Castle of Black Iron

Chapter 1942: ตัวเลือกของจางเทีย

การเปลี่ยนแปลงของพลังวิญญาณและพลังฉีในทะเลความคิดและทะเลฉีนั้นเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว จางเทีย ไม่คิดว่าพลังวิญญาณของเขาและพลังฉีจะเปลี่ยนเป็นพลังงานเดียวกันได้ในวันเดียว..
การเปลี่ยนแปลงยังดำเนินต่อไป หลังจากที่พลังฉีและพลังวิญญาณเปลี่ยนเป็นพลังงานแสง พลังงานเดียวกันนั้นก็ได้ไหลไปยังดวงอาทิตย์ในทะเลฉีและดวงจันทร์ในทะเลความคิดจนเกิดการระเบิด ทะเลฉีและทะเลความคิดสั่นไหวพร้อมกัน หลังจากนั้นแสงจากดวงอาทิตย์และดวงจันทร์ก็ได้เปล่งสีสันสดใสออกมา
ทางเข้าของคุกอมตะในจุดชีพจรหลักยังคงเปิดอยู่ พลังงานสียังคงไหลออกมาจากทางเข้า สุดท้ายแล้วพลังงานนั้นก็เติมทะเลฉีและทะเลความคิดของเขาจนเต็ม ผลก็คือร่างกายของเขาเต็มไปด้วยพลังงานนี้
ตอนที่ จางเทีย กังวลว่าพลังงานนี้จะระเบิดร่างกายของเขาหรือไม่นั้น ทางเข้าคุกอมตะก็ได้ปิดตัวลงเหมือนกับประตูกั้นน้้ำ จากนั้นตัวเขาก็สั่นไหว พลังงานในร่างกายของเขาได้ไหลทะลักออกไปยังจุดชีพจรของเขา ร่างกายของ จางเทีย ฟื้นฟูขึ้นมาทันที
หลังจากที่อยู่นิ่งได้สักพัก จางเทีย ก็พบว่าทะเลความคิดของเขาได้เชื่อมต่อกับทะเลฉีด้วยอุโมงค์สองเส้นทางราวกับบ่อน้ำสองบ่อที่เชื่อมต่อกัน ในอุโมงค์เหล่านี้พลังงานสีนั้นหมุนโคจรไปมา พลังงานไหลเข้าไปในทะเลความคิดจากทะเลฉีและจากทะเลฉีไปยังทะเลความคิด
'เหลือเชื่อ !'
จางเทีย พยายามโคจรพลังงานในทะเลฉีเพื่อปล่อยเกราะพลังฉีออกมา
มันไม่มีปัญหาอะไรในการทำแบบนั้น พลังฉีของเขาโคจรได้ดังเดิมแต่ครั้งนี้เขาสามารถปล่อยเกราะพลังฉีในตอนที่เขาควบคุมพลังงานในทะเลฉี อีกอย่างแล้ว จางเทีย พบกว่าเกราะพลังฉีของเขาที่เพิ่งสร้างมานี้ดูเหมือนจะต่างจากแต่ก่อน มันไม่ได้เปลี่ยนแปลงแบบเห็นได้ชัดแต่ จางเทีย รู้สึกว่าเกราะพลังฉีของเขานั้นขึ้นไปอีกระดับหนึ่ง เกราะพลังฉีของเขาดูเหมือนแข็งแกร่งกว่าเดิมด้วยพลังป้องกันที่มากกว่าเดิม หลังจากที่รับรู้ถึงมัน จางเทีย ก็พบว่าความแข็งแกร่งของเกราะเพิ่มขึ้นประมาณ 40%
มันเป็นการพัฒนาที่ยอดเยี่ยม !
'พลังงานสีนั้นระดับสูงกว่าพลังฉีเดิมงั้นรึ ? มันมีผลที่แปลกประหลาดแบบนี้ได้ยังไง ? '
เกราะพลังสีนั้นใช้พลังงานฉีในทะเลฉีอย่างต่อเนื่อง พลังงานในทะเลความคิดและทะเลฉีเริ่มโคจรเพื่อทดแทนพลังงานที่ขาดหายไปด้วยความเร็วที่เพิ่มขึ้นมากกว่าเดิม
ตอนนี้พลังวิญญาณในทะเลความคิดและพลังฉีในทะเลฉีสามารถฟื้นฟูได้อย่างต่อเนื่อง แม้ว่าจะเทียบกับวันที่เขาอยู่ในสภาพดีเยี่ยมไม่ได้แต่เมื่อพื้นที่ทั้งสองเชื่อมต่อกัน พลังงานก็สามารถไหลเข้าไปในทะเลฉีจากทะเลความคิดเพื่อทดแทนพลังงานที่ขาดหายไปได้ มันบ่งบอกว่าความสามารถในการฟื้นฟูของเขานั้นเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่า ในการต่อสู้มันเท่ากับว่า จางเทีย มีทะเลฉีสองอันรึทะเลความคิดสองอัน ไม่ว่าเขาจะสู้ในรูปแบบอัศวินรึอำนาจสวรรค์ก็ตาม..

จางเทีย หยุดปล่อยเกราะพลังฉี จากนั้นเขาก็ได้โคจรพลังวิญญาณและเริ่มสร้างรูนซ่อนตัวด้วยพลังงานสี กระบวนการนี้ยังเป็นเช่นเดิม ตอนนั้นพลังงานสีได้กลายเป็นพลังงานวิญญาณอีกครั้ง ด้วยการใช้พลังงานนี้ รูนซ่อนตัวที่คาดไม่ถึงก็ปรากฏขึ้นมาในทะเลความคิด
เทียบกับรูนสีทองอื่นๆแล้ว รูนซ่อนตัวอันนี้มีสีสัน มันเปล่งแสงพิเศษออกมาซึ่งดูไปแล้วโดดเด่นอย่างมาก
อีกอย่างแล้วตอนที่พลังงานในทะเลความคิดถูกใช้งาน พลังงานในทะเลฉีก็ไหลมาทดแทนพลังงานส่วนที่ขาดหายไป
'จริงๆด้วย ! '
เมื่อเห็นรูนซ่อนตัวสีนี้ จางเทีย ก็กัดฟันแน่นและใช้มันอีกครั้งโดยไม่สนพลังงานที่จะเสียไป
ผลของรูนซ่อนตัวอันนี้ได้ทับอันเก่าทันที
เพราะเขารู้ถึงการทำงานของลูกปัดล่องหนมาก่อน จางเทีย จึงรู้สึกได้ทันทีว่าผลของรูนซ่อนตัวสีนี้ดีกว่าอันเก่าถึง 40% ซึ่งอยู่ในะดับเดียวกับเกราะพลังฉีของเขา
จางเทีย เริ่มตื่นเต้นขึ้นมาทันที !

ก่อนหน้านี้ ตังเหมย บอกไว้ว่าการเพิ่มจำนวนจักระอมตะ, พลังวิญญาณและพลังฉีของผู้แข็งแกร่งเหนือจักรพรรดิจริงๆแล้วคือการรวมพลังงานให้เป็นหนึ่งเดียวเหมือนกับพลังงานสีที่เขารู้สึกตอนนี้แต่ จางเทีย ไม่มั่นใจว่าพลังงานนี้คือพลังงานที่ผู้แข็งแก่รงเหนือจักรพรรดิทิ้งเอาไว้รึเปล่า เขารู้สึกได้ถึงพลังฉีของ ตังเหมย ซึ่งดูไม่ได้บริสุทธิ์และหลากหลายขนาดนี้ อีกอย่างแล้วทะเลพลังงงานที่พบในมิติผันผวนก็มีพลังงานมากมาย แม้ว่า จางเทีย จะขึ้นเป็นจักรพรรดิ งั้น จางเทีย สักหมื่นคนก็ไม่อาจจะผลิตพลังงานมากแบบนี้ได้ ดังนั้น จางเทีย จึงไม่มั่นใจเรื่องพลังงานสีและไม่รู้ว่าทำไมเขาถึงได้พบพลังงานนี้ในมิติผันผวนแต่มันไม่สำคัญ สิ่งที่สำคัญที่สุดตอนนี้คือ จางเทีย พบว่าเขาใช้พลังงานนี้ได้

จางเทีย รู้ดีว่าความแข็งแกร่งของเขาเพิ่มขึ้น 40% จากก่อนที่จะออกมาจากดินแดนโม่เทียนเมื่อเขาผ่านภาวะอ่อนแอไปได้และฟื้นตัวเต็มที่ จากนั้นเขาก็จะอยู่จุดสูงสุดของอัศวินปราชญ์ซึ่งหมายความว่าเขาเกือบเข้าถึงดินแดนยกระดับครึ่งหนึ่งแล้ว
เขาพบโชคดีในความโชคร้าย !

อีกอย่างแล้วเขาไม่ต้องผ่านภาวะอ่อนแอสามปีในโลกจริง จริงๆแล้วเขาทำให้มันสั้นกว่าเดิมได้หากอยู่ในหอคอยเวลา !
สำหรับหอคอยเวลาที่เขารู้จัก มันมีอันหนึ่งอยู่ที่ป่าน้ำแข็งหิมะแต่รอบของมันคือ 60 ปี ตอนนี้มันยังใช้การไม่ได้

มันมีหอคอยเวลามากมายในดงเทียนของนิกายป่าเถื่อนแต่เขาไม่มั่นใจว่ามันจะมีหอคอยเวลาที่ใช้งานได้ข้างในรึเปล่า หอคอยเวลาเหล่านั้นต้องมีบทบาทสำคัญกับความรุ่งโรจน์ของวังจินวูตลอดหลายปีมานี้ หยานเฟยกิง และพี่เขาต้องไม่ปล่อยมันทิ้งไว้เปล่าๆ ถ้า จางเทีย กลับไปที่วังจินวูตอนนี้ เขาต้องทำให้ศัตรูหันมาสนใจ มันเป็นสิ่งที่ จางเทีย ไม่ต้องการ

ดังนั้นหอคอยเวลาที่ จางเทีย กับ หยานเฟยกิง เคยอยู่ มันเป็นไปได้น้อยว่าหอคอยเวลานั้นจะใช้ได้ อีกอย่างแล้วตำแหน่งของมันก็อยู่ในเขตของปิศาจด้วย
วิธีที่ดีที่สุดคือหาหอคอยเวลาในทวีปตะวันตก การอยู่ข้างในไม่กี่วันเขาก็จะหายดี
มันยากที่เขาจะหาหอคอยเวลาในทวีปตะวันตก นี่ไม่ต้องพูดถึงการปิดบังตัวตนจากคนอื่น…
' โอ้ !'
'โอ๊กแฮม!'
ชื่อนี้โผล่มาในหัว จางเทีย….
ตอนที่เขาอ่านความจำของทหาร จางเทีย ก็ได้ข้อความมาว่าทหารนั้นเคยได้ยินจากคนอื่นๆในแคมป์เมื่อไม่กี่เดือนก่อน —- มันมีสองกองทัพของจักรวรรดิแสงในหมู่กองกำลังในเพนนิซูล่า พวกพรีสของอาณาจักรแสงอาจจะมาดูแลทหารที่ทวีปตะวันตกก็ได้…
พวกเจ้าหน้าที่ระดับต่ำของกองทัพเบอร์ 6 จากอาณาจักรออตโต้ไม่อาจรับข้อมูลได้มากนัก ดังนั้น จางเทีย จึงไม่มั่นใจว่า โอ๊กแฮม ที่เป็นทหารของเขาได้อยู่ที่เส้นแนวตะวันออกหรือไม่แต่มันมีพรีสสูงแค่เพียง 3 คนในอาณาจักรแสง สองคนอยู่ในเส้นตะวันออก ดังนั้น โอ๊กแฮม อาจจะอยู่ที่นั่นก็ได้

ตอนที่เขานึกถึง โอ๊กแฮม จางเทีย ก็มองไปยังผนึกเลือดที่เกิดรูนล้างบาปลอยอยู่ในทะเลความคิด ผนึกนี้ยังอยู่ดีซึ่งหมายความว่า โอ๊กแฮม ยังมีชีวิตอยู่และไม่ได้หักหลังเขา อีกฝ่ายไม่ได้เผยความสัมพันธ์ที่มีกับ จางเทีย ด้วย เพราะ โอ๊กแฮม และ จางเทีย ยังคงเชื่อมต่อกันผ่านทางรูนล้างบาป โอ๊กแฮม ก็ต้องรู้ว่า จางเทีย ยังมีชีวิตอยู่…
ไม่คาดคิดว่าข่าวนี้จะทำให้ จางเทีย ตั้งตัวในทวีปตะวันตกได้ จางเทีย เผยรอยยิ้มออกมาและรู้สึกได้ถึงอนาคตที่สดใส

แต่ก่อนที่จะไปพบกับ โอ๊กแฮม เขาต้องจัดการกับบางอย่างและเตรียมการ…
อย่างน้อยเขาไม่ควรที่จะหิว เขายังไม่ได้กินอะไรมาหลายปีแล้วตั้งแต่อยู่ในไข่
หลังจากที่มองไปที่เมืองที่เต็มไปด้วยไฟสงคราม จางเทีย ก็ใช้งานลูกปัดล่องหนแล้วลอยออกนอกหน้าต่างไป

แม้แต่อูฐที่กำลังจะตายเพราะหิวก็ตัวใหญ่กว่าแมว แม้ว่าพลังของเขาตอนนี้จะไม่ถึง 1/100 จากเดิมแต่ตราบใดที่เขาไม่เผยตัวออกมาและพลังวิญญาณกับพลังฉีเขาเต็ม เขาก็สามารถฟื้นฟูร่างกายตัวเองได้ทันที…
จริงๆแล้วมันง่ายสำหรับเขาในการหาอาหารโดยเฉพาะในสนามรบ กองทัพเจ้าหน้าที่ระดับต่ำเบอร์ 6 ของอาณาจักรออตโต้มีจุดเสบียงมากมายในเมืองซึ่งเก็บอาหารเอาไว้ แม้ว่าอาหารพวกนั้นจะไม่อร่อยแต่พวกมันก็ให้ความร้อนได้ดี หลังจากที่กินมันไปแล้ว คนจะฟื้นฟูตัวเองได้อย่างรวดเร็ว
หลังจากที่อดอยากอยู่ในไข่มาหลายปี จางเทีย ก็รู้สึกว่าเขากินวัวได้ทั้งตัว