Castle of Black Iron - Chapter 1914 : รวบให้หมด
Chapter 1914: รวบให้หมด
หลังจากที่เข้าไปที่ปลายขอบฟ้าแล้ว จางเทีย ก็พบว่ามันคือที่ซ่อน เส้นขอบฟ้าไม่ได้เป็นเส้นตรงแต่โค้งราวกับงู มันเป็นรอยแยกที่ด้านบนเส้นขอบฟ้า มันมีต้นสนที่อุดมสมบูรณ์ในรอยแตกนั้น พวกต้นสนบิดตัวไปมาในรอยแยกและลำต้นของมันที่ยื่นออกมาจากรอยแตกนั้น พวกมันต้องการแสงอาทิตย์, ฝน, และน้ำ พวกใบสนทำให้ที่นั่นดูลึกลับมากขึ้น มันยากที่คนธรรมดาจะหาที่แบบนี้เจอ
ทั้งรอยแยกนั้นสูงกว่า 20 ม. ส่วนที่แคบที่สุดนั้นเข้าพร้อมกับได้แค่สองคน ใต้รอยแยกนั้น จางเทีย เห็นได้ถึงเส้นทางที่ปูไว้อย่างดีและบันไดหินแต่เส้นทางนี้ดูเหมือนว่าจะมีอยู่มานานแล้ว น้อยคนนักที่จะใช้เส้นทางนี้ ดังนั้นบันไดหินจึงปกคลุมไปด้วยมอส
ยอดเขาทั้งสองฝั่งนั้นได้สร้างพื้นที่ว่างขนาดใหญ่ที่นี่ขึ้นมา ด้วยการที่ถูกล้อมรอบไปด้วยยอดเขาและหน้าผา ที่แห่งนี้จึงดูสงบอย่างมาก พื้นที่ที่เต็มไปด้วยต้นสนมีพื้นที่กว่าแสนตารางเมตร มันมีบ้านตั้งไว้ในหมู่ต้นสนเหล่านี้ มันมีมากกว่า 30 แห่ง ต้นไม้นั้นมีดอกไม้ให้เห็นทั่วทุกที่ ลำธารไหลผ่านทางตะวันตกของบ้าน มันลัดเลี้ยวไปตามบ้านต่างๆราวกับเข็มขัดหยกที่นำไปสู่บันไดหินและบ่อน้ำในบ้าน หลังจากนั้นสายน้ำก็จะไหลไปยังป่าสน สุดท้ายมันก็เปลี่ยนเป็นสายหมอกและไหลลงจากยอดเขากระจายไปทั่วหุบเขาซึ่งทำให้ที่นั่นดูลึกลับขึ้นมา
ที่แห่งนี้เป็นที่ที่ดีในการอาศัยอยู่อย่างสงบสุขจริงๆ มันงดงาม, สงบและเป็นธรรมชาติ มันห่างไกลจากความวุ่นวาย แม้แต่ จางเทีย ก็ยังสงสัยว่าสาวๆหาที่แห่งนี้เจอได้ยังไง
ตอนนั้นเขาเห็นผู้หญิงของนิกายหยินหยางในบ้านและป่าสน
บางคนเล่นพิณอยู่ในป่า บางคนอื่นหนังสือที่ศาลาในบ้าน บางคนบ่มเพาะอยู่ พวกเธอต่างก็ดูสบายใจ….
ในที่สงบเช่นนี้ ตอนที่เขาเห็นสาวงามหลายคนพักอยู่ที่นี่ เขาก็เกือบคิดว่าพวกเธอเป็นภูติในภูเขา
หลังจากที่สาวกระโปรงม่วงได้เข้ามาในที่แห่งนี้ เธอก็ลงไปที่ลานบ้านก่อนจะถอดปีกของเธอออก
" อาจารย์ ข้าเอาเมล็ดสมุนไพรกลับมาแล้ว " – สาวคนนนั้นพูดกับคนในบ้านด้วยความเคารพ
ตอนที่สาวคนนั้นพูด จางเทีย ก็แอบตามเธอไปตรงหน้าบ้านนั้น
ตอนนั้นประตูได้เปิดออกพร้อมกับสาวในกระโปรงขาวเดินออกมา
แน่นอนว่าเธอคือ ซูไห่เม่ย
" ดี เราจะได้ปลูกมันในวันพรุ่งนี้ ซียี่ เจ้ากับ บิงบิง จะรับหน้าที่ดูแลสวนสมุนไพรนับจากนี้…"
" ได้ อาจารย์ ! "
" เจ้าเจอปัญหาอะไรรึเปล่าระหว่างกลับมาจากเมืองดงเหลียง ? "
" ราบรื่นดี ข้าไม่ได้โดนตามมา ! "
" อืม เจ้าไปได้แล้ว…."
" ได้ อาจารย์ ! "
ซียี่ ได้ออกจากที่นั่นไป ซูไห่เม่ย ยืนอยู่ที่หน้าประตูและมองไปที่หุบเขาอยู่สักพัก หลังจากนั้นเธอก็ถอนหายใจออกมาเล็กน้อยก่อนจะเดินกลับไปที่บ้านของเธอ
จางเทีย ที่หายตัวอยู่นั้นได้แอบเข้าไปในห้องก่อนที่ ซูไห่เม่ย จะเข้าไปในห้องของเธอ
ห้องนี้เรียบง่าย, งดงามและดูอบอุ่น มันเต็มไปด้วยพลังฉีของผู้หญิง
มันมีผู้หญิงอีกคนในห้อง — หยิงเฟยเฉียง
หยิงเฟยเฉียง นั่งอยู่บนเตียง มันมีโต๊ะชาเล็กๆที่ข้างเตียง บนโต๊ะนั้นมีกระดานหมากรุก ปรากฏว่าทั้งสองคนกำลังเล่นหมากรุกกันอยู่
" ไห่เม่ย ทำไมเจ้าถึงต้องทำแบบนี้ด้วย ? " – หยิงเฟยเฉียง ถอนหายใจออกมาแล้วมองไปที่เพื่อนด้วยสีหน้าซับซ้อน – " เจ้ายืนอยู่ด้านนอกกว่า 20 วินาที ไห่เม่ย จิตใจเจ้าไม่มั่นคง เมื่อเจ้าคิดถึงเขามาก ทำไมเจ้าถึงยืนกรานในการซ่อนตัวจากเขาด้วย ? "
หลังจากที่กลับมาในห้อง ซูไห่เม่ย ก็ถอนหายใจออกมาเล็กน้อยแล้วพูดขึ้น -" ในสายตาของคนนอกแล้ว นิกายหยินหยางนั้นเป็นสิ่งที่ทุกคนอยากกำจัด เจ้ากับข้านั้นถือว่าเป็นแค่โสเภณี ถ้าเราอยู่ข้างกายเขา คนอื่นจะตัดสินเขายังไง ? คนในเมืองจักรพรรดิมังกรและวังจักรพรรดิมังกรจะตัดสินเขายังไง ? ถ้าเขาเก็บคนอย่างเราไว้ข้างกาย เขาก็จะถูกถือว่าเป็นแค่ไอ้บ้ากาม หลังจากที่ฆ่าจักรพรรดิปิศาจสองตัวในเขตใหญ่สวรรค์ เขาก็กลายเป็นคนอันดับ 1 ในดินแดนโม่เทียนและอยู่ในช่วงรุ่งโรจน์รวมถึงจะมีอนาคตที่สดใส ตอนนี้เราไม่อาจจะช่วยอะไรเขาได้ เรามีแต่ทำให้ชื่อเสียงของเขาต้องแปดเปื้อน ถ้าเป็นเช่นนั้นทำไมเราไม่มาอยู่ที่นี่แทนล่ะ ? เราจะอยู่ห่างไกลจากโลกและไม่ต้องกังวลว่าจะโดนคนอื่นไล่ล่า เราไม่ต้องทำให้โลกนี้แปดเปื้อน นั่นไม่ใช่สิ่งที่เราต้องการรึไง…."
" เขาน่าจะรู้ดีถึงจุดยืนของเรา เขาจะคิดว่าเราเป็นเพียงโสเภณีได้ยังไง ? "
" ข้ารู้ว่าเขาไม่ใช่คนแบบนั้น เขาช่วยเราไว้ในเมืองมังกรฟ้า เขาได้ช่วยเราไว้ในที่ราบเทพอีก จากนั้นมาเราก็ไม่ต้องอยู่อย่างลนลานอีกต่อไป อีกอย่างแล้วเขาช่วยเจ้ากับข้าเป็นครั้งที่สามในภูเขาซาก ข้าไม่รู้ว่าจะชดใช้ให้เขายังไง เมื่อเป็นแบบนั้นเราจะทำลายชื่อเสียงของเขาได้ยังไง ? " – ซูไห่เม่ย พูดขึ้นแล้วมองไปที่ หยิงเฟยเฉียง
" เฟยเฉียง ถ้าเจ้าต้องการไปหาเขาก็ออกจากที่นี่ไปซะ ข้ากลัวว่าเจ้าอาจจะมีชายคนอื่นในใจได้ ตอนอยู่ในเมืองมังกรฟ้า เจ้าก็ตื้นตันเพราะเขาแล้วแต่เจ้าไม่ได้ตกหลุมรักเขาอย่างที่ข้าเป็นในตอนนั้นแต่เมื่อเจ้ากับข้าถูก จางเทีย ช่วยไว้ในภูเขาซากในวันนั้น ข้าพบว่าเจ้าน่ะตกหลุมรักเขาไปแล้ว.."
" ไห่เม่ย.." – หน้าของ หยิงเฟยเฉียง แดงขึ้นมา
" เฟยเฉียง เจ้าไม่ต้องพูดอีกต่อไปแล้ว เราต่างก็เป็นผู้หญิง เราอยู่ด้วยกันตั้งแต่ที่เข้าร่วมนิกายหยินหยาง ข้าเข้าใจเจ้าเหมือนที่เจ้าเข้าใจข้า ถ้าเจ้าพบเขา อย่าบอกเขาว่าข้าอยู่ที่นี่.."
" ไห่เม่ย ข้าไม่ใช่คนแบบนั้น เมื่อเจ้าอยากจะอยู่ที่นี่ ข้าก็จะอยู่ที่นี่ด้วย.."
ตอนนั้นทั้งสองต่างก็พากันเงียบ หลังจากที่ถอนหายใจออกมาแล้วทั้งสองก็มองไปที่กระดานหมากรุกด้วยสีหน้าซับซ้อนและรู้สึกไม่อยากเล่นอีกต่อไป
ตอนนั้นในที่สุด จางเทีย ก็รู้ว่าทำไมพวกเธอถึงไม่รอเขาในเมืองจักรพรรดิมังกรและเลือกจะมาอยู่ที่นี่แทน ผลก็คือ จางเทีย ตื้นตันและไม่รู้ว่าจะร้องไห้รึหัวเราะดี เขาไม่คิดว่าเหตุผลที่พวกเธอทิ้งเขาออกมาก็เพื่อชื่อเสียงของเขา พวกเธอไม่ต้องการให้ชื่อเสียงเขาต้องแปดเปื้อนเพราะพวกเธอ
เมื่อฟังที่พวกเธอพูดแล้ว จางเทีย ก็ตระหนักได้ว่าพวกเธออาจจะไม่รู้ว่าที่อยู่ของพวกเธอโดนล่วงรู้แล้ว 'เจียงรู่ซิน ไปที่เมืองจักรพรรดิมังกรและทิ้งข้อความเอาไว้โดยไม่ได้ขออนุญาติรึไง ? '
" มันดึกแล้ว ไห่เม่ย ไปนอนก่อน ข้าจะกลับไปนอนทีหลัง .. "- หลังจากที่หมดความสนใจในการเล่นหมากรุก หยิงเฟยเฉียง ก็ได้ลุกจากเตียง จากนั้นเธอก็ลา ซูไห่เม่ย และตั้งใจที่จะกลับ
" อืม ข้าจะออกไปส่งเจ้า.." – ซูไห่เม่ย เองก็ลุกขึ้นยืน
ตอนนั้นเองเสียงของ จางเทีย ก็ดังขึ้นมาในห้อง – " เจ้าคิดจะไปแล้วรึ ? แต่ข้าเพิ่งจะมาเอง ! "
หลังจากที่ได้ยินเสียงนั้นทั้งสองคนก็ตัวแข็งทื่อไปในทันที
ตอนนั้น จางเทีย ได้ปรากฏตัวขึ้นมาและยืนอยู่ต่อหน้าพวกเธอ
" ห…หัวหน้าวัง.." – ซูไห่เม่ย และ หยิงเฟยเฉียง เกือบไม่เชื่อสายตาตัวเองแต่ จางเทีย อยู่ตรงหน้าพวกเธอจริงๆ พวกเธอรู้สึกราวกับว่าฝันไป
" ฮาฮา ข้าตามหาพวกเจ้าอย่างยากลำบาก ! " – จางเทีย มองไปที่พวกเธอด้วยรอยยิ้มแล้วพูดต่อ – " เรียก จียู่หลาน กับ เจียงรู่ซิน มานี่ ข้าไม่ได้เห็นพวกเธอมานานแล้ว.."
..
หลังจากนั้นไม่กี่นาทีตอนที่ จียู่หลาน และ เจียงรู่ซิน เข้ามาในห้องและพบกับ จางเทีย สีหน้าของพวกเธอก็แข็งทื่อไปเหมือนกับอาจารย์ของตน
ประตูห้องถูกปิดลง ตอนนั้นคนอื่นๆอาจจะไม่รู้ถึงการมาของ จางเทีย ผลก็คือห้าคนอยู่เพียงลำพัง ผู้หญิงสี่คนมองหน้ากันพร้อมกับหน้าที่แดงแปลกๆ
ก่อนหน้านี้ในฐานะอาจารย์และศิษย์ มันเป็นธรรมดาที่ทั้งสี่คนจะอยู่ร่วมกันแต่เมื่อ จางเทีย ปรากฏตัวขึ้นมา บรรยากาศแปลกๆก็ก่อตัวขึ้น
ตอนนี้ความรู้สึกและบรรยากาศแปลกๆครอบคลุมในห้องราวกับดินแดนปราชญ์
เอาจริงๆแล้วมันเป็นครั้งแรกของ จางเทีย ที่พบกับสถานการณ์แบบนี้แต่ในฐานะผู้ชายแล้ว เขาต้องเป็นคนแรกที่พูดขึ้นมา
เมื่อเผชิญกับสถานการณ์แบบนี้ จางเทีย ก็ไม่มีตัวเลือกอื่น
" อะแฮ่ม.." -หลังจากที่กระแอมออกมาแล้ว จางเทีย ก็มองไปรอบๆแล้วพูดขึ้น – " ข้าจะออกจากที่นี่ในไม่ช้า ข้าจะออกจากดินแดนโม่เทียน ข้าอาจจะไม่ได้กลับมาอีกนาน ข้ามาที่นี่เพื่อลาพวกเจ้าแต่ตอนนี้ข้ามีคำถามจะถามพวกเจ้า ใครอยากจะออกจากดินแดนโม่เทียนไปกับข้าและเป็นผู้หญิงของข้าบ้าง ? หลังจากที่แต่งงานกับข้าแล้ว เจ้าจะต้องสร้างความพอใจให้กับข้า ถ้าเจ้าไม่ต้องการ งั้นก็ถือว่าเป็นการบอกลา จากนี้เราจะแยกจากกันโดยไม่ต้องกังวลอะไรอีก ถ้าใครอยากไป งั้นก็ขึ้นไปชั้นบนกับข้า.."
หลังจากที่พูดจบ จางเทีย ก็ได้เดินขึ้นไปชั้นบนทิ้งสาวๆทั้งสี่เอาไว้
" อาจารย์ ข้าอยากจะไปกับ จางเทีย ข้าอยากจะอยู่กับเขาไม่ว่าเขาจะไปไหนก็ตาม.." – จียู่หลาน ลุกขึ้นยืนและเดินขึ้นชั้นบนทันที
" ในฐานะศิษย์ของนิกายหยินหยางแล้ว มันเหนื่อยที่ข้าจะอยู่ในดินแดนโม่เทียน ข้าต้องการจะเปลี่ยนแปลงชีวิต.." – เจียงรู่ซิน พูดด้วยรอยยิ้ม หลังจากที่ลูบผมตัวเองแล้ว เธอก็ลุกขึ้นยืนแล้วเดินตาม จียู่หลาน ขึ้นชั้นบนปล่อยอาจารย์ไว้ด้านล่าง
ทั้งสองคนหน้าแดงไม่อาจจะขยับตัวได้
ในที่สุดผ่านไปไม่กี่นาที ซุไห่เม่ย และ หยิงเฟยเฉียง ก็มองหน้ากัน จากนั้นพวกเธอก็กัดฟันแน่นแล้วเดินขึ้นชั้นบนพร้อมกัน..
…
ตอนที่ ซูไห่เม่ย และ หยิงเฟยเฉียง ขึ้นมาชั้นบน ในที่สุดเสียงของ จางเทีย ก็ดังขึ้นมา
" อะแฮ่ม…มันดึกแล้ว พักผ่อนกันเถอะ…"
หลังจากที่พูดจบก็มีพลังงานประหลาดครอบคลุมบ้านหลังนั้น ผลก็คือไม่มีเสียงจากชั้นบนดังลอยออกมาด้านนอกเลย
ตอนนั้นดวงจันทร์ปรากฏขึ้นแล้วแต่มันถูกซ่อนไว้ภายใต้หมู่เมฆในเพียงพริบตาเดียว…