Castle of Black Iron - Chapter 1946: การเติบโตของวังจินวู

Chapter 1946: การเติบโตของวังจินวู

ตอนที่สามนิกายได้รับความเสียหายจาก หยุนซงซี ที่ซึ่งแอบลงมือแบบลับๆและมีพลังอันน่ากลัว วังจินวูก็สร้างเส้นสายกับราชวงศ์ของไทเซียผ่านการแต่งงานและยกระดับขึ้นจากธุรกิจน้ำมันไฟและยารักษารอบด้าน…
เพราะสงครามระอุขึ้น ความต้องการน้ำมันไฟและยารักษารอบด้านจึงเพิ่มขึ้น ในสถานการณ์นี้ฐานะวังจินวูในไทเซียก็เริ่มสำคัญขึ้น บอกได้ว่าวังจินวูนั้นเหมือนประเทศที่ร่ำรวย นอกจากน้ำมันไฟแล้ว เริ่มจากปีที่สองหลังจากการต่อสู้ที่ทะเลทรายหยินไห่ วังจินวูก็ได้ผลิตยารักษารอบด้านร่วมกันกับราชวงศ์กับนิกายใหญ่อื่นๆ..
จางเทีย เป็นลูกเขยของแมนชั่นลอร์ดกวนหนาน ลูกของ จางเทีย เป็นลูกเขยของเจ้าชาย, ลูกเขยของ ซูกิวหมิง, ลูกเขยของตระกูลกวง อีกอย่างแล้วตระกูลจางก็ได้สร้างความสัมพันธ์กับนิกายสวรรค์, กฎอำนาจทอง,กองทัพไทเซียและนิกายท้องถิ่นใหญ่ๆทั่วไทเซีย อีกอย่างแล้วทหารอากาศทั่วไทเซียแทบทั้งหมดก็เป็นศิษย์ของศิษย์จากอาณาเขตมังกรไฟ
กว่า 30 ปีตั้งแต่ที่ จางเทีย ได้ออกจากไทเซียไป จางเชิงเล่ย, จางเชิงติง และ จางเชิงเป่ย ได้ขึ้นเป็นอัศวินดิน ไม่นานหลังจากที่แต่งงานพวกเขาก็มีหลานให้กับ จางเทีย แม้แต่หลานหลายคนก็ยังขึ้นเป็นอัศวินทีละคนๆ  วังจินวูเต็มไปด้วยคนมีความสามารถ อีกอย่างแล้วมีผู้แข็งแกร่งหลายคนได้เข้าร่วมกับวังจินวู
หยานเฟยกิง อยู่ในฐานะเมียหลวงของ จางเทีย หลังจากที่จบการต่อสู้ที่ทะเลทรายหยินไห่ได้ 14 ปี เธอก็ได้สร้างจักระไฟและขึ้นเป็นอัศวินกึ่งปราชญ์  ไป่ซูเซียน และ กูหงยี่ ได้ขึ้นเป็นอัศวินเงา…
หลังจากการต่อสู้ที่ทะเลทรายหยินไห่ วังจินวูก็เจอปัญหามากมาย ในปี 914 ปิศาจปีกอัศวินกึ่งปราชญ์ได้เข้าโจมตีอาณาเขตมังกรไฟแต่ผลลัพธ์สุดท้ายคือปิศาจปีกนั้นโดนปราชญ์ทองและปราชญ์เงินฆ่า จนตอนนั้นคนทั่วไทเซียถึงได้รู้ว่าวังจินวูและนิกายมังกรเหล็กมีสัตว์อสูรสองตัวคอยหนุนหลัง สัตว์อสูรทั้งสองนั้นเทียบเคียงได้กับอัศวินกึ่งปราชญ์  ไม่มีใครทำร้ายมันได้ยกเว้นเพียงอัศวินปราชญ์
สำหรับป่าน้ำแข็งหิมมะ โอลอร่า ได้กลายเป็นจักรพรรดินีของอาณาจักรน้ำแข็งศักดิ์สิทธิ์ อังเดร ลูกของ จางเทีย กับเธอได้ขึ้นบัลลังก์ในวัย 18 และกลาเป็นทีซาของป่าน้ำแข็งหิมะ เขาได้ขึ้นเป็นอัศวินดินและมีลูกหลานมากมาย
อเล็กซานเดอร์ ลูกของ จางเทีย กับ โอลิน่า ถูกเรียกว่าราชาหมู่เกาะ เขามีเรือรบกว่าหมื่นลำและมีอำนาจอย่างมากในท้องทะเล..
อีกอย่าง อนาโตริ, วิคเตอร์, อีกอร์, โอเล็ก, นิโกลัส, ลีฟ ลูกหกคนของ จางเทีย กับผู้หญิงจากตระกูลสเปนเซอร์ก็ได้กำจัดอุปสรรคทั้งหมดในฟาดิแดลนที่ทวีปตะวันตกซึ่ง จางเทีย เคยรับปากว่าจะให้พวกเขาและก่อตั้งอาณาจักรใหม่ขึ้นมาเรียกว่าอาณาจักรอีสไชน์
อนาโตริ ลูกของ จางเทีย กับ มาเทีย ได้กลายเป็นราชาคนแรกของอาณาจักรอีสไชน์ ลูกอีก 5 คนเป็นเจ้าชาย ชื่อของพี่น้องทั้งหกแผ่ไปทั่วอาณาจักรอีสไชน์
เมืองของตระกูลสเปนเซอร์ในป่าน้ำแข็งหิมะคือเมืองอีสไชน์ อีสไชน์นั้นหมายถึงที่ดินที่ลอร์ดของพวกเขาได้มาถึงในป่าน้ำแข็งหิมะ ไม่คาดคิดว่าสุดท้ายตระกูลสเปนเซอร์จะเปลี่ยนชื่อนี้ให้กลายเป็นชื่อของประเทศไปได้ การลงทุนของตระกูลสเปนเซอร์ต่อ จางเทีย นั้นในที่สุดก็ได้รับผลตอบแทนหลังจากผ่านไปหลายสิบปี  พูดถึงเรื่องธุรกิจแล้วตระกูลสเปนเซอร์นั้นเป็นอันดับหนึ่งในป่าน้ำแข็งหิมะ
ด้วยความมั่นคงของอาณาจักรอีสไชน์ ชื่อเสียงของผู้หญิงตระกูลสเปนเซอร์ก็แผ่ไปทั่วทวีปตะวันตก
เมื่อได้ยินข้อมูลของวังจินวูและลูกของเขาจาก โอ๊กแฮม จางเทีย ก็รู้สึกซับซ้อนจนเงียบไปสักพัก
จางเทีย เกิดมาจากรากหญ้าในเมืองแบล็คฮ็อตแต่เขาไม่คิดว่าแม้แต่ลูกเขาก็จะได้กลายเป็นราชา กว่า 30 ปีที่ผ่านมา แม้แต่หลานของเขาก็ยังขึ้นเป็นอัศวินแล้ว
จางเทีย ไม่รู้ว่าจะร้องไห้รึหัวเราะดี
" แล้ว แมตเวย์ ล่ะ ? ข้าไม่ได้ยินเรื่องข่าว แมตเวย์ เลย " – จางเทีย ถาม โอ๊กแฮม หลังจากที่เงียบไปไม่นาน
แมตเวย์ คือลูกของ จางเทีย กับ ซาบีน่า แน่นอนว่าเขาไม่มีทางลืมลูก
โอ๊กแฮม ตอบกลับด้วยสีหน้าลนลาน – " ยกโทษให้ข้าด้วย ข้าไม่ค่อยรู้เรื่องเขานัก ข้าได้ยินแค่ว่าอาณาจักรน้ำแข็งศักดิ์สิทธิ์และอาณาจักรอีสไชน์ต่างก็เรียก แมตเวทย์ ว่าเจ้าชาย อเล็กซานเดอร์ ถึงกับยกเกาะให้กับเขาแต่หลังจากที่ขึ้นเป็นอัศวินแล้ว แมตเวย์ ก็ไม่ได้ปรากฏตัวให้คนอื่นเห็น ข้าไม่ได้ยินข่าวเกี่ยวกับเขาเลย "
" แล้ว ซาบีน่า ที่เป็นแม่เขาล่ะ ? "
" ที่อยู่ของเธอไม่แน่นอน 10 ปีก่อน เธอเดินทางไปทวีปตะวันตก หลังจากนั้นก็บอกกันว่าเธอไปยัง ไทเซีย ไม่กี่ปีก่อนบอกกันว่าเธอกลับไปยังเมืองหมีป่าในป่าน้ำแข็งหิมะ ข้ายังไม่ได้รับข่าวเกี่ยวกับเธออีกเลย.."
'เผ่าหมีป่าตั้งเมือง ? 'จางเทีย ส่ายหน้าเล็กน้อย แมตเวย์ นั้นมีความอยากรู้อยากเห็นเหมือนกับแม่  บางทีเขาอาจจะตามหาชีวิตที่เขาต้องการ ถ้ามันมีบางอย่างเกิดขึ้นกับ แมตเวย์ จริงๆ ซาบีน่า คงไม่มีทางเดินทางไปทั่วแบบนี้หากดูจากบุคลิกของเธอ
จางเทีย ถึงกับถามเรื่อง โอลิน่า และคนอื่นๆ ตามที่ โอ๊กแฮม บอกมา พวกเธอสบายดี  ทุกคนต่างก็รู้ว่าพวกเธอคือภรรยาของ จางเทีย จากชื่อเสียงของ จางเทีย ในหมู่มนุษย์และอำนาจของวังจินวูในไทเซียแล้ว แน่นอนว่าไม่มีใครกล้าหมายตาพวกเธอ อีกอย่างแล้วพวกเธอไม่ใช่คนทั่วไป พวกเธอมีคนคอยปกป้อง ลูกทุกคนต่างก็เป็นสัตว์ประหลาดที่ขึ้นเป็นอัศวินได้ในอายุประมาณ 18 ปี
กว่าหลายสิบปีที่ผ่านมาตั้งแต่ที่สงครามเริ่ม มนุษย์และไทเซียได้ตกอยู่ในพายุที่คลุ้มคลั่งแต่วังจินวูและเชื้อสายของ จางเทีย ได้เติบโตรุ่งเรืองอย่างต่อเนื่อง มันคือข้อมูลทั้งหมดที่ จางเทีย ได้มาจาก โอ๊กแฮม
หลังจากที่รู้เรื่องพวกนี้แล้ว จางเทีย ก็ถอนหายใจออกมา
มันมีปัญหาสุดท้ายที่ต้องแก้
" ข้าต้องให้เจ้าจัดหอคอยเวลาให้ข้าโดยไม่สนว่าจะเสียอะไร มันจะดีกว่าถ้าอยู่ในทวีปตะวันตก ! " – จางเทีย บอกกับ โอ๊กแฮม ตามตรง
" เจ้านาย ท่านต้องการหอคอยเวลางั้นรึ ? " – โอ๊กแฮม ถามด้วยท่าทีช็อก – " บอกกันว่าวังจินวูมีหอคอยเวลามากมายทางใต้ของไทเซีย.."
" เพราะบางอย่าง ข้าจึงไม่อยากจะเผยตัวตน ข้ายังไม่ต้องการติดต่อครอบครัวในตอนนี้…" – จางเทีย ขัดขึ้นมา
" มันมีหอคอยระดับสูงน้อยนักซึ่งทำให้คนบ่มเพาะได้ 50 ปีที่ทวีปตะวันตก "- โอ๊กแฮม ตอบกลับด้วยท่าทีอาย – " มันมีหอคอยเวลาระดับสูงสองอันในอาณาจักรแสงแต่พวกมันใช้การไม่ได้หากไม่ได้ขออนุญาติจากโป๊ป.."
" ข้าไม่ได้ต้องการหอคอยเวลาระดับสูงแบบนั้น ข้าต้องการบ่มเพาะในนั้นแค่ 3-5 ปี เจ้าหาได้รึเปล่า ? "- จางเทีย ถามด้วยสายตามุ่งมั่น
" หอคอยเวลาที่ใช้งานได้ 3-5 ปี ? "
" ใช่ ข้าไม่ต้องการบ่มเพาะนานนัก ! "
โอ๊กแฮม กรอกตาแล้วเริ่มคิด ครึ่งนาทีต่อมา โอ๊กแฮม ก็ยักคิ้วแล้วตอบกลับ – " เจ้านาย ถ้าท่านไม่รังเกียจที่จะเปลี่ยนตัวตน ข้าอาจจจะ…หามันได้.."
" อาจจะ ? "
" ไม่ เจ้านาย ตราบใดที่ท่านไม่รังเกียจจะเปลี่ยนตัวตน ข้าก็จะหามันได้อย่างแน่นอน ! " – โอ๊กแฮม กัดฟันแน่นและตอบกลับตอนที่เห็น จางเทีย คิ้วขมวด
" บอกแผนเจ้ามา…"
" แผนข้าเป็นเช่นนี้…"
เมื่อฟังคำพูดของ โอ๊กแฮม คิ้วของ จางเทีย ก็คลายลงเล็กน้อย..