Castle of Black Iron - Chapter 1976: การโจมตีครั้งใหญ่ (VI)
Chapter 1976: การโจมตีครั้งใหญ่ (VI)
ภาพของราชาอินทรีย์ได้ปรากฏขึ้นมาเหนือก้อนเมฆ ภายใต้เปลวไฟนี้อัศวินปิศาจทุกตัวพากันหนีไปด้วยความกลัวราวกับแมลง….
" อ๊า…." – ก่อนที่ปิศาจปีกอัศวินเงาที่บินสูงหลายหมื่นเมตรจะได้ตอบโต้ ภาพราชาอินทรีย์ก็ได้บินเข้าหามัน ราชาอินทรีย์ได้บินทะลุก้อนเมฆด้วยกงเล็บที่ยาวกว่า 10,000 ม.และบดขยี้ปิศาจปีกราวกับอินทรีย์ที่จับแมลง
เสียงกรีดร้องของปิศาจปีกทำให้อากาศสั่นไหว ปิศาจปีกทุกตัวต่างก็กลัวราชาอินทรีย์โดยสัญชาตญาณอยู่แล้ว
เมฆที่ยาวหลายร้อยไมล์ได้สลายไปพร้อมกับราชาอินทรีย์ที่เข้าหาพวกอัศวินปิศาจ
ตอนนั้นนอกจากอัศวินปิศาจแล้วแม้แต่ปิศาจปีกที่หนีไปหลายพันตัวก็ด้วย ตอนที่ราชาอินทรีย์บินปกคลุมท้องฟ้า ปิศาจปีกหลายตัวก็รู้สึกอ่อนแรงแล้วร่วงลงมาราวกับสัตว์ที่อ่อนแอได้เห็นศัตรูที่น่ากลัว
ตอนที่ราชาอินทรีย์กระพือปีก ธาตุลมก็ทะลักออกมาจากดินแดนธาตุเข้าโจมตีปิศาจในรูปแบบของพายุสวรรค์ แม้แต่ปิศาจอัศวินเหล็กดำทั่วไปก็ยากจะรอดไปได้ในอากาศ ที่พื้นดินไม่ว่าพายุสวรรค์ จะพัดผ่านไปที่ไหน มันก็จะทำลายพวกกองกำลังปิศาจที่พื้นดินเหมือนกับพายุที่ฆ่ามด ตอนที่พายุทั้งสองพัดผ่าน พวกมันก็ได้ทำลายกองทัพปิศาจทันที ผลก็คือกองกำลังภาคพื้นดินส่วนใหญ่หายไปในเวลาอันสั้น
พายุแห่งนี้เรียกว่าฟู่เหยาซึ่งเป็นทักษะระยะกว้างที่รุนแรงของราชาอินทรีย์
ตูม*** ตอนที่ราชาอินทรีย์ได้กางกงเล็บออก มันก็ได้ฉีกป้อมรบของปิศาจเป็นชิ้นๆ
" ซากัส…." – จางเทีย ตะโกนออกมาพร้อมกับภาพราชาอินทรีย์ที่หายไปเผยให้เห็นหน้าตาของเขา
ในฐานะราชานรกของปิศาจ ตอนที่กองทัพปิศาจได้หนีจากแคมป์เขตอันซู แน่นอนว่า ซากัส ก็ไม่ได้เก่งพอที่จะกันแนวหลังให้กับกองทัพปิศาจกันการไล่โจมตีของไทเซีย อีกอย่างแล้วเพราะสถานการณ์ในเขตแรงที่ยังไม่ชัดเจน ซากัส ไม่ได้โง่พอที่จะรีบไปแนวหน้าและสำรวจทางให้กับทีมปิศาจ มันซ่อนตัวอยู่ใจกลางกองทัพพร้อมกับอัศวินปิศาจระดับสูงกว่า 10 ตัว พวกมันได้มุ่งหน้าไปทางตะวันตกเฉียงเหนือของเขตอันซู ดูจากเส้นทางแล้วพวกมันจะไปยังเขตปิงซูและเซียนซูก่อนจะหนีไปเขตติงซูรึตงซู ด้วยวิธีนี้พวกมันจะอ้อมเขตแรงได้
แน่นอนว่า จางเทีย ไม่ยอมให้ ซากัส ออกจากที่นี่แน่ ตอนที่ราชาอินทรีย์บินผ่านเมฆไป จางเทีย ก็ได้ขวางทางทีมของ ซากัส เอาไว้
ตอนที่ราชาอินทรีย์ร่อนลงมา มันก็ทำให้ ซากัส และลูกน้องของมันกลัวแต่ ซากัส ไม่คิดว่ามันจะเป็นคนคุ้นเคยที่ปรากฏตัวขึ้นมาตรงหน้าหลังจากที่ภาพราชาอินทรีย์หายไป
เทียบกับคนที่แม่น้ำเว่ยชูแล้ว หน้าตาของ จางเทีย แทบไม่เปลี่ยนไป เขายังเป็นวัยรุ่นเช่นเดิมแต่พลังฉีของเขาได้เปลี่ยนไปจากแต่ก่อน
" จางเทีย…" – ซากัส ตะโกนออกมาด้วยตาที่แดงกล่ำเมื่อเห็น จางเทีย ที่ห่างออกไป 50,000 ม.
" ข้าเอง ซากัส…" – จางเทีย ตอบกลับและมองไปที่ ซากัส อย่างใจเย็น
" เป็นไปไม่ได้ ไม่ใช่ว่าเจ้าตายที่ทะเลทรายหยินไห่แล้วรึไง ? " – ไม่มีใครที่ทำให้ ซากัส ช็อกได้มากกว่า จางเทีย เพราะมันไม่มีทางลืมบทเรียนที่ จางเทีย ให้มันที่แม่น้ำเว่ยชูได้ จากคำพูดของ ซากัส แล้ว มันไม่รู้ว่า จางเทีย ได้กลับมายังเขตยูซูรึข่าวจากแคมป์ปิศาจที่เขตแรง
" แน่นอน ข้าเอง ! " – จางเทีย พูดเบาลง – " เจ้ายังมีชีวิตอยู่ พวกปิศาจที่บุกโจมตีไทเซียและอาณาเขตมนุษย์เองก็ด้วย ข้าจะตายได้ยังไง ? ถ้าข้าตายไป ใครจะไปรับหัวเจ้าและแก้แค้นให้กับการตายของ เจ้าชายชางหยิง ? "
จางเทีย พูดพร้อมกับดาบแยกสวรรค์ได้ปรากฏขึ้นมาในมือเขา
เขาเลือกได้ว่าจะไม่ฆ่า ซากัส ด้วยดาบแยกสวรรค์แต่ถ้าเขาต้องการฆ่าอัศวินปิศาจตัวอื่นในเวลาที่สั้นที่สุด งั้นดาบแยกสวรรค์ก็เป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดเพราะการโจมตีของอาวุธนี้ตัดผ่านระยะทาง 100,000 ม.ได้ในเสี้ยววินาที อีกอย่างแล้วมันทำลายเงินลับและเกราะพลังฉีได้อย่างง่ายดาย ในฐานะทองลับแล้ว มันคือศัตรูของเงินลับและเกราะพลังฉี อีกอย่างแล้วมันมีทองลับไม่มากในโลกนี้ ดังนั้นความเฉียบคมของดาบแยกสวรรค์จึงดูโดดเด่นที่สุด
มันคือ ซากัส ที่ฆ่า ชางหยิง ในเขตจินซู หลังจากที่รู้ว่า ซากัส อยู่ในแคมป์ปิศาจเขตอันซูแต่ จางเทีย ก็เลือกจะจัดการกับแคมป์ปิศาจเขตอันซูเป็นที่สุดท้าย เขาต้องการตัดหัว ซากัส ด้วยตัวเองเพื่อแก้แค้นให้กับ ชางหยิง ทำให้วิญญาณของเพื่อนจากไปอย่างสบายใจและเพิ่มกำลังใจของทหารกับผู้คนในไทเซีย เขาต้องการแสดงความหวังแห่งชัยชนะให้กับทุกคนในสงครามครั้งนี้ นี่อธิบายได้ว่าทำไม จางเทีย ถึงได้แสดงสูตรราชาอินทรีย์ออกมาเพราะ จางเทีย รู้ว่าผู้แข็งแกร่งที่บ่มเพาะสูตรขั้นจักรพรรดิและขึ้นเป็นอัศวินปราชญ์นั้นมีความหมายยังไงต่อคนจีนและไทเซีย
แม้ว่าจักรพรรดิจะตายได้แต่ใจของคนนั้นตายไม่ได้ !
" ฆ่าเขาซะ…." – ซากัส ตะโกนออกมาด้วยความหงุดหงิดแล้วชี้ไปที่ จางเทีย แทบจะพร้อมกันนั้นอัศวินปิศาจกว่า 10 ตัวเหนือกว่าอัศวินสวรรค์ก็ได้สร้างขบวน 3 ใน 1 กว่าสี่อันพุ่งเข้าหา จางเทีย พร้อมกับ ซากัส
จางเทีย ส่ายหน้าเล็กน้อยเพราะขบวนรบที่ไม่มีลูกปัดขบวนนั้นไม่ใช่ขบวนรบที่แท้จริง ก่อนหน้านี้ จางเทีย รู้สึกว่าขบวนรบแบบนี้ยอดเยี่ยมแต่เมื่อเขากลับมาจากดินแดนโม่เทียน เขาก็พบว่าขบวนแบบนี้มันดูหยาบๆ นี่ไม่ต้องพูดถึงขบวนรบที่ประกอบขึ้นจากอัศวินสวรรค์
ก่อนที่ปิศาจอัศวินสวรรค์กว่า 10 ตัวจะพุ่งมาตรงหน้า จางเทีย แต่ จางเทีย ก็ฟันดาบแยกสวรรค์ออกไปแล้ว
ทันใดนั้นดาบพลังฉีอันทรงพลังก็ได้พุ่งเข้าหาพวกอัศวินปิศาจ
ขบวนรบของปิศาจอัศวินสวรรค์ได้แตกออกทันที เงินลับได้แตกสลาย เกราะพลังฉีพัง หลังจากนั้นร่างของพวกมันก็ถูกตัดเป็นชิ้นๆ
ขบวนรบของปิศาจอัศวินสวรรค์กว่า 10 ตัวไม่อาจจะทนการโจมตีจาก จางเทีย เพียงครั้งเดียวได้
เมื่อเห็น จางเทีย พุ่งเข้ามาหา ซากัส ก็แทบจะตาหลุดออกจากเบ้าเพราะความหงุดหงิด ในขณะเดียวกันมันก็เปล่งแสงสีม่วงแดงออกมากลืน จางเทีย เข้าไปในดินแดนของตัวเอง
มันเหมือนกับทะเลหมอกในดินแดนของ ซากัส มันเต็มไปด้วยหมอกดำ อัศวินปิศาจนับไม่ถ้วนปรากฏขึ้นในหมอกดำและพุ่งเข้าหา จางเทีย
แต่ก่อนที่พวกอัศวินปิศาจจะได้เข้าหา จางเทีย พวกมันก็ถูกบดขยี้โดยลมดาบปกป้องรอบตัว จางเทีย
จางเทีย ก้าวไปในอากาศเดินเข้าหา ซากัส
ในขณะเดียวกันหมอกดำก็ได้เปลี่ยนเป็นคลื่นสูงพุ่งเข้าหา จางเทีย จากทุกทิศทาง
ซากัส คำรามออกมาแล้วดึงเอาดาบดำแปลกๆออกมา จากนั้นเขาก็ฟันใส่ จางเทีย ด้วยดาบนั้น ดาบพลังฉีได้เปลี่ยนเป็นงูดำที่มีเขาที่หัวก่อนจะพุ่งเข้าไปในคลื่นซึ่งทำให้คลื่นและลมนั้นรุนแรงกว่าเดิม ในขณะเดียวกันมันก็อ้าปากกว้างและแยกเขี้ยวพุ่งเข้าใส่ จางเทีย….
จางเทีย ฟันดาบออกไปจนทำให้ดินแดนของ ซากัส เต็มไปด้วยดาบพลังฉีของเขาทันทีราวกับเกิดดวงอาทิตย์ขึ้นมาที่นั่น
คลื่นสูงได้สลายไป งูเองก็โดนตัดหัวไปด้วย
ตอนนั้น จางเทีย ได้มาอยู่ตรงหน้า ซากัส แล้ว ก่อนที่ ซากัส จะได้ทำการโจมตีครั้งที่สอง หัวของมันก็ถูกตัดขาดและถูกมือของ จางเทีย จับเอาไว้
" จางเทีย แม้ว่าเจ้าจะฆ่าข้าได้แต่เจ้าก็ไม่อาจจะเปลี่ยนชะตาของไทเซียที่ต้องตายได้ "
แม้ว่าหัวมันจะอยู่ในมือ จางเทีย แต่ ซากัส ก็ยังพูดออกมาด้วยรอยยิ้มชั่วร้าย มันไม่ได้ปิดตาจนกระทั่งพูดจบ
ตูม*** ร่างและดินแดนของ ซากัส ได้ถูกทำลายในพริบตา จางเทีย ที่จับหัว ซากัส ได้ปรากฏตัวในสนามรบอีกครั้ง
คำพูดสุดท้ายและสีหน้าแปลกๆนั้นทำให้ จางเทีย ใจเต้นรัวแต่ จางเทีย ไม่ได้คิดอะไรมากในเรื่องนี้ หลังจากที่เก็บหัว ซากัส เข้าไปในแหวนมิติ จางเทีย ก็มองไปรอบๆและพบกับปิศาจเหล็กอัศวินเงาที่กำลังหนีด้วยท่าทีลนลานห่างไปหลายร้อยไมล์ จากนั้น จางเทีย ก็พุ่งไล่ตามอัศวินปิศาจนั่นไป
ปิศาจอัศวินเงาอ่อนแอราวกับแมลงในสายตา จางเทีย แต่ จางเทีย รู้ว่าปิศาจอัศวินเงานี้คือขุนเขาสำหรับอัศวินเหล็กดำและอัศวินดิน นี่ไม่ต้องพูดถึงนักสู้ทั่วไป ถ้าเขาฆ่าปิศาจอัศวินเงาตัวนี้ บางทีเขาอาจจะช่วยชีวิตคนได้จำนวนมาก
ไม่ถึง 10 วินาที จางเทีย ก็ย่นระยะห่างมาไม่ถึงหมื่นเมตร ด้วยการสะบัดดาบ ร่างของปิศาจอัศวินเงาก็ขาดออกโดยดาบพลังฉี..
หลังจากนั้น จางเทีย ก็พบปิศาจอัศวินเงาอีกตัวที่อยู่ห่างไป 250 ไมล์ จากนั้น จางเทีย ก็ได้ไล่ตามทันที…
ครึ่งนาทีต่อมาหลังจากที่ฆ่าปิศาจเหล็กอัศวินเงาไปสองตัวและปิศาจอัศวินดินไปหนึ่งตัว จางเทีย ก็จัดการปิศาจอัศวินเงาตัวที่สองด้วยดาบแยกสวรรค์ของเขา
ด้วยวิธีนี้ จางเทีย เพียงคนเดียวก็ได้ไล่ตามอัศวินปิศาจหลายหมื่นตัวเหมือนกับเสือที่ดุร้ายที่ไล่ตามกระต่ายจนทำให้พวกอัศวินปิศาจต่างก็ร้องโอดครวญราวกับผี พวกมันกลัวจนแทบจะสลบ….
ไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปนานแค่ไหน หลังจากที่ฆ่าปิศาจปีกอัศวินเงาตัวสุดท้าย จางเทีย ก็ได้มองไปรอบๆและพบว่าเขาได้ออกจากเขตอันซูและเข้ามายังเขตปิงซูแล้ว เขาไม่เห็นปิศาจอัศวินเงาในระยะ 600 ไมล์ มีแค่พวกกระจอกที่หนีกันอย่างลนลานเท่านั้น
หลังจากที่รู้สึกได้ถึงบางอย่างที่ผิดปกติด้านหลัง จางเทีย ก็หันกลับแล้วเห็นลำแสงสีขาวยิงเข้าหาเขา
ในทิศทางของเขตอันซู เขาเห็นพลังฉีของอัศวินนับหมื่นพุ่งขึ้นไปบนฟ้า มันหมายความว่าอัศวินไทเซียได้มาถึงและไล่ตามพวกอัศวินปิศาจ ผลก็คือป้อมรบของปิศาจได้แตกเป็นชิ้นๆโดยคนของไทเซียก่อนจะตกลงไปที่พื้น….
ลำแสงนี้ได้หยุดห่างจากตรงหน้า จางเทีย ไป 1,000 ม.เผยให้เห็น ซูกิวหมิงยู่ ที่ถือดาบในมือ
" ฮาฮา เทพกองทัพ ไม่ได้เจอกันนาน…" – จางเทีย หัวเราะออกมาแล้วทักทาย ซูกิวหมิงยู่
" มันเป็นเจ้าจริงๆ ! " – เมื่อยืนยันว่าเป็น จางเทีย ซูกิวหมิงยู่ ก็ถอนหายใจออกมาด้วยความพอใจและสีหน้าช็อก – " แล้ว ซากัส ไปไหน ?"
" ข้าได้ฆ่า ซากัส ไปแล้ว สำหรับเรื่องที่เหลือมันเป็นงานของท่าน ข้าจะไม่แย่งผลงานกับคนของท่าน ข้าต้องกลับไปที่เขตยูซูและกลับไปหาครอบครัวข้า…" – จางเทีย ซ่อนดาบแยกสวรรค์แล้วป้องมือให้กับ ซูกิวหมิงยู่ ด้วยรอยยิ้ม หลังจากนั้นเขาก็พุ่งขึ้นไปบนฟ้าแล้วเผยภาพราชาอินทรีย์ออกมา จากนั้นเขาก็กระพือปีกแล้วบินไปยังเขตยูซู…
ในวันที่ 17 สิงหาคม ปี 932 จางเทีย ได้กลับมายังไทเซีย ในวันเดียวกันนั้นเขาได้ทำลายแคมป์ปิศาจสามแห่งในไทเซีย, ฆ่าปิศาจอัศวินปราชญ์ไป 4 ตัวและอัศวินปิศาจกว่าแสนตัวด้วยตัวคนเดียวรวมถึงได้ทำลายกองทัพปิศาจนับพันๆกอง จุดเปลี่ยนของสงครามระหว่างมนุษย์และปิศาจได้มาถึงแล้ว…