Castle of Black Iron - Chapter 1961: ลูกไม้ที่โหดเหี้ยม !
Chapter 1961: ลูกไม้ที่โหดเหี้ยม !
ตอนนั้นเหรียญซี่เหมาในมือหัวหน้าศาลไม่ได้สำคัญอีกต่อไปแล้ว สิ่งที่สำคัญคือ เชิงหงลี่ ผู้สั่งการของเขตกองทัพตะวันออกเฉียงเหนือในฐานะเจ้าหน้าที่ที่มีอำนาจในไทเซียได้ประกาศว่าเหรียญนั่นเป็นของปลอม นิกายมังกรเหล็กและวังจินวูเชื่อในคำพูดของ เชิงหงลี่ เมื่อเป็นแบบนั้นถ้าหัวหน้าศาลสูงสุดยังดื้อด้านจะค้นยอดเขาสวนเทียนด้วยเหรียญปลอม แม้ว่านิกายมังกรเหล็กจะฆ่าหัวหน้าศาลสูงสุดแต่พวกเขาก็ไม่ต้องรับผิดชอบอะไร
เมื่อเป็นแบบนั้นหัวหน้าศาลสูงสุดก็มีสองตัวเลือก อันแรกคือค้นหายอดเขาสวนเทียนต่อโดยอาจจะต้องตาย อย่างที่สองคือออกจากที่นี่ก่อนและพิสูจน์ว่าเหรียญนี่เป็นของจริงก่อนจะไปจับตัว เชิงหงลี่ แล้วค้นทั่วทั้งอาณาเขตของนิกายมังกรเหล็ก, ทำให้วังจินวูเสียเกียรติ สุดท้ายก็ทำลายชื่อเสียงของนิกายมังกรเหล็ก
หัวหน้าศาลสูงสุดเลือกตัวเลือกหลังระหว่างการฆ่าตัวตายกับการฆ่า เชิงหงลี่ และนิกายมังกรเหล็กในอีกไม่กี่วัน
เมื่อเขาตัดสินใจแล้ว หัวหน้าศาลสูงสุดก็ได้ออกจากที่นั่นพร้อมกับลูกน้องคนอื่นๆ
" ลอร์ดเชิง เจ้าก่อเรื่องแล้ว หวังว่าเจ้าจะไม่รู้สึกผิดกับการตัดสินใจในวันนี้ " – ลอร์ดหลี่ บอกกับ เชิงหงลี่ ด้วยสีหน้าหม่นก่อนจะออกจากที่นั่น
" ฮาฮา หวังว่า ลอร์ดหลี่ จะไม่รู้สึกผิดกับการตัดสินใจในวันนี้ ข้าจำได้ว่าผู้อมตะเฉียนจีเคยบอกไว้ว่าทุกอย่างในโลกล้วนมีราคา เจ้าไม่อาจจะพึ่งคนอื่นโดยไม่เสียอะไรไม่ได้ ! " – เชิงหงลี่ พูดขึ้นแล้วหัวเราะออกมา
หัวหน้าศาลสูงสุดสะบัดแขนเสื้อแล้วเดินออกไปด้วยความหงุดหงิด
แต่เมื่อเขาออกจากที่นั่น ลอร์ดหลี่ ก็เกิดคำถามขึ้นมาในหัว —- ทำไม เชิงหงลี่ ถึงได้โผล่มาตอนนี้และถ่วงเวลาโดยเอาชีวิตตัวเองเป็นเดิมพัน ?
..
ลอร์ดหลี่ และลูกน้องต่างก็ขึ้นเรือบินและออกจากฐานนิกายมังกรเหล็ก หลังจากที่ จางเชิงเล่ย ได้บอกบางอย่าง พวกอัศวินและศิษย์ของนิกายมังกรเหล็กที่ล้อมรอบคนจากศาลสูงสุดก็ได้ออกจากวังหลักไป จากนั้น เชิงหงลี่, ลู่ติงซี, จางเชิงเล่ย และผู้อาวุโสหลักของนิกายได้มายังห้องลับของวัง
มีคนหนึ่งรอพวกเขาอยู่ในห้องลับ
เขาคือ เฟิงคังวู
ก่อนจะเข้ามาในวังหลักของนิกายมังกรเหล็ก เชิงหงลี่, ลู่ติงซี และ จางเชิงเล่ย จริงๆแล้วมากับ เฟิงคังวู ตอนที่พวกเขามาถึงยอดเขาสวนเทียน มันก็เปิดโอกาสให้ เฟิงคังวู มารอพวกเขาในห้องลับของวังหลัก
ผ่านมา 30 ปี เฟิงคังวู ที่เคยเป็นเด็กหนุ่มหล่อเหลานั้นตอนนี้มีหนวดแล้ว เขาดูเป็นผู้ใหญ่ขึ้นแต่เขาก็ยังคงมีบุคลิกเช่นเดิม เมื่อเวลาผ่านไปเขาก็มีท่าทีอันมั่นคง ถ้าผู้หญิงที่ชอบคนเป็นผู้ใหญ่มาเห็น เฟิงคังวู พวกเธอส่วนมากคงกรี๊ดออกมาเพราะความตื่นเต้น
" ลุงเฟิง.." – จางเชิงเล่ย ทัก เฟิงคังวู ด้วยความเคารพเมื่อเข้ามาในห้องลับ
" ด้านนอกเกิดอะไรขึ้น ?" – เฟิงคังวู กระซิบ
" พวกเขาไปแล้ว ! "
เฟิงคังวู ก็พยักหน้า
พวกเขาพากันนั่งรวมตัวกันในห้องลับ
หลังจากที่นั่งแล้ว เชิงหงลี่ ที่ทำตัวเป็นฮีโร่ด้านนอกก็ถอนหายใจออกมา – " ข้าได้เอาชีวิตตัวเองเป็นเดิมพัน ถ้านิกายสวรรค์หลอกข้า ชื่อข้าอาจจะอยู่ในหมู่รายชื่อ 1 ใน 10 คนร้ายของศาลสูงสุดในไม่กี่วัน ผู้อมตะเฉียนจีมีสายเลือดเปลี่ยนร่างและสามารถเดินทางไปไหนก็ได้ตามต้องการในตัวตน คุยหลี่ โดยไม่มีใครจำได้แต่ข้าไม่ได้มีทักษะนั้น หน้าของข้าดำเป็นตัวประกาศตัวตน แน่นอนว่าต้องถูกคนจำได้ไม่ว่าจะไปไหนก็ตาม ข้าได้แต่ซ่อนตัวในนิกายสวรรค์ ข้าไม่อาจจะออกจากดงเทียนของนิกายสวรรค์ได้จนกว่าข้าจะขึ้นเป็นอัศวินสวรรค์ "
" ผู้สั่งการ ไม่ต้องกังวลไป ! หัวหน้านิกายสวรรค์ได้เดาผลลัพธ์และสั่งการมาแล้ว ไม่ว่าจะยังไงก็ตามตราบใดที่เรายื้อเวลาได้สัก 5-7 วัน เราก็จะโชคดีและสามารถพลิกสถานการณ์ได้ ! " – เฟิงคังวู อธิบายเบาๆ
" หวังว่าจะเป็นแบบนั้น ! " – เชิงหงลี่ พยักหน้า หลังจากนั้นเขาก็มองไปที่ จางเชิงเล่ย หลังจากที่ัลังเลไม่นานเขาก็ถามขึ้นมา – " หยุนซงซี.."
" ผู้อาวุโสหยุนซงซี อยู่ในห้องลับใต้ดินของยอดเขาสวนเทียน.." – จางเชิงเล่ย พูดออกมาตรงๆ
หลังจากที่ได้ยินคำสารภาพนั้น เชิงหงลี่ ก็ตกใจแม้ว่าเขาจะเดาไว้แล้วก็ตาม ถ้าคนจากศาลไม่มั่นใจ พวกนั้นคงไม่มีทางมาที่นิกายมังกรเหล็กเพื่อตัว หยุนซงซี เพราะมันไร้ความหมาย นี่ไม่ต้องพูดถึงการลงมือพร้อมกับสามนิกายใหญ่ ปรากฏว่าพวกนี้พร้อมจะป้ายสีให้กับนิกายมังกรเหล็กและวังจินวูด้วยเรื่องนี้อยู่แล้ว
" ทำไม หยุนซงซี ถึงได้อยู่ในนิกายมังกรเหล็ก ? "
" ผู้อาวุโสหยุน บาดเจ็บหนัก เขาพักฟื้นในนิกายมังกรเหล็ก.."
หลังจากที่ได้ยินแบบนั้น เชิงหงลี่ ก็เบิกตากว้างด้วยความแปลกใจ – " ใครกันที่ทำให้ หยุนซงซี บาดเจ็บหนักได้ ? เฒ่าไทยิ และ อาจารย์เฉินคง ร่วมมือกันสู้กับเขารึ ? "
" เฒ่าไทยิ, อาจารย์เฉินคง และ เมิ่งชี่เดา ! "
" อะไรนะ ?"
หลังจากที่ได้ยินคำตอบนั้นทุกคนต่างก็ช็อกอย่างมาก
" เมิ่งชี่เดา ได้ขึ้นเป็นอัศวินปราชญ์แล้วและเสร็จสิ้นการเก็บตัว อีกอย่างแล้วเขามีลูกไม้ที่คาดเดาไม่ได้มากมาย ก่อนหน้านี้ ผู้อาวุโสหยุน มักจะสนใจสถานการณ์ของสามนิกายใหญ่ ในขณะเดียวกันเขาก็โดนจำกัดการเคลื่อนไหวโดย เฒ่าไทยิ และ อาจารย์เฉินคง เขาไม่คิดว่าร่องรอยของเขาจะถูกพบโดย เมิ่งชี่เดา ที่ขึ้นเป็นอัศวินปราชญ์ ไม่กี่วันก่อน ผู้อาวุโสหยุน ได้ตกเข้าไปในกับดักของอีกฝ่าย หลังจากที่ เมิ่งชี่เดา ได้ลอบโจมตีเขา เฒ่าไทยิ และ อาจารย์เฉินคง ก็มาถึง ผู้อาวุโสหยุน ได้ฝ่าวงล้อมของสามอัศวินปราชญ์ออกมาได้แต่เขาก็ได้รับบาดเจ็บหนัก.." – เชิงหงลี่ อธิบายเบาๆ
ข่าวนี้น่าตกใจอย่างมาก เพราะนี่เป็นครั้งแรกที่ เชิงหงลี่ และคนอื่นๆได้ยินเรื่องนี้ พวกเขาเงียบอยู่สักพัก เชิงหงลี่ เข้าใจแล้วว่าทำไมอีกฝ่ายถึงกล้าโจมตีนิกายมังกรเหล็กและวังจินวู มันกลับเป็นว่าเตรียมการมานานแล้ว
" มันน่าจะมีอุโมงค์ลับในห้องลับของยอดเขาสวนเทียน จริงๆแล้วตราบใดที่ ผู้อาวุโสหยุน ออกจากนิกายมังกรเหล็กได้และซ่อนตัว แม้ว่าหัวหน้าศาลสูงสุดจะกลับมา เขาก็ทำอันตรายนิกายมังกรเหล็กและวังจินวูไม่ได้อีกต่อไป ! " – ลู่ติงซี คิ้วขมวดและพูดขึ้น
ในฐานะผู้ดูแลเขตยูซูแล้ว ลู่ติงซี เป็นเพื่อนของวังจินวู ตระกูลลู่นั้นได้รับความร่ำรวยจากตระกูลจางด้วย พวกเขาถือว่าเป็นมิตรกัน
" ลุงลู่ ท่านไม่รู้สินะ สถานการณ์ของ ผู้อาวุโสหยุน นั้นพิเศษ แผลที่ เมิ่งชี่เดา ทิ้งไว้กับ หยุนซงซี นั้นแปลกอย่างมาก ตอนที่คนจากศาลสูงสุดอยากตามหาตัวเขาในห้องลับ ป้าของข้าได้เดาว่ามีคนรับรู้ถึงแผลนี้ ถ้าเขาออกจากนิกายมังกรเหล็กและวังจินวูตอนนี้ เขาต้องโดนฆ่าโดยสามนิกายใหญ่ เพราะนิกายมังกรเหล็กและวังจินวูได้รับการปกป้องจาก ผู้อาวุโสหยุน มาหลายสิบปี แน่นอนว่าเราต้องตอบแทนเขา ครั้งนี้ตระกูลจางของวังจินวูสาบานว่าจะปกป้อง ผู้อาวุโสหยุน แม้ว่าต้องสู้กับสามนิกายใหญ่ด้วยชีวิตตัวเองเป็นเดินพัน…" – จางเชิงเล่ย พูดออกมาอย่างหนักแน่น
" เมิ่งชี่เดา และสามนิกายใหญ่ช่างโหดเหี้ยมจริงๆ.." – เฟิงคังวู ถอนหายใจออกมา