Castle of Black Iron - Chapter 2010: กลับบ้าน
Chapter 2010: กลับบ้าน
จางเทีย คุ้นกับชายตรงหน้าเขาอย่างมาก บางทีคงไม่มีใครในไทเซียที่ไม่คุ้นกับภาพนี้เพราะภาพของชายคนนี้อยู่ในเหรียญทองของธนาคารซวนหยวน
เขาเป็นชายคนเดียวที่มีรูปในเหรียญทองของไทเซีย ไม่ต้องสงสัยเลยว่าชายคนนี่คือจักรพรรดิซวนหยวนที่หายตัวไปก่อนสงครามครั้งที่สาม
หลังจากที่คำรามออกมาจนทำให้ก้อนเมฆในระยะ 600 ไมล์สั่นไหว ลำแสงสีทองได้เปลี่ยนเป็นจักรพรรดิซวนหยวนต่อหน้า จางเทีย น่าตกใจจริงๆ ! แต่ จางเทีย นั้นคิดออกทันที
ทันใดนั้น จางเทีย ก็ได้พบกับจักรพรรดิซวนหยวนเหนือภูเขาจักรวาล
" ด้วยความเคารพ จักรพรรดิ ข้า จางเทีย ! " – จางเทีย ป้องมือให้กับจักรพรรดิซวนหยวนด้วยรอยยิ้ม
จักรพรรดิซวนหยวนมองมาที่ จางเทีย สักพัก จากนั้นเขาก็จ้องไปยังภูเขาจักรวาลที่มีระยะ 600 ตร.ไมล์ด้วยสีหน้าที่ซับซ้อน หลังจากนั้นเขาก็ถอนหายใจออกมา – " สูตรราชาอินทรีย์ เจ้าคงต้องเป็นลูกหลานของ จางไฮหยวน ! "
ในฐานะจักรพรรดิแล้ว มันไม่ยากที่เขาจะรู้ถึงวิธีการแยกแยะคนผ่านทางใบหู ดังนั้น จางเทีย จึงไม่ได้สงสัยที่จักรพรรดิรู้ภูมิหลังของเขา สำหรับทักษะแล้ว จางเทีย ไม่ได้ปกปิดมันเลย ดูจากการตอบโต้ของสองทักษะชั้นจักรพรรดิแล้ว จักรพรรดิจึงรู้ทักษะของ จางเทีย ทันที
" จริงที่ว่า จางไฮหยวน เป็นบรรพบุรุษของข้า จักรพรรดิช่างมีสายตาที่เฉียบคม ! "
หลังจากที่มองไปที่ จางเทีย สักพัก จักรพรรดิก็ได้ถามเขาขึ้นอีกครั้ง – " เจ้าไปที่ดินแดนโม่เทียนมารึ ? "
น้ำพุเก้าสวรรค์นี้มีแต่ในดินแดนโม่เทียน คนไม่อาจจะสร้างจักระอมตะได้หากไม่ดื่มน้ำพุเก้าสวรรค์ มีแค่พวกที่สร้างจักระอมตะที่สามารถทำลายจารึกโบราณได้ หลังจากที่ได้ยินคำพูดของจักรพรรดิ จางเทีย ก็รู้ว่าจักรพรรดิมังกรคงบอกจักรพรรดิซวนหยวนถึงทุกเรื่อง
" นี่คือคำพูดที่จักรพรรดิมังกรได้ทิ้งเอาไว้ในศาลาจักรพรรดิมังกรก่อนจะออกจากดินแดนโม่เทียน จักรพรรดิมังกรได้ทิ้งสิ่งที่เขาเรียนรู้ไว้ในบทความนี้ จักรพรรดิ ข้าคิดว่าท่านควรเก็บมันไว้ให้ดี ! " – จางเทีย พูดพร้อมกับเอาแผ่นตัวอักษรออกมาจากปราสาทเหล็กดำและส่งให้กับจักรพรรดิซวนหยวน
ตอนที่ จางเทีย ส่งมันให้กับจักรพรรดิซวนหยวน อีกฝ่ายก็รู้ว่า จางเทีย รู้ทุกอย่าง
หลังจากที่รับมันไปจักรพรรดิซวนหยวนก็เงียบไปว่าครึ่งนาทีก่อนจะเปิดปากพูดอีกครั้ง – "วังจักรพรรดิมังกรยังคงอยู่รึเปล่า?"
" ข้าได้สืบทอดความรู้ทั้งหมดของจักรพรรดิมังกรในดินแดนโม่เทียนและกลายเป็นจักรพรรดิมังกรคนใหม่ วังจักรพรรดิมังกรยังคงมีตัวตนอยู่ มันมีอำนาจมากกว่าแต่ก่อน บางทีข้าควรเรียกท่านว่าพี่ ! " – จางเทีย ลูบจมูกตัวเองแล้วพูดต่อ – " แต่ข้าได้ผูกมิตรกับ พี่คังหยิง จากด้านนี้แล้วข้าควรเรียกท่านว่าลุงแต่ข้ารู้สึกอึดอัดกับสองคำเรียกนี้ ข้าคงเลือกที่จะเรียกท่านว่าจักรพรรดิจะดีกว่า ! "
หลังจากที่ได้ยินคำพูดของ จางเทีย จักรพรรดิซวนหยวนก็อึ้งไปสักพัก หลังจากนั้นเขาก็ส่ายหน้าด้วยรอยยิ้มขมขื่น สุดท้ายเขาก็กลืนน้ำลายแล้วถาม จางเทีย อย่างใจเย็น – " แล้ว เมิ่งชี่เดา ไปไหน ?"
" ข้าฆ่าเขาแล้ว ! "
" ทำได้ดี ! "
" จักรพรรดิ ทำไมท่านถึงได้ถูกขังไว้ในจารึก ?"
" มันยากที่จะอธิบายได้ด้วยคำพูด ! " – จักรพรรดิซวนหยวนพูดพร้อมกับส่ายหน้า
จางเทีย หยุดถามเรื่องนี้ หลังจากที่มองออกไปแล้ว จางเทีย ก็พบว่ามีปิศาจมากมายในเขตศีลธรรมที่พบเหตุการณ์ผิดปกติที่นี่และกำลังมุ่งหน้าเข้ามา
แม้ว่าจักรพรรดิซวนหยวนจะอ่อนแอเล็กน้อยแต่เขาก็ยังเป็นอัศวินปราชญ์ที่แข็งแกร่งในดินแดนและยากที่จะพ่ายแพ้ได้ ดังนั้น จางเทีย จึงไม่ได้กังวลเรื่องความปลอดภัยของอีกฝ่าย
" ข้าเป็นผู้ปกครองในดินแดนโม่เทียนแล้ว ข้าไม่ได้คิดจะเป็นจักรพรรดิในไทเซียอีกต่อไปแต่สายเลือด, แม่น้ำและภูเขาของจักรพรรดิมังกรควรจะคงอยู่ในโลกนี้ ! " – จางเทีย บอกกับจักรพรรดิซวนหยวนตรงๆ – " สถานการณ์โดยรวมของไทเซียนั้นวิกฤต เนินเขาซวนหยวนต้องมีท่านเป็นผู้นำ ปิศาจได้ยึดครองอาณาเขตแนวหน้าของไทเซีย นายพลจีนและทหารนับร้อยล้านกำลังสู้กับปิศาจ ไว้เจอกัน จักรพรรดิ ! "
หลังจากที่พูดจบ ก่อนที่จักรพรรดิจะได้ตอบกลับ จางเทีย ก็ก้าวไปทางตะวันตก หลังจากนั้นเขาก็หายไปต่อหน้าจักรพรรดิซวนหยวน
เมื่อเห็นทางที่ จางเทีย หายไป จักรพรรดิซวนหยวนก็ได้บินไปยังเนินเขาซวนหยวนก่อนการมาถึงของพวกอัศวินจากเขตศีลธรรมโดยทิ้งเส้นแสงสีทองเอาไว้
ก่อนที่จะกลับไปยังเขตยูซู จางเทีย ได้ไปยังแนวหน้า
10 นาทีต่อมาลำแสงสีขาวอันน่ากลัวก็พุ่งผ่านก้อนเมฆและเข้าไปในแคมป์ปิศาจในเขตกองทัพซึ่งเป็นที่ที่มีอัศวินปิศาจและกองทัพนับแสนอยู่ มันคืออ้อมกอดสุดท้ายของเทพธิดา…..
ลำแสงสีขาวมองเห็นได้แม้ว่าจะอยู่ห่างไปหลายหมื่นไมล์
สองนาทีต่อมาก่อนที่ลำแสงสีขาวในก้อนเมฆและท้องฟ้าจะสลายไป มันก็มีลำแสงอีกอันพุ่งไปยังแคมป์ปิศาจที่เขตหลี่ซู หลังจากนั้นไม่นานลำแสงสีขาวก็ปรากฏขึ้นในเขตเซียนซู
การกระทำนี้ไม่ได้ต่างจากในฝันของ จางเทีย ถ้ามันมีความต่างคงเป็นที่ จางเทีย ได้แข็งแกร่งกว่าในฝันของเขา กลยุทธของปิศาจยังคงเดิมไม่เปลี่ยนแปลง หลังจากที่ยึดเขตกองทัพและตั้งแคมป์ขึ้นมาได้ กองทัพปิศาจก็ยังยึดอาณาเขตในไทเซียในสองเส้นทางแต่พวกมันยังไม่ได้ผลักดันให้ผ่านถนนตงกวน
ตอนที่ จางเทีย ทำการโจมตี เขาก็ได้ทำลายแคมป์กองกำลังหลักของปิศาจทั้งสองไปทันที
….
แมนชั่นจางที่เมืองจินวูเขตยูซู….
หลังจากที่ได้รับข่าวจากเนินเขาซวนหยวน จางหยาง ก็รีบกลับไปที่เมืองจินวูโดยเรือบินและบอกพ่อแม่ว่า จางเทีย กลับมายังไทเซียและปรากฏตัวขึ้นในเนินเขาซวนหยวน เมื่อได้ยินข่าวนี้ทั้งครอบครัวก็พากันเงียบไปในทันที
" จางหยาง มัน….จริงรึ ? จางเทีย กลับมาจริงๆงั้นเหรอ ?" – แม่ถาม จางหยาง ด้วยมือที่สั่นจนตะเกียบตกลงไปที่พื้น ในขณะเดียวกันน้ำตาก็เอ่อขึ้นมาที่ตา
พ่อเองก็น้ำตาไหลด้วย ปากของเขาสั่นแต่ไม่ได้ส่งเสียงใดๆออกมา
" ข้าได้รับข่าวจากวังราชวงศ์ จางเทีย ได้ฆ่า เมิ่งชี่เดา ในวังเก้าสวรรค์ ทั้งเนินเขาซวนหยวนนั้นวุ่นวาย ตะกี้นี้ข้าได้รับข่าวเดียวกันนี้จาก ผู้สั่งการเชิง และผู้ดูแลกลุ่มจินวูในเนินเขาซวนหยวน ข้าได้ให้คนติดต่อเจ้าชายไปแล้ว เจ้าชายบอกว่าชายคนนั้นคือ จางเทีย อย่างแน่นอน…." – จางหยาง พูดด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น ตาของเขาแดงเล็กน้อย เขาคุกเข่าลงกับพื้นและบอกเรื่องนี้กับพ่อแม่แทนที่จะยืน
" อ่ะ เร็วเข้า รีบเอาเบียร์ข้าวที่ข้าทำให้ กูกู ออกมา ตอนที่ จางเทีย กลับมา เขาต้องอยากกินเบียร์ข้าวของข้าแน่…" – แม่ลุกขึ้นยืนด้วยความตื่นเต้น ในขณะเดียวกันเธอก็เดินไปที่ครัวและพูดขึ้น – " ให้คนเตรียมมันไว้ ข้าจะทำอาหารให้ กูกู กูกู ต้องกลับมาแน่ …"
" ใช่ ใช่ กูกู น่าจะยังไม่ได้กินอะไร…"
ตอนนั้นแมนชั่นจางมีกุ๊กที่โด่งดังกว่า 100 คนและมีคนใช้มากมาย พ่อแม่ไม่ต้องทำอาหารด้วยตัวเองแล้ว ดังนั้นหลังจากที่ได้ยินคำพูดของแม่ ทั้งครอบครัวจึงพากันมองไปที่ จางหยาง ด้วยท่าทีสงสัย….
แต่แม่ก็ยังยืนยันว่าจะเข้าครัวเอง พ่อเองก็ด้วย
" พ่อ แม่…"
ตอนนั้นเองก็มีเสียงที่คุ้นเคยดังขึ้นมา พ่อกับแม่หยุดไปทันที ตอนที่หันกลับมาพวกเขาก็เห็น จางเทีย ยืนอยู่ที่นอกประตูพร้อมกับน้ำตาที่ไหลออกมาท่วมใบหน้า….