หน้าแรก Amnovel
  • หน้าแรก
  • นิยายทั้งหมด
  • เติมเงิน
  • ติดต่อเรา
ค้นหา
ค้นหาขั้นสูง
เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก
  • หน้าแรก
  • นิยายทั้งหมด
  • เติมเงิน
  • ติดต่อเรา
  • เข้าสู่ระบบ
เข้าสู่ระบบ
Prev
Next

Castle of Black Iron - Chapter 1948: ออกจากสันเขา

  1. หน้าแรก
  2. Castle of Black Iron
  3. Chapter 1948: ออกจากสันเขา
Prev
Next

Chapter 1948: ออกจากสันเขา

 

จางเทีย ไม่ได้ออกจากสันเขาจนกระทั่ง 10 วันต่อมา
ระหว่างนั้น จางเทีย ได้เข้าร่วมการต่อสู้มากกว่า 10 ครั้งและตัดหัวศัตรูหลายสิบคนในสันเขา หลังจากที่จัดการกับนักสู้ของอาณาจักรพันธมิตรศักดิ์สิทธิ์ จางเทีย ที่ปลอมตัวเป็น เฟรด ก็พบว่าเขาสามารถปลุกจุดชีพจรทั้งหมดได้ยกเว้นส่วนที่อยู่ตรงสันหลัง หลังจากนั้น จางเทีย ก็ออกจากสันเขาและเตรียมจะกลับไปแคมป์ตามคำสั่งของดาบแสง
ในการต่อสู้ 10 วันนี้เขาไม่ได้เสี่ยงเลย ดูจากระดับอัศวินปราชญ์ของเขาแล้ว แม้ว่าจะอยู่ในช่วงอ่อนแอแต่เขาก็ยังไม่รับรู้ถึงความตื่นเต้นอะไรเมื่อปลอมตัวเป็นนักสู้ระดับ 9 และสู้กับพวกลูกน้องปิศาจที่ระดับ 9 และต่ำกว่า มันยังห่างไกลกับคำว่าพอใจ
นี่เป็นแค่การต่อสู้ที่ค่อนข้างเสี่ยง  จางเทีย ได้เจอกับนักสู้ระดับ 11 ของอาณาจักรพันธมิตรศักดิ์สิทธิ์ในภูเขา  หลังจากที่คิดทบทวนดูแล้ว จางเทีย ก็รู้สึกว่ามันเด่นเกินไปถ้าเขาฆ่าอีกฝ่ายที่ห่างกันถึง 2 ระดับ ดังนั้น จางเทีย จึงเหลือที่จะหนีจากการไล่ล่าของอีกฝ่ายด้วยการโดดลงจากผา….
2 วันต่อมาหลังจากที่ 'รอด' จางเทีย ก็พบว่าเขาได้ยกระดับบางอย่าง — ในที่สุดเขาก็ปลุกจุดชีพจรทั้งหมดยกเว้นที่หลังได้ ดังนั้นเขาจึงหมดเวลาช่วงเก็บตัว 10 วันในภูเขาและลงมือในขั้นต่อไป
เฟยหนานห่างจากเมืองน้ำเย็นไป 160 ไมล์  มันทำการปกป้องทางปีกของเมืองน้ำเย้น  มันอยู่ภายใต้การควบคุมของมนุษย์หากเทียบกับเมืองน้ำเย็นที่รกร้าง เฟยหนานนั้นเหมือนกับแคมป์ของมนุษย์ ถ้ากองกำลังอาณาจักรพันธมิตรศักดิ์สิทธิ์ต้องการจะยึดเฟยหนาน พวกนั้นก็มีแค่สองทาง ผ่านภูเขาทางเหนือของเฟยหนานและมายังประตูเมืองเฟยหนานรึยึดเมืองน้ำเย็นทั้งหมดแล้วเดินหน้าจากทางตะวันออกเพื่อบุกเฟยหนาน
สำหรับจักรพรรดิของอาณาจักรพันธมิตรศักดิ์สิทธิ์ ทั้งสองทางนั้นยาก พวกมันต้องเสียหายอย่างมากกับการทำแบบนั้น
เมืองน้ำเย็นกลายเป็นซากไปแล้วแต่มนุษย์กับปิศาจยังคงแย่งชิงเมืองกันอยู่ อีกอย่างแล้วกองทัพปิศาจก็ไม่อาจจะเดินหน้าเข้ามาในสันเขาทางเหนือของเฟยหนานได้เพราะอาวุธหนักเข้าไปไม่ได้ ดังนั้นสันเขาจึงกลายเป็นสนามรบอีกแห่ง พวกที่สามารถสู้ได้ในเขตนี้คือพวกระดับสูง พวกที่ระดับ 6 ขึ้นไป  ด้านนอกสันเขา กองกำลังมนุษย์ต่างก็รอศัตรูด้วยแนวป้องกันต่างๆที่ประกอบไปด้วยป้อมรบ แม้ว่าพวกระดับสูงของอาณาจักรพันธมิตรศักดิ์สิทธิ์จะผ่านสันเขามาได้แต่ก็ต้องโดนโจมตีด้วยป้อมรบเหล่านั้น…..
….
" หยุด ! "
ป้อมเหล็กสีเทาตั้งอยู่ทางใต้ของสันเขาคอยควบคุมถนนหลักในการเข้าออกสันเขา ในเช้าวันที่ 29 มิถุนายน ไม่นานหลังจากที่อาทิตย์ขึ้น จางเทีย ก็ดึงความสนใจจากทหารลาดตระเวนในป้อมรบ มีหน้าไม้เล็งมาที่ จางเทีย  ตอนที่ จางเทีย เปิดผ้าคลุมหน้าออกเผยให้เห็นหน้าตาที่มากประสบการณ์และมีหนวด เขาก็ทำให้พวกทหารผ่อนคลายขึ้นเล็กน้อยแต่พวกนั้นยังมองมาที่ จางเทีย ที่เดินเข้ามาที่ป้อม
ตอนที่ จางเทีย อยู่ห่างไป 70 ม.จากป้อมรบ เขาก็เห็นเส้นสีแดงที่พื้น ตอนนั้น จางเทีย ก็ได้ยินเสียงจากป้อมรบ – " รายงานหน่วยกับรหัสมา ! " – เจ้าหน้าที่ในชุดแดงซ่อนตัวด้านหลังหอคอยธนูตะโกนขึ้น
" ทีม 76 หน่วย 3 กองทัพในเพนนิซูล่า กลุ่มกองทัพดาบแสง อาณาจักรแสง  รหัสแสงในหมอก…" – จางเทีย ตอบกลับ
หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ก็ไปเช็คข้อมูล ครึ่งนาทีต่อมามเจ้าหน้าที่ก็ตอบกลับ – " ถูกต้อง ผ่านได้…."
หลังจากที่ยืนยันตัวตนของ จางเทีย แล้ว หน้าไม้ก็เล็งอยู่ก็เปลี่ยนทางไป ทหารทั้งหมดในป้อมได้มองมาที่ จางเทีย ด้วยสีหน้าซับซ้อนซึ่งดูเคารพนิดๆ
3 อาทิตย์ก่อน ทีม 76 ได้เข้าไปในสันเขาโดยมีคน 6 คน  3 อาทิตย์ต่อมามีแค่คนเดียวที่รอดมาได้ ไม่ต้องบอกเลยว่าอีก 5 คนตายไปแล้ว  เมื่อ เฟรด กลับมาได้ เขาก็ต้องโชคดีอย่างมาก
ในสายตาคนอื่น จางเทีย คือคนรอดชีวิตจากสนามรบเพราะเขามีบาดแผล นอกจากนี้พวกเขายังเกือบได้ยินเสียงต่อสู้หากดูจากหน้าตาของ จางเทีย
ตอนที่ จางเทีย เดินมาที่ป้อม ไม่ว่าเขาจะสภาพแย่แค่ไหนแต่เขาก็ยังใจเย็นอยู่ ในตอนที่เขาเดิน เขาได้มองไปยังอาวุธในป้อม ในขณะเดียวกันก็แอบถอนหายใจออกมา
สงครามน่ะแข่งกันเรื่องอาวุธและความก้าวหน้า เอาชุดเปลี่ยนสีเป็นตัวอย่าง ตอนที่เขาออกจากโลกนี้ไป ของแบบนี้ไม่ได้มีอยู่ในกองทัพมนุษย์ แม้แต่ในไทเซียก็ด้วย ไม่คาดคิดว่า 30 กว่าปีผ่านมา นักสู้ที่แนวหน้าทวีปตะวันตกจะมีมัน
อาวุธในป้อมรบนี้ทรงพลังกว่าตอนที่เขาจากไป มันทำด้วยอัลลอยและเทคโนโลยีรูน ความสามารถเรื่องแรงดันและส่วนเก็บกระสุนนั้นดีขึ้นมาอีกระดับหนึ่งซึ่งหมายถึงพลังทำลายที่มากกว่าเดิม ด้วยน้ำมันไฟนั้น ป้อมรบแห่งนี้ก็เอาระบบไดนามิคมาใช้รวมถึงเอาอาวุธไฟมาปรับใช้ด้วย
ถ้าไม่มีพวกอยู่ในอากาศ  ปิศาจคงต้องมีพวกมากกว่านี้ 2-3 เท่าและใช้เวลามากกว่า 30 ปีในการกำจัดป้อมนี้แต่ถ้ามันเอาหน่วยทางอากาศมา พวกมันก็จะใช้ระเบิดไฟแค่ 1 ตันเปลี่ยนป้อมแห่งนี้ให้กลายเป็นซากรวมถึงทหารในป้อมนี้ด้วย
ทหารอากาศนั้นเริ่มสำคัญต่อสงครามมากขึ้นเรื่อยๆ
จางเทีย เงยหน้าขึ้นมองฟ้า
อย่างที่เขาคาดเอาไว้ ขบวนรบเหยี่ยวลอยอยู่บนท้องฟ้า นอกจากปกป้องป้อมแห่งนี้แล้ว มันยังจับตาดูสถานการณ์ของเขตอากาศบนสันเขาด้วย….
 

Prev
Next

ความคิดเห็นสำหรับ "Chapter 1948: ออกจากสันเขา"

4.5 40 โหวต
คุณชอบเรื่องนี้ไหม?
ติดตาม
เข้าสู่ระบบ
แจ้งเตือนของ
กรุณาเข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่คุณอาจชอบ

ขยะแห่งตระกูลเคานต์ (Trash of the Count s family)
ขยะแห่งตระกูลเคานต์ (Trash of the Count s family)
พฤษภาคม 20, 2022
Storm in the Wilderness – ขุนศึกสยบสวรรค์
Storm in the Wilderness – ขุนศึกสยบสวรรค์
พฤษภาคม 27, 2022
Rebirth Of the Urban Immortal Cultivator
Rebirth Of the Urban Immortal Cultivator
มีนาคม 12, 2022
กาลครั้งหนึ่ง … ในยุคราชวงศ์หมิง
กาลครั้งหนึ่ง … ในยุคราชวงศ์หมิง
มีนาคม 12, 2022
The Strongest Hokage
The Strongest Hokage
มีนาคม 12, 2022
ราชันย์หน่วยรบมังกร
ราชันย์หน่วยรบมังกร
มีนาคม 12, 2022
Tags:
แฟนตาซี
ประวัติการเข้าชม
You don't have anything in histories
หมวดหมู่นิยาย
  • sci-fi (24)
  • Video Games (11)
  • กำลังภายใน (36)
  • จีนกำลังภายใน (1)
  • ดราม่า (3)
  • ตลก (3)
  • นิยายลิขสิทธิ์ (18)
  • นิยายแต่ง (3)
  • ย้อนยุค อนาคต (7)
  • สยองขวัญ (2)
  • เกมส์ออนไลน์ (5)
  • แฟนตาซี (161)

© 2025 Madara Inc. All rights reserved

Premium Chapter

คุณจำเป็นต้องเข้าสู่ระบบก่อน

wpDiscuz