Castle of Black Iron - Chapter 1957: การมาของเมฆดำ
Chapter 1957: การมาของเมฆดำ
" ไม่ ไม่มีทาง หัวหน้าวังไฮหยวนไม่อาจจะเป็นสนมใครได้ ! " – มูเร มองไปที่ เฟิงยี่เสี่ยว ด้วยความหงุดหงิด เขาไม่กลัวพลังของ เฟิงยี่เสี่ยว ในฐานะอัศวินเงาเลยแม้แต่น้อย เขาชี้ไปที่ เฟิงยี่เสี่ยว ด้วยความหงุดหงิดและพูดขึ้น – " แม้ว่าข้า จางมูเร จะต้องตายในวันนี้แต่ข้าก็ไม่ยอมให้ใครมาดูถูกวังไฮหยวน ! "
" แม้ว่าหัวหน้าจะเป็นศิษย์ของนิกายไทยิแต่เธอก็ยังเป็นหัวหน้าตระกูลจาง ทั่วไทเซียแล้วถ้าคำสั่งจากนิกายฝ่าฝืนผลประโยชน์ตระกูล ศิษย์นั้นสามารถปฏิเสธได้ ! " – มูยู พูดขึ้นแล้วมองไปที่ หลานหยุนซี
แต่ เฟิงยี่เสี่ยว ไม่ได้สนใจสองคนนี้ หลังจากที่มองไปยังทั้งสอง เขาก็จ้องไปที่ หลานหยุนซี และพูดขึ้น – " เจ้าชายเก้ากำลังจะขึ้นเป็นจักรพรรดิซวนหยวน แม้ว่าจะเป็นสนมนั้นจะไม่ได้รับตำแหน่งอะไรในอนาคตแต่เจ้าก็จะเป็นสนมอันดับสูงๆ มีผู้หญิงหลายคนอยากได้ตำแหน่งนี้ วังไฮหยวนควรฉลาดเข้าไว้ ! "
'อะไรนะ ? เจ้าชายเก้าจะขึ้นเป็นจักรพรรดิซวนหยวน ? '
หลังจากที่ได้ยินแบบนั้น หลานหยุนซี , มูเร และ มูยู ต่างก็ใจหล่นวูบ
" วังไฮหยวนไม่ได้มีสิทธิต่อรองกับเนินเขาซวนหยวนแต่หัวหน้าวังไฮหยวนนั้นไม่มีทางเป็นสนมได้ ! " – มูเร ยืนกรานความคิดตัวเอง
" ใช่ แม้แต่จักรพรรดิซวนหยวนก็ไม่อาจทำให้หัวหน้าเป็นสนมได้ นี่ไม่ต้องพูดถึงเจ้าชายเก้าเลย ! " – มูยู พูดขึ้น
" เจ้ามีความเห็นว่ายังไง ? " – เฟิงยี่เสี่ยว ถามและมองไปที่ หลานหยุนซี
" หยุนซี เป็นตัวซวย ข้าได้เตรียมจะอยู่เพียงลำพลังไปตลอดชีวิตเพื่อวังไฮหยวน ขอบคุณสำหรับความเมตตาแต่ข้าคงรับมันไม่ได้.." – หลานหยุนซี ตอบกลับอย่างใจเย็นและก้มหน้า
พ่อและอาจารย์ของเธอโดนฆ่า แม้แต่คู่หมั้นของเธอ ซวนหยวนวูจี ที่กำลังจะหมั้นกับเธอก็ยังโดนฆ่า ชื่อเสียงแย่ๆของเธอแผ่ไปทั่วไทเซียเมื่อ 30 ปีก่อน ตามคำทำนายแล้ว หลานหยุนซี นั้นทำให้สามีต้องตาย ดังนั้นกว่า 30 ปีมานี้จึงไม่มีตระกูลใหญ่ทั่วไทเซียที่คิดจะแต่งงานกับเธอ
หลังจากที่ได้ยินแบบนั้น มูเร และ มูยู ต่างก็พากันถอนหายใจ
" เจ้าก็รู้ว่าเจ้าเป็นตัวซวย มันหมายความว่าเจ้าไม่ลืมเรื่องความเมตตาที่ ผู้อาวุโสซู มีให้เจ้า ก่อนหน้านี้ ผู้อาวุโสซู มักจะปกป้องเจ้าในนิกายไทยิ สุดท้ายเธอก็โดน หยุนซงซี ฆ่าเพื่อปกป้องนิกายไทยิ เจ้าไม่อยากแก้แค้นให้อาจารย์เจ้ารึไง ? "
ตอนที่เธอได้ยินชื่ออาจารย์ เธอก็เผยสีหน้าเศร้าออกมา ซูเฉียนเฉียน ดูแลเธอเหมือนลูกแต่อาจารย์กลับโดน หยุนซงซี ฆ่า สำหรับเธอแล้วการโจมตีแบบนี้น่ะเจ็บปวดเท่ากับการเสียพ่อไป เธอไม่อาจจะลืมเรื่องนี้ได้
" มันมีอะไรเกี่ยวข้องกับการแต่งงานกับเจ้าชายเก้าและการแก้แค้นให้กับอาจารย์ ?"
" หยุนซงซี เป็นอัศวินปราชญ์แล้ว เจ้ายากจะแก้แค้นให้กับอาจารย์เจ้าได้แม้จะผ่านไปสัก 200 ปี อีกอย่างแล้วแม้ว่าเจ้าจะขึ้นเป็นอัศวินปราชญ์แต่เจ้าก็จะพบว่า หยุนซงซี แข็งแกร่งกว่าเจ้า บอกได้ว่าเจ้าไม่มีหวังที่จะแก้แค้นได้เลยไปตลอดชีวิตแต่ถ้าเจ้าแต่งงานกับเจ้าชายเก้าและให้กำเนิดบุตร ตราบใดที่เจ้าชายเก้าขึ้นบัลลังก์ เขาก็จะให้คนเอาหัว หยุนซงซี มาให้เจ้า มันเท่ากับการแก้แค้นให้กับอาจารย์ของเจ้า.."
" เจ้าชายเก้ารู้รึว่า หยุนซงซี อยู่ที่ไหน ? "
" แน่นอน ! "
" แล้ว หยุนซงซี อยู่ที่ไหน ? "
" เจ้าคิดว่าเขาอยู่ไหน ? " – เฟิงยี่เสี่ยว ฮึดฮัดอกมาแล้วมองไปที่ หลานหยุนซี ด้วยสีหน้ามั่นคงก่อนจะพูดต่อ – " เขาเป็นสมาชิกของนิกายป่าเถื่อน เมื่อดงเทียนของนิกายเขาอยู่ทางใต้ของไทเซียถูกพบ มันก็ตกเป็นของผู้อมตะเฉียนจีพร้อมกับสมบัติด้านใน ตอนที่นิกายไทยิส่งบัตรเชิญสีดำให้กับผู้อมตะเฉียนจีด้วยกันกับสองนิกายใหญ่ นิกายไทยินั้นถูกลอบโจมตีโดย หยุนซงซี ในวันเดียวกันและลดกำลังรบเราในทะเลทรายหยินไห่ เจ้าคิดว่ามันเป็นเรื่องบังเอิญรึไง ? "
คำพูดนี้ทำให้ใจของ หยุนซงซี เต้นรัว พริบตาสีหน้านิ่งของเธอก็ซีดไป ซีดสนิท !
มูเร และ มูยู เองก็เปลี่ยนสีหน้าไปอย่างมาก
" เป็นไปไม่ได้…เป็นไปไม่ได้…เขาไม่ทำแบบนั้น …เขาคงไม่ทำแบบนั้น.." – หลานหยุนซี พึมพำและส่ายหน้า
จางเทีย ฆ่าพ่อเธอไปแล้ว สำหรับเหตุผลแล้วเธอไม่อยากคิดเรื่องนี้อีกต่อไปแต่เธอไม่อาจจะรับความจริงได้ว่าอาจารย์ตายเพราะ จางเทีย
คำพูดของ เฟิงยี่เสี่ยว นี้ทำให้แผลในใจของเธอกำเริบขึ้นมาอีก
" ไม่มีอะไรเป็นไปไม่ได้ เจ้ามันใสซื่อเกินไป ตามการกระทำของ หยุนซงซี เขาไม่มีทางที่จะยกโทษให้ได้ อีกอย่างแล้วเขาควรได้รับการลงโทษหนัก เขาจะเป็นคนร้ายอันดับ 1 ของศาลสูงสุดในไทเซีย ถ้าวังไฮหยวนซ่อนตัวคนร้ายแบบนี้ วังไฮหยวนก็จะถูกกำจัดทั้งหมด ! " – เฟิงยี่เสี่ยว มองขึ้นไปบนฟ้านอกวังแสงแล้วฮึดฮัด – " ตอนนั้นข้ากลัวว่าหัวหน้าศาลสูงสุด หนึ่งในเก้ารัฐมนตรีของไทเซียและผู้ตรวจการทั้ง 13 อาจจะไปที่เมืองมังกรเหล็ก อีกอย่างแล้วอัศวินนับพันๆของนิกายไทยิ, ศาลาสวรรค์และศาลาเฉียงลู่ก็จะไปที่เขตหยานซู พวกเขายังไม่ได้เข้าไปที่เขตยูซู ตราบใดที่วังจินวูกล้าก่อเรื่อง เราสามนิกายจะกำจัดวังจินวูและนิกายมังกรเหล็กโดยไม่เหลือกระเบื้องแม้แต่แผ่นเดียว "
ในที่สุด มูเร และ มูยู ก็รู้ว่าทำไม เฟิงยี่เสี่ยว ถึงได้กล้ามาที่เขตยูซูด้วยเรือบินลำนี้
..
ในเมืองมังกรเหล็กที่ เฟิงยี่เสี่ยว พูดถึงนั้นคือเขตหลักที่มีประตูของนิกายมังกรเหล็กตั้งอยู่ ตั้งแต่ปี 907 เพราะวังจินวูพัฒนาขึ้นมาอย่างรวดเร็ว นิกายมังกรเหล็กจริงเริ่มสร้างเมืองตามความเห็นของ จางเทีย บนยอดเขาสวนเทียนทั้ง 18 ด้วยความช่วยเหลือทางการเงินที่มีอย่างต่อเนื่อง การสร้างเมืองมังกรเหล็กขึ้นมานั้นจึงแทบจะไม่หยุด ถึงจะเป็นแบบนั้นก็ยังต้องใช้เวลาถึง 20 ปีกว่าจะสร้างเสร็จ
หลังจากที่เมืองมังกรเหล็กเสร็จสิ้น มันก็ได้กลายเป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดในเขตยูซู แม้แต่ในเขตหนือของไทเซียด้วย
ตอนนั้นเมืองมังกรเหล็กโด่งดังไปทั่วโลก จำนวนและการผลิตน้ำมันไฟจึงทำให้เขตนี้เป็นเขตที่โด่งดังและศักดิ์สิทธิ์สำหรับนักสร้างรูนและช่างต่างๆจนได้กลายเป็นขุมทองของวังจินวูโดยเฉพาะหลังจากเขตกองทัพได้พินาศไปและเมืองช่างถูกปิศาจยึดเอาไว้ ช่างทั้งหมดได้ย้ายมาที่เมืองมังกรเหล็กด้วยเรือบินของวังจินวูเพื่อตั้งรกรากที่นี่ อุปกรณ์รูนและเครื่องมือต่างๆถูกผลิตขึ้นในเมืองมังกรเหล็กได้กลายเป็นสินค้าที่สามที่วังจินวูผลิตขึ้นมาหลังจากยารักษารอบด้านและน้ำมันไฟ…
เมฆดำที่หมายตาที่นั่นไว้ในที่สุดก็มาถึง ซึ่งทำให้บรรยากาศในเมืองมังกรเหล็กนั้นดูตึงเครียดขึ้นมา..