Castle of Black Iron - Chapter 2012 : ข้อตกลงระหว่างจางเทียกับจ้าวปิศาจ
Chapter 2012 : ข้อตกลงระหว่างจางเทียกับจ้าวปิศาจ
" เขตหลี่ซูและเซียนซู ฟื้นฟูมาเมื่อไม่กี่วันก่อน ป้อมสิงโตได้เข้าไปในเขตกองทัพอีกครั้ง สถานการณ์โดยรวมของไทเซียที่แนวหน้าถือว่าดี บอกกันว่าปิศาจในทวีปตะวันตกเริ่มกลับไปที่โลกใต้ดิน กองกำลังพันธมิตรมนุษย์ในทวีปตะวันตกเองก็เริ่มตอบโต้…"
ตอนที่ จางกุย ทาสของ จางเทีย รายงานกับ จางเทีย เขาก็โค้งให้ด้วยความสุภาพ เมื่อไม่ได้รับคำตอบจาก จางเทีย เขาก็พูดต่อ – " จักรพรรดิซวนหยวนได้ส่งคำเชิญให้กับประธานประเทศเหล่านั้นเตรียมจัดการประชุมหลังจากที่ฟื้นฟูเขตกองทัพขึ้นมาแล้ว พวกเขาต้องการเจรจาถึงแผนสงครามและพยายามไล่ปิศาจกลับไปที่โลกใต้ดิน ดูจากข้อมูลจากเนินเขาซวนหยวนแล้ว ไทเซียและทวีปตะวันตกเตรียมที่จะร่วมมือกันในตอนสุดท้าย…"
" อืม ไม่เลว !" – จางเทีย ยืนอยู่ด้านหลัง แพนโดร่า ได้ตอบกลับ เขาคลายมือลง จากนั้นเขาก็ถอยกลับมาหนึ่งก้าวดูยังภาพที่ แพนโดร่า ได้วาดก่อนจะพยักหน้า
มันคือแผนที่ภูมิประเทศ จางเทีย และ แพนโดร่า ได้สร้างขึ้นมาด้วยกัน หญิงสาวคนหนึ่งอยู่ในศาลามองไปยังเนินเขาไกลออกไปด้วยสีหน้าหม่น ภาพวาดนี้ดูมีชีวิต เธอดูคล้ายกับ แพนโดร่า เมื่อดูจากแผ่นหลัง, ผมที่ยาวและรูปร่าง
หลังจากที่วาดเสร็จ สาวใช้คนอื่นๆก็รีบมารวมตัวกันรอบโต๊ะและพากันชมภาพนี้
ตอนนั้นนอกจาก ไป่ซูเซียน, หยานเฟยกิง, กูหงยี่, ลินดา, เบเวอร์รี่, ฟิโอน่า, ไอมิ, ไอซิว, แพนโดร่า, ออโรล่า, โอลิน่า, ซาบีน่าและผู้หญิงจากตระกูลสเปนเซอร์ทั้งหกคนได้มารวมตัวกันอยู่ที่นั่น ภรรยาของ จางเทีย ทุกคนได้มารวมตัวกันอยู่ที่นั่น
เพราะทุกคนได้กินผลข้ามโลกมา ใบหน้าจึงยังคเดิมไม่เปลี่ยนแม้ว่าจะผ่านมาหลายปีแล้วก็ตาม
พวกเขาเคยอยู่ในบ้านหลังหนึ่งของ จางเทีย ที่ยอดเขาสวนเทียน ตอนนั้นนอกจากภรรยาของ จางเทีย แล้ว มีแค่ จางกุย ที่อยู่ที่นี่และรายงานข่าวให้กับ จางเทีย ฟัง
นี่มันก็เดือนมีนาคมแล้ว ไม่กี่เดือนหลังจากที่ จางเทีย กลับมา กว่าหลายเดือนที่ผ่านมานี้มีเรื่องราวมากมายเกิดขึ้นกับไทเซียและทวีปตะวันตก สถานการณ์โดยรวมของไทเซียในสงครามได้พลิกกลับมานานแล้ว
ตั้งแต่ที่เขากลับมาที่เขตยูซู จางเทีย ยังไม่ได้ออกจากเขตยูซูไปเลยตลอดหลายเดือนมานี้ เขาอยู่กับครอบครัวตลอด นอกจากวันแรกหลังจากที่เขากลับมาตอนที่เขาไปพบกับ ซูกิวหมิงยู่, เชิงหงลี่ และแขกคนอื่นๆจากนิกายสวรรค์และลอร์ดกวนหนานแล้ว จางเทีย ไม่ได้พบกับใครเลย เขาแค่ใช้เวลากับครอบครัวของเขา
จางเทีย ได้แต่งงานกับ แพนโดร่า และเอาเธอมายังเขตยูซูจากหุบเขาฆ่าปิศาจ ข่าวที่ว่า จางเทีย ได้ไปรับ แพนโดร่า ได้กระจายไปทั่วประเทศ การมีลูกเขยอย่าง จางเทีย ทำให้ชื่อเสียงของหุบเขาฆ่าปิศาจโด่งดังขึ้นไปอีก
หลังจากที่พา แพนโดร่า กลับมาที่เขตยูซู จางเทีย ก็ไปรับ ออโรล่า, โอลิน่า และผู้หญิงจากตระกูลสเปนเซอร์ทั้งหกคนกลับมาที่เขตยูซูจากป่าน้ำแข็งหิมะ สำหรับ จางเทีย แล้ว มันก็เหมือนกับพ่อบ้านที่ไปตลาดเพื่อซื้อวัตถุดิบทำอาหาร
ด้วยอำนาจยิ่งใหญ่ จางเทีย สามารถปกป้องปิศาจจากการสู้กับปิศาจได้ บางครั้งเขาก็พบว่าเขาสามารถปกป้องครอบครัวด้วยพลังแบบเดียวกันและทำให้สาวๆเหล่านี้อยู่ข้างกายเขาได้
แม้ว่า จางเทีย จะกลายเป็นปู่แล้วแต่ทั้งเขตยูซูก็ยังยุ่งอยู่กับหนึ่งอย่าง — เตรียมงานแต่งของ จางเทีย
จางเทีย ได้รับปากกับสาวๆว่าจะจัดงานแต่งงานที่ยิ่งใหญ่กับพวกเธอในเขตยูซู เขาต้องการให้ทุกคนได้สวมชุดแต่งงานอีกครั้ง
จางเทีย รู้สึกว่าเขาติดค้างพวกเธอ เนื่องจากพวกเธอเลือกจะอยู่กับเขา แม้ว่าพวกเธอจะมีฐานะและตำแหน่งในตระกูลจางรวมถึงมีลูกแล้วแต่พวกเธอก็ยังไม่เคยเข้าพิธีแต่งงานและสวมชุดเจ้าสาวรวมถึง เบเวอร์รี่, ฟิโอน่า, หยานเฟยกิง และ ไป่ซูเซียน แต่ จางเทีย มักจะรู้สึกเสียดายในเรื่องนี้ ดังนั้นหลังจากที่กลับมาแล้ว เขาก็ตัดสินใจจัดพิธีแต่งงานครั้งใหญ่ให้สาวๆทุกคนเพื่อชดเชยความรู้สึกผิด
จางเทีย ยังจำสีหน้าของพวกเธอได้ตอนที่เขาบอกเรื่องงานแต่งงานกับพวกเธอ
" ภาพวาดนี้ยังขาดกวีที่เหมาะ ! " – ไอมิ กับ ไอซิว เสนอเป็นเสียงเดียวกัน สมกับเป็นแฝดกันจริงๆ
" แน่นอน วิวของไทเซียต้องเข้ากับกวีไทเซีย ข้าไม่เก่งเรื่องกวี เฟยกิง ตาเจ้าแล้ว…" – แพนโดร่า พูดด้วยรอยยิ้มแล้วส่งพู่กันให้กับ หยานเฟยกิง
หยานเฟยกิง ไม่ได้ปฏิเสธ เธอรับพู่กันมาและเริ่มเขียนลงไป
—- ฝนมักจะพัดเมฆทิ้งด้วยลม แม่น้ำมาพร้อมกับภูเขาและนกที่บินไปมา
—– ด้วยแสงยามช้า, ชาและกระจกกันแสง เราต่างก็คิดถึงตอนที่ตื่นและมัวเมา !
" ดี…" – ทุกคนต่างก็ชมออกมาเป็นเสียงเดียวกัน คำพูดสุดท้ายของ หยานเฟยกิง บอกความรู้สึกของสาวๆทุกคนได้ดี
จางเทีย หัวเราะออกมาอีกครั้งแล้วโอบ หยานเฟยกิง ก่อนจะจูบที่หน้าของเธอ หลังจากนั้นเขาก็หันกลับมาถาม จางกุย ราวกับคุยเรื่องเล็กน้อย – " กลุ่มกลืนกินเป็นไง ? "
" ขุมกำลังกลุ่มกลืนกินทั่วประเทศแทบจะโดนกำจัดหมดแล้ว ส่วนมากได้ออกจากองค์กรเหล่านั้น นอกจากเขตกองทัพตะวันออกเฉียงเหนือ สมาชิกเก่าขององค์กรศีลธรรมได้เผยสิ่งชั่วร้ายเกี่ยวกับองค์กรให้ทั่วประเทศได้รู้ ตามสิทธิที่จะปราณีคนที่ยอมรับความผิดจึงมีไม่กี่คนที่โดนสั่งขัง แทบทุกคนต่างก็ชื่นชมความเมตตาและความถูกต้องของท่านในการฆ่า เมิ่งชี่เดา ที่เป็นขุมกำลังชั่วร้ายในไทเซีย…."
สำหรับองค์กรอย่างกลุ่มกลืนกิน หลังจากที่ เมิ่งชี่เดา ตายไป,จารึกที่เป็นของบูชาของกลุ่มกลืนกินก็พังลง, จักรพรรดิซวนหยวนกลับมายังไทเซียและแผนการชั่วร้ายของ เมิ่งชี่เดา ถูกเปิดโปง ยังไงซะมันก็ต้องล่มสลายทันที ไม่มีใครอยากจะเกี่ยวข้องกับมัน
จางเทีย ได้รับความดีความชอบกับการกระทำในเนินเขาซวนหยวน มันส่งผลต่อทุกคนในการกำจัดภัยและลดความวุ่นวายทั่วประเทศด้วยการเสียหายน้อยที่สุด วิเคราะห์ดูแล้วเหตุผลที่คนทั่วไปหลายคนได้เข้าร่วมกลุ่มกลืนกินก็เพราะพวกเขาอยากได้ผลประโยชน์จากการเข้าร่วมแทนที่จะเชื่อตามหลักคำสอนของพวกนั้น แม้ว่ามีหลายคนจากตระกูลใหญ่และเจ้าหน้าที่เข้าร่วมกับกลุ่มกลืนกินแต่พวกเขาก็ไม่ได้เป็นสาวก
" อ่ะ มีอีกเรื่อง…"
" ว่ามา ! "
" ข้าได้ยินข่าวลือในเนินเขาซวนหยวนว่าตอนที่มนุษย์ในทวีปตะวันออกและตะวันตกขับไล่ปิศาจไปยังโลกใต้ดิน พวกเขาจะก่อตั้งพันธมิตรมนุษย์โดยมีอัศวิน 300,000 คน คนในเนินเขาซวนหยวนและทูตของประเทศทางทวีปตะวันตกได้ปล่อยข่าวนี้และอยากให้ท่านเป็นนายพลของกองกำลังนี้ พวกเขาหวังว่าพันธมิตรนี้จะเข้าไปยังโลกใต้ดินและจัดการกับปิศาจภายใต้การนำของท่าน…"
หลังจากที่ได้ยินคำพูดของ จางกุย สาวๆในห้องก็ไม่ได้ชมภาพรึกวีอีกต่อไป พวกเธอกลับมองมาที่ จางเทีย ด้วยตาที่เบิกกว้าง
จางเทีย ตอบกลับในสิ่งที่ไม่มีใครเข้าใจได้ เขาส่ายหน้า – " ปิศาจไม่อาจจัดการได้ด้วยสงครามและการกวาดล้าง ! "
ระหว่างทางกลับมาที่ไทเซียจากดินแดนโม่เทียน จางเทีย ได้เดินทางไปยังรังของปิศาจในเหวใต้ดินของดินแดนธาตุดิน พวกเขาต่างก็คิดว่าปิศาจมาจากเหวใต้ดิน จริงๆแล้วไม่ใช่ อันที่จริงแล้วใต้เหวใต้ดินนั้นมันมีทะเลสีดำแปลกๆ ที่นั่นเชื่อมต่อกับโลกที่จ้าวปิศาจอยู่ แม้ว่าจ้าวปิศาจจะไม่อาจมาที่นี่ด้วยตัวเองได้แต่พลังฉีและพลังงานของมันก็สามารถให้กำเนิดปิศาจได้ แม้ว่าพันธมิตรจะไปที่นั่นและฆ่าปิศาจทุกตัวแต่พวกเขาก็จะพบกับปิศาจตัวใหม่เกิดจากที่นั่นอยู่ดี
ถ้าพวกเขาต้องการกำจัดปิศาจ พวกเขาก็ต้องฆ่าจ้าวปิศาจ ถ้าพวกเขาต้องการฆ่าจ้าวปิศาจ พวกเขาก็ต้องกำจัดความโลภ, อิจฉา, อคติ, หลอกลวงและโง่เง่าในใจ มีแค่อารมณ์ด้านลบและพฤติกรรมของมนุษย์ที่จะทำร้ายตัวเองได้และเป็นต้นตอพลังของจ้าวปิศาจ
ปิศาจที่แท้จริงไม่ได้อยู่ในเหวรึนรกแต่อยู่ในใจคน
นอกซะจากว่าหัวใจของพวกเขาเต็มไปด้วยความถูกต้อง สงครามระหว่างมนุษย์กับปิศาจก็จะไม่มีทางเกิดขึ้น
สงครามที่แท้จริงนั้นไม่ใช่การต่อสู้ระหว่างมนุษย์กับปิศาจแต่เป็นระห่างคนและความืดในใจของทุกคน
พวกเขาอาจจะไม่เข้าใจในตอนนี้ จางเทีย เองก็ไม่คิดจะอธิบายมัน
บางทีมันอาจจะไม่แย่ที่พวกเขาจะอยู่ในสถานการณ์ตอนนี้ จากนี้มนุษย์จะอยู่บนดิน ปิศาจจะอยู่ใต้ดิน สองฝ่ายจะทำอะไรก็ได้ตามใจในอาณาเขตของตัวเอง หากไม่มีปิศาจ มนุษย์ก็จะมีปัญหากับสงคราม, การฆ่า, ความวุ่นวายและการบีบบังคับกัน ด้วยความช่วยเหลือจากสายพันธุ์ที่น่ากลัวซึ่งหมายตามนุษย์ มันอาจจะมีการฆ่าฟันและสงครามระหว่างมนุษย์ ความเป็นระเบียบในโลกด้านบนอาจจะวุ่นวายมากกว่าเดิม
สงครามศักดิ์สิทธิ์อาจจะยังไม่จบลงแต่มันอาจจะเกือบจะจบแล้วสำหรับ จางเทีย
กว่าหลายวันมานี้จากหัวใจที่โดนสยบในคุกอมตะ จางเทีย ได้ตกลงกับจ้าวปิศาจ หลังจากที่ตกลงกันได้แล้ว จางเทีย จะไม่สู้กับปิศาจที่กลับไปโลกใต้ดินอีกต่อไป จ้าวปิศาจจะไม่ให้กองทัพปิศาจมายังโลกด้านบน จะไม่มีเมืองมนุษย์ที่จะถล่มโดยปิศาจอีก อีกอย่างแล้วขุมกำลังปิศาจที่เหลือทั้งหมดจะกลับไปยังโลกใต้ดิน ตราบใดที่ จางเทีย ยังมีชีวิตอยู่ ข้อตกลงนี้จะยังทำงาน มนุษย์กับเมืองด้านบนจะอยู่ภายใต้การปกป้องของ จางเทีย
ข้อตกลงนี้หมายความว่าดินแดนธาตุระหว่างด้านบนกับหุบเหวที่ปิศาจอยู่นั้นคือสนามรบที่แท้จริงระหว่างมนุษย์กับปิศาจในอนาคต
ตอนที่พวกเธอพากันสงสัยคำพูดของ จางเทีย อยู่ๆพวกเธอก็ได้ยินเสียงดูเร่งรีบดังขึ้นมาจากด้านนอก
" ข้ามีเรื่องสำคัญต้องรายงานต่อ ผู้อาวุโสมูเฉิน…"
จางเทีย จำเสียงนั้นได้ มันคือเสียงของ ผู้อาวุโสมูอึน….