Castle of Black Iron - Chapter 1926: ร่วมมือกันฝ่าวงล้อม
Chapter 1926: ร่วมมือกันฝ่าวงล้อม
เมื่อเห็น ตังเหมย พุ่งเข้าไปด้านในนำหน้าเขา แน่นอนว่า จางเทีย ในฐานะผู้ชายก็ไม่อยากถูกทิ้งไว้ข้างหลัง เขารีบตามเธอไปติดๆ
มันมีทางเดินยาวสูงกว่า 100 ม.ด้านหลังประตู มันสลัวเล็กน้อย มันมีความเสียหายและการถล่มด้านใน ในที่ที่ถูกรักษาไว้อย่างดีนี้มีแสงรูนแปลกๆลอยอยู่ที่พื้น ทั้งอุโมงค์นี้เงียบสนิทราวกับว่านี่เป็นอุโมงค์ที่นำไปสู่ลานใต้ดิน พวกเขาต่างก็รู้สึกกังวล
เมื่อเห็นที่พังในอุโมงค์นี้ จางเทีย ก็สูดหายใจเข้าลึกๆ
ถ้าพวกมันเป็นหินรึเหล็กที่พัง จางเทีย จะไม่ได้รู้สึกแปลกใจอะไรแต่สิ่งที่พังนั้นคือสิ่งที่ทำขึ้นจากวัสดุพิเศษซึ่งไม่ใช่ทั้งหินรึเหล็ก มันคล้ายกับวัสดุของหอคอยเวลาที่เขาเคยเห็นในดินแดนธาตุที่ไทเซีย ในสายตาของ จางเทีย แล้ว วัสดุเหล่านี้แทบจะไม่อาจทำลายได้อย่างคุกอมตะแต่มันก็มีหลายส่วนในอุโมงค์ที่เสียหาย ดังนั้น จางเทีย จึงสงสัยว่าพลังแบบไหนกันที่ทำลายวัสดุนี้ได้
จางเทีย รู้สึกได้ถึงบางอย่างที่ผิดปกติกับพลังฉี ดาบแยกสวรรค์ของเขาได้ปรากฏขึ้นมาในมือทันที
เขาไม่อาจจะบินในภูเขาบูซูได้ อีกอย่างแล้วที่นี่ค่อนข้างแคบ เขาไม่อาจจะแสดงพลังของหอคอยได้อย่างเต็มที่ ในทางกลับกันแล้วดาบสั้นนั้นเป็นอาวุธที่เหมาะกว่า แม้ว่าจะพากันเดินอยู่ที่พื้นแต่มันก็ไม่ได้เกิดเสียงใดๆ
หลังจากที่เดินมาได้ 3 ไมล์ พวกเขาก็เลี้ยวไปครั้งหนึ่ง หลังจากนั้น จางเทีย ก็พบกับศพหนึ่งนอนอยู่
มันคือศพของมนุษย์ที่แข็งแกร่งนอนพิงที่มุมระหว่างกำแพงทั้งสอง จางเทีย ไม่รู้ว่าศพนี่อยู่มากี่ปีแล้ว ศพนี้อยู่ในชุดอมตะที่พังแต่หัวของศพนั้นแทบจะติดกับหลัง มันเป็นท่าที่แปลก ศพนี้ไม่ได้เน่า มันยังอยู่ดี อีกอย่างแล้วผิวของศพก็ยังดูเป็นสีทองคล้ำ มันดูแปลกนิดๆ
ตอนที่ทั้งสองผ่านศพนั้น ศพนั้นได้ลืมตาขึ้นมา หลังจากนั้นมันก็ยืนขึ้นและพุ่งเข้าหา จางเทีย กับ ตังเหมย ก่อนที่จะได้แตะต้องพวกเขา มันก็ปล่อยพลังฉีสีทองดำออกมาใส่ จางเทีย ผ่านหมัดของมัน
การโจมตีพลังฉีที่อัดแน่นนี้ทรงพลังเท่ากับของนายพลสูงสุดแม้ว่ามันจะเทียบกับจักรพรรดิไม่ได้ก็ตาม
จางเทีย ตกใจจนกระโดดเพื่อหลบการโจมตี หลังจากนั้นเขาก็พุ่งเข้าหาศพอย่างรวดเร็วและเหวี่ยงดาบแยกสวรรค์ของเขา จากนั้นหัวของศพที่เชื่อมต่อกับคอครึ่งหนึ่งก็ถูกตัดกระเด็นออกไป หลังจากนั้นดาบพลังฉีก็ได้พุ่งออกมาจากหลังของ จางเทีย ตัดศพที่ไร้หัวออกเป็นชิ้นๆก่อนที่มันจะตกถึงพื้น
เสียงที่นี่ดูเหมือนจะดึงความสนใจจากสิ่งอื่นๆได้ ไม่นานหลังจากที่พวกเขาจัดการกับศพนั้น พวกเขาก็ได้ยินเสียงที่ปลายอุโมงค์ซึ่งทำให้พวกเขาต้องขนลุก
" เร็วเข้า ไม่งั้นแล้วเราจะโดนกักไว้ในอุโมงค์แห่งนี้…" – ตังเหมย ที่ระวังตัวตะกี้ได้พุ่งออกไปข้างหน้าอย่างรวดเร็วโดยมี จางเทีย ตามไปติดๆ ตอนที่เขาผ่านศพนั้น เขาก็ได้เอาแหวนออกมาจากนิ้วของศพ แทบจะพร้อมกันเขาก็ได้ส่งแหวนเข้าไปในปราสาทเหล็กดำ
จางเทีย และ ตังเหมย เคลื่อนที่กันอย่างรวดเร็ว แม้ว่าพวกเขาจะวิ่งกันทีพื้นแต่ก็มีความเร็วถึง 10,000 ม./วินาที พวกเขาไม่ได้ทิ้งเงาไว้ด้วยซ้ำ ก่อนที่พวกเขาจะออกจากอุโมงค์ไปได้ พวกเขาก็ได้เห็นหุ่นเชิดกลุ่มหนึ่งพุ่งเข้ามาหาจากปลายอุโมงค์
" พุ่งไป…" – จางเทีย สะบัดดาบครั้งหนึ่งพร้อมกับมีพายุดาบพลังฉีกวาดเข้าใส่หุ่นเชิดเหล่านั้น
หุ่นเชิดตัวแรกได้แตกเป็นชิ้นๆโดยดาบพลังฉีของ จางเทีย
ในฐานะทองลับแล้วดาบแยกสวรรค์นั้นสามารถแสดงพลังของมันออกมาได้อย่างเต็มที่ในมือของ จางเทีย
หลังจากที่จัดการกับหุ่นเชิดตัวอื่น ดาบแยกสวรรค์ก็เริ่มลดพลังของมันลง ในเวลาเดียวกันดาบพลังฉีของ ตังเหมย ก็ได้เปลี่ยนเป็นเส้นพลังสีทองพุ่งจัดการหุ่นเชิดตรงหน้า
จางเทีย และ ตังเหมย ได้ออกจากอุโมงค์แห่งนี้มาได้ด้วยดาบ
มันเป็นห้องโดมในที่เปิดของภูเขาบูซูด้านนอกอุโมงค์ มันใหญ่กว่าวังด้วยซ้ำ พื้นที่แห่งนี้มีประตูในหลากหลายทิศทาง อีกอย่างแล้วมันยังมีบันไดสามอันขึ้นไปด้านบน อันหนึ่งหันหน้าหา จางเทีย อีกสองอันอยู่ข้างกายเขา
มันมีหุ่นเชิดที่นั่นรวมไปแล้วกว่า 500 ตัว นอกจากหุ่นเชิดเลือดเหล่านี้แล้ว จางเทีย ถึงกับพบหุ่นเชิดสีฟ้าดำตัวหนึ่งที่นี่ด้วย
หุ่นเชิดสีฟ้าดำสูงกว่าหุ่นเชิดแดง 20 ซม. มันดูแข็งแกร่งกว่า ตอนที่มันชี้มาที่ จางเทีย กับ ตังเหมย ที่เพิ่งพุ่งเข้าไปในห้องด้วยหอกของมัน หุ่นเชิดตัวอื่นๆก็พุ่งเข้าใส่ จางเทีย และ ตังเหมย ทันที
" หุ่นเชิดสีฟ้าดำนี้แข็งแกร่งเท่ากับจักรพรรดิ ข้าจะจัดการมันเอง ทางออกอยู่ด้านบนบันไดด้านซ้าย…"
บันไดด้านซ้ายนั้นอยู่ด้านหลังหุ่นเชิดเหล่านี้ ถ้าพวกเขาต้องการไปที่นั่น พวกเขาต้องผ่านหุ่นเชิดเหล่านี้ให้ได้ซะก่อน
หลังจากที่สื่อสารกับ จางเทีย แล้ว ตังเหมย ก็ได้กระโดดขึ้นไปราวกับดอกบัวและพุ่งเข้าหาหุ่นเชิดสีฟ้าดำด้วยการเหยียบหัวหุ่นเชิดตัวอื่นๆและดาบของพวกมันในรูปแบบของแสงสีขาว
ตังเหมย ได้ทำลายหัวของพวกมันไปด้วยตอนที่เหยียบ ในขณะเดียวกันอาวุธของพวกมันที่เธอเหยียบนั้นก็ถูกทำลายไปพร้อมกับแขนของมันด้วย หุ่นเชิดทุกตัวที่เธอผ่านไปนั้นจะถูกระเบิดตัวออก
มันเป็นครั้งแรกที่ จางเทีย ได้เห็นพลังของ ตังเหมย เขาชื่นชมเธออย่างมาก ตังเหมย น่ะเป็นผู้หญิงที่แข็งแกร่งที่สุดที่ จางเทีย เคยเจอมา
จางเทีย พุ่งไปหาหุ่นเชิด ดาบพลังฉีของเขาในมือขวาปะทุขึ้นมากว่า 10 เท่าจากเดิมครอบคลุมพื้นที่กว่า 100 ม. ในเวลาเดียวกันเขาก็ได้ต่อยหมัดซ้ายออกไปพร้อมดวงอาทิตย์และเงาของกุ้งหอกที่โดดจากคลื่นดาบพลังฉีคอยเปล่งแสงใส่ทุกอย่างรอบๆ….
เมื่อเผชิญหน้ากับหมัดและการฟันของ จางเทีย หุ่นเชิดเหล่านี้ก็ตัวระเบิดไป
ตอนที่หุ่นเชิดเข้าหา จางเทีย พวกมันจะเผชิญหน้ากับเกราะดาบของเขาและการโจมตีจากนัยน์ตาดาบ
เมื่อเผชิญหน้ากับการโจมตีนี้ จางเทีย ได้ฆ่าหุ่นเชิดทุกตัวที่กล้าเข้ามาขวางทางเขาและเดินหน้าไปพร้อมกับ ตังเหมย ได้อย่างรวดเร็วในทางที่เธอได้สร้างขึ้นมา….
..
ไม่กี่นาทีต่อมา…
มีเสียงระเบิดดังขึ้น หุ่นเชิดสีฟ้าดำได้ตัวแตกเป็นชิ้นๆโดยตังเหมย พวกมันกระจายออกไปทุกทิศทาง พวกหุ่นเชิดสีแดงอึ้งไปชั่วครู่ ตอนนั้น ตังเหมย ได้หันกลับมาและฟันไปยังหุ่นเชิดตรงหน้า จางเทีย จางเทีย กระทืบพื้นและพุ่งไปข้างหน้าต่อ ในขณะเดียวกันเขาก็ได้ใช้ดาบแทงเข้าที่อกของหุ่นเชิดที่ขวางหน้า ก่อนที่หุ่นเชิดจะโดนตัดออกจากกัน มันก็ตัวแตกเป็นชิ้นๆและเปลี่ยนเป็นฝนเลือดโดยดาบพลังฉีของดาบแยกสวรรค์
สุดท้าย จางเทีย ก็ทำลายหุ่นเชิดได้กว่า 10 ตัวราวกับมันเป็นของเล่น ในขณะเดียวกันเขาก็ได้ฝ่าวงล้อมของหุ่นเชิดและขึ้นบันไดด้านซ้ายไปพร้อมกับ ตังเหมย หลังจากนั้นพวกเขาก็เดินหน้ากันต่อ
จางเทีย คิดว่าหุ่นเชิดเหล่านี้จะไม่ตามเขามาเหมือนกับพวกด้านนอก ไม่คาดคิดว่าถึงแม้ ตังเหมย และ จางเทีย จะพุ่งขึ้นมาที่บันไดแล้วแต่พวกหุ่นเชิดก็ยังตามพวกเขามาราวกับว่าพวกมันจะไม่หยุดจนกว่าจะจับพวกเขาได้
จางเทีย ตะลึงไป
แต่พวกหุ่นเชิดไม่อาจจะเคลื่อนที่ได้เร็วเท่ากับ จางเทีย และ ตังเหมย ตอนที่พวกเขาเร่งความเร็ว พวกเขาก็ได้เว้นระยะห่างขึ้นไปทันที
บันไดนี้เหมือนกับจะไม่สิ้นสุด ตอนที่เขากับ ตังเหมย วิ่งขึ้นไป จางเทีย ก็ถามเธอผ่านพลังฉี – " หุ่นเชิดเหล่านั้นจะหยุดไล่ตามรึเปล่า ? "
" ไม่ ! หุ่นเชิดพวกนั้นอยู่ในภูเขาบูซูคอยรับหน้าที่ต่างจากพวกด้านนอก พวกหุ่นเชิดด้านนอกจะไม่ล่ามตามมาแต่หุ่นเชิดพวกนี้จะตามเราไปตลอด ! "
'เหี้ย ! '
'ถ้ายังเป็นแบบนี้ต่อไป เราจะตายในไม่ช้า '
" มีวิธีแก้ไขมั้ย ? "
" มี ! "
" อะไร ? "
" ตอนที่พวกมันคิดว่าหาเราไม่เจอ พวกมันจะกลับไปยังที่เดิม ! " – ตังเหมย ตอบกลับตอนที่วิ่งขึ้นไปและเข้ามาในพื้นที่ใหญ่กว่าเดิม ตอนที่ไม่เห็นหุ่นเชิดที่นั่น พวกเขาก็เริ่มผ่อนคลายกันทันทีแต่ก่อนที่ จางเทีย จะได้ถามว่าพวกเขาจะไปไหน อยู่ๆ ตังเหมย ก็ได้จับมือเขาไว้แล้วกระโดดลงไปในบ่อที่โดนล้อมไปโดยหมอกขาวใจกลางพื้นที่ ตอนที่พวกเขาลงไปในน้ำ ตังเหมย ก็ได้ชี้ไปที่น้ำ ในเวลาเดียวกันน้ำในบ่อก็เริ่มแยกตัวและไม่ได้สร้างคลื่นแต่อย่างใด
หลังจากที่ลงมาน้ำ ทั้งสองได้ปล่อยเกราะพลังฉีออกมาและดำลงไปที่ด้านล่างบ่อซึ่งลึกไปกว่า 100 ม.ในทันที
ตังเหมย ได้ผายมือให้กับ จางเทีย เธอกับ จางเทีย รออยู่ที่นั่นเงียบๆ…..
หลังจากนั้นสักพักพวกเขาก็ได้ยินเสียงเท้าเดินผ่านพื้นไปอย่างรวดเร็ว หลังจากนั้นสักพักพวกเขาก็ได้ยินเสียงเท้าอีกครั้ง ผ่านไปกว่า 10 นาที ตังเหมย ก็ได้ชี้ไปที่อุโมงค์สีดำที่ก้นบ่อซึ่งสูงกว่า 2 ม. จากนั้น จางเทีย ก็พยักหน้าให้กับเธอ หลังจากนั้นทั้งสองก็ได้ผ่านอุโมงค์นั้นไปและว่ายออกไปต่อ….