Castle of Black Iron - Chapter 1969: ตีตอนเหล็กยังร้อน
Chapter 1969: ตีตอนเหล็กยังร้อน
ในหมู่คนที่มาล้อมรอบ จางเทีย บางคนดูคุ้นเคย บางคนแปลกหน้า มีหลายคนที่เปลี่ยนไปใน 30 ปีที่ผ่านมา อีกอย่างแล้วคนแปลกหน้าก็ดูคุ้นเล็กน้อยเพราะสายเลือด
มันเป็นครั้งแรกสำหรับ จางเทีย ที่ได้ยินคนมากมายเรียกเขาว่าปู่
จางเทีย มองไปยังใบหน้าที่ดีใจและตื่นเต้นรอบๆ หลังจากนั้นเขาก็พยักหน้าตอบรับและพูดขึ้นอย่างใจเย็น -" ขอบคุณที่พยายามกันมา "
" ในที่สุดเจ้าก็กลับมา…." – หยานเฟยกิง ปาดน้ำตาและพยายามพูดอย่างใจเย็น หลังจากนั้นเธอก็มองไปยังอัศวินกว่าหมื่นคนรอบๆและบอกกับพวกคนจากวังจินวูและนิกายมังกรเหล็ก – " หัวหน้านิกายกลับมาแล้ว กลับกันเถอะแล้วไปคุยเรื่องนี้ทีหลัง ! "
พวกเขามีหลายอย่างจะพูดกับ จางเทีย แต่มันไม่ใช่เวลาที่เหมาะที่จะมาคุยกันตอนนี้
" ใช่ ใช่ กลับไปก่อนแล้วค่อยคุยกัน…." – จางหยาง เองก็พยักหน้าหลังจากที่เช็ดน้ำตา
เมื่อ หยานเฟยกิง และ จางหยาง ต่างก็พูดออกมา คนจากวังจินวูและนิกายมังกรเหล็กก็ได้แต่ทำตามคำสั่ง
จางเทีย ได้สูดหายใจเข้าลึกๆ มันไม่ใช่เวลาที่เหมาะที่จะหยุด เขามีหลายอย่างต้องไปจัดการ
ใบหน้าของ จางเทีย ดูเคร่งขรึมขึ้นมา เขาได้บอกกับ นักพรตยกภูเขา – " พี่ยกภูเขา จัดคนจับอัศวินของสามนิกายใหญ่ขัง สอบสวนพวกนั้นเมื่อน้ำแข็งละลายลง บางคนในหมู่พวกนี้ต้องรู้ความลับของสามนิกายตอนที่ไปกำจัดนิกายป่าเถื่อนและการก่อตั้งพันธมิตรราชวงศ์ ! "
แน่นอน นักพรตยกภูเขา เข้าใจความคิดของ จางเทีย ถ้าไม่เปิดเผยสิ่งชั่วร้ายของสามนิกายใหญ่ คนอื่นในประเทศอาจจะเข้าใจ จางเทีย ผิดว่าเขาเป็นกบฏ แน่นอนว่าพวกเขาไม่ควรมองข้ามความเห็นของคนทั้งโลก พวกเขาต้องกระชากหน้ากากของสามนิกายใหญ่และเปิดเผยเรื่องชั่วร้ายออกมาให้ทุกคนรับรู้ นอกจากนี้แล้วการตายของ เฒ่าไทยิ และ เฉินคง วันนี้และการตายของ ซวนหยวนวูจี เมื่อ 30 ปีก่อนก็ยังไม่มีเหตุผลมารับรอง
นักพรตยกภูเขา พยักหน้าให้กับ จางเทีย หลังจากนั้นเขาก็ได้บินลงไปเรียกคนของนิกายมังกรเหล็กให้ไปเคลื่อนย้ายอัศวินของสามนิกายไปที่คุก
" ลอร์ดเชิง…." – จางเทีย มองไปที่ เชิงหงลี่ แล้วพูดต่อ – " โปรดแจ้งไปที่เนินเขาซวนหยวนให้ส่งกองทัพทั้งสี่และนายพลเฉจีของทุกเขตเพื่อกันประตูภูเขาของสามนิกายเอาไว้ ห้ามอัศวินที่เหลือของสามนิกายออกจากฐาน อีกอย่างแล้วควบคุมพวกตระกูลที่ใกล้ชิดกับสามนิกายใหญ่ในแต่ละเขตเผื่อว่าจะเกิดปัญหา ข้าเดาว่าผลกระทบทุกอย่างจะเกิดขึ้นในวันนี้ ! "
" ได้ ! " – เชิงหงลี่ ป้องมือแล้วพูดด้วยสีหน้าเคร่งขรึม
เอาจริงๆแล้ว จางเทีย ไม่ใช่เจ้าหน้าที่ระดับสูงของไทเซีย ดังนั้นเขาจึงไม่มีสิทธิที่จะสั่งการผู้สั่งการแต่จากพลังของ จางเทีย ที่ฆ่าอัศวินปราชญ์สองคนได้อย่างง่ายดาย เชิงหงลี่ จึงรู้ว่า จางเทีย ได้กลายเป็นผู้แข็งแกร่งอันดับ 1 ในหมู่มนุษย์ของไทเซีย ทั้งประเทศอาจจะพลิกผัน สถานการณ์โดยรวมที่เจอกับสงครามอาจจะเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง จางเทีย เพียงคนเดียวอาจจะแข็งแกร่งกว่านิกายใหญ่ทั้งหกรวมกัน จากชื่อเสียงของ จางเทีย ที่เพิ่มขึ้นมาในหมู่มนุษย์ตลอดหลายปีมานี้ อำนาจของวังจินซูในไทเซียและพลังของ จางเทีย ในการฆ่าอัศวินปราชญ์สองคน แม้ว่า จางเทีย จะไม่รู้แต่ไม่มีใครในประเทศกล้าขัดคำพูดของเขา
อีกอย่างแล้ว จางเทีย ไม่รู้ตัวเลย เขาได้อีกตำแหน่งมา —- นายพลกองรบของไทเซีย ตั้งแต่สงครามที่แม่น้ำเว่ยชู ตำแหน่งนี้ก็ถูกยกให้กับ จางเทีย ในฐานะนายพลกองรบแล้ว เขามีสิทธิที่จะติดต่อเนินเขาซวนหยวนและแสดงความเห็นในหมู่อำนาจตอนฉุกเฉินเหมือนกับ เชิงหงลี่
ถ้าเหล่าลอร์ดในเนินเขาซวนหยวนได้ยินเรื่องการต่อสู้ในเขตยูซู ตาบใดที่พวกเขาไม่อยากตาย เชิงหงลี่ ก็เชื่อว่าพวกนั้นคงลงมือทันทีทั้งเพื่อผลประโยชน์ส่วนตัวและส่วนรวม ถ้าพวกเขาจัดการได้ช้า ตอนที่สามนิกายใหญ่ได้สร้างความวุ่นวายขึ้นมา พวกนั้นอาจจะเป็นวิหารเอื้อมสวรรค์อีกแห่ง ไทเซียไม่อาจจะทนรับความวุ่นวายได้อีก
' ข้าสงสัยว่า ลอร์ดหลี่ อยู่ที่ไหน เขาจะกลับมาค้นยอดเขาสวนเทียนหลังจากกลับไปยังเนินเขาซวนหยวนรึเปล่า ฮี่ฮี่….' เชิงหงลี่ ยิ้มออกมาตอนที่นึกถึงคนที่กำลังเดินทาง
" อีกอย่างแล้ว ลอร์ดเชิง โปรดบอกผู้อาวุโสกับศิษย์ของสามนิกายใหญ่กับพวกที่เกี่ยวข้องกับสามนิกายใหญ่ด้วยคำพูดของข้า — ข้าไม่ชอบการฆ่าฟันแต่เมื่อข้าตัดสินใจจะฆ่าใคร ข้าก็ไม่มีทางแสดงความเมตตา มันขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของพวกเขา ! "
เชิงหงลี่ พยักหน้าให้กับ จางเทีย
จางเทีย มองไปยังอัศวิน, ผู้อาวุโส, เฟิงคังวู และ วูติงเทียน จากนั้นก็มองไปยังเหล่าอัศวินที่มาที่นี่เพื่อปกป้องวังจินวูและนิกายมังกรเหล็กจากเขตและนิกายอื่น หลังจากนั้นเขาก็ป้องมือให้กับพวกนั้นแล้วโค้งให้ก่อนจะพูดขึ้น – " วังจินวูและนิกายมังกรเหล็กจะไม่ลืมบุญคุณครั้งนี้ ! "
" ด้วยความยินดี…."
" ด้วยความยินดี…"
อัศวินรอบๆต่างก็รีบโค้งกลับ
ดูจากพลังที่ จางเทีย ได้แสดงออกมาในวันนี้ คำพูดของเขาสุภาพเกินไป ดังนั้นคนอื่นๆต่างก็ซาบซึ้ง จริงๆแล้วนอกจาก วูติงเทียน ของหุบเขาฆ่าปิศาจที่ได้ไปขวางทาง เฉินคง เอาไว้ ไม่มีสักคนที่มีโอกาสเข้าไปช่วยนิกายมังกรเหล็กและวังจินวู การต่อสู้ในวันนี้คือการต่อสู้ระหว่างนิกายมังกรเหล็กและวังจินวูกับสามนิกายใหญ่
เมื่อเห็น จางเทีย กับอัศวิน,หัวหน้าและผู้อาวุโสของนิกายต่างๆที่เกี่ยวข้องกับ จางเทีย พวกเขาก็รู้ว่าพวกเขาพบโชคเข้าแล้ว หลายคนยังรู้สึกว่าตัวเองฝันอยู่
" เมื่อไหร่เจ้าจะไปขอหลานข้าในหุบเขาฆ่าปิศาจ ? " – อยู่ๆ วูติงเทียน ก็ได้ถาม จางเทีย
" แพนโดร่า เป็นภรรยาข้านานแล้ว ไม่จำเป็นที่ข้าต้องไปขอเธอเลยสักนิด ! " – จางเทีย ตอบกลับ
" ฮาฮา… " – วูติงเทียน หัวเราะออกมาแล้วพูดขึ้น – " ไม่เลว ไม่เลว เจ้าสมกับที่ แพนโดร่า หลงใหลในตัวเจ้า เจ้าก็รู้ หลังจากการตอ่สู้ที่ทะเลทรายหยินไห่ แพนโดร่า บอกว่าเจ้ายังมีชีวิตอยู่ ดังนั้นเธอจึงเก็บตัวบ่มเพาะและตั้งใจจะขึ้นเป็นอัศวินปราชญ์ หลังจากนั้นเธอต้องการจะไปตามหาเจ้าในรอยแยกมิติที่หยินไห่ การกลับมาของเจ้าทำให้ข้าสบายใจ เธอจะได้ไม่ต้องเก็บตัวบ่มเพาะอีกร้อยปี ถ้าคนเราต้องการเพียงความแข็งแกร่ง มันคงไร้ความหมาย …."
" ใช่ ถ้าคนเรามีเป้าหมายในชีวิตแบบนั้น มันคงน่าเศร้า ! "
หลังจากที่ได้ยินคำพูดของ วูติงเทียน คนอื่นๆก็นึกถึงเรื่องเหตุการณ์ที่มีฝูงหงส์ก่อตัวเป็นตัวหนังสือบนท้องฟ้าที่เผยว่า ฮานเซิงฟาง คือหัวหน้าของวิหารเอื้อมสวรรค์เมื่อหลายสิบปีก่อน มันถือว่าเป็นคดีที่ยังไม่ปิดของไทเซีย ความวุ่นวายในวันที่ 15 ของเดือนนั้นเกิดขึ้นจากการทำลายแผนของวิหารเอื้อมสวรรค์และเผยถึงบ่อเลือดทั่วไทเซีย มันคือข้อมูลที่สำคัญ กว่าหลายปีมานี้คดีนี้ยังไม่ปิดคดีลง ไม่มีใครรู้ว่ามีเรื่องแบบนั้นในเนินขาซวนหยวนได้ยังไง
" อืม เป็นข้าเองที่เผยถึงแผนการของ ฮานเซิงฟาง และวิหารเอื้อมสวรรค์ในเนินเขาซวนหยวน ! " – จางเทีย ยอมรับตามตรง
" แล้วเรื่อง ฮานเซิงฟาง กับลูกสองคนล่ะ ? พวกเขาหายตัวไปหลังจากเกิดเรื่องวุ่นวาย บอกกันว่าพวกเขาซ่อนตัวในที่ลับของหารเอื้อมสวรรค์เพื่อเก็บตัวบ่มเพาะและรักษาตัว แม้ว่าพวกเขาจะเป็นคนร้ายมาตลอดหลายปีแต่ก็ไม่มีใครพบตัวพวกเขา ! "
" จริงๆแล้วข้าได้ฆ่า ฮานเซิงฟาง และลูกสองคนหลังจากเกิดเรื่องวุ่น ! "
" วีรบุรุษนั้นจะพิเศษตอนที่พวกเขายังเด็ก เจ้าสมควรกับความสำเร็จตอนนี้…" – วูติงเทียน ถอนหายใจเมื่อได้ยินคำตอบของ จางเทีย
" ข้าทำสิ่งที่ควรทำ ! " – จางเทีย พูดแล้วมองไปรอบๆ หลังจากนั้นเขาก็ป้องมือและพูดขึ้น – " คืนนี้โปรดไปพักในนิกายมังกรเหล็ก พวกท่านเป็นแขกของเรา ข้ายังมีอีกเรื่องต้องไปจัดการ ข้าจะกลับมาในไม่ช้า…"
มีไม่กี่คนที่เดาได้ว่า จางเทีย จะไปทำอะไร
ตอนที่ จางเทีย ออกจากนิกายมังกรเหล็กไป ข่าวที่ว่าผู้มอตะเฉียนจีที่หายตัวไปในทะเลทรายหยินไห่อยู่ก็กลับมาและได้ฆ่า เฒ่าไทยิ กับ เฉินคง ด้านนอกประตูภูเขานิกายมังกรเหล็กก็แผ่ไปทั่วประเทศและเกิดการพูดถึงมากมาย….