Castle of Black Iron - Chapter 1944: ตระหนักได้ถึงความจริง
Chapter 1944: ตระหนักได้ถึงความจริง
หลังจากที่ใช้ผนึกเลือดแล้ว จางเทีย ก็ได้ใช้ลูกปัดล่องหนทันที จากนั้นเขาก็รออยู่ในถ้ำที่หมีเคยอยู่เงียบๆ
เพราะมันเพิ่งจะตกเย็น เมืองน้ำเย็นที่อยู่ไกลออกไปจึงดูสงบแต่การต่อสู้ระหว่างมนุษย์กับอาณาจักรพันธมิตรศักดิ์สิทธิ์ในเมืองตอนเย็นนั้นเพิ่งจะเริ่มต้น ท่ามกลางเมืองนี้ทั้งสองฝ่ายได้ส่งคนลงมาจำนวนมาก การต่อสู้ที่ดุเดือดเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพราะมันมืดทหารอากาศของทั้งสองฝ่ายจึงไม่อาจเห็นสถานการณ์บนพื้นดินได้ ดังนั้นกองกำลังพิเศษของมนุษย์และพวกลูกน้องปิศาจจึงยุ่งอยู่กันในเมือง
ปิศาจปีกบางตัวได้บินผ่านเมืองน้ำเย็นอยู่ตลอด พวกมันมักจะซ่อนตัวในก้อนเมฆและจะออกมาตรวจสอบสถานการณ์ในเมืองน้ำเย็นอยู่ตลอดรึคอยตรวจสอบการกระทำของฐานกองทัพมนุษย์ทางตอนใต้ของเมือง แม้ว่าปิศาจปีกบางตัวจะบินลงมาต่ำแต่พวกมันก็ไม่กล้าจะเข้ามาในระยะ 300 ม.จากพื้นดินเพราะหน้าไม้ของมนุษย์นั้นถือว่าเป็นภัยต่อมันในระยะนั้น
หน้าไม้ไฟบนเครื่องบินนั้นสามารถเปลี่ยนปิศาจปีกให้เป็นลูกไฟได้ พาหนะป้องกันทางอากาศบนพื้นดินนั้นก็เป็นภัยต่อปิศาจปีก อีกอย่างแล้วมันยังมีพลซุ่มยิงที่เล็งเป้าหมายไปยังปิศาจปีก พวกพลซุ่มยิงเหล่านี้ต่างก็ใส่หน้าไม้พิเศษ
ทหารอากาศของอาณาจักรพันธมิตรศักดิ์สิทธิ์นั้นไม่ได้เหนือกว่าในเขตอากาศที่เมืองเลยสักนิด หากไม่มีปิศาจปีกที่คอยร่วมมือแล้ว เขตอากาศบนเมืองอาจจะโดนทหารอากาศของมนุษย์ยึดไปแล้ว
มันมีแคมป์มนุษย์อยู่ไม่ไกลจากตีนเขาที่ จางเทีย อยู่
มันถึงกับมีหน่วยป้องกันทางอากาศบนภูเขาด้วย หน่วยทีมป้องกันทางอากาศนั้นมีพาหนะป้องกันทางอากาศตั้งอยู่ที่ภูเขาซึ่งใช้ไว้ปกป้องสนามบินด้านหลังภูเขา
ต้นไม้สนและพุ่มไม้มีให้เห็นทั่วทุกที่บนภูเขา หลังจากที่เมืองน้ำเย็นเปลี่ยนเป็นสนามรบ มันมีต้นไม้หลายต้นที่ถูกตัดและทำเป็นอุปกรณ์ต่างๆแต่ถึงอย่างนั้นพื้นที่ส่วนมากบนภูเขาก็ยังเต็มไปด้วยต้นไม้
ผนึกเลือดนั้นคล้ายกับผนึกของสูตรป่าเถื่อน ยังไงซะรูนล้างบาปนี้ก็เกิดขึ้นมาจากทักษะการควบคุมสัตว์ของนิกายป่าเถื่อน จากการล้างบาปนี้ จางเทีย สามารถเรียก โอ๊กแฮม มาได้แต่เขาไม่อาจจะติดต่อกับ โอ๊กแฮม ผ่านรูนนี้ได้
ตอนที่รอ โอ๊กแฮม จางเทีย ก็ได้เทียบรูนล้างบาปกับพิษรูนจนกระจ่างบางอย่าง ทั้งสองนี้ต่างก็ใช้ไว้ควบคุมอัศวินโดยมีข้อดีของตัวเอง เอาให้แม่นยำคือพิษรูนนี้มีรากฐานที่มั่นคงกว่า เอาจริงๆแล้วพิษรูนนั้นมีองค์ประกอบพื้นฐานจากความทะเยอทะยานของมนุษย์
ตอนที่ จางเทีย เรียนรู้รูนล้างบาป เขาก็สงสัยในตัวตนของคนที่สร้างทักษะนี้ ตอนนี้ จางเทีย ก็ยืนยันมันได้แล้ว
ถ้าการล้างบาปนี้ถูกสร้างขึ้นโดยโป๊ปของโบสถ์แสงแล้ว งั้นโป๊ปของโบสถ์แสงก็คงต้องเป็นเฒ่าไทยิ
แม้แต่ จางเทีย ก็คิดไม่ถึงว่านิกายไทยินั้นสามารถควบคุมอาณาจักรแสงได้และคุมเขตในทวีปตะวันตกได้ ใครจะไปเชื่อเรื่องนี้…
แต่นั่นคือความจริง มีความจริงหลายอย่างที่ทำให้คนต้องตะลึงเมื่อมันเปิดเผยออกมา
เอาพลังงานที่ จางเทีย รู้สึกได้ในโลกความคิดในถ้ำเป็นตัวอย่าง เพราะมันอยู่ในเขตปฏิบัติการ พลังงานในโลกความคิดนั้นจึงทรงพลังอย่างมาก แล้วอะไรคือพลังงานในโลกความคิด ? พวกมันคือพลังงานลบอย่างการฆ่า, ความกลัว, ความเกลียดชัง, ความโลภ, ความหงุดหงิด, ความเศร้า, สลดและสิ้นหวัง พลังงานเหล่านี้มาจากทหารแต่ละคนในสนามรบ พวกเขาคือต้นกำเนิดพลังของเทพปิศาจ ต่อหน้าเทพปิศาจรึผู้แข็งแกร่งที่สร้างจักระจักรพรรดิขึ้นมาแล้ว ทั้งสนามรบจริงๆแล้วคือบ่อน้ำเลี้ยงขนาดใหญ่ พวกที่ถูกโยนลงมาในบ่อนี้ก็คือทหารของทั้งสองฝ่าย น้ำเลี้ยงนี้ประกอบด้วยพลังงานลบที่ถูกปล่อยออกมาโดยความคิดของทหารในสนามรบ
สิ่งที่เรียกว่าโลกแห่งความคิดนี้จริงๆแล้วคือดินแดนแปลกๆที่ซึ่งมีพลังงานเหล่านี้อยู่ ความคิดที่โผล่มาในหัวแต่ละคนนั้นมีคุณสมบัติพลังงานที่ต่างกันไป คนทั่วไปไม่อาจจะเห็นรึรับรู้ถึงพลังงานในความคิดตัวเองได้ แต่สำหรับพลังงานเหล่านี้ต่อคนนั้นคือน้ำที่จำเป็นสำหรับปลา…
ตอนนั้นพลังงานลบและพลังงงานที่แผ่ออกมาจากเขตปฏิบัติการเส้นตะวันออกได้หายไปต่อหน้า จางเทีย แม้ว่า จางเทีย จะไม่อาจะเห็นเทพปิศาจแต่เขาก็รู้สึกได้ว่าความคิดและพลังงานเหล่านี้ในโลกความคิดได้ถูกกลืนกินโดยปลาที่มองไม่เห็นมากมาย
ความจริงบางอย่างเมื่อรู้แล้วก็จะเปลี่ยนความรู้ของเราทุกอย่างบนโลกนี้ มันอาจจะทำให้เราปรับโครงสร้างความคิดของเราใหม่
ความคิดลบเหล่านี้ในหัวคนนั้นไม่ได้มีอยู่แค่ในสนามรบแต่วพวกมันแค่มีมากในสนามรบ แม้แต่ช่วงเวลาปกติแล้วทุกคนต่างก็มีความคิดแย่ๆในหัว ความคิดต่างออกไปได้แทนพลังงานที่ต่างกันแต่เมื่อคนเรารู้สึกเครียด, เจ็บปวด, อันตราย, กลัวรึโดนทรมาน พลังงานความคิดเหล่านี้จะถือว่าเป็นอาหารที่อร่อยสำหรับบางคน…
แล้วกลุ่มสามตาหมายถึงอะไร ? ก่อนหน้านี้ จางเทีย คิดว่าเขาเข้าใจมันแล้วแต่จริงๆแล้วไม่เลย ตอนที่เขากลับมาสังเกตุดูและตระหนักได้จากมุมมองที่สูงกว่าเดิม จางเทีย ก็ตระหนักและเรียนรู้ได้ถึงแก่นเหตุผลหลักที่กลุ่มสามตาถูกใช้ในการปกครองและควบคุมมนุษย์..
…