Castle of Black Iron - Chapter 1941: ได้และเสีย
Chapter 1941: ได้และเสีย
ในสนามรบ จางเทีย รู้สึกราวกับมังกรที่ต้องมายืนรึเสือที่ออกจากเนินเขาและลงมายังที่ราบ
ไม่ว่าเขาจะเคยแข็งแกร่งแค่ไหนแต่ จางเทีย ก็ได้แต่อยู่ในโรงแรมแห่งนี้และคิดแผนต่อไป
ถ้าเขาเข้าไปในปราสาทเหล็กดำได้ ทุกอย่างจะง่ายขึ้น ไม่ว่ายังไงก็ตาม ตราบใดที่เขาอยู่ในปราสาทเหล็กดำสัก 3 ปี หลังจากที่หมดช่วงอ่อนแอนี้ไป เขาก็จะฟื้นฟูพลังขึ้นมา จากนั้นก็ไม่มีใครในโลกนี้ที่เอาชนะเขาได้ไม่ว่าจะเป็นมนุษย์รึปิศาจ เขาถึงกับจบสงครามได้ในเวลาอันสั้น
แต่เขาไม่อาจเข้าไปในปราสาทเหล็กดำได้ในตอนนี้ เขายังไม่ได้ฟื้นฟูพลัง ดังนั้นปัญหาทุกอย่างจึงซับซ้อนขึ้น
กุญแจคือการอยู่รอด ในฐานะมนุษย์แล้ว เขาน่าจะเก็บตัว ตราบใดที่เขาผ่านช่วงอ่อนแอไปได้สำเร็จ งั้นก็ไม่มีเรื่องอื่นให้หนักใจ
แม้ว่าเทพปิศาจในมิติจะล้มเหลวในการกันเขาไม่ให้กลับมาและไม่อาจจะกำหนดจุดปล่อยไข่ของทักษะนี้ได้แต่เทพปิศาจนั้นน่าจะรู้ถึงผลของทักษะนี้รวมถึงสภาพของ จางเทีย ตอนนี้ด้วย แม้ว่าเทพปิศาจจะไม่อาจมายังโลกนี้ได้แต่ในฐานะชีวิตที่ไม่มีวันตาย มันต้องสามารถส่งการรับรู้มายังปิศาจได้ พวกมีอำนาจในหมู่ปิศาจก็จะรู้ว่า จางเทีย กลับมาแล้ว พวกนั้นอาจจะตามหา จางเทีย ทั่วทุกที่และตัดสินใจจะฆ่าเขาทิ้งทันทีโดยไม่สนว่าจะเสียอะไร
นิกายไทยิ, ศาลาสวรรค์และศาลาเฉียงลู่ไม่อยากเห็น จางเทีย รอดกลับมาได้เช่นกัน
ดังนั้น จางเทีย จึงไม่ควรเผยตัวตน…
ตอนนั้นสถานการณ์ที่ไทเซียเจอนั้นแย่อย่างมาก ใน 3 ปีมานี้ จางเทีย ไม่รู้ว่ามีนักสู้จีนกี่คนที่ต้องตายในสนามรบและสถานการณ์ของเนินเขาซวนหยวนนั้นจะมั่นคงหรือไม่
ตอนที่พวกนั้นรู้ว่า จางเทีย กลับมาแล้ว ปิศาจจะโจมตีวังจินวูเพื่อบังคับให้ จางเทีย ปรากฎตัวออกมาหรือไม่ ?
จางเทีย เริ่มกังวลขึ้นเรื่อยๆ….
แม้ว่าเขาจะกลับมาได้ด้วยวิธีนี้เท่านั้นแต่ตอนที่เขากลับมา เขาก็ตระหนักได้ถึงความสำคัญของพลัง
….
ในห้องบนชั้นสองของโรงแรม จางเทีย คิดถึงสถานการณ์ตอนนี้พร้อมกับบ่มเพาะและฟื้นฟูพลังของตัวเอง
ตะกี้ จางเทีย แปลกใจกับสภาพอ่อนแอของตนแต่ไม่คาดคิดว่าตอนที่เขารวบรวมสติ เขาก็พบว่าพลังของเขาฟื้นฟูด้วยความเร็วอันน่าทึ่ง ไม่ถึงครึ่งชั่วโมงหลังจากที่เปลี่ยนเสื้อผ้าและพักไม่นาน พลังวิญญาณในหัวและพลังฉีก็ถูกเติมเต็ม
แม้ว่าการเติมเต็มนี้จะน้อยแต่ จางเทีย ก็ช็อกกับมัน ก่อนหน้านี้ จางเทีย คิดว่าต้องใช้เวลาหลายชั่วโมงในการมาถึงขั้นนี้ได้รึอาจจะเช้าแต่เขาไม่คิดว่าเขาจะฟื้นฟูมันได้อย่างรวดเร็ว ความเร็วในการฟื้นฟูนี้เร็วกว่าที่ จางเทีย คาดเอาไว้ถึง 10 เท่า
'เหลือเชื่อ !'
จางเทีย รีบมองไปด้านในและก็ต้องตะลึง…
เขาไม่ได้มีปัญหาอะไรแต่เป็นคุกอมตะในจุดชีพจรหลัก….
ตอนนั้น จางเทีย พบว่าคุกอมตะในชีพจรหลักได้เปล่งแสงออกมา ทางเข้าที่ชั้นแรกของคุกอมตะเปิดออกพร้อมพลังงานที่ไหลออกมาราวกับน้ำท่วม
หลังจากที่พลังไหลออกมาแล้ว พลังงานก็ได้แบ่งเป็นสองสาย อันหนึ่งไปยังทะเลความคิด อีกอันไปยังทะเลฉีด้วยความเร็วสูงกว่าที่มันเคยมี
จางเทีย ตะลึง เขาไม่รู้ว่าทำไมคุกอมตะถึงได้มีการเปลี่ยนแปลงแบบนี้แต่เขารู้สึกคุ้นกับพลังงานที่ไหลออกมา…
'เดี๋ยวนะ…' อยู่ๆ จางเทีย ก็นึกถึงบางอย่าง…
มันเป็นครั้งแรกที่ภาพฉายเทพปิศาจได้ทำลายอุโมงค์มิติที่เชื่อมต่อดินแดนโม่เทียนกับโลกนี้ ตอนนั้นภาพของราชาอินทรีย์ได้มองไปยังทางเข้าเพื่อกลับมายังไทเซียในหมู่มิติที่ปั่นป่วน จางเทีย จำได้ว่ามันเมื่อ 10 ปีที่แล้ว ตอนที่เทพปิศาจปรากฏตัวขึ้นมาในมิติปั่นป่วนเป็นครั้งที่สอง จางเทีย ก็ได้เข้าไปในรอยมิติเพราะความผิดพลาดและหลบเลี่ยงการไล่ตามของภาพเทพปิศาจได้ ตอนที่เขาเข้ามาในหมอกดำอันมืดมิดเบื้องหลังรอยแยกมิติ เขาก็พบกับทะเลอันกว้างใหญ่
ตอนนั้นเขาไม่รู้อะไรเกี่ยวกับที่ซ่อนในมิติ เพราะมันเหมือนกับฟองสบู่ขนาดใหญ่ในมิติปั่นป่วน จางเทีย ไม่รู้ว่าอะไรคือทะเลนั้น ตอนที่เขาดำลงไป ภาพของราชาอินทรีย์แทบจะแตกเป็นชิ้นๆเพราะทะเลนั้น ตอนที่เขาทนแทบไม่ไหว คุกอมตะได้ลอยออกมาจากชีพจรหลักและลอยอยู่เหนือทะเล หลังจากนั้นมันก็เปลี่ยนเป็นหอคอยใหญ่เท่ากับภูเขาแล้วเปิดทางเข้าชั้นแรกก่อนจะดูดซับพลังงานราวกับมังกรกำลังดูดซับน้ำ ผลก็คือ จางเทีย ถูกช่วยเอาไว้ได้
หลังจากที่คุกอมตะสูบน้ำออกมาหมดทะเลแล้ว มันก็ได้กลับมายังจุดชีพจรหลักของ จางเทีย ฟองสบู่นั้นได้แตกออก หลังจากนั้นภาพของราชาอินทรีย์ก็ถูกพัดพาไปโดยพายุมิติ
เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นอยู่นาน อีกอย่างแล้วหลังจากที่คุกอมตะสูบน้ำทะเลจนแห้งแล้ว มันไม่ได้มีการตอบสนองพิเศษอะไร จางเทีย เองก็ไม่ได้รู้สึกพิเศษอะไร ดังนั้นเขาจึงไม่ได้สนใจเรื่องนี้ เขาคิดว่าน้ำในทะเลนั้นเป็นเพียงแค่ของธรรมดาในมิติที่ปั่นป่วนซึ่งเขาไม่รู้จักและเพียงแค่ถูกคุกอมตะสูบเข้าไป ดังนั้น จางเทีย จึงลืมเรื่องนี้ไป
หลังจากที่ จางเทีย กลับมา สภาพว่างเปล่าของทะเลความคิดและทะเลฉีก็ตรงกับเงื่อนไข ผลก็คือคุกอมตะได้ปล่อยพลังานออกมา
ตอนที่เห็นคุกอมตะปล่อยพลังงานสีรุ้งออกมา ในที่สุด จางเทีย ก็ตระหนักได้ว่าเขาคิดผิดไป ทะเลแห่งนั้นไม่ใช่ของทั่วไปที่จะเห็นได้ในมิติปั่นป่วน
ตอนนั้นพลังงานที่เข้ามาในทะเลความคิดได้เปลี่ยนเป็นพลังวิญญาณ พลังงานที่เข้าไปในทะเลฉีได้เปลี่ยนเป็นพลังฉี
จางเทีย ไม่คิดว่าจะมีบางอย่างในโลกนี้ที่เปลี่ยนเป็นพลังงานวิญญาณและพลังฉีได้ มันเกินกว่าที่ จางเทีย จะเข้าใจ
ตอนที่เขานึกถึงทะเลที่ถูกคุกอมตะดูดซับเอาไว้ จางเทีย ก็แทบสลบ เทียบกับทะเลอันกว้างใหญ่แล้ว ความจุของทะเลความคิดและทะเลฉีนั้นเป็นเพียงบ่อเล็กๆแม้ว่าเขาจะเป็นอัศวินปราชญ์ก็ตาม
'มันคือพลังงานอะไรกัน ? ! '
ตอนที่ จางเทีย ช็อกนั้น มันก็มีบางอย่างที่น่าตกใจกว่าเดิมเกิดขึ้น หลังจากที่ทะเลความคิดและทะเลฉีถูกเติมเต็มแล้ว พลังงานที่เปล่งแสงสว่างมากกว่าเดิมยังคงไหลออกมาจากคุกอมตะเข้าเติมเต็มทะเลความคิดและทะเลฉี ผลก็คือทะเลความคิดและทะเลฉีราวกับจะระเบิดเพราะพลังงานนี้ มันราวกับลูกโป่งที่ต่อไว้….
แต่ทะเลฉีและทะเลความคิดของเขาไม่อาจจะระเบิดได้เพราะร่างคิงคองของเขา
จางเทีย พบว่าพลังวิญญาณและพลังฉีควบแน่นกันอย่างต่อเนื่อง หลังจากนั้นพลังวิญญาณในทะเลความคิดและพลังฉีในทะเลฉีต่างก็กลายเป็นพลังงานสีรุ้งแบบเดียวกัน…..