Castle of Black Iron - Chapter 1962: อยู่รึตาย
Chapter 1962: อยู่รึตาย
ในห้องลับของยอดเขาสวนเทียนซึ่งเป็นที่พิเศษของนิกายมังกรเหล็ก หยุนซงซี นั้นแผ่หมอกเลือดออกมาพร้อมใบหน้าซีดเซียว ปราชญ์เงินและปราชญ์ทองนั้นบินวนอยู่รอบตัวเขาและกินหมอกเลือดที่ออกมาจากร่างของ หยุนซงซี…
ปลาคาร์ฟขนาดต่างๆที่เกิดจากพลังฉีสีดำได้ออกมาจากอก, หลัง, จมูกและหูของ หยุนซงซี และว่ายไปมา
ถ้าใครรู้ถึงผลของความสามารถนี้ เขาคงรู้สึกตื่นเต้นขึ้นมาแต่ฉากแบบนี้นั้นไม่ใช่การแสดงเวทย์มนต์ ดังนั้นมันจึงดูน่ากลัวอย่างมาก ตอนที่คนเห็นมัน ผมของพวกเขาต้องลุกเพราะความกลัว
ร่างของ หยุนซงซี นั้นเหมือนกับแห เมื่อไหร่ก็ตามที่ปลาคาร์ฟออกมาจากตัว เขาจะคิ้วขมวดเล็กน้อยราวกับว่ากำลังเจ็บปวดอยู่ ในขณะเดียวกันกลิ่นรอบตัวก็จะคาวเลือดยิ่งกว่าเดิม
หยานเฟยกิง นั่งอยู่ตรงกันข้ามกับ หยุนซงซี ลูกปัดสีแดงขนาดเท่ากับกำปั้นอยู่ในมือของเธอ เธอโคจรพลังวิญญาณเข้าไปในลูกปัด ในขณะเดียวกันพลังฉีสีแดงก็ได้บินออกมาจากลูกปัดและเข้าไปในกะโหลกของ หยุนซงซี
ลูกปัดนี้เล็กลงเรื่อยๆจนยากที่มนุษย์จะมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า
ตอนที่ปลาคาร์ฟสีดำนั้นออกมาจากตัว หยุนซงซี พลังงานแปลกๆก็ออกมาจากลูกปัดและเข้าไปในตัวเขา ดังนั้นความสมดุลระหว่างการใช้พลังงานและการฟื้นฟูจึงเริ่มคงที่..
ผ่านไป 1 ชม. หมอกสีแดงรอบตัว หยุนซงซี ก็เริ่มบางลงก่อนจะหายไป ไม่มีปลาคาร์ฟลอยออกมาจากร่างเขาอีก ลูกปัดเองก็หยุดปล่อยพลังฉีออกมาด้วย
" อึก.." – หยุนซงซี คายเลือดสีดำออกมา ตอนที่เลือดตกลงไปที่พื้นด้วยความเร็วแสง มันก็ได้เกิดหลุมนับพันที่พื้น เลือดสีดำนั้นถึงกับกัดหินได้
" ข้าต้องออกจากนิกายมังกรเหล็ก.." – หยุนซงซี หอบหายใจแล้วเช็ดเลือดที่มุมปาก แม้ว่าจะอ่อนแอแต่เขาก็สามารถพูดได้ – " ข้ารู้สึกว่าแผลที่ เมิ่งชี่เดา ให้ไว้นั้นไม่ปกติ พลังฉีของเขาเป็นพิษและสามารถสร้างพิษได้อย่างต่อเนื่อง ข้าไม่อาจจะกำจัดมันได้ อีกอย่างแล้วข้ารู้สึกว่าพลังฉีของข้าผันผวนแปลกๆ เขาอาจจะรู้ถึงตำแหน่งของข้า ข้ากลัวว่ามันจะเป็นปัญหาให้กับนิกายมังกรเหล็กและวังจินวู…"
" 2 ชม.ก่อนหัวหน้าศาลสูงสุดได้มายังนิกายมังกรเหล็กพร้อมผู้ตรวจการมากมาย พวกเขาขอค้นยอดเขาสวนเทียน อัศวินจากนิกายไทยิ, ศาลาสวรรค์และศาลาเฉียงลู่เองก็มารวมตัวกันที่ชายแดนของเขตยูซู พวกเขารู้แล้วว่าท่านอยู่ในนิกายมังกรเหล็ก พวกเขารู้ตำแหน่งของท่านแล้ว " – หยานเฟยกิง พูดขึ้นอย่างใจเย็นพร้อมกับเก็บลูกปัดลงไปในแหวนมิติ – " ความกังวลของท่านนั้นมีเหตุผล แผลที่ เมิ่งชี่เดา ทิ้งไว้นั้นช่วยเขาให้หาตัวท่านเจอได้จริง ! "
หลังจากที่ได้ยินแบบนั้น หยุนซงซี ก็เปลี่ยนสีหน้าไปทันที เขาดีดตัวขึ้นและพูดด้วยท่าทีเด็ดเดี่ยว – " ข้าจะออกไปเดี๋ยวนี้.."
" คนจากศาลสูงสุดไปแล้ว พวกเขาจะไม่กลับมาในอีก 2-3 วัน ! " – หยานเฟยกิง อธิบายอย่างใจเย็น – " อีกอย่างแล้วท่านไม่ควรออกจากนิกายมังกรเหล็กในตอนนี้ เมื่อพวกเขารู้ว่าท่านอยู่ในห้องลับของยอดเขาสวนเทียนและรู้ตำแหน่งของท่านได้ทุกเมื่อ พวกนั้นต้องหาวิธีรับมือเพื่อกันไม่ให้ท่านออกจากที่นี่ผ่านอุโมงค์ลับ ดูจากเล่ห์เหลี่ยมของพวกเขาตอนที่ขอให้ศาลสูงสุดตรวจค้นที่นี่ " – หยานเฟยกิง ถอนหายใจออกมา -" ข้ากลัวว่าต้องมีอย่างน้อยสองคนในหมู่ เมิง่ชี่เดา, เฒ่าไทยิ แ ละเฉินคง ที่มายังเมืองมังกรเหล็ก พวกนั้นอาจจะรอท่านออกจากประตูนิกายไปผ่านทางอุโมงค์ลับและฆ่าท่าน เมื่อท่านตาย ทั้งสามนิกายใหญ่จะถือว่าวังจินวูและนิกายมังกรเหล็กก็ผิดไปด้วย พวกเขาต้องหาวิธีจัดการกับเรา ศาลสูงสุดก็แค่หุ่นเชิดที่ช่วยพวกเขา พวกนั้นแค่ต้องการใช้ศาลสูงสุดในการบังคับท่านออกจากนิกายมังกรเหล็ก.."
หยุนซงซี ไม่ได้โง่ หลังจากที่ได้ยินแบบนั้นเขาก็รู้ทันทีว่าการตัดสินของ หยานเฟยกิง ถูกต้อง อีกอย่างแล้วเขารู้ถึงสถานการณ์ตอนนี้ —- ถ้าเขาไม่ออกจากที่นี่ สามนิกายใหญ่และ เมิ่งชี่เดา ก็ได้แต่ใช้ศาลสูงสุดในการบังคับเขาออกจากที่นี่ เมื่อศาลสูงสุดยืนยันว่าเขาอยู่ในนิกายมังกรเหล็ก คนในสามนิกายใหญ่และเนินเขาซวนหยวนจะทำการโจมตี หยุนซงวี และวังจินวูพร้อมกัน ถ้า หยุนซงซี ออกจากที่นี่ไป ดูจากสภาพของเขาตอนนี้แล้ว เมื่อถูกพบตัว บางทีเขาอาจจะโดน เมิ่งชี่เดา และ เฒ่าไทยิ ฆ่า
ตอนนั้นแม้ว่าพวกนั้นจะรู้ว่า หยุนซงซี อยู่ในนิกายมังกรเหล็กแต่ เมิ่งชี่เดา และสามนิกายใหญ่ก็ไม่กล้าจะโจมตีนิกายมังกรเหล็กและวังจินวูเพราะทั้งสองคือนิกายและตระกูลชั้นนำของไทเซียและมีความสัมพันธ์กับทางราชวงศ์ พวกเขาเกี่ยวข้องกับไทเซียในหลายๆด้านและมีภูมิหลังที่ลึกซึ้ง ถ้าสามนิกายใหญ่และ เมิ่งชี่เดา ทำการโจมตี เมื่อ หยุนซงซี คิดจะระเบิดตัวเอง พวกนั้นก็ไม่มีหลักฐานอะไรกับการอยู่ของเขา จากนั้นสามนิกายใหญ่และ เมิ่งชี่เดา ก็จะมีปัญหาใหญ่ ด้วยการโจมตีนิกายมังกรเหล็กและวังจินวูรวมถึงทำให้เกิดความวุ่นวายทางการเมือง พวกเขาก็จะโดนประนามไปทั่วไทเซีย แม้แต่สามนิกายใหญ่และ เมิ่งชี่เดา ก็ยากจะรับผลลัพธ์แบบนี้ได้ ดังนั้นพวกเขาจึงได้ใช้ศาลสูงสุดเป็นโล่
สำหรับสามนิกายใหญ่กับ เมิ่งชี่เดา หยุนซงซี นั้นคือเต่าในโหล มันมีแค่สองผลลัพธ์ หยุนซงซี ออกจากนิกายมังกรเหล็กและโดนฆ่ารึไม่ก็พวกเขาจะจัดการกับวังจินวูแล้วค่อยฆ่า หยุนซงซี
หลังจากที่รู้เรื่องเหล่านี้ หยุนซงซี ก็หลับตาลงพร้อมสีหน้าสงบ หลังจากนั้นไม่นานเขาก็ลืมตาขึ้นแล้วถอนหายใจออกมาด้วยท่าทีสงบแม้ว่าเสียงเขาจะดูอ่อนแรงก็ตาม – " ผิดพลาดซ้ำแล้วซ้ำเล่า ! ข้าไม่คิดว่า เมิ่งชี่เดา จะเป็นอัศวินปราชญ์แล้วและร่วมมือกับสามนิกายใหญ่ ดังนั้นเขาจึงใช้โอกาสนี้ดึงเอาวังจินวูเข้ามาเกี่ยวด้วย ! "
" ผู้อาวุโส มันไม่ใช่ความผิดของท่าน ไม่มีใครรู้ว่า เมิ่งชี่เดา เป็นอัศวินปราชญ์และร่วมมือกับสามนิกายใหญ่ พวกนั้นแค่หลอกใช้ท่านแต่มันไม่ใช่ความผิดของท่าน ไม่มีใครแข็งแกร่งเกินกว่าผู้อื่น อย่าไปคิดมากเลย ! "
" ก่อนหน้านี้ข้าเป็นเพียงแค่ศิษย์ของนิกายป่าเถื่อน จริงๆแล้วมันไม่สำคัญว่าข้าจะมีชีวิตอยู่หรือไม่เพราะทักษะของนิกายป่าเถื่อนนั้นได้ส่งต่อโดยคนอื่นไปแล้ว ข้าแทบจะทำตามฝันของตัวเองได้แล้ว ตลอดหลายปีมานี้ข้าได้ฆ่าอัศวินของสามนิกายใหญ่ไปมากพอ แม้ว่าข้าจะต้องตายตอนนี้แต่ข้าก็ไม่รู้สึกเสียดาย ! " – หยุนซงซี ,ปราชญ์เงินและปราชญ์ทองซึ่งบินอยู่รอบตัวและพูดขึ้น – " การผูกวิญญาณระหว่างปราชญ์เงินและปราชญ์ทองกับเจ้าของนั้นยังไม่หายไป มันหมายความว่าเจ้าของมันยังมีชีวิตอยู่ เขาจะกลับมาในไม่ช้า แม้ว่าข้าจะต้องตายแต่วังจินวูต้องฟื้นฟูขึ้นมาอีกครั้งหลังจากที่ผ่านพ้นวิกฤตไปได้ ข้ารู้สึกว่าเขาจะต้องแข็งแกร่งกว่าเดิมเมื่อเขากลับมา เขาจะแก้แค้นให้กับนิกายป่าเถื่อนและข้าพร้อมกับคืนวันสดใสให้กับไทเซียด้วยการจัดการกลุ่มชั่วร้ายในสามนิกายใหญ่ ดังนั้นข้าจึงไม่กลัวตาย ถ้าวังจินวูตัดเขี้ยวเล็บที่ย่ำกรายเข้ามาได้ด้วยชีวิตของข้า ข้าก็รู้สึกว่าการตายของข้าคุ้มค่า ! "
ตอนนั้น หยุนซงซี ไม่กลัวตายเลยแม้แต่น้อย เขาแค่คิดเรื่องการตายให้มีค่ามากที่สุด
" ผู้อาวุโส หากท่านไม่คอยจัดการกับสามนิกายใหญ่และอัศวินปราชญ์ทั้งสองรวมไปถึงกันไม่ให้สามนิกายใหญ่จัดการกับวังจินวู วังจินวูจะพัฒนาขึ้นมาแบบนี้ได้ยังไง ? ผู้อาวุโส แม้ว่าท่านจะเป็นผู้อาวุโสของนิกายป่าเถื่อนแต่ทุกคนก็ถือว่าท่านเป็นผู้อาวุโสของวังจินวูตลอดหลายสิบปีมานี้ นี่ไม่ต้องพูดถึงความสัมพันธ์ของท่านกับสามีข้า ท่านถึงกับสอนและดูแลคนของวังจินวูอย่างดี พวกเขาถือว่าท่านเป็นอาจารย์และปู่ ดังนั้นวังจินวูและนิกายมังกรเหล็กจะไม่ยอมให้ท่านตายด้วยมือของสามนิกายใหญ่และ เมิ่งชี่เดา ไม่งั้นแล้วคนของวังจินวูคงต้องละอายกับการอยู่ในไทเซีย ! "
" แต่ถ้าเป็นแบบนั้นวังจินวูก็ต้องเกี่ยวพันกับเรื่องนี้ไปด้วย.."
" สามนิกายใหญ่คิดเรื่องการทำลายวังจินวูมานานแล้ว หากไม่มีท่าน เราคงพินาศไปแล้ว อีกอย่างแล้วท่านคิดว่า เมิ่งชี่เดา ต้องการเพียงแค่จัดการกับท่านและวังจินวูรึ ?"
หลังจากที่ได้ยินคำเตือนของ หยานเฟยกิง หยุนซงซี ก็คิ้วขมวดและถามขึ้นมา – " เจ้าหมายถึงอะไร ?"
" เป้าหมายของพวกนั้นไม่ใช่ท่านรึวังจินวูแต่เป็นบัลลังก์ ด้วยการจัดการกับท่าน พวกเขาก็จะจัดการกับวังจินวูรวมถึงลูกหลานโดยตรงของเจ้าชายที่เรามีแต่พวกนั้นโลภมากเกินไป พวกนั้นต้องการปิดสวรรค์ด้วยฝ่ามือด้วยอัศวินปราชญ์เพียงแค่สามคน แน่นอนว่าพวกนั้นไม่อาจจะทำตามข้อกำหนดทุกด้านได้ เมื่อสนใจเรื่องนี้ก็อาจจะเสียอีกเรื่องไป วังจินวูไม่กลัวลูกไม้ใดๆ ผู้อาวุโส ท่านต้องฟื้นฟูตัวเองที่นี่โดยไม่ต้องกังวลอะไร แม้แต่หัวหน้าศาลสูงสุดก็ไม่อาจเข้ามายังเขตยูซูได้ตามใจ อีกอย่างแล้วนิกายสวรรค์บอกว่าเราจะได้พบโชคในอีกไม่กี่วัน มาดูกันว่ามันคืออะไร แย่ที่สุดแม้แต่เจ้าชายก็ยังโดนฆ่าได้ มันไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรที่หัวหน้าศาลสูงสุดจะโดนปิศาจฆ่า.." – หน้าของ หยานเฟยกิง ดูเย็นชาขึ้นมาเล็กน้อยในตอนท้าย..
ครึ่งชั่วโมงต่อม วูติงเทียน หัวหน้าหุบเขาฆ่าปิศาจก็ได้มาที่นิกายมังกรเหล็กเพียงลำพัง เขาบอกว่าเขาชอบฤดูหนาวในยอดเขาสวนเทียนโดยเฉพาะวิวในเขตยูซู ดังนั้นเขาจึงต้องการมาพักที่นิกายมังกรเหล็ก..
แต่นี่เพิ่งจะเดือนสิงหาคม เขาต้องรออย่างน้อย 4 เดือนสำหรับวิวนั้น
ไม่กี่ชั่วโมงข่าวที่ว่าหัวหน้าศาลสูงสุดได้ไปที่นิกายมังกรเหล็กและตั้งใจจะจับ หยุนซงซี ก็แผ่ไปทั่วประเทศซึ่งสร้างความช็อกไปให้กับทุกกลุ่ม ทันใดนั้นทุกขุมกำลังในประเทศก็หันไปสนใจนิกายมังกรเหล็กในเมืองยูซู…