Castle of Black Iron - Chapter 1933: อนาคตของปิศาจ
Chapter 1933: อนาคตของปิศาจ
ไม่นานหลังจากที่กินน้ำพุเก้าสวรรค์ จางเทีย ก็คึกขึ้นมาอีกครั้ง เขารู้สึกว่าพลังฉีและพลังวิญญาณของเขากำลังล้นออกมาจากทะเลฉีและทะเลความคิด อีกอย่างแล้วเขารู้สึกว่าการต้านทานของชั้นจักรพรรดิระหว่างเขากับดินแดนธาตุได้ถูกทำลายโดยน้ำพุเก้าสวรรค์
ก่อนหน้านี้หลังจากที่กินน้ำพุเก้าสวรรค์ในเมืองจักรพรรดิแรง จางเทีย รู้สึกว่าประตูที่นำไปสู่ขั้นจักรพรรดิได้เปิดออกครึ่งหนึ่ง จากครั้งนี้ จางเทีย ได้แตะโลกที่วิเศษตรงปลายขอบได้แล้ว ตอนนี้ประตูได้ถูกเปิดออกทั้งหมด
พลังงานอันวิเศษรูปร่างต่างๆในดินแดนธาตุได้ส่องประกายข้างกาย จางเทีย อยู่ตลอด เทียบกับพลังงานที่ จางเทีย รู้สึกมาก่อนแล้ว พลังงานเหล่านี้ชัดเจนกว่าและแม่นยำกว่า พวกมันแตะต้องด้วยมือได้ ชั้นแยกระหว่าง จางเทีย กับพลังงานเหล่านี้ได้หายไปนานแล้ว จางเทีย รู้สึกว่ากำลังเข้าไปสู่ทะเลจากแม่น้ำ
จางเทีย ดื่มน้ำสวรรค์ที่นายพลมากมายแย่งยิงกันแม้ว่าจะต้องเอาชีวิตตัวเองมาเดิมพันตามที่เขาต้องการ ทั่วดินแดนโม่เทียนนี้ไม่มีใครจะมีประสบการณ์แบบนี้ได้ ไม่ว่าจะเป็นมนุษย์รึปิศาจก็ตาม
ตอนที่ จางเทีย ดื่มน้ำพุเก้าสวรรค์นี้ เขาก็รู้สึกพอใจขึ้นมา หลังจากที่ดื่มมันไปได้หนึ่งถัง จางเทีย ก็หันกลับมาและถาม ตังเหมย – " เจ้าอยากกินบ้างมั้ย …."
" ไม่จำเป็น ไม่ว่าข้าจะดื่มไปมากแค่ไหนแต่ข้าก็ไม่อาจจะพัฒนาความแข็งแกร่งของตัวเองได้อีก น้ำพุเก้าสวรรค์นั้นได้ผลแค่ปลุกจักระอมตะ หลังจากที่ปลุกจักระอมตะขึ้นมาแล้ว มันก็ไร้ความหมายที่จะดื่มมัน ! " – ตังเหมย อธิบายด้วยรอยยิ้มแล้วมองดู จางเทีย ดื่มมันต่อ
" เจ้าไม่อยากเอากลับไปวังจักรพรรดิแรงรึไง ? ยังไงซะที่นั่นก็ไม่มีเหลือแล้วนิ…."
ไม่กี่วันก่อน จางเทีย ได้ดื่มน้ำพุเก้าสวรรค์ที่เก็บไว้ในวังจักรพรรดิแรงไปจนหมดแต่เพราะบางเหตุผล มันจึงไม่ได้เป็นไปตามที่ ตังเหมย คาดเอาไว้ ดังนั้นตอนที่ จางเทีย เห็นน้ำพุเก้าสวรรค์ เขาจึงดื่มมันอีก
" ก่อนหน้านี้ข้าไม่รู้ว่าสูตรราชาอินทรีย์นั้นจะต้องการน้ำพุเก้าสวรรค์มากกว่าสูตรอื่นในการทะลวงชั้นกั้นและฟื้นฟูร่างกายเจ้า หลังจากที่ดื่มน้ำพุเหล่านี้ไป เจ้าจะแค่ทำลายชั้นกั้นของนายพลและรู้สึกได้ถึงพลังงานในดินแดนธาตุ แต่ตอนนี้เจ้ากลับเริ่มดูดซับพลังงานจากดินแดนธาตุได้แล้ว เจ้ามีชะตาขึ้นเป็นจักรพรรดิในอนาคต ตราบใดที่เจ้าหลอมรวมบอลมิติกับปราสาทเหล็กดำได้ วังจักรพรรดิแรงก็ไม่ต้องการน้ำพุเก้าสวรรค์อีกต่อไปในอนาคต ! " – ตังเหมย พูดอย่างใจเย็น
จางเทีย ลุกขึ้นยืนแล้วหัวเราะออกมา – " ถ้าอย่างนั้นข้าจะเอาน้ำพุสวรรค์นี่ไปทั้งหมด ! "
" พี่ชาย เอามันไปได้เลย มันมีอีกหลายบ่อในภูเขาบูซู ทั้งหมดล้วนเกิดมาจากหินนี่ ถ้าเจ้าเอาหินนี่ไป จากนั้นมันก็ไม่มีใครอื่นจะหาน้ำพุเก้าสวรรค์ที่นี่ได้อีก ไม่ว่าจะเป็นมนุษย์รึปิศาจ มันหมายความว่าจะไม่มีจักรพรรดิปิศาจในดินแดนโม่เทียนอีก มันเป็นข่าวดีสำหรับมนุษย์ในดินแดนโม่เทียน ปิศาจในดินแดนโม่เทียนต้องพินาศในอนาคต ตอนที่ปราสาทเหล็กดำได้หลอมรวมกับดินแดนโม่เทียนได้อย่างสมบูรณ์ ปิศาจในดินแดนโม่เทียนก็จะต้องตาย….."
นั่นเป็นสิ่งที่ จางเทีย ต้องการ นอกจากน้ำพุเก้าสวรรค์ที่หายากแล้ว เหตุผลสำคัญว่าทำไม จางเทีย ถึงได้เอามันไปคือมนุษย์และปิศาจในดินแดนโม่เทียนจะไม่มีทางขึ้นเป็นจักรพรรดิได้อีกต่อไป จากนั้นพลังที่ต่างกันระหว่างปิศาจกับมนุษย์ก็จะกลับคืนสู่ความสมดุล
ตอนนั้นแม้ว่า จางเทีย จะออกจากดินแดนโม่เทียนแล้ว มันก็ยังมีจักรพรรดิมนุษย์กว่า 3 คนในดินแดนโม่เทียนแต่มันมีจักรพรรดิปิศาจเพียงตัวเดียวที่ซ่อนตัวอยู่ในดินแดนโม่เทียน ปิศาจไม่มีทางทนรับความต่างแบบนั้นได้
ตอนที่เขตหลักของภูเขาซากได้เปิดออกในครั้งนี้ ปิศาจอาจจะยอมแพ้ในการแข่งขันกับมนุษย์ในภูเขาซาก สำหรับตอนนี้ตามข้อมูลที่ จางเทีย ได้รับมาจากนอกภูเขาซาก ไม่มีปราชญ์ปิศาจเลยสักตัวที่เข้ามาในภูเขาซาก จนเมื่อ 3 วันก่อน จางเทีย ถึงได้รู้ว่าจักรพรรดิดาวที่หายตัวไปหลังจากสงครามในที่ราบเทพไม่ได้มาเขตหลักเพื่อหาสมบัติ เขาไปที่อาณาเขตปิศาจและปล้นเอาของจากอาณาเขตจักรพรรดิปิศาจเทียม
แน่นอนว่าจักรพรรดิดาวไม่ได้มั่นใจในตัวเองเกินไป เขาคว้าโกาสนี้ตอนที่ปิศาจได้รับความเสียหาย เขาได้รับผลประโยชน์ในอาณาเขตปิศาจมากกว่าในภูเขาซาก แม้ว่าจักรพรรดิดาวจะเห็นแก่ตัวแต่การโจมตีนี้ก็ส่งผลต่อการฟื้นฟูตัวเองของปิศาจ นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไม จางเทีย ถึงไม่ได้แก้แค้นจักรพรรดิดาวที่โจมตีวังจักรพรรดิมังกร พวกที่ไม่ใช่คนแบบเขาจะไม่ได้อยู่ข้างเขา แม้ว่าจักรพรรดิดาวจะเจ้าเล่ห์แต่พลังของจักรพรรดิดาวและวังจักรพรรดิดาวก็หมายถึงพลังของมนุษย์ พลังแบบนั้นส่งผลดีต่อมนุษย์ไม่ใช่ปิศาจ
" ข้าเสนอให้วังจักรพรรดิแรงเก็บน้ำพุเก้าสวรรค์ไปบ้าง ! "- จางเทีย พูดด้วยรอยยิ้มมั่นคง – " มันมีหลายเรื่องที่ไม่คาดคิดในโลก เอาสวรรค์แห่งแสงเป็นตัวอย่าง ก่อนหน้านี้เราทั้งสองไม่คิดว่าที่อันตรายที่สุดจะสงบเช่นนี้ มันอาจจะมีจักรพรรดิปิศาจในดินแดนโม่เทียนอีกแต่มนุษย์ต้องมั่นใจว่าจะมีมนุษย์ขึ้นเป็นจักรพรรดิได้ ในฐานะผู้คุ้มกันของมนุษย์ในดินแดนโม่เทียนแล้ว วังจักรพรรดิแรงต้องเก็บน้ำพุเก้าสวรรค์เอาไว้เพื่อข้าจะได้ออกจากที่นี่ไปโดยไม่ต้องกังวล ! "
หลังจากที่คิดดูสักพักแล้ว ตังเหมย ก็พยักหน้าแล้วพูดขึ้น – " ดี เจ้าพูดถูกแต่วังจักรพรรดิแรงไม่ต้องการมันมากนัก ! "
" เก็บไว้ให้อย่างน้อยสัก 10 คนเพื่อจะขึ้นเป็นจักรพรรดิได้ ! "
" ตกลง ! " – ตังเหมย ยื่นมือไปทางบ่อ หลังจากนั้นสายน้ำก็ไหลออกมาจากบ่อเข้าไปในแหวนของเธอ
หลังจากนั้นมันยังมีน้ำพุอยู่อีก 2/3 ส่วน ตอนที่ จางเทีย ต้องการจะเก็บน้ำและหินเข้าไปในปราสาทเหล็กดำ เขาก็ต้องอึ้งกับคำพูดของ ตังเหมย …..
" พี่ชาย เจ้าไม่อยากดูต้นกำเนิดของความขัดแย้งระหว่างมนุษย์กับปิศาจงั้นรึ ? "