Banished Disciple’s Counterattack - BDC ตอนที่ 14 ถามหาความผิดกับเย่เฉิน (2)
ตอนที่ 14 ถามหาความผิดกับเย่เฉิน (2)
จ้าวหลงมาระบายความโกรธใส่เย่เฉินแทนจางเทาผู้นั้นเอง เปรียบเทียบกับจางเทาแล้ว จ้าวหลงผู้นี้มีพื้นฐานการฝึกตนที่แข็งแกร่งกว่า แน่นอนว่าย่อมต้องหยิ่งยโสโอหังยิ่งกว่าด้วยเช่นกัน
ทันใดนั้น จ้าวหลงก็วางมือลงบนบ่าของเย่เฉิน
พลังปราณของมันรุกล้ำเข้าไปในร่างของเย่เฉินและโคจรกระแทกกระทั้นอยู่ภายในนั้นอย่างไร้ทิศทาง
เย่เฉินขมวดคิ้ว ทว่ายังคงยืนนิ่งไม่ได้ตอบโต้ เพียงโคจรพลังวิญญาณจากทะเลปราณขึ้นมาสกัดกั้นพลังปราณของจ้าวหลงไว้ได้อย่างง่ายดาย
จ้าวหลงตกตะลึงระคนประหลาดใจอย่างยิ่ง ที่พบว่าพลังปราณของตนถูกสะกดข่มไว้ได้ ทว่าก็ยังเอ่ยขึ้นอย่างล้อเลียน “เจ้าเด็กน้อย ข้าคงดูเบาเจ้าเกินไปจริงๆ”
“เขาโจมตีข้าก่อน ข้าหาได้มีความผิดใดให้ถือโทษไม่” เย่เฉินเหลือบมองอีกฝ่ายด้วยสีหน้าไร้ความรู้สึก เขาสามารถทุบตีจางเทาจนกระเด็นไปได้ และกับจ้าวหลงผู้นี้ก็เช่นกัน แม้ว่าอีกฝ่ายจะขึ้นถึงขั้นควบรวมลมปราณระดับห้าแล้ว แต่เย่เฉินก็มั่นใจว่าจะสามารถเอาชนะจ้าวหลงผู้นี้ได้
“เยี่ยม” จ้าวหลงปรบมือและแสร้งเอ่ยขึ้นอย่างตื่นเต้นยินดี “ข้าชอบนักล่ะ ต่อสู้กับพวกที่ทำเป็นว่าตัวเองแข็งแกร่งเสียเต็มประดาเนี่ย”
พลังปราณเริ่มโคจรพลุ่งพล่านอยู่ในร่างกายของมัน จ้าวหลงเตรียมตัวจะเอาชนะเย่เฉินภายในกระบวนท่าเดียว
เย่เฉินมิได้แสดงความอ่อนด้อยออกมาแม้แต่น้อย เพียงหนึ่งความคิดของเย่เฉิน ก็ทำให้พลังวิญญาณที่สถิตย์อยู่ในทะเลปราณของเขาเดือดพล่านขึ้นมาทันที
เมื่อเห็นว่าทั้งสองเตรียมตัวจะต่อสู้กัน ก็ดึงดูดความสนใจจากศิษย์อื่นที่อยู่โดยรอบได้ทันที
“พวกเขากำลังจะประลองกัน!”
“พื้นฐานฝึกตนของเจ้าหนุ่มนั่นอยู่เพียงระดับแรกของขั้นควบรวมลมปราณ จะไปรับมือจ้าวหลงได้อย่างไร นี่เขาเสียสติไปแล้วหรือ”
“นี่พวกเจ้าจะกบฎกันรึ” ผู้อาวุโสประจำสำนักผู้รับหน้าที่ดูแลตำหนักรับภารกิจพลันเหลียวหน้ามาตะโกนใส่พวกเขาด้วยสุ้มเสียงอันน่าเกรงขาม “ที่นี่คือตำหนักรับภารกิจ ไม่ใช่ที่ให้พวกเจ้ามาก่อกวนวุ่นวาย หากต้องการจะประลองกัน ก็จงไปยังแท่นเมฆาวายุเสีย ไปให้พ้น!”
ทั้งจ้าวหลงและเย่เฉินต่างก็ถูกขัดคอโดยผู้อาวุโสสำนัก คนแซ่จ้าวจึงจำต้องควบคุมตนเอง และเย่เฉินก็เก็บพลังวิญญาณอันพลุ่งพล่านของตนกลับเข้าไป
“เจ้าเด็กน้อย สักวันข้าจะต้องแก้แค้นเจ้าแน่” จ้าวหลงแสยะยิ้มเย็นชา ก่อนจากไปก็ยังไม่ลืมเอ่ยวาจาข่มขู่เย่เฉินด้วยท่วงท่ายโสโอหัง
“ข้าจะรอวันนั้น” เย่เฉินเองก็มีประกายเย็นเยียบวาบผ่านดวงตาคมกริบ เขาหมุนกายผละออกไป เหลือบมองไปยังแท่นหินแล้วหยิบเอาแผ่นหยกภารกิจที่ให้กำจัดหมาป่าเพลิง ซึ่งไม่ได้อยู่ในระดับสูงเท่าใดนัก
หลังจากรับแผ่นหยกภารกิจเสร็จเรียบร้อย เขาก็ออกจากตำหนักรับภารกิจไปทันที รู้แน่แก่ใจว่าวันเวลาในการฝึกตนต่อจากนี้คงยากที่จะอยู่ในความเงียบสงบได้อีก
เย่เฉินมุ่งหน้าตรงไปยังบริเวณตีนเขา
เขาแวะเข้าไปเยี่ยมเยียนจางเฟิงเหนียนและหู่หวาขณะที่เดินผ่านสวนจิตวิญญาณย่อย
“เป็นคนเหล่านี้ที่ทำให้ข้ารู้สึกอบอุ่นใจขึ้นมาอีกครั้ง ทำให้ข้าเข้าใจว่ามีบางคนที่ตนต้องปกป้องให้จงได้” เย่เฉินเดินลงไปตามภูเขาวิญญาณ มองตรงไปสู่อนาคตข้างหน้าอันสว่างเจิดจ้าของตน เขาตั้งใจจะพยายามให้จงหนัก เพื่อวันข้างหน้าจะได้สามารถปกป้องคุ้มครองบรรดาคนที่ตัวเองใส่ใจไว้ให้ได้
ห่างจากสำนักเหิงเยว่ออกมาสิบกว่าลี้เป็นผืนป่าสัตว์อสูรแห่งหนึ่ง เป็นที่ซึ่งบรรดาศิษย์จะมาทำภารกิจกำจัดสัตว์อสูรของตนให้สำเร็จเสร็จสิ้นไป
หลังจากกำหนดทิศทางได้แล้ว เย่เฉินก็พันม้วนเชือกทบไว้บนดาบเทียนชุ่ย แล้วมุ่งหน้าตรงไปยังผืนป่าสัตว์อสูร
ผ่านไปราวๆ หนึ่งชั่วโมง เขาจึงชะงักเท้าลงหอบหายใจอยู่ตรงหน้าผืนป่าดงดิบหนาทึบแห่งหนึ่ง – นี่ก็คือป่าสัตว์อสูร อาณาบริเวณนั้นกว้างใหญ่ไพศาลไร้ขีดจำกัด เต็มไปด้วยต้นไม้โบราณสีเขียวขจียืนต้นตั้งตระหง่านอยู่ด้านใน เย่เฉินสามารถสูดดมได้กลิ่นคาวเลือดอันป่าเถื่อนโหดร้ายที่ฟุ้งกระจายอยู่ในอากาศที่ลอยพัดออกมาจากผืนป่าได้อย่างเลือนราง
“ข้าจะเริ่มงานล่ะ” เย่เฉินสูดลมหายใจเข้าลึกเต็มปอด ขยับฝีเท้าก้าวย่างเข้าไปยังป่าสัตว์อสูร
***************
อ่านแล้วชอบเข้ามากดไลค์นะครับ
แฟนเพจ จักรพรรดิยุทธ์อมตะอหังการ์ BDC –นิยายแปล
ลงก่อนในเว็ปนะ