Castle of Black Iron - Chapter 1912: หุบเขาเสียงธรรมชาติ
Chapter 1912: หุบเขาเสียงธรรมชาติ
" ลุง รู้มั้ยว่าหุบเขาเสียงธรรมชาติอยู่ไหน ?"
" หุบเขาเสียงธรรมชาติ ? ข้าไม่เคยได้ยินมาก่อน ! " – ลุงคนหนึ่งมองไปที่ จางเทีย บนทางภูเขาพร้อมกับตะกร้าสมุนไพรที่หลัง ตอนที่เขาพบว่า จางเทีย ไม่ได้ดูเป็นคนชั่วและยิ้มให้กับเขา เขาก็ประทับใจในตัว จางเทีย ดังนั้นเขาจึงถาม จางเทีย – " หุบเขาเสียงธรรมชาติที่เจ้าพูดอยู่ในสันเขาเมฆมังกรรึเปล่า ? "
" ใช่ ! " – จางเทีย ตอบกลับพร้อมพยักหน้า
" มันต้องไม่ได้อยู่ใกล้ๆแน่ ข้าเก็บสมุนไพรในเขานี้มากกว่า 60 ปี ข้าคุ้นกับทุกที่ในระยะหลายร้อยไมล์แต่ข้าไม่เคยได้ยินเรื่องหุบเขาเสียงธรรมชาติมาก่อน ! " – จากนั้นลุงก็เงยหน้าขึ้นมองฟ้า ตอนที่เขาพบว่าดวงอาทิตย์อยู่ทางตะวันตก เขาก็เตือน จางเทีย – " มันเย็นแล้ว มันคงอันตรายที่เจ้าจะเข้าไปในภูเขาเพียงลำพัง พวกสัตว์ร้ายในภูเขาน่ะไม่ใช่ว่าจะจัดการได้ง่ายๆ วันก่อนมีคนเห็นงูยักษ์ในป่า มันยาวถึง 17 ม. งูนั่นต้องอยู่ในหุบเขามานานเพราะตัวมันเต็มไปด้วยมอส มันบ่มเพาะทักษะต่อสู้ ถ้าคนธรรมดาเห็นมัน พวกเขาก็จะกลัวแทบตาย มันมีหลายอย่างที่น่ากลัวในภูเขา เจ้าควรลงเขาไปให้เร็วที่สุด ! "
" ขอบคุณที่แนะนำ ลุง โอ้ แล้วมีเมืองอยู่ใกล้ๆรึเปล่า? "
" นอกจากเมืองแสงจันทร์แล้ว เมืองที่ใกล้ที่สุดก็เป็นเมืองอุดม เจ้าจะไปที่นั่นด้วยทางนี้หลังจากข้ามเขาสามลูก " – อีกฝ่ายพูดขึ้นแล้วชี้ไปที่ยอดเขาตรงหน้า จางเทีย – " แต่มันเย็นแล้ว ข้าว่าเจ้าไปไม่ถึงหรอก ถ้าเจ้าออกเดินทางพรุ่งนี้ เพราะเจ้ายังหนุ่มอยู่ เจ้าคงไปถึงใน 4 ชม. โอ้ ถ้าเจ้าจะถามถึงเรื่องหุบเขาเสียงธรรมชาติ เจ้าลองไปเสี่ยงโชคในเมืองอุดมดูก็ได้ มันมีคนขายสมุนไพรหลายคนที่นั่น บางคนเดินทางไปหลายที่ในสันเขาเมฆมังกร พวกเขาอาจจะรู้ก็ได้ ! "
หลังจากที่บอกกับ จางเทีย ลุงคนนั้นก็ได้เดินลงจากเขาไป หลังจากที่ยิ้มอย่างขมขื่นไปยังทางในภูเขา จางเทีย ก็มองตรงไปทางเมืองอุดม หลังจากนั้นเขาก็หายตัวไป
เพราะ จางเทีย เพิ่งออกมาจากเมืองแสงจันทร์ แน่นอนว่าเขาจะไม่กลับไปที่นั่นอีก
ถ้าลุงคนนั้นเห็นท่าทีของ จางเทีย เขาอาจจะตกใจก็ได้
มันเป็นวันที่ 13 สิงหาคม ปี 3593 มัน 3 วันแล้วตั้งแต่ที่ จางเทีย ได้ออกจากเมืองจักรพรรดิมังกรมา กว่า 3 วันมานี้ จางเทีย ยังไม่ได้ออกจากเขตใหญ่จักรพรรดิมังกร เอาให้แม่นยำคือเขากำลังตามหาหุบเขาเสียงธรรมชาติในสันเขาเมฆมังกรของเขตใหญ่จักรพรรดิมังกร
แน่นอนว่า จางเทีย ไม่ได้มาเดินทางเล่น เขามาที่นี่เพื่อหาพวกที่เหลือของนิกายหยินหยาง ก่อนที่จะออกจากดินแดนโม่เทียน เขาต้องการพบกับ จียู่หลาน, เจียงรู่ซิน, ซูไห่เม่ย และ หยิงเฟยเฉียง เป็นครั้งสุดท้ายและร่ำลาเพราะความเป็นห่วง
ก่อนหน้านี้ จางเทีย บอกให้พวกเธอรออยู่ที่เมืองจักรพรรดิมังกร ไม่คาดคิดว่าพวกนี้จะไม่ฟังคำพูดเขา ตอนที่ จางเทีย เก็บตัวบ่มเพาะในเมืองเสร็จ เขาก็พบว่าพวกเธอไม่ได้อยู่ในเมืองจักรพรรดิมังกร มีแค่ เจียงรู่ซิน ที่มายังศาลาจักรพรรดิมังกรเพียงลำพังระหว่างที่เขาเก็บตัวอยู่และทิ้งข้อความเอาไว้ –หุบเขาเสียงธรรมชาติ สันเขาเมฆมังกร
จางเทีย ตระหนักได้ว่าไม่อาจจะตัดสินความคิดของผู้หญิงได้
สันเขาเมฆมังกรนั้นคือสันเขาที่ใหญ่และยาวที่สุดในเขตใหญ่จักรพรรดิมมังกร ทั้งสันเขายาวกว่า 45,000 ไมล์และมีเขากว่า 8-9 ลูกแต่เขาไม่พบกับหุบเขาเสียงธรรมชาติบนแผนที่เลย
สันเขาแห่งนี้มีเนินเขาและหุบเขากว่าหมื่นแห่ง มันไม่ง่ายที่ จางเทีย จะหาหุบเขาเสียงธรรมชาติในสันเขาเมฆมังกร
ระหว่าง 3 วันที่ผ่านมานี้ จางเทีย ได้เดินทางกว่าหมื่นไมล์และถามคนนับไม่ถ้วนแต่เขาก็ยังไม่รู้ว่าหุบเขาเสียงธรรมชาติอยู่ที่ไหน
..
4 ชม.กับการเดินตามที่ลุงคนนั้นบอกนั้นกินเวลาเพียงไม่กี่วินาทีสำหรับ จางเทีย แค่แว็บเดียวเขาก็ข้ามสันเขาไปหลายลูกและปรากฏตัวขึ้นบนเส้นทางนอกเมืองอุดม
เมื่อไปถึงที่นั่น จางเทีย พบว่าทั้งเมืองนั้นเป็นแค่หมู่บ้านเล็กๆในภูเขา มันมีถนนเพียงเส้นเดียวในหมู่บ้าน ทั้งสองฝั่งนั้นมีโรงเตี๊ยม, ร้านขายสมุนไพรและร้านค้าต่างๆ นอกจากถนนนี้แล้วมันยังมีตลาดยาซึ่งอยู่ใกล้กับลานหญ้า มีเรือบินที่มีเครื่องหมายของร้านสมุนไพรจอดอยู่ที่นั่น
เพราะอาทิตย์กำลังตกดิน หลายคนจึงยุ่งอยู่กับการขนสมุนไพรกลับเข้าไปในเรือบิน
เพราะงานการค้าครั้งใหญ่จะเกิดขึ้นใน 2 วัน ตลาดแห่งนี้จึงดูคึกคักอย่างมาก ถนนเพียงเส้นเดียวนั้นคึกคักเต็มไปด้วยพ่อค้ามากมาย โรงเตี๊ยมทั้งสองฝั่งของถนนจึงดูคึกครื้นไปด้วย
จางเทีย เดินเข้าไปในเมือง ตอนที่เห็นพ่อค้าเดินเข้าออกโรงเตี๊ยม เขาก็คิดสักพักก่อนจะเดินเข้าไป
มันคือเวลามื้อเย็น ด้านในนั้นอึกทึกอย่างมาก โต๊ะกว่า 80% มีคนนั่งอยู่แล้ว มีคนอยู่ด้านในกว่า 200 คน
" ท่านมาคนเดียวรึมากับเพื่อน ? " – เมื่อเห็น จางเทีย เดินเข้ามา บริกรก็ได้เดินมาทักทายเขาทันที
" ข้ามาคนเดียว ! "
" เชิญทางนี้เลย.."
บริกรได้นำทาง จางเทีย ไปยังโต๊ะที่มุมแล้วถามด้วยรอยยิ้ม – " ท่านอยากได้อะไร ? อาหารสมุนไพรของเราน่ะโด่งดังมาก.."
" เอาอาหารให้ข้าสัก 3-4 อย่าง ! " – จางเทีย พูดแล้วโยนเหรียญคริสตัลม่วงสองเหรียญให้แล้วพูดต่อ – " นี่เงิน ไม่ต้องทอน ! "
เหรียญคริสตัลม่วงสองเหรียญนี่ถือว่าเป็นเงินก้อนใหญ่ มันซื้ออาหาร 3 มื้อให้กับคน 10 คนได้ ดังนั้นหลังจากที่รับเงินไปบริกรก็พยักหน้าให้ด้วยรอยยิ้ม – " ใจกว้าง ท่านใจกว้างจริงๆ ! "
" โอ้ ข้าอยากถามถึงที่หนึ่งหน่อย ! "
เพราะมีแขกมากมายเดินทางมาค้าขายที่นี่ บริกรก็คงต้องรู้ข้อมูลมากแน่ๆ
" ว่ามาได้เลย "
" เจ้ารู้จักหุบเขาเสียงธรรมชาติในสันเขาเมฆมังกรรึเปล่า? "
บริกรเกาหัว หลังจากที่คิดดูสักพักแล้วเขาก็ตอบกลับด้วยรอยยิ้มอายๆ – " เอิ่ม…เอิ่ม ข้าไม่เคยได้ยินถึงมันมาก่อน.." – จากนั้นเขาก็ส่งเงินคืนให้เพราะคิดว่าไม่ควรรับรางวัลเมื่อไม่มีผลงาน
จากนั้น จางเทีย ก็โบกมือแล้วพูดขึ้น – "รับมันไว้ ไม่เป็นไร มันเป็นของเจ้า ! "
" ขอบคุณ ขอบคุณ ! " – บริกรรับเงินกลับไปด้วยรอยยิ้มกว้างก่อนจะพูดต่อ – " รอสักเดี๋ยว ข้าจะจัดเตรียมอาหารให้ท่านเดี๋ยวนี้.."
หลังจากนั้นสักพักบริกรก็ได้ยกถาดอาหาร 6 อย่างและซุป 1 อย่างเข้ามา
" นี่คือเหล้าป่าที่เราหมักเอง มันรสชาติพิเศษ ท่านลองดูได้.."
หลังจากที่รับเงินไปบริกรก็เอาอาหารมาให้เกินกว่าที่ จางเทีย ต้องการ
" ข้าเจอคริสตัลฟ้าเหรียญหนึ่ง.." – จางเทีย พูดด้วยรอยยิ้มแล้วเอาคริสตัลฟ้าออกมาวางไว้ใต้ชามซุป มีแค่บริกรที่เห็นมัน – " ก่อนที่ข้าจะกินมื้อเย็นเสร็จ ถ้าเจ้าหาข้อมูลเกี่ยวกับตำแหน่งของหุบเขาเสียงธรรมชาติได้ เจ้าจะได้มันไป…"
เมื่อเห็นคริสตัลฟ้า บริกรก็อึ้งทันที คริสตัลฟ้า 1 เหรียญเท่ากับ 100 คริสตัลม่วง เขาอาจจะหาเงินเยอะแบบนั้นไม่ได้แม้ว่าจะทำงานที่นี่ไปหลายปี เขาไม่เคยได้จับคริสตัลฟ้ามาก่อน มันมากกว่าเงินที่คนขายสมุนไพรใช้ไว้ซื้อสินค้าอีก ทิปที่ จางเทีย จ่ายให้ตะกี้ได้บอกแล้วว่า จางเทีย ไม่ได้ล้อเล่น เขาไม่ได้สนใจเรื่องนี้เลยแม้แต่น้อย มันขึ้นอยู่กับว่าบริกรน่ะมีความสามารถพอหรือไม่
บริกรกลืนน้ำลายแล้วกัดฟันแน่นก่อนจะพูดกับ จางเทีย – " ทานอาหารได้เลย โปรดรอข้าสักพัก.." – จากนั้นเขาก็รีบเดินออกไป
บริกรไม่ได้เข้าไปในครัว เขากลับไปหาบริกรอีกสองคนแล้วกระซิบกับพวกนั้น
ระหว่างที่พวกบริกรเสิร์ฟอาหารให้กับแขก ทุกคนจะถามแขกด้วยความเคารพ – " ท่าน ท่านคงต้องเดินทางไปมาหลายที่และเห็นโลกมาแล้ว ท่านรู้จักที่ที่เรียกว่าหุบเขาเสียงธรรมชาติในสันเขาเมฆมังกรรึเปล่า ? "
แขกหลายคนไม่รู้ บางคนถึงกับถามขึ้นมา – " ทำไมเจ้าถึงได้ถามถึงเรื่องนี้ ? "
" ไม่มีอะไร ข้าพนันกับคนเอาไว้ ถ้ามีใครรู้ตำแหน่งของหุบเขาเสียงธรรมชาติ เขาจะได้ส่วนลด 20%…"
เมื่อเห็นแบบนั้น จางเทีย ก็ยิ้มออกมาก่อนจะเริ่มกินอาหารของตัวเอง เขาแค่รอข้อมูลจากบริกร ตอนนี้พลังน่ะไม่อาจจะเทียบเท่ากับเงินได้..
เมื่อตกเย็นในที่สุดโรงเตี๊ยมแห่งนี้ก็เต็มไปด้วยผู้คน พวกพ่อค้าพากันพูดคุยเสียงดังขึ้น
ในหมู่ลูกค้านี้มีพ่อค้าคนหนึ่งที่เพิ่งนั่งลงไปกับเพื่อนได้พูดดังขึ้นมาซึ่งแทบทุกคนต่างก็ได้ยินมัน
" หัวหน้าของเราบอกว่ามีเรื่องใหญ่ขึ้นมาในเมืองจักรพรรดิมังกรเมื่อวานนี้ ผู้อาวุโสสองคนของวังจักรพรรดิมังกร หยิงกูเชิง และ ฮูโม่หยวน ได้ขึ้นเป็นนายพลสูงสุดแล้ว.."