Castle of Black Iron - Chapter 1911 : คำเชิญของจักรพรรดิแรง
Chapter 1911: คำเชิญของจักรพรรดิแรง
ในวันที่สองหลังจากที่เข้าเก็บตัวบ่มเพาะเสร็จ จางเทีย ก็ได้เข้าพบกับตัวแทนของวังจักรพรรดิดาว, วังจักรพรรดิพลังและวังจักรพรรดิแรง คนเหล่านั้นได้มารอ จางเทีย กว่า 1 เดือนในเมืองจักรพรรดิมังกร
จางเทีย รู้ดีถึงเหตุผลที่ขุมกำลังทั้งหมดได้ขอมาพบเขา
ตัวแทนของขุมกำลังทั้งสามมาที่นี่เพื่อยินดีกับ จางเทีย ในผลงานในเขตใหญ่สวรรค์ จริงๆแล้วพวกนี้มาที่นี่เพื่อยืนยันสภาพ จางเทีย ในตอนนี้และแผนการในอนาคตของเขา
จากการต่อสู้ในที่ราบเทพนั้นชื่อของ จางเทีย ได้ถูกถือว่าเป็นบุคคลไร้เทียมทานในดินแดนโม่เทียน เมื่อเขาสามารถฆ่าจักรพรรดิปิศาจสองตัวและกองทัพปิศาจกว่าแสนตัวได้ง่ายๆ เขาก็สามารถสร้างความเสียหายให้กับวังจักรพรรดิพลังและวังจักรพรรดิดาวได้หากเขาต้องการ ถ้า จางเทีย มีความทะเยอทะยานมากกว่านี้ แน่นอนว่าเขาต้องทำลายรูปแบบดั้งเดิมของมนุษย์ในดินแดนโม่เทียน
ดังนั้นมันจึงมีเหตุผลที่ทั้งสามฝ่ายจะสนใจและยืนยันในการแผนการของเขา ไม่งั้นแล้วหาก จางเทีย หมายตาขุมกำลังทั้งสามจริง งั้นจักรพรรดิดาวอาจจะต้องเก็บตัวบ่มเพาะไปอีกนาน
จริงๆแล้วไม่ใช่แค่ขุมกำลังทั้งสาม ในตอนวิกฤตเมื่อวังจักรพรรดิมังกรได้รุ่งโรจน์และขุมกำลังอื่นๆตกอยู่ในความวุ่นวาย วังอมตะ, นิกายและตระกูลอื่นๆก็จะจับตาดูเมืองจักรพรรดิมังกร พวกเขาต่างก็คอยหาข้อมูลที่เป็นไปได้จากเมืองจักรพรรดิมังกร
สำหรับนายพลสูงสุดที่ต้องการเข้าร่วมกับวังจักรพรรดิมังกรตอนนั้น บางคนอาจจะชื่นชม จางเทีย จริงๆ ปฏิเสธไม่ได้ว่ามีบางคนเป็นมาเพื่อหวังประโยชน์ ถ้า จางเทีย ต้องการที่จะควบคุมขุมกำลังมนุษย์ทั้งหมดในดินแดนโม่เทียน แน่นอนว่าพวกนั้นก็จะได้ประโยชน์ในการอยู่ข้างเดียวกัน จางเทีย นั่นคือเรื่องปกติทั่วไปที่เห็นในหมู่นายพลสูงสุด
ถ้า จางเทีย เกิดในดินแดนโม่เทียน เขาอาจจะมีแผนแบบนั้น น่าเสียดายที่ จางเทีย ไม่เคยคิดจะปกครองดินแดนโม่เทียน ความคิดแรกของเขาคือขึ้นตำแหน่งจักรพรรดิมังกรและปกป้องผลประโยชน์ของวังจักรพรรดิมังกรเพื่อกันไม่ให้สมบัติของจักรพรรดิมังกรคนเก่าถูกทำลายแทนที่จะต้องการสิทธิพิเศษ
ความคิดนั้นยังไม่เปลี่ยนไปแม้กระทั่งตอนนี้
หลังจากที่สู้จบ สิ่งที่ จางเทีย ต้องการมากที่สุดคือการกลับไปยังไทเซีย แทนที่จะปกครองดินแดนโม่เทียน
ดังนั้นเขาจึงช่วยเหล่าผู้อาวุโสในการขึ้นเป็นนายพลสูงสุด ด้วยการที่มีนายพลสูงสุด 4 คนคอยหนุนหลังวังจักรพรรดิมังกรและชื่อเสียงที่เขาได้สร้างเอาไว้รวมถึงจำนวนผู้แข็งแกร่งจำนวนมาก จางเทีย เชื่อว่าไม่มีขุมกำลังไหนที่กล้าหมายตาวังจักรพรรดิมังกรแม้ว่าเขาจะหายไปจากดินแดนโม่เทียนเป็นพันปีด้วยการอ้างว่าบ่มเพาะก็ตาม
จักรพรรดิมังกรคนเก่านั้นไม่ได้ฆ่าจักรพรรดิปิศาจในดินแดนโม่เทียน ถึงจะเป็นแบบนั้นแต่เขาก็ยังปกป้องวังจักรพรรดิมังกรได้กว่า 900 ปีหลังจากที่หายตัวไป ระหว่างนั้นไม่มีใครกล้าที่จะโจมตีวังจักรพรรดิมังกรเลย จางเทีย เชื่อว่าด้วยชื่อเสียงของเขาแล้วมันไม่น่าจะสั้นกว่าจักรพรรดิมังกรคนเดิม
ก่อนที่จะเข้าพบกับตัวแทนทั้งสามฝ่าย ในเช้าวันต่อมาหลังจากที่ จางเทีย เสร็จสิ้นการบ่มเพาะ จางเทีย ก็ได้เข้าพบกับแขกในห้องหนังสือที่ศาลา — ตงซวนกุย ลอร์ดของวังอมตะห้าธาตุ
ตงซวนกุย ได้มาคุกเข่าตรงหน้าศาลาอยู่ 1 เดือน หลังจากที่ จางเทีย ได้ฆ่านายพลสูงสุดของวังอมตะห้าธาตุและจักรพรรดิปิศาจทั้งสอง ตงซวนกุย ก็ได้มาที่นี่เพียงลำพังแทนที่จะถูกจับกุม
นอกจากจักรพรรดิปิศาจทั้งสองแล้ว จางเทีย ได้ฆ่าปิศาจนายพลสูงสุดไปกว่า 5 ตัวด้วยตัวคนเดียว ดังนั้นนายพลสูงสุดของวังอมตะห้าธาตุจึงไม่ได้มีค่าในสายตา จางเทีย
โอกาสรอดอันน้อยนิดของวังอมตะห้าธาตุและ ตงซวนกุย อยู่ในกำมือของ จางเทีย การกระทำของเขาอาจจะฉลาดและจริงใจ อีกอย่างแล้วคนจะตัดสินได้ว่า จางเทีย ปฏิบัติต่อคนที่คุกคามวังจักรพรรดิมังกรยังไงหากดูจากผลลัพธ์ของ ตงซวนกุย
เพราะวังอมตะห้าธาตุเคยคุกคามวังจักรพรรดิมังกร หลังจากที่ จางเทีย กลับมาแล้ว แม้ว่า จางเทีย จะฆ่า ตงซวนกุย และบอกให้วังจักรพรรดิมังกรยึดอาณาเขตทั้งหมดของวังอมตะห้าธาตุแต่ก็ไม่มีใครกล้าปฏิเสธการตัดสินใจของเขา
..
" หัวหน้า ข้าได้พาตัว ตงซวนกุย มาแล้ว ! " – ยามคนหนึ่งรายงานขึ้นมาจากนอกห้อง
" ให้เขาเข้ามา.." – จางเทีย ไม่ได้หันกลับไปมอง เขาแค่มองไปยังตัวหนังสือทั้งสี่ ' ข้าตาย ผู้คนรอด ' บนกำแพงที่จักรพรรดิมังกรคนเก่าทิ้งเอาไว้
หลังจากที่ประตูห้องเปิดออก เขาก็ได้ยินเสียงเท้าจากด้านหลัง หลังจากนั้นเขาก็ได้ยินเสียงคนคุกเข่าลงกับพื้นและน้ำเสียงที่สั่นดังขึ้นมา – " ด้วยความเคารพหัวหน้าวัง ข้า ตงซวนกุย คนผิดของวังอมตะห้าธาตุ.."
" เจ้ารู้มั้ยว่าทำไมข้าถึงให้คนพาเจ้ามาที่นี่ ? " – จางเทีย ไม่ได้หันกลับไปมอง เขาไม่ได้อยากจะมองไปที่ ตงซวนกุย
" ข้า…ไม่รู้ " – ตงซวนกุย พูดออกมา
จางเทีย ชี้ไปที่ตัวหนังสือบนกำแพงและพูดขึ้นอย่างใจเย็น – " เงยหน้ามองตัวหนังสือเหล่านี้ดีๆ ตัวหนังสือนี้ถูกทิ้งไว้โดยจักรพรรดิมังกรคนเก่า มันอธิบายได้ว่าทำไมข้าถึงเลือกจะเป็นจักรพรรดิมังกร ตอนที่ข้ากลับมายังเขตใหญ่จักรพรรดิมังกรเมื่อเดือนก่อน หากเจ้าอยู่ในเขตนี้ ข้าก็จะฆ่าเจ้าแต่ตอนนี้ข้าจะไว้ชีวิตเจ้าเพราะคำพูดเหล่านี้ ข้าจะไม่ลงโทษการกระทำของวังอมตะห้าธาตุในอดีต ถ้าเจ้าขึ้นเป็นจักรพรรดิได้ในอนาคต หวังว่าเจ้าจะจดจำตัวหนังสือเหล่านี้ที่ช่วยชีวิตเจ้าไว้ เอาล่ะ เจ้าไปได้แล้ว…"
…
ตงซวนกุย ได้ออกจากที่นั่นไป เขาได้รอดกลับออกมาจากศาลาจักรพรรดิมังกร สุดท้ายเขาก็บินออกจากเมืองไป มีคำพูดบอกกันว่า ตงซวนกุย ได้เข้าไปในห้องหนังสือของศาลา แม้ว่าจะไม่มีใครรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นในห้องนั้นแต่ ตงซวนกุย ที่คุกเข่าอยู่ด้านนอกศาลาในที่สุดก็รอดออกจากเมืองจักรพรรดิมังกรไปได้
ตอนที่หลายคนในเมืองลังเล พวกเขาก็ได้ยินข่าวอีกอย่าง
หน่วยดูแลของวังจักรพรรดิมังกรได้รับประกาศจาก จางเทีย — ปล่อยนายพลและคนของตระกูลหยุนที่โดนจับมา แค่ไล่พวกนั้นออกจากเขตใหญ่จักรพรรดิมังกร
หลังจากได้ยินสองข่าวนี้แล้ว หลายขุมกำลังต่างก็ช็อก ในขณะเดียวกันเมืองจักรพรรดิมังกรที่ทำให้หลายคนต้องใจเต้นรัวในที่สุดก็กลับคืนสู่ความสงบ
หลังจากนั้นขุมกำลังอื่นๆในดินแดนโม่เทียนซึ่งลนลานตลอดหนึ่งเดือนที่ผ่านมาก็กลับคืนสู่ความสงบ
หลังจากนั้น จางเทีย ก็มานั่งใต้ตัวหนังสือทั้งสี่และรับแขกจากวังจักรพรรดิดาว, วังจักรพรรดิพลังและวังจักรพรรดิแรง
เมื่อพบกับตัวแทนทั้งสาม จางเทีย แค่พูดเพียงไม่กี่คำ – " วังจักรพรรดิแรง, วังจักรพรรดิพลังและวังจักรพรรดิดาวคือเสาหลักของมนุษย์ในดินแดนโม่เทียน ในฐานะมนุษย์แล้ว ข้าไม่คิดจะเห็นความวุ่นวายในอาณาเขตมนุษย์ ข้าไม่อยากเห็นหลายครอบครัวโดนทำลายและโดนฆ่าหรือการล่มสลายของเสาหลักทั้งสาม ข้าใช้พลังไปอย่างมากในการฆ่าจักรพรรดิปิศาจทั้งสอง ข้ายังไม่ฟื้นตัวดี ข้าอาจจะต้องเก็บตัวบ่มเพาะไปอีกนาน ระหว่างนี้หวังว่าจักรพรรดิดาวและจักรพรรดิพลังจะแบกรับหน้าที่ในการรับมือกับปิศาจ.."
หลังจากที่ได้ยินจุดยืนของ จางเทีย ตัวแทนทั้งสามก็สบายใจขึ้นมา
" จักรพรรดิแรงได้ขอให้ข้าเชิญจักรพรรดิมังกรไปพบกับเธอตอนที่เจ้าว่าง ประตูเมืองจักรพรรดิแรงเปิดต้อนรับเจ้าเสมอ ! " – รองหัวหน้าที่ถูกส่งมาซึ่งเป็นนายพลสูงสุดและยังเป็นผู้หญิงผมขาวดูเป็นคนชั้นสูงได้พูดขึ้นมา จากนั้นเธอก็ส่งแหวนมิติให้กับ จางเทีย ต่อหน้าผู้อาวุโสสองคนของวังจักรพรรดิพลังและวังจักรพรรดิดาว – " นี่คือของที่จักรพรรดิแรงได้บอกให้ข้าเอาให้กับเจ้า.."
" โอ้ มีอะไรด้านใน ? " – จางเทีย ถามด้วยความสงสัยตอนที่รับมันมา
" จักรพรรดิแรงบอกว่าของด้านในนั้นน่าจะเป็นของเจ้า เจ้าลองดูมันได้ ! "
ตอนที่เขารับแหวนมา จางเทีย ก็ได้ฉีดพลังวิญญาณเข้าไป หลังจากนั้นเขาก็เห็นบรรทัดสวรรค์…
'บรรทัดสวรรค์ ! มันคือบรรทัดสวรรค์งั้นรึ ? ' บรรทัดสวรรค์นี้หายไปหลังจากที่ตกเข้ามาในรอยแยกมิติพร้อมกับเขา ก่อนหน้านี้ จางเทีย คิดว่าเขาจะไม่ได้เห็นมันอีก ไม่คาดคิดว่ามันจะปรากฏขึ้นมาอีกครั้ง
' จักรพรรดิแรงรู้ได้ยังไงว่าบรรทัดสวรรค์นี้เกี่ยวข้องกับข้า ? เธอได้มันมายังไง ? ' มีหลายคำถามโผล่มาในหัวของ จางเทีย ตอนนั้นตัวตนของจักรพรรดิแรงที่ จางเทีย ไม่เคยเห็นมาก่อนนั้นก็เริ่มมั่นคงและไม่อาจจะคาดเดาได้…
หลังจากที่อึ้งไปได้ไม่นานและคิดถึงความเป็นไปได้ต่างๆ จางเทีย ก็เงยหน้าขึ้นและมองไปยังตัวแทนของวังจักรพรรดิแรงก่อนจะพูดขึ้นมา – " บอกจักรพรรดิแรงด้วยว่าข้าจะไปพบกับเธอในอีก 2 เดือน.."
..
หลังจากที่ตัวแทนทั้งสามกลับไป จางเทีย ก็มองไปยังบรรทัดสวรรค์ในแหวนมิติอยู่เพียงลำพัง ในขณะเดียวกันใบหน้าที่คุ้นเคยก็เริ่มโผล่มาในหัวของ จางเทีย
..
11 วันต่อมา หลงจิวเทียน และ ลู่หยุนชาง ก็ขึ้นเป็นนายพลสูงสุดในวันเดียวกัน ปรากฏการณ์ผิดปกติได้ถึงความสนใจจากผู้คนในระยะ 1,600 ไมล์โดยมีเมืองจักรพรรดิมังกรเป็นศูนย์กลาง ผลก็คือทั้งเขตใหญ่จักรพรรดิมังกรต่างก็พากันตะลึง
ในวันเดียวกันนั้นหลังจากที่ดื่มกับพี่น้องหลิวและเลิกกังวลเรื่องวังจักรพรรดิมังกร จางเทีย ก็ได้แอบออกจากเมืองจักรพรรดิมังกรไปเพียงลำพัง..