Castle of Black Iron - Chapter 1916 : เหยื่อล่อของจางเทีย
Chapter 1916: เหยื่อล่อของจางเทีย
" เจ้ามาที่นี่เพื่อพบ ตังเหมย รึ ? "
หลังจากมาถึงที่พักของ เบียนเหิง จางเทีย กับ เบียนเหิง ก็ไปนั่งในห้องรับแขก ก่อนที่ จางเทีย จะได้กินชา เบียนเหิง หันกลับและถามเขาด้วยเสียงดุราวกับว่า จางเทีย เป็นโจร
'โรคจิตจริงๆ ! ' จางเทีย ด่าในใจ
" ข้าเป็นคนแบบนั้นรึไง ? " – จางเทีย ปฏิเสธ
" ถ้าเจ้าไม่ใช่คนแบบนั้น ใครในโลกที่จะเป็นคนแบบนั้นได้ ? " – เบียนเหิง มอง จางเทีย ตั้งแต่หัวจรดเท้าจนทำให้ จางเทีย ขนลุก หลังจากนั้น เบียนเหิง ก็ฮึดฮัดออกมาราวกับต้องการบอกว่า ' อย่ามาหลอกข้าเลย ' – " ตอนที่ข้าอยู่ในเมืองจักรพรรดิแรง ข้าได้ยินว่าเจ้าบอกให้จักรพรรดิพลังยกเลิกคำสั่งล่าคนของนิกายหยินหยางก่อนที่จะแสดงพลังในที่ราบเทพ พวกผู้อาวุโสและนายพลของนิกายหยินหยางคงได้ชิมของดี บอกกันว่าทุกคนน่ะเป็นสาวงาม หลังจากที่ชนะการต่อสู้และมีชื่อเสียงแล้ว เจ้าจะเอาพวกเธอมาแต่งงานกับเจ้ารึไง ? ฮึ่ม ฮึ่ม เจ้าน่ะโลภมาก ผู้หญิงเหล่านั้นเป็นอาจารย์และศิษย์กัน เจ้าไม่สนใจเรื่องนี้เลยรึไง ? "
" ข้าไม่รู้ว่าท่านพูดถึงเรื่องอะไรกัน ! " – จางเทีย พูดด้วยสีหน้าเคร่งขรึม
" หยุดไร้สาระ ! " – เบียนเหิง ที่เพิ่งนั่งลงได้ดีดตัวขึ้นมา เขาชี้ไปที่ จางเทีย แล้วพูดด้วยสีหน้าตื่นเต้น – " ถ้าข้าพูดผิด ข้าจะควักตาตัวเองให้กับเจ้า แม้ว่าเจ้าจะรอดจากการต่อสู้ในที่ราบเทพมาได้ แต่เจ้าก็ต้องได้รับความเสียหายหลังจากที่ใช้สายเลือดเทพต่อสู้แต่ดูเจ้าสิ เจ้าน่ะกลับแข็งแรงดี อีกอย่างแล้วพลังฉีหยินก็แผ่ตรงไปถึงกะโหลกเจ้า หยินฉีสามารถซ่อมแซมความเสียหายของหยางฉีได้ การอยู่ร่วมกันของหยินหยางนั้นหล่อเลี้ยงพลังฉี, เลือด, ฉีและเครื่องในเจ้า เจ้าบอกว่าเจ้าไม่ได้กดผู้หญิงของนิกายหยินหยางลงกับเตียงงั้นสิ เจ้าได้หยินฉีนี้มาจากไหนกันล่ะ ? เจ้ากินพิษรึเปลี่ยนเพศได้รึไง ? มีแค่สาวบริสุทธิ์ของนิกายหยินหยางซึ่งฝึกสูตรสามชีวิตเท่านั้นที่จะส่งผลต่อแก่นพลังนี้มาที่ตัวเจ้าได้ เจ้าคิดว่าข้าไม่รู้รึไง…."
เบียนเหิง มองมาที่ จางเทีย สักพักราวกับกังวล จากนั้นเขาก็พูดต่อ – " หยินฉีเหล่านี้น่าจะเข้ามาในตัวเจ้ากว่าหนึ่งเดือนแล้ว แน่นอนว่าต้องไม่น้อยกว่า 2 เดือน เพราะหยินฉีนี้ยังไม่รวมกันดี หยินฉีสองอันน่ะแข็งแกร่งกว่าอันอื่น พวกนั้นน่าจะเป็นของผู้อาวุโสของนิกายหยินหยาง พวกเธอเป็นนายพลลม อีก 13 เส้นน่ะค่อนข้างอ่อนแอ พวกมันอยู่ระหว่างนายพลดุดันกับนายพลน้ำ ตอนนี้มันอาจจะมีนายพลผู้หญิงแค่ประมาณ 10 คนในนิกายหยินหยาง เจ้านอนกับทุกคน ไม่เหลือให้ผู้ใดเลย เจ้ากล้าบอกว่าไม่รู้เรื่องได้ยังไง ? "
'เหี้ย ตาของ เบียนเหิง นี่ผิดปกติจริงๆ ข้าสงสัยว่าเขาฝึกทักษะแบบใดกัน ทำไมตาเขาถึงได้เฉียบคมแบบนี้ '
ในสายตาของ เบียนเหิง แล้ว ความลับของ จางเทีย ได้ถูกเปิดเผยออกมาหมด ดังนั้นหน้า จางเทีย จึงแดงขึ้นมาด้วยความอายแต่ จางเทีย น่ะหน้าด้านกว่าเก่า ไม่ว่า เบียนเหิง จะพูดยังไง เขาก็แค่ยักไหล่และไม่ยอมรับ – " มันก็แค่สิ่งที่ท่านเดา ข้าไม่ยอมรับหรอก ! "
" ฮึ่ม ! " – เบียนเหิง ฮึดฮัดออกมาแล้วกลับไปนั่ง – " ตอนที่เจ้าช่วย ตังเหมย ให้ผ่านการทดสอบของข้า ข้าก็รู้แล้วว่าเจ้ามีจุดประสงค์อื่น น้อยคนนักในดินแดนโม่เทียนที่จะสวยเท่ากับ ตังเหมย ได้ เจ้าน่ะหว่านแหไว้แล้ว จากสภาพร่างกายเธอแล้ว ถ้าเธอได้บ่มเพาะสูตรสามชีวิต หยินฉีของเธอจะซ่อมแซมร่างกายเจ้าได้หมดแต่มันสายไปแล้วที่เจ้าจะมาตอนนี้ ตังเหมย ได้ออกจากภูเขาหลังเสือไปนานแล้ว "
จางเทีย ไม่ได้พูดถึง ตังเหมย เลย เขาไม่ได้อยากรู้ว่าเธออยู่ไหน ไม่ว่ายังไงก็ตามถ้าเขาพูดถึง ตังเหมย ในตอนนี้ เบียนเหิง ต้องทำให้มันยุ่งยากกว่าเดิม จางเทีย ไม่ได้มาที่นี่เพื่อพบกับ ตังเหมย ถ้า ตังเหมย อยู่ที่นี่ เขาก็แค่ต้องการบอกลากับเธอ
จางเทีย ยังคงเงียบ หลังจากนั้นเขาก็ได้เอาแหวนออกมาส่งให้กับ เบียนเหิง
" อะไร ? เจ้าอยากติดสินบนข้ารึไง ? " – เบียนเหิง ถามแล้วมองไปที่แหวน
จางเทีย พูดขึ้นอย่างใจเย็น – " ลองดูดีๆก่อน มันน่าจะเป็นของ ซงซีกี เขาน่าจะเป็นหนึ่งในเพื่อนที่ท่านพูดถึง เขาทิ้งมันไว้ในคุกอมตะ มันมีทักษะที่เขาได้บ่มเพาะ, ของและชุดอมตะที่เขาเก็บไว้ ท่านให้เขาดูแลทางเข้าคุกอมตะและศึกษาช่องกลที่นั่นแต่เมื่อเขาโดนจักรพรรดิปิศาจหกแขนโจมตี เขาอาจจะรู้ว่าไม่อาจรอดไปได้ ดังนั้นเขาจึงโยนมันไปในคุกอมตะเผื่อว่าแหวนนี้จะไปตกในมือปิศาจ ข้าไม่รู้ว่า ซงซีกี มีลูกหลานรึศิษย์หรือไม่ โปรดส่งมันให้กับคนที่เหมาะสมที "
เมื่อได้ยินแบบนั้น เบียนเหิง ก็เปลี่ยนสีหน้าไป จากนั้นเขาก็ยื่นมืออกมาและรับแหวนไป หลังจากที่มองเข้าไปด้านในแล้ว มือของเขาก็สั่นเล็กน้อยและพูดขึ้น – " ใช่ ใช่ ของด้านในเป็นของ…ซีกี…นอกจากทักษะของเขาแล้ว มันยังมีขวดยาชนะทุกอย่างที่ข้าเคยให้กับเขาไว้….."
ตอนที่เขาเห็นของที่เหลือของเพื่อนที่เขาสนิทมากว่าครึ่งชีวิตและนึกถึงเพื่อนที่ตัดสินใจจะสู้กับปิศาจจนตัวตาย เขาก็น้ำตาไหลออกมาด้วยความตื่นเต้น ก่อนหน้านี้เขาคิดว่าของเหล่านี้ได้หายไปพร้อมกับ ซงซีกี รึตกอยู่ในมือของปิศาจแล้ว ไม่คาดคิดว่ามันจะอยู่กับ จางเทีย
" ขบวนกลที่ทางเข้าคุกอมตะนั้นเป็นเพียงประตูที่นำไปสู่คุกอมตะ ประตูจริงๆอยู่เบื้องหลังประตูนี้คือสูตรราชาอินทรีย์ มีแค่ผู้ที่บ่มเพาะสูตรนี้ที่จะเข้าไปในประตูได้ แม้ว่าท่านจะฝ่าเข้าไปแต่ท่านก็ต้องตาย ถ้ามีคนในหมู่พวกท่านขึ้นเป็นจักรพรรดิ เขาอาจจะอยู่ด้านในได้สักพัก พวกที่ต่ำกว่านั้นซึ่งไม่ได้บ่มเพาะสูตรราชาอินทรีย์นั้นจะต้องตกไปในกับดักตอนที่ผ่านขบวนกลไป ท่านจะถูกบดเป็นผงโดยพลังของแหด้านใน…" – หลังจากที่พูดจบ จางเทีย ก็เปิดปาก หลังจากนั้นคุกอมตะก็ลอยออกมาจากปากตกลงมาในมือแล้วเริ่มหมุนวน ในพริบตามันก็สูง 30 ซม.พร้อมกับเปล่งแสงออกมา
" มัน…มัน…มันคือคุกอมตะ " – เบียนเหิง ลนลานทันทีตอนที่เห็นคุกอมตะตรงหน้า
" ใช่ มันคือคุกอมตะ ตอนที่ข้าถูกลากเข้าไปด้านใน ข้ารู้ว่าราชาอินทรีย์คนสุดท้ายได้ทิ้งภาพวิญญาณไว้ในคุกอมตะเพื่อจะรอคนที่บ่มเพาะสูตรราชาอินทรีย์เพื่อเป็นเจ้าของคนใหม่ของคุกอมตะ"
ในที่สุด เบียนเหิง ก็เข้าใจ แม้ว่าพวกเขาจะพบคุกอมตะนี่แต่มันก็ไร้ค่าเพราะพวกเขาไม่อาจจะเข้าไปด้านในได้เลย แม้ว่าพวกเขาจะคิดหาวิธีในการเข้าไปแต่พวกเขาก็ไม่รู้ว่าพวกเขาต้องตายหากฝ่าขบวนกลที่ทางเข้าไปได้ โชคดีและโชคร้ายมักอยู่ร่วมกัน คนธรรมดามองไม่ออก
" ตอนที่เจ้ามาในภูเขาหลังเสือตอนแรก ทำไมเจ้าไม่บอกข้าว่าเจ้าบ่มเพาะสูตรราชาอินทรีย์ ? " – เบียนเหิง ถามด้วยความหงุดหงิดตอนที่นึกถึงมัน
" ตอนที่ท่านพบข้าในวันนี้ ท่านไม่ได้บอกข้าว่าใครคือภรรยาท่านเช่นกัน ! " – จางเทีย ตอบกลับอย่างใจเย็น เบียนเหิง มองไปที่ จางเทีย อีกครั้งแต่ จางเทีย ยังคงใจเย็นอยู่ – " ทุกคนต่างก็มีความลับ ท่านรู้สถานการณ์ของข้าในตอนนั้น ข้าโดนจักรพรรดิปิศาจเทียมไล่ล่า ถ้าข้าเผยความลับนี้ ข้าคงหาเรื่องตาย ! ถ้าเป็นท่าน ท่านจะบอกมั้ยล่ะ ? "
เบียนเหิง สบายใจขึ้นมาก่อนจะส่ายหน้า
" ข้ามาที่นี่เพื่อลาท่าน อีกไม่กี่วันข้าจะออกจากดินแดนโม่เทียน ! "
" อ่ะ เจ้าออกไปได้รึ ?"
" คนอื่นอาจจะทำไม่ได้แต่อย่าลืมทักษะที่ข้าบ่มเพาะอยู่ มันมีทักษะในสูตรราชาอินทรีย์ที่ช่วยให้ข้าหาทางกลับไปได้ ทางเข้านี้อยู่ในแก่นภูเขาซาก! "
" ถ้าเจ้าต้องการกลับไปก็ไปซะ ทำไมต้องมาบอกข้าเรื่องนี้ด้วย ? "
จางเทีย มองไปที่ เบียนเหิง แล้วยิ้มออกมา – " ข้าสงสัยว่าท่านอยากไปดูนอกดินแดนโม่เทียนหรือไม่ มันเป็นโลกที่กว้างใหญ่ มันมีความลับนับไม่ถ้วน ดินแดนโม่เทียนเป็นเพียงแค่จอกเล็กๆ ท่านอยากจะอยู่ในดินแดนโม่เทียนไปตลอดชีวิตรึไงกัน…."
หลังจากที่ได้ยินแบบนั้น เบียนเหิง ก็อึ้งแล้วถามออกมา – " เจ้า…..เจ้าหมายความว่ายังไง ?"
" ข้าหมายความว่าข้าสามารถพาท่านออกจากดินแดนโม่เทียนได้หากท่านต้องการ "
ในที่สุด จางเทีย ก็บอกเป้าหมายของตน ในฐานะแพทย์ระดับสูงและอัศวินปราชญ์แล้ว ถ้า เบียนเหิง เป็นคนของเขาได้ จางเทีย ก็จะได้ผู้ช่วยที่มีความสามารถเพิ่มมาอีกคนเมื่อกลับไปที่ไทเซีย
'ข้าออกจากดินแดนโม่เทียนกับเขาได้ ? ' เบียนเหิง อึ้งไปทันที…
" อย่าเพิ่งตอบข้า ท่านลองคิดดูได้ ถ้าท่านต้องการออกจากที่นี่ ท่านติดต่อข้ามาก่อนวันแรกของเดือนถัดไป…"