Castle of Black Iron

Chapter 1981: พิธีต้อนรับ

ในวันที่ 6 กุมภาพันธ์ ปี 933 เรือบินของ จางเทีย ก็มาถึงสนามบินเนินเขาซวนหยวน
แม้ว่า เบียนเหิง จะเคยท่องโลกมาแล้วแต่เมื่อเห็นความเจริญของเนินเขาซวนหยวนจากท้องฟ้า เขาก็ยังต้องตะลึงไปสักพัก เขายังไม่ได้สติจนกระทั่งถูกปลุกโดย จางเทีย หลังจากนั้นเขาก็ตาม จางเทีย ไปยังประตูเรือบินและเตรียมที่จะลงจากเรือบิน
นอกจาก เบียนเหิง แล้วก็ยังมี จางเชิงเล่ย และ จางซู ตาม จางเทีย มาที่นี่ด้วย คนอื่นในวังจินวูและนิกายมังกรเหล็กกับผู้หญิงนิกายหยินหยางอยู่ในปราสาทเหล็กดำนั้นไม่ได้มากับเขาด้วย
พวกคนของนิกายหยินหยางยุ่งอยู่กับงานของตัวเองในปราสาทเหล็กดำ ชีวิตของพวกเธอนั้นยุ่งอย่างมาก ดังนั้นพวกเธอจึงไม่มีเวลาสนใจเรื่องอื่น อีกอย่างแล้วสงครามยังไม่จบ ดังนั้นพวกเธอจึงไม่ได้อยากออกมาจากที่นั่นในตอนนี้ จางเทีย ให้พวกเธอทำตามใจชอบในปราสาทเหล็กดำ สำหรับ หยานเฟยกิง และคนอื่นในครอบครัว มันไม่เหมาะที่จะตาม จางเทีย มาที่นี่เพราะเขามาที่นี่เพื่อเจรจากับเรื่องสงครามซึ่งจะตัดสินอนาคตของไทเซียและมนุษย์แทนที่จะเป็นการท่องเที่ยว ดังนั้นพวกเขาจึงอยู่ในเขตยูซู
ก่อนที่จะเปิดประตูออกหมด เบียนเหิง ก็ได้ยินเสียงระเบิดดังขึ้นจากด้านนอก หลังจากนั้นเขาก็ปล่อยเกราะพลังฉีออกมาด้วยความตกใจก่อนจะถามขึ้น – " มีนักฆ่ารึ ?"
" มันไม่ใช่นักฆ่าแต่เป็นการยิงปืนเคารพ ! " – จางเทีย บอกกับ เบียนเหิง ด้วยรอยยิ้ม
" ยิงปืนเคารพ ? มันคืออะไร ? " – เบียนเหิง ถามด้วยความสงสัย
มันไม่มีการยิงปืนเคารพแบบนี้ในดินแดนโม่เทียน ดังนั้น เบียนเหิง จึงรู้สึกแปลกใจกับเรื่องพิธีการแบบนี้
เมื่อได้ยินเสียงระเบิดดั่งฟ้าผ่า จางเทีย ก็เริ่มอธิบายเรื่องนี้ให้กับ เบียนเหิง ฟัง
" มันแปลก แปลกจริงๆ ! " – หลังจากที่ได้ยินคำอธิบาย เบียนเหิง ก็ส่ายหน้าและตอบกลับด้วยสีหน้าเหลือเชื่อ – " ตามที่เจ้าบอกมา ปืนคืออาวุธโจมตีในสนามรบแต่มันกลับเอามาใช้ในการต้อนรับ ข้าไม่เคยเห็นคนทักทายแขกแบบนี้เลย ! "
" มันเป็นธรรมเนียมที่ไม่ได้มีแค่สำหรับคนจีนแต่มันเกิดมาจากทวีปตะวันตก ข้ากลัวว่ามันมีการใช้ขวานกับหอกที่ใช้ในพิธีการสำหรับคนจีน ! "
การยิงปืนเคารพในยุคนี้ต่างจากก่อนภัยพิบัติ ในยุคเหล็กดำการยิงปืนนี้จะทำให้เกิดเสียงดังซึ่งเกิดจากการอัดแน่นของไอน้ำ เพื่อที่จะทำให้มันเสียงดังกว่าเดิม ปืนที่ใช้จะมีเทคโนโลยีรูน พาหนะที่ใช้สำหรับปืนนี้ก็มีขนาดใหญ่เป็นพิเศษ ของเหล่านี้เห็นได้แค่ในเนินเขาซวนหยวน พวกมันเป็นของทหารทรงเกียรติของไทเซีย
เพื่อที่จะต้อนรับ จางเทีย ทางเดินยาวกว่า 20,000 ม.ถูกเคลียร์พื้นที่เอาไว้ที่สนามบิน มีหน่วยปืนตั้งไว้ตามทางใกล้ๆอย่างเป็นระเบียบ
สนามบินแห่งนี้เต็มไปด้วยธงและผู้คน คนมีอำนาจแทบทุกคนในเนินเขาซวนหยวนได้แห่กันมาที่นี่
เจ้าชายสามคนได้ถูกส่งมาที่นี่ซึ่งยืนอยู่ใจกลางด้านหน้าสุด ด้านซ้ายของเจ้าชายทั้งสามคือเจ้าหน้าที่ระดับสูงทั้งศาลทั้งสามและรัฐมนตรีทั้งเก้า ด้านขวาขั้นคือเหล่าลอร์ดทั้งหกของไทเซีย
ตอนนั้นเจ้าหน้าที่เหนือระดับสามแทบทุกคนในศาลราชวงศ์ได้มาที่นั่นด้วย พวกเขาต่างก็มาต้อนรับ จางเทีย ด้วยความเคารพ จริงๆแล้วมีศาล 1 ใน 3 และรัฐมนตรีหนึ่งคนไม่ได้มาที่นี่ซึ่งคือ เมิ่งชี่เดา กับ หลี่หยุนจี ที่โดนจับขังไว้ในคุก
บอกมาว่า เมิ่งชี่เดา นั้นป่วย ดังนั้นเขาจึงมาต้อนรับ จางเทีย ไม่ได้ หลี่หยุนจี โชคร้ายที่สุด แม้ว่าเขาจะแสดงอำนาจในเขตยูซูแต่เขาก็โดนจับโดยผู้สั่งการกองทัพเทพระหว่างกลับมายังเนินเขาซวนหยวนและถูกขังไว้ในคุก สำหรับความผิดแล้ว เขาได้ร่วมมือกับสามนิกายใหญ่แต่งเรื่องและใส่ร้ายปลุกปั่นผู้คน ซี่เหมาที่ หลี่หยุนจี ได้แสดงด้านนอกประตูนิกายมังกรเหล็กเองก็ถูกพิสูจน์ว่าเป็นของปลอม เพราะ หลี่หยุนจี โดนจับขัง ตำแหน่งของเขาจึงยังว่างอยู่
ยกเว้นแค่เพียง ลอร์ดภูติทะเล แล้วลอร์ดกวนหนาน ,ลอร์ดซวนวู, ลอร์ดจิงเทียน, ลอร์ดติงซีและลอร์ดเหยียน ต่างก็มาที่นี่และยืนอยู่แถวหน้าตามาด้วยดยุค, ขุนนางและเคาท์ พวกระดับต่ำกว่าเคาท์ไม่ได้มีสิทธิมายืนอยู่ที่นี่ด้วยซ้ำ
ไป่รุนเทียน ที่เป็นลอร์ดกวนหนานยืนอยู่ในใจกลางลอร์ดทั้งห้าและมองไปรอบๆ ทั้งสองฝั่งของเขาคือลอร์ดซวนวู, ลอร์ดจิงเทียน, ลอร์ดติงซีและลอร์ดเหยียนต่างก็มองไปที่ลอร์ดกวนหนานด้วยสายตาชื่นชม
ก่อนหน้านี้ยกเว้นแค่ตระกูลเก่าของลอร์ดติงซีที่ได้ตกต่ำลงเล็กน้อยเพราะเหตุผลต่างๆแล้ว ตระกูลลู่ของลอร์ดวนวู, ตระกูลซันของลอร์ดจิงเทียนและตระกูลฉินของลอร์ดเหยียนไม่ได้อ่อนแอไปกว่าตระกูลไป่เลย พวกเขาต่างก็อยู่ระดับเดียวกัน แม้ว่าฐานของตระกูลฉินจะอยู่ในเนินเขาซวนหยวนและไม่ได้มีอาณาเขตอะไรมากนักแต่ตระกูลฉินก็ดูแลธนาคารซวนหยวน ธนาคารที่ใหญ่ที่สุดในไทเซีย อำนาจของธนาคารนี้ครอบคลุมทุกที่ในประเทศ ดังนั้นตระกูลฉินจึงแทบจะเป็นตระกูลอันดับหนึ่งในหมู่ลอร์ดทั้งห้าแต่มันเป็นอดีตไปแล้ว เพราะ จางเทีย เป็นลูกเขยของ ไป่รุนเทียน แน่นอนว่า ไป่รุนเทียน จึงกลายเป็นลอร์ดในหมู่ลอร์ด ไม่มีใครเถียงเรื่องนี้ได้
ด้านหลังราชวงศ์และเจ้าหน้าที่ระดับสูงคือตัวแทนซึ่งเป็นราชารึเจ้าชายของทวีปตะวันตกและทวีปย่อยต่างๆ พวกเขามีสีผิวที่ตางกันไปและใส่ชุดต่างกัน จำนวนคนของคนเหล่านี้มีมากกว่า 3,000 คน
ด้วยการยิงปืนเคารพนั้นทุกคนต่างก็เงียบและเงยหน้ารอคอยการมาของ จางเทีย
พิธีที่สูงส่งแบบนี้ถูกจัดขึ้นมาเมื่อ 100 ปีก่อนในไทเซีย
หลังจากยิงปืนไปได้ 108 ครั้ง มันก็มีเสียงแตรดังขึ้น ประตูเรือบินค่อยๆเปิดออก จากนั้น จางเทีย ก็ค่อยๆก้าวออกมาที่พรมแดงโดยมี เบียนเหิง ตามมาด้วย
เจ้าชายทั้งสามเดินเข้ามาหา จางเทีย เพื่อทักทาย
เจ้าชายทั้งสามมี ชางกิง ที่เป็นลูกคนโตของ ชางหยิง, เจ้าชายหก ชางหง และเจ้าชาย 18 เฟิง
ชางกิง เป็นอัศวินสวรรค์แล้ว ชางหง และ เฟิง เป็นอัศวินเงา น่าเสียดายที่ไม่มีสักคนที่บ่มเพาะสูตรขั้นจักรพรรดิอย่างสูตรเทพซวนหยวน
จางเทีย ไม่เคยเห็นสูตรเทพซวนหยวนมาก่อน เขาแค่เคยได้ยินเกี่ยวกับมันมา เงื่อนไขในการบ่มเพาะสูตรขั้นจักรพรรดินั้นเคร่งคัดอย่างมาก ดังนั้นจึงไม่ใช่ว่าเจ้าชายทั้งหมดของจักรพรรดิซวนหยวนที่มีสิทธิจะบ่มเพาะมันได้ พวกที่บ่มเพาะสูตรเทพซวนหยวนและขึ้นเป็นอัศวินมีแค่เจ้าชายสามและเจ้าชายเก้าที่ตายไปแล้ว
แต่เจ้าชายสามโดน จางเทีย ฆ่าไป เจ้าชายเก้าโดนจับขังเพราะเกี่ยวข้องกับสามนิกายใหญ่และพันธมิตรราชวงศ์ ดังนั้นทั้งราชวงศ์จึงเหมือนจะตกต่ำลง ไม่มีใครสามารถสร้างความหวังให้กับทางราชวงศ์อีกเลย
บางทีโลกเองก็เช่นกัน เอาจริงๆแล้วในฐานะลูกหลานของจักรพรรดิซวนหยวน เจ้าชายทั้งสามคนตรงหน้า จางเทีย เป็นผู้มีพรสวรรค์ มันไม่ยากที่พวกเขาจะโดดเด่นขึ้นมาแต่เพราะเจ้าชายไม่ได้บ่มเพาะสูตรเทพซวนหยวนและบ่มเพาะสูตรที่ด้อยกว่า พวกเขาจึงไม่อาจจะโดดเด่นขึ้นมาได้ในเนินเขาซวนหยวนที่เต็มไปด้วยพวกระดับสูงและวีรบุรุษ นี่ไม่ต้องพูดถึงการขึ้นบัลลังก์เลย
หลังจากที่ทักทาย จางเทีย แล้ว เจ้าชายทั้งสามก็ไปยืนข้างๆ หลังจากนั้นผู้หญิงในชุดฟินิกส์ 3 ตัวและชายหนุ่มหน้าหล่อเหลาก็เดินออกมาด้านหน้ากลุ่มราชวงศ์โดยอุ้มเด็กน้อยวัย 7 ปีในชุดราชวงศ์ออกมา ทั้งสามได้คุกเข่าและคำนับให้กับ จางเทีย พร้อมกัน
" พ่อตา ด้วยความเคารพ ข้า ซวนหยวนหยุนเฟย…"
" พ่อ ด้วยความเคารพ ข้า ไชนิ…"
" ปู่ ด้วยความเคารพ ข้า ซวนหยวนซู…"
เด็กน้อยวัย 7 ปีคุกเข่ากับพื้น เขาเงยหน้าขึ้นมอง จางเทีย ด้วยดวงตาสีดำแบบลับๆ หน้าตาของเด็กน้อยนี้ทำให้ จางเทีย นึกถึงตอนเขายังเด็ก….