Castle of Black Iron - Chapter 1917 : จักรพรรดิแรงผู้ไม่อาจจะคาดเดาได้
Chapter 1917 : จักรพรรดิแรงผู้ไม่อาจจะคาดเดาได้
'คนที่ยุ่งมักจะขาดความละเอียด !'
จางเทีย พึมพำออกมาตอนที่ไปยังวังจักรพรรดิแรง
เบียนเหิง ไม่ได้รับปากว่าจะออกจากดินแดนโม่เทียนกับ จางเทีย ทันที เพราะอีกฝ่ายอยู่ในดินแดนโม่เทียนมานานหลายปี อีกอย่างแล้วมันอาจจะมีอันตรายที่ไม่อาจคาดคิดตอนที่กลับไปยังไทเซีย ดังนั้นมันจึงเป็นเรื่องธรรมดาที่เขาต้องกังวลถึงโลกที่ประหลาดนี้
เทียบกับโลกที่ จางเทีย จากมาแล้ว ดินแดนโม่เทียนนั้นเล็กจริงๆ มันยังขาดของที่งดงามมากมายแต่ขนาดของมันเป็นเพียงแค่หลักความคิด มีหลายคนที่ไม่อาจจะออกจากหมู่บ้าน, เมืองรึวังที่มีกำแพงสูงที่พวกเขาเกิดมาได้ตลอดชีวิตแต่พวกเขาก็ยังใช้ชีวิตได้อย่างสงบสุขและมีความสุข
ไม่ว่ายังไงก็ตามดินแดนโม่เทียนนั้นก็ถือว่าไร้ที่สิ้นสุดหากเอาไปเทียบกับหมู่บ้าน, เมืองรึวังภายในกำแพงสูง
เพราะ จางเทีย เข้าใจ เบียนเหิง เขาจึงให้เวลาอีกฝ่ายคิด พวกเขาจะติดต่อกันตอนไหนก็ได้ หลังจากที่ เบียนเหิง ได้ทำการตัดสินใจที่จะออกจากดินแดนโม่เทียน อีกฝ่ายก็จะมาหา จางเทีย เองในเวลาที่กำหนด
หลังจากที่จัดการธุระแล้ว จางเทีย ก็ได้ออกจากภูเขาหลังเสือ เขาไม่ได้กินข้าวรึนอนอยู่ในภูเขา จริงๆแล้วเขาไม่ได้ดื่มชาเลยด้วยซ้ำ
ตอนที่ จางเทีย กำลังจะออกไปนั้น เบียนเหิง ก็ได้ถามขึ้นมา – " เจ้าจะไปไหน ? "
" วังจักรพรรดิแรง ! " – จางเทีย ตอบกลับ
แต่หลังจากที่ได้ยินแบบนั้น เบียนเหิง ที่เพิ่งจะได้สติก็ต้องสะดุ้งและเริ่มด่า จางเทีย น้ำลายของเขาหกรดหน้า จางเทีย ไปทั่ว
" เจ้ากล้าที่จะบอกว่าตัวเองไม่ได้หมายตา ตังเหมย งั้นรึ ? เจ้าจะตามเธอไปที่นั่นหลังจากที่เธอไปยังวังจักรพรรดิแรงได้ไม่นาน เจ้าคิดว่าข้าไม่รู้รึไงว่าเจ้าคิดอะไรอยู่ ? "
" ตาแก่ ข้าไม่ได้ลามกเหมือนกับท่าน ข้าจะไปพบกับจักรพรรดิแรง ตอนที่ข้าเก็บตัวบ่มเพาะเสร็จเมื่อไม่กี่วันก่อน ข้าได้รับปากกับจักรพรรดิแรงว่าข้าจะไปหาเธอในอีกไม่กี่วัน !"
" จริงรึ ?" – เบียนเหิง มองไปที่ จางเทีย ด้วยท่าทีสับสน
จางเทีย รู้สึกว่าไม่จำเป็นต้องอธิบายให้กับ เบียนเหิง ฟังเพราะยังไงซะเขาก็เป็นคนผิดในสายตาของ เบียนเหิง
" ฟังนะ ไม่ว่ายังไงก็ตาม ตังเหมย ก็เป็นศิษย์ของข้า ข้าตัดสินให้เธอแต่งงานได้ ถ้าเจ้าต้องการที่จะขอให้เธอเป็นเหมือนผู้หญิงของนิกายหยินหยางแต่ข้าจะไม่มีทางยกโทษให้เจ้าหากเจ้าทำแบบนั้น ข้าจะวางยาเจ้าทำให้เจ้านกเขาไม่ขัน แม้ว่าข้าจะไม่อาจเอาชนะเจ้าได้ด้วยกำลังก็ตาม ในอนาคตเจ้าก็จะได้แต่มองสาวๆอย่างหมดหนทาง…"
เมื่อเห็น จางเทีย เดินออกไป เบียนเหิง ก็ได้ขู่ต่อด้วยพลังฉีเผื่อว่า จางเทีย จะไม่ได้ยิน
เบียนเหิง อาจจะเป็นแค่คนเดียวในดินแดนโม่เทียนที่กล้าขู่ จางเทีย แต่วิธีขู่ของเขาดูแปลกนิดๆ
'ประหลาดจริงๆ ! ' จางเทีย ด่าในใจ
แต่แม้ว่า เบียนเหิง จะแปลกแต่เขาก็เจ้าเล่ห์ อีกอย่างแล้วเขาเป็นหนึ่งในเพื่อนที่ดีของ จางเทีย ในดินแดนโม่เทียน แม้ว่าจะมีความต่างอย่างมากระหว่างอายุก็ตาม ถ้าเขาไม่ได้เจอกับชายคนนี้ จางเทีย คงต้องคิดถึงอีกฝ่ายมากแน่ๆ
…
เมืองจักรพรรดิแรงนั้นใหญ่โตแต่หากดูจากความเร็วของ จางเทีย แล้วมันไม่ได้ใหญ่เลย
ในตอนที่เสียงของ เบียนเหิง ยังดังอยู่ในหู จางเทีย ก็ได้เห็นวังจักรพรรดิแรงที่ปลายขอบฟ้าตรงหน้าไม่นานหลังจากที่ออกจากภูเขาหลังเสือมา อีกอย่างแล้ว จางเทีย เห็นคนบินออกมาจากวังจักรพรรดิแรงมุ่งหน้ามาหาเขา คนหนึ่งใส่ชุดสีแดง อีกคนใส่ชุดสีเขียว
หนึ่งในสองคนนั้นคือ เฉินบีจุน รองหัวหน้าของวังจักรพรรดิแรงที่ซึ่งอ้วนเล็กน้อยและมีผมขาว จางเทีย เคยเจอเธอในศาลาจักรพรรดิมังกรไม่นานหลังจากที่เขาเก็บตัวบ่มเพาะเสร็จ เฉินบีจุน นั้นสวมชุดสีเขียว ข้างๆเธอเป็นชายแก่สวมชุดสีแดงที่ จางเทีย ไม่เคยเห็นมาก่อน ถึงเขาจะหัวล้านแต่ดูน่าดึงดูอย่างมาก เขาอ้วนกว่า เฉินบีจุน ดูจากพลังฉีแล้วเขาก็เป็นอัศวินปราชญ์ด้วย
ชายในชุดแดงนั้นดูเข้ากันกับหญิงในชุดเขียวเป็นอย่างดี
เมื่อเห็นทั้งสองบินเข้ามาหา จางเทีย ก็ไม่ได้รู้สึกประหลาดใจ ดูจากความสามารถของจักรพรรดิแรงแล้ว ถ้าเธอไม่รู้ว่า จางเทีย มาถึงแล้ว มันคงเป็นเรื่องตลก
ตอนที่ทั้งสองฝ่ายพบกับ จางเทีย ก็ได้ลดความเร็วลง สุดท้ายเขาก็ลอยนิ่งอยู่ในอากาศ
" หัวหน้าวัง เจ้านี่น่าศรัทธาจริงๆ จักรพรรดิแรงรู้ว่าเจ้ามาที่นี่แล้ว ดังนั้นเธอจึงขอให้เรามารับเจ้าที่นี่ ! " – เฉินบีจุน ทักทาย จางเทีย แล้วโค้งให้พร้อมกับชายแก่ทันทีที่มาถึงตรงหน้า จางเทีย
" จักรพรรดิแรงสุภาพเกินไปแล้ว เมื่อข้ารับปากกับเธอแล้วว่าข้าจะมาเยี่ยมใน 2 เดือน แน่นอนว่าข้าต้องรักษาคำพูด…"
" ฮาฮา จักรพรรดิมังกรได้ฆ่าจักรพรรดิปิศาจสองตัวไปและยังทำลายกองทัพปิศาจกว่าแสนตัวในเขตใหญ่สวรรค์ มันดูสุดยอด ! เจ้าน่ะทำให้กำลังใจของมนุษย์เพิ่มขึ้น ข้าต้องการไปพบเจ้านานแล้ว เจ้าน่ะดูเป็นวีรบุรุษมากกว่าที่เขาพูดกันอีก ! " – ชายแก่ข้างๆหัวเราะขึ้นมา
หลังจากที่ได้ยินแบบนั้น จางเทีย ก็นึกถึงบางอย่างแล้วใจเต้นรัวขึ้นมาทันที หลังจากนั้น จางเทีย ก็เบิกตากว้าง เขามองไปที่ชายแก่แล้วถาม เฉินบีจุน – " นี่คือ…"
" นี่คือ เซียงคุย รองหัวหน้าของวังจักรพรรดิแรง ! " – เฉินบีจุน แนะนำ
" รองหัวหน้าเซียง เป็นท่านรึเปล่าที่พบกับกับดักของจักรพรรดิปิศาจเทียมเมื่อ 7 ปีก่อนและได้โยนระเบิดทลายดินแดนเข้าไปเพื่อทำลายมัน ? " – จางเทีย ถามขึ้นมา
" อ่ะ เจ้ารู้ได้ยังไง ? " – รองหัวหน้าเซียง มองไปที่ จางเทีย ด้วยแววตาสงสัยพร้อมกับลูบหัวตัวเอง – " ข้าได้ระเบิดทำลายดินแดนจากภูเขาซากมา ไม่นานหลังจากที่ออกจากภูเขาซาก ข้าได้รับข้อความจากหัวหน้า เธอบอกให้ข้าไปยังส่วนทะเลดาวหักและทำลายดินแดนของปิศาจที่ข้าพบด้วยระเบิดนี้ ไม่ว่ายังไงก็ตามพวกปิศาจบัดซับก็ไม่ได้ส่งผลดีอะไรต่อมนุษย์ ดังนั้นข้าจึงโยนระเบิดเข้าใส่มัน จักรพรรดิมังกร ถ้าเจ้ารู้เรื่องนี้ งั้นเจ้าคงอยู่ใกล้ๆในเวลานั้น ! "
จางเทีย อึ้งไป เขาจำ เซียงคุย ได้ทันทีเมื่อได้ยินเสียงแต่ไม่คาดคิดว่า เซียงคุย ผู้นี้ได้ช่วยเขาไว้เพราะคำสั่งจากจักรพรรดิแรง
'จักรพรรดิแรงรู้ได้ยังไงว่าข้าตกอยู่ในอันตราย ? '
ตอนที่เขาคิดว่าจักรพรรดิแรงได้บอกให้ เฉินบีจุน ส่งบรรทัดสวรรค์คืนให้กับเขาเมื่อไม่กี่วันก่อน จางเทีย ก็รู้สึกว่าจักรพรรดิแรงนั้นไม่อาจจะคาดเดาได้
ด้วยความคิดต่างๆในหัว จางเทีย ก็ถอนหายใจออกมาและตอบกลับชายแก่ – " ข้าอยู่ในดินแดนของจักรพรรดิปิศาจเทียมในตอนนั้น ถ้าไม่ใช่เพราะระเบิดของท่าน ข้าอาจจจะโดนฆ่าไปแล้ว ทันทีที่ได้ยินเสียงของท่าน ข้าก็จำได้ว่านี่เป็นเสียงที่ข้าได้ยินในดินแดนตอนนั้น ไม่คาดคิดเลยว่าเป็นท่านจริงๆที่ช่วยข้าไว้ในตอนนั้น…."
หลังจากที่ได้ยินคำอธิบายของ จางเทีย ทั้งสองคนก็มองหน้ากันด้วยความแปลกใจ
" จักรพรรดิมังกร ทำไมเจ้าถึงติดอยู่ในดินแดนของจักรพรรดิปิศาจเทียมในตอนนั้นได้ ? " – เฉินบีจุน ถามขึ้นมา
" ข้าไล่ตาม ซีซงหยู และ เซียหยางหมิง ซึ่งเข้าร่วมกับวังจักรพรรดิทมิฬ หลังจากที่ฆ่าทั้งสองคนในทะเลดาวหัก ข้าก็ตกเข้าไปในดินแดนของจักรพรรดิปิศาจเทียม ถ้าไม่ใช่เพราะจักรพรรดิแรงและ รองหัวหน้าเซียง ข้าอาจจะตายไปแล้ว หลังจากที่รอดมาได้ในวันนั้น ข้าถึงกับคิดว่ามันเป็นจักรพรรดิที่ช่วยข้าไว้ หลังจากนั้นมาตอนที่ข้าได้พบกับจักรพรรดิพลังและจักรพรรดิดาว ข้าก็พบว่าไม่ใช่ทั้งสองคนนั้น ดังนั้นข้าจึงเริ่มสับสน ข้ากังวลว่าคนที่ช่วยข้าไว้ไม่อาจจะหนีจากจักรพรรดิปิศาจเทียมได้ ข้าไม่คิดว่าคนที่ช่วยข้าไว้นั้นอยู่ในวังจักรพรรดิแรง ! "
" ฮาฮา มันเป็นเรื่องบังเอิญ แค่บังเอิญ ! " – เซียงคุย หัวเราะออกมาแล้วโบกมือก่อนจะพูดขึ้น -" ข้าไม่คิดว่าข้าจะช่วยเจ้าได้ด้วยระเบิดแต่เอาจริงๆแล้วคนที่ช่วยเจ้าไว้นั้นคือจักรพรรดิแรงต่างหาก…."
" ไม่ว่ายังไงก็ตามท่านก็เคยช่วยข้าไว้ โปรดรับความเคารพจากข้าด้วย ! " – จางเทีย พูดขึ้นพร้อมกับป้องมือและโค้งให้กับ เซียงคุย
" เจ้าสุภาพเกินไปแล้ว อย่าทำให้ข้าต้องอายอีกต่อไปเลย.." – เซียงคุยตกใจและรีบหลบไปข้างๆไม่กล้าจะรับคำขอบคุณของ จางเทีย ดูจากฐานะทางสังคมของ จางเทีย ตอนนี้แล้ว น้อยคนนักในดินแดนโม่เทียนที่จะได้รับการเคารพแบบนี้ได้
จางเทีย ไม่ได้สนใจว่า เซียงคุย จะหลบหรือไม่ หลังจากที่โค้งให้แล้วเขาก็ได้ถาม เซียงคุย – " รองหัวหน้าเซียง เพราะท่านได้ทำลายแผนของจักรพรรดิปิศาจเทียมในวันนั้น อีกฝ่ายคงต้องแก้แค้นท่าน ท่านหนีออกมาได้ยังไงในวันนั้น ? "
" ฮี่ฮี่ ข้าชินกับการเดินทางภายนอกแล้ว ด้วยชุดอมตะขั้นสวรรค์และสมบัติหายากที่จักรพรรดิแรงได้มอบให้ ถ้าข้าต้องการจะออกมา แม้แต่จักรพรรดิปิศาจเทียมก็ไม่อาจจะไล่ตามข้าได้ ! "
" จักรพรรดิแรงรู้ได้ยังไงว่าข้าตกอยู่ในอันตราย ? "
" ฮาฮา สำหรับคำถามนี้ เจ้าคงถามหัวหน้าได้โดยตรง หัวหน้านั้นต้องบอกเจ้าได้อย่างแน่นอน ! " – เฉินบีจุน พูดขึ้นด้วยรอยยิ้ม จางเทีย ตระหนักได้ว่าทั้งสองน่าจะรู้เหตุผลแต่ไม่คิดที่จะบอกเขา ดังนั้น จางเทีย จึงไม่ได้ถามต่อไปอีก ไม่ว่ายังไงก็ตามเขาก็จะเข้าพบจักรพรรดิแรงในอีกสักพัก เขาค่อยถามเธอเกี่ยวกับเรื่องนี้ก็ได้
หลังจากที่ทักทายกันสักพักแล้วพวกเขาก็พอรู้จักกันดีขึ้นบ้าง เฉินบีจุน และ เซียงคุย จึงได้พา จางเทีย ไปยังวังจักรพรรดิแรง
วังจักรพรรดิแรงนั้นคือเมืองในเมืองจักรพรรดิแรง มันดูงดงาม แม้ว่าพวกเขาจะบินอยู่บนฟ้าแต่พวกเขาก็ยังเห็นตึกสูงเสียดฟ้าและผู้คนมากมายที่พื้น ที่แห่งนี้นั้นคือที่ที่ยอดเยี่ยมที่สุดในดินแดนโม่เทียน
มันมีนายพลยืนเป็นชั้นเรียงกันในส่วนนอกของวังจักรพรรดิแรง ด้วยการนำทางของทั้งสองคนแล้ว จางเทีย ก็ผ่านด่านคุ้มกันหลายชั้นในอากาศมาได้และมายังเขตหลักของวังจักรพรรดิแรงในเวลาเพียงไม่นาน
เฉินบีจุน และ เซียงคุย ได้ลงไปยืนที่ทางเข้าของวังพร้อมกับ จางเทีย ที่ทางเข้านั้นมีนายพลไฟสองคนในชุดสีทองยืนคุ้มกันอยู่ที่นั่น
" หัวหน้าวัง จักรพรรดิแรงรอเจ้าอยู่ด้านใน เชิญได้ ! "