Castle of Black Iron - Chapter 1906: ออกจากศาลาจักรพรรดิมังกร
Chapter 1906: ออกจากศาลาจักรพรรดิมังกร
ในวันที่ 28 มิถุนายน ปี 3593 …
ในฝ่ายเฉียนจีที่เมืองจักรพรรดิมังกร…
" ข้าคิดว่าเราต้องจัดการกับพวกโจรในทะเลดาวหัก เมื่อจักรพรรดิมังกรกลับมา วังของเราจะส่งเรือบินและนายพลไปลาดตระเวนที่ทะเลดาวหักทุกเดือน แม้ว่าทะเลดาวหักนั้นจะไม่ได้เป็นของวังจักรพรรดิมังกรแต่เราก็ควรรักษาความปลอดภัยและความมั่นคงในเขตนั้น ตอนนั้นมันก็จะไม่มีโจรในทะเลดาวหักอีก จากนั้นก็มีเรือบิน,พ่อค้ารึนักเดินทางผ่านทะเลดาวหักและเจอกับอุบัติเหตุที่นั่นไม่มาก.."
ซูซินยี่ และหลงจิวเทียน พูดขึ้นแล้วยกชาขึ้นจิบ จากนั้นเขาก็มองไปยังผู้อาวุโสอีกสามคนและพูดต่อ – " ตอนที่ข้าลาดตระเวนในทะเลดาวหักโดยเรือบินตอนนั้น ผู้โดยสารทุกคนจะแสดงความสุภาพต่อเราเมื่อเห็นเรือบินของวังจักรพรรดิมังกรด้วยการชูธงตามธรรมเนียมแต่เมื่อวังจักรพรรดิมังกรได้เสียพลังในการลาดตระเวนในทะเลดาวหัก พวกโจรก็เริ่มขู่เข็ญเรือบินที่ผ่านไป ตอนนี้ปราชญ์เลือดดำทั้งสองและกองกำลังหลักของพวกมันโดนหัวหน้ากำจัดแล้ว ไม่มีใครขวางทางเราในทะเลดาวหักแล้ว ดังนั้นมันจึงได้เวลาที่เราจะทำการลาดตระเวนได้ต่อ…"
" ข้าเห็นด้วย อีกอย่างแล้วข้าคิดว่าเราจะยึดเมืองที่พันธมิตรเลือดดำได้สร้างขึ้นมาตลอดหลายปีและเอาเป็นฐานของกองทัพเรือบินของวังจักรพรรดิมังกรในทะเลดาวหัก มันมีเหตุผลที่เราจะยึดที่นั่น ไม่มีใครอื่นจะกล่าวหาเราเรื่องนี้ ! " – หยิงกูเชิง พูดขึ้นมาทันที
" ใช่ ! "
" ข้าเห็นด้วย ! "
ลู่หยุนเชิง และ ฮูโม่หยวน พยักหน้าหลังจากที่คิดทบทวน
" ใครเหมาะที่จะทำแบบนี้ ? " – ผู้อาวุโสลู่หยุนชาง ถามขึ้นมา
" แล้วเรื่องการส่ง ซุยโบ ไปจัดการกับคนที่ติดตามของพันธมิตรเลือดดำที่เมืองมังกรทะเลล่ะ ? ในฐานะนายพลน้ำแล้ว ซุยโบ ภักดีต่อเรา เขามีประสบการณ์ เขาสามารถจัดการกับพวกตัวเล็กตัวน้อยในทะเลดาวหักได้ ! "
" ความคิดดี เราจะส่ง ซุยโบ ไปด้วยกันกับทีมนายพล หลังจากที่ยึดเมืองนั้นได้ เราจะตั้งชื่อมันใหม่ว่าเมืองปิงไห่ อีกอย่างแล้วเราจะสร้างวังสาขาขึ้นมาด้านในเมืองนั้น ! "
" ดี ! "
หลังจากที่พูดคุยไม่นาน พวกผู้อาวุโสก็ได้ข้อตกลงในการจัดการกับพวกที่เหลือของพันธมิตรเลือดดำในทะเลดาวหัก จากนั้นพวกเขาต่างก็พยักหน้าและจิบชาด้วยรอยยิ้ม
ตอนนั้นผู้ช่วยของฝ่ายเฉียนจีก็ได้เข้ามาในห้องโถงด้วยใบหน้าที่มีกำลังใจ หลังจากที่โค้งให้กับผู้อาวุโส เขาก็พูดด้วยความเคารพ – " จีหลี่ หัวหน้าตระกูลจีในเขตกลางฮุยเทียนได้มายังเมืองจักรพรรดิมังกร เขาต้องการเข้าพบกับหัวหน้าวัง นี่คือจดหมายและรายชื่อของกำนัน ! " – ผู้ช่วยพูดขึ้นพร้อมกับวางสองอย่างไว้บนโต๊ะ
ตระกูลจีนั้นเป็นตระกูลใหญ่ในเขตกลางฮุยเทียน จีหลี่ เป็นหัวหน้าตระกูลซึ่งยังเป็นนายพลสูงสุดที่โด่งดังในดินแดนโม่เทียน เขตกลางฮุยเทียนนั้นห่างจากเขตใหญ่จักรพรรดิมังกรกว่า 200,000 ไมล์ ถ้าผู้อาวุโสได้ยินคำพูดเหล่านี้เมื่อเดือนก่อน พวกเขาก็คงจะตื่นเต้นและรู้สึกเลือดสูบฉีดแต่ตอนนี้พวกเขากับเฉยชากับเรื่องนี้
กว่าหนึ่งเดือนที่ผ่านมา มีคนของวังจักรพรรดิทั้งสอง, วังอมตะสูงสุด,ตระกูลใหญ่และนิกายที่ได้มารวมตัวกันในเมืองจักรพรรดิมังกร แม้แต่ ตงซวนกุย ลอร์ดของวังอมตะห้าธาตุก็ยังมาคุกเข่าตรงหน้าศาลาจักรพรรดิมังกรเพื่อแสดงความเคารพ เขาได้คุกเข่าที่นั่นกว่า 20 วัน มันยากที่ลอร์ดจะทำท่าทีสุภาพแบบนั้นเพื่อที่จะพบกับ จางเทีย ใครบ้างที่เคยเห็นเรื่องแบบนี้ ? ใครจะไปคิดว่าวังจักรพรรดิมังกรจะฟื้นฟูความรุ่งเรื่องในดินแดนโม่เทียนได้ในวันเดียว ?
วังจักรพรรดิมังกรฟื้นฟูขึ้นมาอย่างรวดเร็วซึ่งผู้อาวุโสไม่อาจจะปรับตัวได้ทันแต่พวกเขาก็ต้านทานกับเรื่องนี้ได้ในเวลาอันสั้น
หลังจากที่ดูจดหมายและของกำนันแล้ว ลู่หยุนชาง ก็วางมันกลับและพูดขึ้น – " จัดให้ตัวแทนของตระกูลจีพักอยู่ในวังลมสวรรค์ บอกพวกเขาว่าหัวหน้ายังเก็บตัวบ่มเพาะอยู่และไม่อาจจะรับแขกได้ในตอนนี้…"
หลังจากที่ได้ยินแบบนั้น ผู้ช่วยก็ได้ออกจากที่นั่นไป
คนของวังจักรพรรดิดาว, วังจักรพรรดิพลังและวังจักรพรรดิแรงยังคงรอ จางเทีย อยู่ในเมืองจักรพรรดิมังกร นอกจากนี้แล้วคนของวังสูงสุดอื่น แม้แต่ลอร์ดก็ยังรออยู่ในเมืองจักรพรรดิมังกร ถ้า จีหลี่ ต้องต่อคิว เขาอาจจะต้องรอนาน แม้ว่า จางเทีย จะออกจากห้องลับมาแต่เขาก็คงไม่มีเวลาจะพบกับหัวหน้าตระกูลจีได้
" ผู้อาวุโสคนไหนบ้างที่อยากเข้าพบหัวหน้าตระกูลจีในวังลมสวรรค์ในคืนนี้ ? " – ลู่หยุนชาง ถามออกมาแล้วมองไปยังผู้อาวุโสคนอื่นๆ
" ข้าไปเอง.." – หยิงกูเชิง พูดขึ้น
มันเกือบเป็นไปไม่ได้ที่ จีหลี่ จะเข้าพบ จางเทีย แต่หากดูจากของกำนันที่ จีหลี่ ให้มา วังจักรพรรดิมังกรควรจะส่งผู้อาวุโสอย่างน้อยหนึ่งคนไปเยี่ยมอีกฝ่ายและพูดคุยด้วยเพื่อพัฒนาความสัมพันธ์
1 เดือนที่ผ่านมานี้ มันมีเพียงผู้ช่วยคนเดียวในฝ่ายเฉียนจีแต่ตอนนี้จำนวนผู้ช่วยก็เพิ่มเป็น 5 คน แม้จะแบบนั้นแต่พวกเขาก็ยังยุ่งกันอยู่
หลังจากที่ผู้ช่วยออกจากที่นั่นไปไม่ถึงนาที มันก็มีผู้ช่วยอีกคนเข้ามาพร้อมกับข่าวอีกอัน – " พวกนายพลและสมาชิกตระกูลหยุนซึ่งหนีไปถูกพบตัวและถูกจับโดยหัวหน้านิกายมังกรไฟในเขตทราย พวกนั้นถูกนำตัวกลับมาที่เมืองจักรพรรดิมังกรภายใต้การดูแลของหัวหน้านิกายมังกรไฟ หัวหน้าหน่วยดูแลอยู่ที่นั่นด้วย "
ข่าวดีมาถึงทีละอันๆ ทุกอย่างเริ่มดีขึ้นเรื่อยๆ ทุกอย่างดูสมบูรณ์ ในพริบตาประกาศจับจากวังจักรพรรดิมงักรก็ได้ส่งผล พวกผู้อาวุโสของวังจักรพรรดิมังกรเริ่มเข้าใจถึงสำนวนว่าพระเจ้าจะช่วยเหลือพวกที่ช่วยเหลือตัวเอง
" เฮ้อ ถ้า ผู้อาวุโสหวัง ยังมีชีวิตอยู่และเห็นความรุ่งโรจน์ของวังจักรพรรดิมังกร เขาคงต้องดีใจมากแน่ๆ " – หลังจากที่ผู้ช่วยออกไป ผู้อาวุโสฮูโม่หยวน ก็ถอนหายใจออกมา
ผู้อาวุโสคนอื่นๆต่างก็พากันเงียบไป
" ผู้อาวุโสหวังเสียสละเพื่อวังจักรพรรดิมังกร หัวหน้าได้แก้แค้นให้กับการตายของเขาไปแล้วในที่ราบเทพ "
มันอาจจะเป็นคำปลอบใจที่ดีที่สุด
" ข้าสงสัยว่าเมื่อไหร่กันที่หัวหน้าจะเก็บตัวเสร็จในครั้งนี้…"
" ไม่ต้องกังวล วังจักรพรรดิมังกรจะแจ้งเราเองตอนที่หัวหน้าออกมา.."
เมืองหวงห้ามถูกทำลายโดยจักรพรรดิปิศาจเทียมและยังไม่ได้ถูกสร้างใหม่ หลังจากที่ จางเทีย กลับมา เขาก็เข้าเก็บตัวบ่มเพาะที่ห้องลับของศาลาจักรพรรดิมังกร มันผ่านมากว่าเดือนหนึ่งแล้วแต่ จางเทีย ก็ยังไม่ออกมา ดังนั้นทั้งเมืองจักรพรรดิมังกร แม้แต่ดินแดนโม่เทียนก็ยังจับตามองที่ศาลาจักรพรรดิมังกร
ตอนนี้ความรู้สึกสงบก่อตัวขึ้นในใจของทุกคนในดินแดนโม่เทียน
..
ตอนที่ผู้อาวุโสของวังจักรพรรดิมังกรอยู่ในฝ่ายเฉียนจี จางเทีย ก็ได้ออกจากห้องลับและกลับอกมาด้วยใบหน้าที่ซีดเล็กน้อยก่อนจะกลับไปที่บ้าน
บ้านหลังนี้สว่างไสวด้วยแสงอาทิตย์ในเดือนมิถุนายน บ่อบัวด้านในบ้านเบ่งบาน กลิ่นหอมของดอกบัวลอยเข้าจมูกเขา ในเวลาเดียวกันก็มีนกที่เกาะตามกิ่งไม้ส่งเสียงร้อง ทั้งบ้านเต็มไปด้วยความอุดมสมบูรณ์
ตอนที่เขาเห็นบ้านนี้และได้กลิ่นหอม จางเทีย ที่ไม่เคยเห็นฉากนี้มานานก็พอใจอย่างมาก
ตอนที่ จางเทีย ยกมือขึ้น นกตัวหนึ่งก็ได้มาเกาะที่ฝ่ามือเขาและเริ่มส่งเสียงร้องอย่างพอใจ
ตอนที่ จางเทีย เล่นกับนกและฟังสิ่งที่เกิดขึ้นในวังจักรพรรดิมังกรตลอดหลายวันมานี้ อยู่ๆเขาก็ได้ยินเสียงคนดังขึ้นมาจากด้านนอก
" หัว…หัวหน้า.." – หลิวเมิ่ง อึกอักด้วยตาที่เบิกกว้าง เขาไม่เชื่อสายตาตัวเอง หลังจากที่ขยี้ตาแล้วเขาก็ตื่นเต้นขึ้นมาพร้อมกับเสียงที่ดังขึ้น ตอนที่ จางเทีย ต้องการจะบอกให้อีกฝ่ายพูดเบาลง ตาของ หลิวเมิ่ง ก็แดงก่ำขึ้นมา หลังจากนั้นเขาก็อ้าปากและเริ่มกรีดร้องออกมา ผลก็คือทั้งศาลาต่างก็ได้ยินเสียงเขา – " หัวหน้าวังกลับมาแล้ว หัวหน้าวังกลับมาแล้ว…"