Castle of Black Iron - Chapter 1921: เป้าหมายของตังเหมย
Chapter 1921: เป้าหมายของตังเหมย
หลังจากที่คิดตามคำพูดของ ตังเหมย ไม่กี่วินาที จางเทีย ก็รับความจริงนี้ได้
แต่ จางเทีย ยังสับสนว่าทำไม ตังเหมย ถึงได้ทำแบบนี้ สิ่งที่เกิดขึ้นในวันนี้เกินไปสำหรับ จางเทีย
" หือ เจ้าต้องรู้ว่าทำไมข้าถึงได้ทำแบบนี้ " – ตังเหมย พูดต่อ- " เหตุผลของข้ามันดูเห็นแก่ตัวไปหน่อย เพราะข้าต้องการให้เจ้าช่วยข้าอีกครั้ง ! "
" ช่วยเจ้า ? มีมนุษย์รึปิศาจคนไหนที่เป็นภัยต่อเจ้า ?" – จางเทีย ถามด้วยความสงสัย
" จิตวิญญาณมิติต้องพึ่งมิติของตัวเองรวมไปถึงข้าด้วย ตราบใดที่ข้าอยู่ในเมืองจักรพรรดิแรง มันก็ไม่มีใครในดินแดนโม่เทียนที่เป็นภัยต่อข้าได้แต่ถ้ามิติในดินแดนโม่เทียนล่มสลายลงไป แน่นอนว่าข้าก็ต้องตายด้วย ทุกคนในดินแดนโม่เทียนจะพินาศ แม้แต่จักรพรรดิก็ตาม ! "
ตังเหมย เผยหัวข้อที่น่ากลัวนี้มาอย่างใจเย็น
จางเทีย คิ้วขมวดขึ้นมาทันทีแล้วถามออกมา – " มิติของดินแดนโม่เทียนนั้นจะล่มสลายยังไง ? "
" ตอนที่เจ้ามายังดินแดนโม่เทียน เจ้าน่าจะรู้สึกได้ว่าแรงมิติเวลาภายใต้ภูเขาซากนั้นไม่มั่นคง เพราะความไม่มั่นคงนี้ อุปกรณ์มิติจึงใช้การไม่ได้ในดินแดนโม่เทียนยกเว้นเพียงวันแรกและวันที่ 15 ของเดือนตอนที่แรงมิติกลับไปสู่ความสมดุล อีกอย่างแล้วแรงมิติเวลาในดินแดนโม่เทียนก็เปราะบางขึ้นไปอีก การต่อสู้ระหว่างขุมกำลังนั้นสามารถทำให้มิติต้องสั่นไหว แม้แต่รอยแยกมิติด้านในภูเขาซากรึภายใต้ภูเขาซากก็ด้วย.."
จางเทีย พยักหน้าแล้วตอบกลับ – " นั่นก็จริง ! "
" นานมาแล้วดินแดนโม่เทียนนั้นสมดุลและแข็งแรงซึ่งสามารถขยายตัวได้อย่างต่อเนื่อง เพราะอุบัติเหตุบางอย่างมิติจึงได้รับการทำลายอย่างมาก จากนั้นมาแรงมิติเวลาในดินแดนโม่เทียนก็เริ่มไม่มั่นคงขึ้นเรื่อยๆ หลายล้านปีก่อนแรงมิติเวลาใต้ภูเขาซากนั้นมั่นคงกว่า 20 วันต่อเดือนซึ่งสามารถใช้อุปกรณ์มิติได้แต่ตอนนี้ระยะเวลานั้นคงอยู่แค่เพียง 2 วัน อีกอย่างแล้วระยะเวลานี้ก็จะสั้นลงไปอีก ตอนที่แรงมิติเวลาในดินแดนโม่เทียนนั้นไม่อาจจะรักษาความมั่นคงได้ในวันเดียว ทั้งดินแดนโม่เทียนจะบีบแน่นกลายเป็นผงโดยแรงมิติเวลา มันจะไม่มีใครรอดไปได้.."
" เมื่อดินแดนโม่เทียนมีอยู่มาหลายล้านปี มะ…เหย งั้นวิกฤตคงไม่ได้มาในเร็วๆนี้ใช่มั้ย ? "
สำหรับ จางเทีย ไม่ว่าจะตัวตนของ ตังเหมย จะเป็นจิตวิญญาณมิติรึจักรพรรดิแรงก็สามารถได้รับความชื่นชมจาก จางเทีย ได้ พูดถึงจิตวิญญาณแล้ว เฮลเลอร์ ก็เป็นหนึ่งในนั้น พูดถึงจักรพรรดิแรงแล้ว จางเทีย เองก็เป็นจักรพรรดิมังกร ดังนั้นหลังจากที่รู้ตัวตนของ ตังเหมย จางเทีย ก็ยังรับมือได้อย่างใจเย็น มันเหมือนกับที่เขาได้พูดคุยกับ ตังเหมย ก่อนหน้านี้ เขาเรียกเธอว่า เหมย แม้ว่าจะลังเลเล็กน้อยก็ตาม
หลังจากที่ได้ยิน จางเทีย เรียกเธอว่า เหมย เธอก็ได้เผยรอยยิ้มออกมา หลังจากนั้นเธอก็ถอนหายใจออกมาและพูดขึ้น – " ไม่นานมานี้ดินแดนโม่เทียนเหมือนกับจานที่เต็มไปด้วยรอยแตก เพราะรอยแตกที่เพิ่มขึ้นที่ผิวของมัน ยิ่งเปราะบางเท่าไหร่มันก็ยิ่งแตกออกจากกันง่ายเท่านั้น ถ้าสถานการณ์ยังไม่ดีขึ้น ทั้งดินแดนโม่เทียนก็จะพินาศราวกับฟองสบู่ในเวลาไม่ถึง 1,000 ปี ! "
" พันปี ?"
" อาจจะสั้นกว่านั้น ยกตัวอย่างเช่นหลังจากการต่อสู้ในที่ราบเทพเมื่อไม่กี่เดือนก่อน มันมีรอยแตกมิติมากมายที่นั่น มันเหมือนกับรอยแตกที่จาน รอยแตกเหล่านั้นยากที่จะซ่อมแซมได้ …"
จากนั้น จางเทีย ก็ยักไหล่แล้วพูดขึ้นมา – " เหมย ขอบคุณสำหรับความเชื่อของเจ้าแต่ดินแดนโม่เทียนนั้นมีขนาดใหญ่ ข้าจะกันไม่ให้มันโดนทำลายได้ยังไง ข้ามีพื้นที่มิติจริง ข้าถึงกับตั้งชื่อมันว่าปราสาทเหล็กดำแต่ดูจากขนาดมิติแล้ว มันไม่อาจจะจุคนของเขตกลางได้ด้วยซ้ำ เหมย เจ้าต้องการให้ข้าส่งคนของดินแดนโม่เทยีนเข้าไปในมิตินั้นรึไง ?"
ตังเหมย ส่ายหน้าแล้วพูดขึ้น – " จริงๆแล้วมันมีวิธีที่เรียบง่าย เจ้าให้ปราสาทเหล็กดำกินดินแดนโม่เทียนเข้าไป ! "
" ปราสาทเหล็กดำกินดินแดนโม่เทียนได้ด้วยรึ ? เป็นไปไม่ได้.." – จางเทีย เกือบหัวเราะออกมา
"โดยทั่วไปแล้วอุปกรณ์มิติระดับต่ำไม่อาจจะกินดินแดนโม่เทียนได้แต่ปราสาทเหล็กดำเป็นข้อยกเว้น ดูจากความจริงที่ว่ามิติส่วนตัวของเจ้ามีจิตวิญญาณมิติและมีต้นไม้กรรม มันหมายความว่าปราสาทเหล็กดำนั้นไม่ได้ด้อยไปกว่าดินแดนโม่เทียน ดังนั้นมันจึงเป็นไปได้ที่จะทำได้ ! "
จางเทีย อึ้งไปไม่นาน แม้ว่าเขาจะรู้ว่า ตังเหมย มองเขาออกผ่านทางกระจกเวทย์แต่เมื่อเขาได้ยิน ตังเหมย พูดถึงต้นไม้กรรม เขาก็ต้องช็อกแล้วถามเธอ – " เจ้ารู้ได้ยังไงว่ามีต้นไม้กรรมในมิติของข้า ? "
" หากไม่มีต้นไม้นั้น เจ้าจะได้รับร่างราชาอินทรีย์ได้ยังไง ? "
ในที่สุด จางเทีย ก็เข้าใจว่า ตังเหมย นั้นเป็นคนในที่ราชาอินทรีย์คนสุดท้ายพูดถึง..
" ถึงจะเป็นแบบนั้นแต่ข้าก็ยังไม่รู้ว่าเราจะให้ปราสาทเหล็กดำกินดินแดนโม่เทียนยังไง.."
" ตอนที่มิติอย่างดินแดนโม่เทียนได้ขยายตัวไปได้ระดับหนึ่ง มันจะสร้างศูนย์กลางที่เรียกว่าบอลมิติ เจ้าเพียงแค่ให้ปราสาทเหล็กดำรวมตัวเข้ากับบอลมิตินั้น ด้วยวิธีนี้เจ้าจะกันไม่ให้ดินแดนโม่เทียนถูกทำลาย ถ้าเจ้ามีคำถามอะไรเรื่องนี้ เจ้าถามจิตวิญญาณในมิติของเจ้าก็ได้.."
" เฮลเลอร์ นั่นจริงรึเปล่า ?" – จางเทีย ถาม เฮลเลอร์ โดยไม่ลังเลเมื่อดูจากความสำคัญของเรื่องนี้
" มันเป็นจริง ถ้าปราสาทเหล็กดำหลอมรวมกับบอลมิติของดินแดนโม่เทียน มันจะกินดินแดนโม่เทียนเข้าไปและทำให้อีกฝ่ายเป็นส่วนหนึ่งของเรา.." – เสียงของ เฮลเลอร์ ดังขึ้นในหัวของ จางเทีย
" มันหมายความว่าทรัพยากรทั้งหมดในดินแดนโม่เทียนรวมไปถึงเหล็กลอยในภูเขาและของลับในภูเขาซากจะเป็นของข้างั้นรึ ? " – จางเทีย ถามจนเกือบสลบเพราะความตื่นเต้น
" ใช่แต่แรงมิติเวลาในดินแดนโม่เทียนตอนนี้ไม่สมดุลอย่างมาก มิติทั้งหมดเปราะบาง หลังจากที่กินบอลมิติไป มันต้องใช้เวลาอีกนานกว่าปราสาทเหล็กดำจะหลอมรวมกับมันเสร็จ หลังจากที่หลอมรวมกันเสร็จแล้ว เจ้าของปราสาทจะสามรถควบคุมดินแดนโม่เทียนทั้งหมดได้ ! "
" แล้ว ตังเหมย ล่ะ ? "
" เธอจะเสียความสามารถในฐานะจิตวิญญาณมิติและกลายเป็นจักรพรรดิแรง นอกจากจะได้รับดินแดนโม่เทียนแล้ว ท่านจะได้ผลที่สองของกฎจักรวาล "
'กำไรดีจริงๆ ! ข้าได้มนุษย์, เงินทองและชื่อเสียงมาพร้อมกันด้วย '
'แต่มันจะง่ายแบบนั้นรึไง ?'
" แล้วบอลมิติอยู่ไหนกัน ? " – จางเทีย ถาม ตังเหมย
" มันอยู่ในที่ที่อันตรายอย่างมากในภูเขาซาก.."