Castle of Black Iron - Chapter 1910: การส่งต่อความกระจ่างของจางเทีย (II)
Chapter 1910: การส่งต่อความกระจ่างของจางเทีย (II)
ตอนที่ จางเทีย วางมือไว้ที่หัวของ หลงจิวเทียน หลงจิวเทียน ก็ตัวสั่นไปทั้งตัว หลังจากนั้นเขาก็หลับตาลง ในทางกลับกันแล้วคนอื่นๆต่างก็เบิกตากว้าง
ตึกสวรรค์ตกสู่ในความเงียบทันที
10 นาทีต่อมาฝ่ามือของ จางเทีย ก็ถูกยกขึ้น อยู่ๆแสงสีเหลืองก็ส่องประกายที่หน้าผากของ หลงจิวเทียน หลังจากนั้นจุดแสงก็ขยายขนาดเท่ากับหิ่งห้อยลอยเข้าสู่ตัว หลงจิวเทียน….
" เอ่อ ? เราเห็นหิ่งห้อยตอนกลางวันในตึกสวรรค์ได้ยังไง ? " – ซูซงไค พึมพำออกมาด้วยความสงสัย หลังจากนั้นเขาก็เปลี่ยนสีหน้าและเบิกตากว้างทันที – " ไม่ นั่นไม่ใช่หิ่งห้อย มัน…มัน…มันคือ…."
แน่นอนว่าจุดแสงนั้นไม่ใช่หิ่งห้อยเพราะมีจุดแสงปรากฏขึ้นเพิ่มในตึกสวรรค์หลังจากที่ ซูซงไค พูดจบ ไม่นานหลังจากนั้นจุดแสงก็ได้ลอยเข้าไปหา หลงจิวเทียน ราวกับแมงเม่าบินเข้ากองไฟ
ตอนที่จุดแสงได้เข้าหา หลงจิวเทียน พวกมันก็ได้ไปรวมตัวโดยห่างกัน 30 ซม.
ไม่กี่วินาทีจุดแสงกว่า 100 อันก็ได้มารวมกันตรงหน้าสายตาของทุกคน อีกอย่างแล้วจำนวนของจุดแสงก็ยังเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ พวกมันต่างก็บินเข้าไปหา หลงจิวเทียน แล้วรวมกันตรงหน้าอกของเขาราวกับกระจก
จุดแสงเหล่านั้นคือธาตุดินที่ออกมาจากดินแดนธาตุ
" พวกมันคือรังไหม… รังไหม…รังไหมดิน…." – หยิงกูเชิง ตะกุกตะกักแล้วมองไปที่ หลงจิวเทียน
คนอื่นๆต่างก็ลุกขึ้นยืนแล้วมองไปที่ หลงจิวเทียน ด้วยสีหน้าที่ไม่อาจจะอธิบายได้
รังไหมดินนั้นคือเหตุการณ์ที่นายพลไฟจะพบตอนที่เขารึเธอขึ้นเป็นนายพลสูงสุด ตอนที่นายพลไฟได้ตระหนักถึงกฎในการสร้างดินแดนและเริ่มสร้างจักระสูงสุดของตัวเอง เขาจะพบกับเหตุการณ์แบบนี้
ตอนแรกธาตุดินจะมารวมตัวกันรอบตัวผู้บ่มเพาะซึ่งกำลังจะขึ้นเป็นนายพลสูงสุดและก่อตัวเป็นรังไหมธาตุดินด้านนอกคนนั้น หลังจากนั้นก็เป็นธาตุน้ำ, ลมและไฟที่จะจับตัวเป็นรังไหมซ้อนทับกัน ตอนที่ชั้นทั้งสี่สร้างตัวเสร็จ ผู้บ่มเพาะจะสร้างจักระสูงสุดของตัวเอง หลังจากที่สร้างจักระสูงสุดเสร็จ พวกเขาจะทำลายรังไหมและดูดซับพลังงานธาตุก่อนจะขึ้นเป็นนายพลสูงสุด
ขั้นตอนนี้ถือว่าเป็นพิธี
นายพลสูงสุดคือชีวิตใหม่ !
ตอนที่นายพลไฟได้ขึ้นเป็นนายพลสูงสุด เขาจะได้รับชีวิตใหม่เหมือนกับผีเสื้อที่แหกออกมาจากรังไหม
แต่ไม่มีสักคนที่คิดว่า หลงจิวเทียน ที่ไม่อาจจะทะลวงระดับได้นั้นจะพบกับเหตุการณ์นี้ต่อหน้าพวกเขา
ธาตุดินได้ไปรวมตัวกันตรงหน้าอกของ หลงจิวเทียน มากขึ้นเรื่อยๆ สุดท้ายแล้วพวกมันก็ใหญ่พอๆกับบ่อน้ำ ในขณะเดียวกันก็ธาตุดินก็ก่อตัวมากขึ้นเรื่อยๆ
ในหมู่จุดแสงสีทองที่ลอยอยู่ในอากาศนี้ ด้านในตึกสวรรค์ราวกับดินแดนแห่งความฝัน ในขณะเดียวกันธาตุดินเหล่านั้นก็ได้ไปรวมตัวกันที่อกของ หลงจิวเทียน จนทำให้หน้าเขาอาบด้วยสีทอง
อยู่ๆ หลงจิวเทียน ก็ลืมตาขั้นมา หลังจากนั้นเขาก็ดีดตัวขึ้นแล้วโค้งให้กับ จางเทีย จากนั้นเขาก็รีบพุ่งออกไปจากตึกสวรรค์แล้วบินออกไป….
ขั้นตอนตั้งแต่การสร้างรังไหมและขึ้นเป็นนายพลสูงสุดนั้นจะกินเวลาอย่างน้อยครึ่งเดือน สำหรับนายพลไฟแล้วขั้นตอนนี้ยากพอๆกับการคลอดลูก ดังนั้น หลงจิวเทียน จึงออกจากที่นั่นไปทันที ตอนที่ผู้หญิงคลอดลูก เธออาจจะไปโรงพยาบาลรึหาหมอตำแยแต่นายพลไฟนั้นต้องเข้าบ่มเพาะเพื่อจะขึ้นเป็นนายพลสูงสุด ต้องขอบคุณที่เหล่าผู้อาวุโสต่างก็มีที่สำหรับการบ่มเพาะในเมืองจักรพรรดิมังกร หลังจากที่ จางเทีย กลับมา เหล่าผู้อาวุโสก็ไม่ต้องกังวลว่าจะโดนจักรพรรดิปิศาจบุกโจมตีในตอนที่พวกเขาบ่มเพาะอีกต่อไป
หิ่งห้อยกว่าหมื่นตัวได้บินออกจากตึกสวรรค์ตามหลัง หลงจิวเทียน ไป ไม่นานหลังจากนั้นตึกสวรรค์ก็ได้กลับคืนสู่ปกติ
แต่ตอนนี้นเองคนในตึกต่างก็เปลี่ยนความคิดไปในทันที
" ผู้สั่งการหวง ส่งทีมทหารของกองทัพไปคุ้มกันห้องลับที่ ผู้อาวุโสหลง อยู่ กันไม่ให้คนไปรบกวนเขาในการขึ้นเป็นนายพลสูงสุด…." – จางเทีย สั่งการ หวงไบ่เม่ย หลังจากที่ได้ยินแบบนั้นคนอื่นๆต่างก็ได้สติกันขึ้นมา
" ได้ ข้าจะจัดการเดี๋ยวนี้…" – หวงไบ่เม่ย ตอบกลับแล้วมอง จางเทีย ด้วยสีหน้าซับซ้อน หลังจากนั้นเขาก็ได้เอาเหรียญออกมาแล้วทำตามที่ จางเทีย สั่ง
" หัวหน้า….มัน….มันคือ.." – อกของ ลู่หยุนชาง กระเพื่อมไปมาพร้อมกับใบหน้าที่แดง เธอยากที่จะใจเย็นอยู่ได้
" มันคือทักษะกระจ่างสูงสุด ! "
' การกระจ่างสูงสุด ? ' ทุกคนในห้องต่างก็ท่องชื่อนี้เอาไว้
" ทักษะกระจ่างสูงสุด ? มัน….หัวหน้าสร้างทักษะนี้ขึ้นมารึ ? " – หยิงกูเชิง ถามและมองไปที่ จางเทีย ในประวัติศาสตร์นับหมื่นปีของดินแดนโม่เทียน มันไม่เคยมีทักษะแบบนี้ ดังนั้น หยิงกูเชิง จึงเดาออกมาเช่นนี้
" ใช่ ข้าสร้างมันขึ้นมา ! " – จางเทีย ยอมรับตรงๆ
ก่อนที่จะขึ้นเป็นอัศวินปราชญ์ จางเทีย ไม่คิดว่าเขาจะสร้างทักษะน่าทึ่งขึ้นมาได้ หลังจากที่ขึ้นเป็นอัศวินปราชญ์ เขาก็สร้างมันขึ้นมาได้อย่างง่ายดาย ตามคำพูดเก่าๆบอกไว้ — ตอนที่น้ำไหล ยังไงก็ต้องเกิดเส้นทาง
—- สูตรราชาอินทรีย์สามารถกระตุ้นภาวะระดับปราชญ์และดินแดนของแต่ละทักษะได้
—- ด้วยการรับรู้กฎจักรวาลระดับ 1 กฎของระดับปราชญ์และดินแดนกับการเปลี่ยนแปลงรูปแบบของธาตุทั้งสี่ในสูตรต่างๆต่ำกว่าสูตรชั้นจักรพรรดินั้นกระจ่างขึ้นมา
—- ทักษะกระจ่างในสูตรมิเกลียดของนิกายหยินหยางนั้นไร้เทียมทานในดินแดนโม่เทียน
—- จางเทีย เชี่ยวชาญสูตรโลหิตวิญญาณซึ่งมีทักษะลับและพลังวิญญาณมากมาย…
ด้วยสี่เงื่อนไขนี้ จางเทีย จึงได้รวมความสามารถของตัวเองเข้าด้วยกันเพื่อสร้างทักษะกระจ่างสูงสุด ด้วยทักษะนี้ จางเทีย จึงสามารถส่งต่อความกระจ่างที่เขารู้ไปยังนายพลไฟเพื่อให้อีกฝ่ายขึ้นไปเป็นนายพลสูงสุดได้ผ่านการตีตราวิญญาณและเมล็ดวิญญาณ
คนที่ได้รับความกระจ่างนั้นจะรู้สึกเหมือนได้เห็นตัวหนังสือสีแดง แม้ว่าพวกเขาจะไม่อาจจะบอกได้ว่าตัวหนังสือนั้นมีเสน่ห์แค่ไหนและไม่จำเป็นต้องเข้าใจมันแต่ตราบใดที่พวกเขามีปากกา เขาก็สามารถเลียนแบบมันได้ ด้วยวิธีนี้ผู้รับก็สามารถรวมเข้ากับเมล็ดวิญญาณและขึ้นเป็นอัศวินปราชญ์ได้อย่างราบรื่น
เหตุผลว่าจักรพรรดิมังกรคนเก่าถึงได้ยืมเต่ามิเกลียดของนิกายหยินหยางมานั้นอาจจะเป็นเพราะเขาได้ดูดซับทักษะความกระจ่างนี้แต่จักรพรรดิมังกรคนเก่านั้นไม่ได้มีทั้งสี่เงื่อนไขเหมือนกับ จางเทีย แม้ว่าเขาจะรู้ถึงทักษะของนิกายหยินหยางแต่เขาก็ไม่อาจจะสร้างทักษะกระจ่างสูงสุดได้
มันคือทักษะที่มีเฉพาะใน จางเทีย มันจะโด่งดังไปอีกนาน
" ข้าสงสัยว่าข้า….ข้าจะ…ขึ้นเป็นนายพลสูงสุดได้เหมือนกับ ผู้อาวุโสหลง หลังจากที่ได้รับความกระจ่างหรือไม่ ? " – ลู่หยุนชาง ถามขึ้นมา
" แน่นอนว่าได้ จากทักษะส่งต่อของข้าแล้ว นายพลไฟที่มีรากฐานที่มั่นคงอย่าง ผู้อาวุโสหลง ก็ขึ้นเป็นนายพลสูงสุดได้อย่างราบรื่น! " – จางเทีย ตอบกลับด้วยรอยยิ้ม – " ผู้อาวุโสลู่ เองก็อยู่ในระดับนายพลไฟมาหลายร้อยปี ถ้า ผู้อาวุโสลู่ ไม่รังเกียจ เจ้าแสดงทักษะที่เจ้าบ่มเพาะมาให้ข้าที หลังจากนั้นข้าจะได้ส่งต่อความกระจ่างให้กับเจ้า ! "
" นี่คือสูตรฝนควันของข้า โปรดดูมันด้วย หัวหน้า…" – ลู่หยุนชาง ถอดกำไลสีฟ้าส่งให้ จางเทีย ทันที
เมื่อเห็นแบบนั้น หยิงกูเชิง และ ฮูโม่หยวน ต่างก็พากันทนไม่ไหวอีกต่อไป
" หัวหน้า…" – หยิงกูเชิง เองก็มอง จางเทีย อย่างอายๆ
" ถ้าเจ้าไม่เอาทักษะของตัวเองมาด้วยในวันนี้ ข้าจะไปอยู่ที่ศาลาจักรพรรดิมังกร พวกเจ้ามาหาข้าได้ทุกเมื่อ…"
" ไม่จำเป็น แม้ว่าข้าจะไม่เอามันมากับตัวแต่ข้าก็จะกลับไปเอามันมาในครึ่งชั่วโมงเพราะมันอยู่ไม่ไกลจากที่นี่นัก…" – หยิงกูเชิง รีบอธิบาย
" ข้าด้วย ข้าก็จะกลับมาในครึ่งชั่วโมง ! " – ฮูโม่หยวน ตอบกลับทันที เขากลัวว่าตัวเองจะถูกลืม
" อืม พวกเจ้าไปเอามันมา…" – จางเทีย พูดพร้อมกับสะบัดมือ
" ขอบคุณ หัวหน้า ! "
" ขอบคุณ หัวหน้า ! "
หยิงกูเชิง และ ฮูโม่หยวน ต่างก็ตื่นเต้น หลังจากที่ขออภัยกับความหยาบคายของตัวเองแล้ว ทั้งสองก็รีบออกจากตึกสวรรค์ในทันที
…
ใน 2 ชม.นี้ จางเทีย ได้ส่งต่อความกระจ่างให้กับ ลู่หยุนชาง, ฮูโม่หยวน และ หยิงกูเชิง หลังจากที่ได้รับความกระจ่างแล้วทั้งสามคนก็ได้ออกจากตึกสวรรค์ไปและมุ่งหน้ากลับไปยังห้องลับเพื่อเก็บตัวบ่มเพาะ
หลังจากที่ส่งต่อความต่อความกระจ่างให้กับผู้อาวุโสทั้งสี่คนและให้กำลังใจพวกหัวหน้าหน่วยกับ หวงไบ่เม่ย จางเทีย ก็ให้พวกนั้นแยกย้ายกลับไป
ตอนที่หัวหน้าหน่วยและ หวงไบ่เม่ย ได้ออกจากตึกสวรรค์ไป พวกนั้นน่ะคิดต่างจากเดิมแม้ว่าจะไม่ได้รับความกระจ่างก็ตาม
—–เพราะหัวหน้าเชี่ยวชาญทักษะการกระจ่างสูงสุด ตราบใดที่ข้าทำงานในวังจักรพรรดิมังกรอย่างขยันขันแข็งและสร้างผลงานขึ้นมา แน่นอนว่าข้าจะขึ้นเป็นนายพลสูงสุดได้ในอนาคต มีนายพลไฟไม่กี่คนในดินแดนโม่เทียนที่จะขึ้นเป็นนายพลสูงสุดได้ในอนาคต
…
หลังจากที่ทุกคนออกจากที่นั่นไปแล้ว จางเทีย ก็ได้เดินออกมาจากตึกสวรรค์ เขารู้สึกราวกับขาดอะไรไปบางอย่าง ดังนั้นเขาจึงถามพวกยามว่าพวกผู้หญิงของนิกายหยินหยางนั้นอยู่ที่ไหน เขาได้รับคำตอบว่าพวกเธอไม่ได้อยู่ในเมืองจักรพรรดิมังกร…..