Castle of Black Iron - Chapter 1904: กวาดล้างปิศาจ (VI)
Chapter 1904: กวาดล้างปิศาจ (VI)
ไม่ว่าจะเป็นจักรพรรดิปิศาจเทียมรึจักรพรรดิปิศาจภูเขาดำก็ไม่คิดว่า จางเทีย จะสามารถทำลายขบวนรบของปิศาจและกองทัพปิศาจกว่าแสนตัวได้ในเสี้ยววินาที
สำหรับอัศวินแล้ว สนามรบของพวกเขาอยู่ในท้องฟ้า ขบวนรบจะก่อตั้งขึ้นมาในท้องฟ้า แม้ว่าพวกเขาจะสร้างขบวนรบได้ด้วยลูกปัดขบวนบนพื้นได้แต่พวกเขาก็เหมือนกับอินทรีย์ที่ซึ่งปีกนั้นถูกขึงเอาไว้และไม่เป็นภัยต่อ จางเทีย ที่อยู่ในท้องฟ้า กลับกันแล้วพวกเขาจะได้แต่เงยหน้าขึ้นมามองท้องฟ้าแล้วถอนหายใจและรอให้ จางเทีย ฆ่า
ราชาอินทรีย์แน่นอนว่าต้องสูงส่งและเป็นราชาในท้องฟ้า ราชาอินทรีย์จะโดนฝูงนกล้อมและหนีจากที่นั่นได้ยังไง ?
ทักษะที่ จางเทีย ใช้ตะกี้คือ 'สู้' —- ไม่มีปีกให้บิน มันเป็นหนึ่งใน 9 คำพูดในสูตรราชาอินทรีย์
ตอนนั้นจักรพรรดิปิศาจทั้งสองต่างก็รู้สึกว่ามันอาจจะทำผิดพลาดร้ายแรงในการใช้บอลสวรรค์กักตัว จางเทีย เอาไว้กับกองทัพปิศาจ ก่อนหน้านี้พวกมันคิดว่า จางเทีย เป็นแค่เสือซึ่งถูกล้อมด้วยฝูงหมาป่าได้ จากนั้นก็จะฆ่าเขาได้อย่างง่ายดาย ไม่คาดคิดว่า จางเทีย ไม่ใช่เสือแต่เป็นมังกร มังกรคลั่งที่ไม่มีใครพิชิตได้
แต่มันเกิดขึ้นมาแล้ว
" ข้าเป็นส่วนหนึ่งของแม่ข้าที่ประตูตะวันตก แม่ข้าเคยบอกว่าเสียใจแต่ข้าไม่ ข้ารับปากแล้วว่าจะทำดีและจะไม่กลับไปจนกว่าจะสำเร็จ การต่อสู้บนท้องฟ้าและลงไปยังพื้นดินนั้นทำให้นรกต้องสั่นไหว ข้าจะฆ่าปิศาจใน 3 ขั้นตอนจนกว่าหัวใจข้าจะหยุดเต้น เลือดของเราไหลไปกว่าหมื่นไมล์กับแม่น้ำ ร่างกายของเราจะอยู่บนภูเขา หลังจากการต่อสู้ วีรบุรุษจะนอนในหมู่ศพของศัตรู เราจะฆ่าปิศาจแม้แต่ในฝันด้วยรอยยิ้มกว้างภายใต้แสงอาทิตย์…"
ตอนนั้นเสียงเพลงของ จางเทีย ได้กลายเป็นฝันร้ายสำหรับปิศาจ บทเพลงนี้ จางเทีย ได้ดำดิ่งลงไปพร้อมกับกระบองขนาดเท่ากับหอคอยด้วยความเร็วสูงสุด จักรพรรดิปิศาจเทียมได้เสียอิสระของตัวเองไป ตอนนั้น จางเทีย ได้ใช้การล็อคจักระไปแล้ว เขาได้สูบจักรพรรดิปิศาจเทียมออกมาจากหลุมลึกราวกับมีแม่เหล็กซึ่งบังคับให้จักรพรรดิปิศาจเทียมบินเข้าหากระบองของ จางเทีย
หน้าของจักรพรปิศาจเทียมหม่นไปและเกือบที่จะกลายเป็นสีม่วง
จางเทีย ได้ทิ้งจักรพรรดิปิศาจภูเขาดำไว้ด้านหลังและพุ่งเข้าหาจักรพรรดิปิศาจเทียมทันที เสียงสายลมและสายฟ้าดังขึ้นมา จากนั้นเขาก็ฟาดกระบองที่ลุกไหม้นั้นเข้าใส่จักรพรรดิปิศาจเทียมจนทำให้พื้นดินสั่นไหว
ตอนที่จักรพรรดิปิศาจเทียมบินขึ้นไปบนท้องฟ้าราวกับเรือที่ต้านคลื่นน้ำ มันได้เห็นนายพลปิศาจที่ตกลงไปราวกับยุงที่โดนตบลง แม้ว่าจะอยู่ในกองทัพปิศาจกว่าแสนตัว จักรพรรดิปิศาจเทียมก็ยังรู้สึกว่าโดนแยกออกมาและโดดเดี่ยว
จักรพรรดิปิศาจเทียมอาจจะไม่เคยเล่นโยโย่มาก่อนซึ่งมันจะเด้งกลับขึ้นมาเองด้วยการกระตุกมือขึ้นมา ไม่งั้นแล้วมันอาจจะรู้สึกราวกับว่ากำลังจะตาย
" ตายซะ.." – จักรพรรดิปิศาจเทียมตะโกนอกมาด้วยความโกรธเหมือนกับที่ จางเทีย เคยตะโกนในดินแดนของมัน
ด้วยเกียรติของจักรพรรดิปิศาจและความเป็นปิศาจของมัน จักรพรรดิปิศาจเทียมทำได้แค่สู้จนตัวตาย
ตอนที่คำรามนั้นร่างของจักรพรรดิปิศาจเทียมได้ส่องประกายออกมาพร้อมกับชุดและตัวของมันที่ขยายตัวขึ้น ตะกี้นี้จักรพรรดิปิศาจเทียมตัวเตี้ยกว่า 2 ม. ตอนนี้มันตัวใหญ่กว่าเดิมถึง 4 เท่าและกลายเป็นยักษ์ ทันใดนั้นมันก็สูงกว่า 10 ม.พร้อมกับกล้ามเนื้อที่กำยำและมีหนามที่หลังของมันอีกทั้งตัวยังเต็มไปด้วยเกล็ดดำ เขาคือปิศาจเงา !
นี่คือร่างที่แท้จริงของจักรพรรดิปิศาจเทียม !
ไม่ว่ายังไงก็ตามจักรพรรดิปิศาจเทียมก็ไม่อาจจะสร้างรอยให้กับคุกอมตะได้
กระบองคืออาวุธและโล่ของเขา การโจมตีพลังงานของกระบองหนักกว่า 360 ตันนั้นถือว่าน่าทึ่งตอนที่ฟาดมันลงไป นี่ไม่ต้องพูดถึงการที่ จางเทีย เป็นคนใช้มัน
ดังนั้นตอนที่ลำแสงได้ปะทะเข้ากับกระบองหอคอย มันก็ไม่อาจจะต้านทานได้ไม่ว่ามันจะทรงพลังแค่ไหนก็ตาม
ดูจากพลังแล้วจักรพรรดิปิศาจเทียมและจักรพรรดิปิศาจหกแขนนั้นอยู่ระดับเดียวกันแต่พวกมันไม่ได้อยู่ในระดับเดียวกันกับ จางเทีย
กระบองของ จางเทีย ได้ทำลายการโจมตีของจักรพรรดิปิศาจเทียมได้อย่างง่ายดาย หลังจากนั้นเขาก็ฟาดกระบองเข้าใส่เกราะพลังฉีของจักรพรรปิศาจเทียม
ในเสี้ยววินาทีมิติรอบตัวจักรพรรดิปิศาจเทียมก็พังทลายเป็นชิ้นๆ หลังจากนั้นเกราะพลังฉีของมันและชุดของมันกว่าครึ่งก็แตกออก ในแรงปะทะนี้ยักษ์ที่สูงกว่า 10 ม.ก็ตัวสูงแค่เพียง 2 ม.ก่อนที่เส้นเอ็นและกระดูกจะหัก ในขณะเดียวกันมันก็มีเลือดไหลออกมาจากตา, หู, ปากและจมูก เกล็ดสีดำกระจายไปทั่วทุกทิศทาง หนามที่หลังเองก็หัก มันกระเด็นกลับไปที่พื้นจนทำให้ฝุ่นกระจายขึ้นมา
" ผู้หญิงไม่ควรถามว่าทำไมผู้ชายถึงได้แข็งแรง ! ตั้งแต่โบราณแล้ว ความเมตตาและคุณธรรมนั้นเป็นเพียงแค่คำลวง เจ้าไม่รู้รึว่าเสือและสิงโตนั้นมีเกียรติได้ด้วยการจับเหยื่อ ? ใครกันบ้างที่จะสงสารกวาง ? ในโลกนี้คนแข็งแกร่งมักจะกินคนอ่อนแอ แม้ว่าคนอ่อนแอจะร้องหาถึงความยุติธรรมก็ตาม อย่าถามว่าทำไม! ผู้ชายควรที่จะทำตัวสมชาย ! ผู้ชายควรจะดุดันและไม่มีความเมตตา ผู้ชายควรที่จะสู้กับศัตรูในสนามรบและทำตัวราวกับหมี เมื่อเจ้าเกิดมาเป็นผู้ชายแล้ว เจ้าก็ควรจะฆ่าปิศาจ อย่าทำตัวเป็นสตรี.."
บทเพลงของ จางเทีย ดังขึ้นมา มันมีพลังฉีที่ราวกับเหล็กเสียดสีกัน จางเทีย ไล่ตามจักรพรรดิปิศาจเทียมและโจมตีเป้าหมายอีกครั้งตอนที่จักรพรรดิปิศาจเทียมได้ตกลงไปที่พื้น…
ตอนนั้นจักรวาลดูเหมือนว่าหยุดนิ่งไป ปิศาจกว่าแสนตัวในบอลสวรรค์และมนุษย์นับไม่ถ้วนด้านนอกนั้นต่างก็ตะลึงกับการโจมตีของ จางเทีย
ในเวลาเดียวกันนั้นเปลวไฟและแรงปะทะก็แผ่ไปทุกทิศทางทำให้ทุกอย่างที่พื้นระเหยในเสี้ยววินาที ผลก็คือปิศาจกว่าแสนตัวในระยะ 1,000 ม.ก็ได้กลายเป็นเถ้า พื้นดินราวกับคลื่นในท้องทะเล มันครอบคลุมพื้นที่กว่า 1,000 ไมล์
นายพลมนุษย์และนายพลปิศาจเกือบจะสลบเพราะแรงกระแทกนี้เมื่อมองไปยังจุดที่ จางเทีย โจมตีจักรพรรดิปิศาจเทียม…
ในเสี้ยววินาทีลำแสงพลังฉีสีม่วงแดงกว้างกว่า 10 ม.ก็ได้พุ่งขึ้นสูงกว่า 700,000 ม.และทำให้ธาตุรอบๆต้องปะทุขึ้นมา ในเวลาเดียวกันธาตุทั้งสี่ก็เริ่มจางหายไป..
เมื่อเห็นลำแสงนี้และธาตุดิน,น้ำ,ลมและไฟที่หายไป กองทัพปิศาจก็กลัวจนเกือบตาย จักรพรรดิปิศาจภูเขาดำถึงกับต้องร้องออกมาด้วยความรู้สึกเศร้า…
ตอนที่เสือดาวตายไป ขนของมันยังคงอยู่ ตอนที่ห่านตายไป มันก็เหลือปากของมันเอาไว้
ลำแสงพลังฉีนี้ไม่ใช่ควันพลังฉีแต่เป็นพลังฉี, เลือด, จิตวิญญาณ, จักระและพลังฉีของจักรพรรดิในโลกนี้
ไม่ต้องเดาเลยว่าจักรพรรดิปิศาจเทียมเพิ่งตายต่อหน้าพวกมัน !