู้ชายจะต้องไม่ให้มีตลอดไป ถ้าหากทำการยกเว้นมันจะทำให้ผู้ชายจำนวนมากจากโลกภายนอกหลั่งไหลกันเข้ามาอย่างแน่นอน มันจะเป็นการสร้างปัญหาอย่างใหญ่หลวงให้กับตำหนักหยกสวรรค์ " ผู้อาวุโสสามลู่ ซิปบิง กล่าว
" เขามีพลังน่ะใช่ แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ตามไม่สามารถทำให้ธรรมเนียมเสื่่อมเสียได้ เราจะทดแทนกับสิ่งอื่นยกตัวอย่างเช่น ทักษะยุทธ์อะไรก็ได้สามารถให้เขาเลือกได้อย่างหนึ่ง " ผู้อาวุโสใหญ่หม้อ ยู้ พูด ผู้อาวุโสคนนี้มีบุคลิกลักษณะที่ดีกว่าผู้อาวุโสคนอื่นเป็นอย่างมาก อย่างน้อยเขาก็ไม่ได้ต่อต้านคนนอกอย่างสมบูรณ์ เป็นเพียงแค่ความกังวลเกี่ยวกับธรรมเนียมประเพณีเท่านั้น อีกทั้งยังยอมจ่ายค่าสินไหมทดแทนที่แน่นอน ถือว่าเขาพูดได้ดีทีเดียว
ผู้อาวุโสสามเลือกที่จะปฏิเสธในสถานการณ์เช่นนี้ก็มิได้ทำให้ตัวเขารู้สึกผิดแม้แต่น้อย ฤาตำหนักหยกสวรรค์ล้วนแล้วแต่แก่งแย่งชิงดีชิงเด่นกัน เผชิญหน้ากับการเจรจาเช่นนี้มันทำให้ผู้คนรู้สึกหวาดกลัวซะนี่กระไร
" ลูกศิษย์คนอื่นๆมีความคิดเห็นเป็นเช่นไร ?? " ฉี ซู่หยุนสีหน้าสงบเป็นอย่างมาก ดูไม่ออกว่าเธอชื่นชมยินดีหรือว่าโกรธอยู่
ลูกศิษย์ที่อยู่รอบๆบริเวณต่างก็มองหน้าซึ่งกันและกันด้วยความกลัวปราศจากคำพูดใดๆ ผู้อาวุโสหลักล้วนกล่าวขับไล่ไสส่งยี่ เทียนหยุนด้วยกันทั้งสิ้น
ฉี ซู่หยุนกล่าวอย่างเคร่งขรึมว่า " มันดูเหมือนว่าทุกคนเลือกที่จะขับไล่ ข้าก็จะขอพูดความคิดของข้า เทียนหยุนควรกลายมาเป็นศิษย์หลัก โควต้าของซากปรักหักพังโบราณแห่งสวรรค์เขาควรจะได้เป็นผู้เดินทางไป "
หลังจากยี่ เทียนหยุนได้ยินเขาก็จ้องมองไปที่ป้าของเขาอย่างมีความหมาย เปิดปากพูดถึงความอคติไม่เป็นธรรมของบรรดาเหล่าผู้อาวุโส และที่ยิ่งไปกว่านั้นมันยังเอียงกระเท่เร่ !!
" เจ้าตำหนักหยกสวรรค์สิ่งที่ท่านพูดนี้ไม่อาจจะกระทำได้ !! ท่านจะกำหนดเองไม่ได้ มันจะทำให้เสื่อมเสียต่อชื่อเสียง !! " ผู้อาวุโสสองออกอาการกังวลอย่างทันทีเพราะมันจะมีผลกับการขับไล่ยี่ เทียนหยุน
" ใช่ถ้าให้เรื่องนี้ผ่านไปมันจะต้องเลอะเทอะอย่างแน่นอน !! ตำหนักหยกสวรรค์นั้นหลายปีไม่เคยรับศิษย์ผู้ชายเลย !! " ผู้อาวุโสสามกล่าว
ฉี ซู่หยุนสายตาเย็นชาพูดอย่างเคร่งขรึมว่า " ถ้าข้าจำไม่ผิดเมื่อก่อนนานมาแล้วศิษย์หลักจะได้รับการคัดเลือกแต่มาเปลี่ยนแปลงในยุคของคนรุ่นหลัง ตอนนี้เปลี่ยนไม่ดีรึ ?? ข้าไม่ได้พูดว่านับจากนี้ไปจะต้องคัดเลือกศิษย์ผู้ชาย เพียงแต่ตอนนี้มีความจำเป็นที่จะต้องคัดเลือกศิษย์ผู้ชาย !! "
คำพูดของฉี ซู่หยุนนั้นถูกต้อง ตำหนักหยกสวรรค์จริงๆแล้วมีศิษย์ผู้ชายมาก่อนยิ่งไปกว่านั้นเป็นยุคปรมาจารย์ผู้ก่อตั้งที่แต่งตั้งแม่ของยี่ เทียนหยุนเป็นเจ้าตำหนัก….. เพราะว่าเบื้องหลังการหลบหนีของเจ้าตำหนักที่จากไป นี่ถึงเป็นสาเหตุให้ปรมาจารย์บรรพบุรุษผู้ก่อตั้งเปลี่ยนแปลงกฏไม่รับคัดเลือกผู้ชายอีกเลย เลือกที่จะค่อยๆพัฒนาเท่านั้นจึงรับเฉพาะศิษย์ผู้หญิง
" ด้วยความสัตย์จริง จากบันทึกที่ผ่านมาประสิทธิภาพของนิกายวิญญาณสวรรค์ ถ้าไม่ใช่เทียนหยุนเราจะไม่เพียงแค่สูญเสียโควต้าเท่านั้นแต่จะเสียหน้าของตำหนักหยกสวรรค์อีกด้วย !! เปรียบเทียบกับการยึดมั่นในธรรมเนียมประเพณีอย่างดื้อรั้น ชื่่อเสียงสำคัญหรือธรรมเนียมสำคัญกว่ากันแน่ !! "
คำพูดไม่กี่คำทำให้ผู้คนพากันตกตะลึง บุคลิกที่น่าเกรงขามของฉี ซู่หยุนได้ปกคลุมสามผู้อาวุโสในคราวเดียว นี่เป็นกลิ่นอายที่เจ้าตำหนักพึงมี
การพูดนี้ไม่ได้พูดโดยขาดความรับผิดชอบ เม่อเฉิงคนเดียวก็เพียงพอที่จะจัดการพวกเขาทั้งหมด ภายใต้ฐานพลังขั้นปรับแต่งกายาระดับที่ 9 ตำหนักหยกสวรรค์ไม่มีใครที่จะสามารถต่อกรกับเขาได้ !!
" แต่….. "
เจี้ยน ยู้ปิงต้องการที่จะพูดแต่….. ฉี ซู่หยุนจ้องมองที่เธอแล้วพูดว่า " ผู้อาวุโสสองท่านคิดอะไรตัวข้าเข้าใจอย่างแจ่มแจ้ง ท่านต้องการที่จะให้โควต้านี้แก่ศิษย์หลักของท่าน โควต้านี่เทียนหยุนบากบั่นได้มาไม่ใช่ตัวข้าที่เอามาให้เทียนหยุน ถ้าเขาเป็นขยะ พลังก็ต้องไม่มี ไม่สามารถต่อสู้ได้ ครึ่งคำข้าก็จะไม่พูด!! ตอนนี้โควต้าเขาต่อสู้ได้มา ชื่อเสียงของตำหนักหยกสวรรค์ก็เป็นเขาที่ปกป้องเอาไว้ ดังนั้นโควต้านี้เป็นเขาที่สมควรจะได้รับ !! "
สมเป็นเจ้าตำหนักหยกสวรรค์ที่ทรงคุณค่า ต้องแกร่งกร้าวแบบนี้ !! ถึงจะครบทุกรส คำที่พูดสามารถโน้มน้าวจิตใจของผู้คนได้ ยี่เทียนหยุนคิด
ถ้าไม่ใช่เขานับประสาอะไรกับโควต้า แล้วยังจะทำให้ตำหนักหยกสวรรค์เสียหน้าครั้งใหญ่อีก !! แล้วเขาจะไม่ต้องการโควต้านี้หรือ ??
ด้วยลมปราณของเจี้ยน ยู้ปิงในตอนนี้ส่งผลให้สีหน้าของเธอนั้นมีสีแดง เธอนั้นคิดจริงๆว่า ต้องการที่จะให้ศิษย์หลักของตัวเธอเองนั้นได้เดินทางไปยังซากปรักหักพังโบราณสวรรค์แห่งนี้ นี่เป็นอนาคตอันยิ่งใหญ่ที่ดี จะพลาดโอกาสไปได้อย่างไร ตอนนี้ฉี ซู่หยุนเสียบความคิดของเธอโดยตรง มันส่งผลให้แผนการนี้ของเธอติดขัดเป็นอย่างมาก
" พื้นฐานพลังของเขาต่ำเป็นอย่างมาก ข้าไม่ตกลง !! แม้ว่าจะให้เขาเดินทางไป เขาก็ไม่ได้มีความยอดเยี่ยมอะไร จะสูญเสียชีวิตเอา !! " เจี้ยน ยู้ปิงไม่เต็มใจอย่างชัดเจน
" เริ่มต้นฝึกมาได้ 6 เดือน ข้าคิดว่าเทียนหยุนจะสามารถทะลวงเข้าสู่ปรับแต่งวิญญาณระดับ 2 ได้อย่างไม่มีปัญหาอะไร นี่เป็นมาตรฐานขั้นต่ำที่สุด ท่านคงไม่มีความคิดเห็นอะไรกระมัง ?? " ฉี ซู่หยุนพูดอย่างไม่แยแส
" นี่เขาทะลวงสู่ขั้นปรับแต่งวิญญาณแล้วหรือ ?? "
พวกเขาต่างก็พากันช็อค พวกเขาคิดว่าพื้นฐานพลังของยี่ เทียนหยุนอยู่ในขั้นปรับแต่งกายา ไม่คิดว่าจะทะลวงเข้าสู่ขั้นปรับแต่งวิญญาณแถมยังเตรียมจะเข้าสู่ระดับ 2 อย่างชัดเจน !!
" แต่….. ถึงจะเป็นแบบนี้ก็ไม่สามารถที่จะเป็นศิษย์หลักได้….. นี่ไม่สอดคล้องกับธรรมเนียมประเพณีปฏิบัติ มากสุดเขาเป็นได้แค่ศิษย์นอกเท่านั้น " ตายซะยังดีกว่าจะสนับสนุนยี่ เทียนหยุน พวกเขายังคงยืนกรานในจุดนี้
" ตามนั้น ศิษย์นอก " ฉี ซู่หยุนตอบอย่างสดชื่่นทำให้พวกเขาจ้องมอง พวกเขา อุตสาห์คิดว่าฉี ซู่หยุนจะพยายามต่อสู้ไม่คิดว่าจะตอบตกลงในทันที
จู่ๆเธอก็หยุดเมื่อเหล่าผู้อาวุโสยังพุ่งตรงไปข้างหน้า สำหรับเธอแล้วไม่ว่ากรณีใดๆศิษย์นอกและศิษย์หลักมันก็คล้ายกัน ต้องการมีชื่อเสียงไม่ว่าในกรณีใดๆอย่างน้อยๆต้องกลายมาเป็นสมาชิกก่อน
" เทียนหยุน เจ้าอาจจะต้องบ่มเพาะพลังอย่างขยันขันแข็งให้ดีเมื่อเวลาเข้าสู่ซากปรักหักพังโบราณแห่งสวรรค์มาถึง เจ้าจะได้มีโอกาสอันยิ่งใหญ่ !! " ฉี ซู่หยุนกระตุ้นอย่างจริงใจ
" ข้าจะบ่มเพาะให้ดี !! "
ยี่ เทียนหยุนมองดูฉี ซู่หยุนด้วยสีหน้าจริงจังแล้วพยักหน้า
" ตึง!! ได้รับภารกิจหลักที่จะยึดครองซากปรักหักพังโบราณแห่งสวรรค์อย่างสมบูรณ์ ภารกิจประสบความสำเร็จจะได้รับรางวัล คือ การปกครองซากปรักหักพังโบราณแห่งสวรรค์ ค่าประสบการณ์ 100,000 แต้ม แต้มคลั่ง 10,000 แต้ม ดาบแห่งอนันต์ !! "
หลังจากเห็นรางวัลของภารกิจหลักแล้ว ยี่ เทียนหยุนรู้สึกช็อคในทันที นี่มันช่างมากมายมหาศาลซะจริงๆ