หน้าแรก Amnovel
  • หน้าแรก
  • นิยายทั้งหมด
  • เติมเงิน
  • ติดต่อเรา
ค้นหา
ค้นหาขั้นสูง
เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก
  • หน้าแรก
  • นิยายทั้งหมด
  • เติมเงิน
  • ติดต่อเรา
  • เข้าสู่ระบบ
เข้าสู่ระบบ
Prev
Next

Banished Disciple’s Counterattack - BDC ตอนที่ 9 ดาบหนักนามเทียนชุ่ย (1)

  1. หน้าแรก
  2. Banished Disciple’s Counterattack
  3. BDC ตอนที่ 9 ดาบหนักนามเทียนชุ่ย (1)
Prev
Next

ตอนที่ 9 ดาบหนักนามเทียนชุ่ย (1)

เย่เฉินเดินออกจากหอจิ่วชิงและมุ่งตรงไปยังหอเครื่องมือวิญญาณตามเส้นทางที่ได้รับการบอกกล่าวมาแล้ว

 

ผู้ที่ประจำการอยู่ ณ หอเครื่องมือวิญญาณแห่งนี้เป็นผู้อาวุโสประจำสำนักร่างอวบหนาแข็งแรงพร้อมด้วยดวงตาตี่ๆ ทั้งคู่ที่ดูเล็กยิบหยีจนแทบมองไม่เห็น หากมองผาดๆ จะพบว่ามันดูเหมือนองค์พระหมีเล่อโฝว (弥勒佛) [1] ที่เปิดเปลือยพระอุระ

 

บรรดาศิษย์ในสำนักเหิงเยว่ต่างก็เรียกขานมันว่า ‘โจวต้าฝู’

 

“ผู้อาวุโส” เย่เฉินโค้งกายลงทำความเคารพอย่างนอบน้อม มองดูโจวต้าฝูที่เอนกายนอนอยู่บนเก้าอี้โยกอย่างเกียจคร้านซึมกะทือ

 

“เจ้าหนุ่ม ข้าไม่เคยเห็นหน้าเจ้ามาก่อน” นัยน์ตาของโจวต้าฝูเปล่งประกายเข้มขึ้นขณะที่มันขยับกายลุกขึ้นนั่ง ปรายตามองเย่เฉินขึ้นๆ ลงๆ

 

เย่เฉินเอ่ยตอบพร้อมยื่นส่งป้ายหยกให้ “ข้าเป็นศิษย์ฝึกหัดที่เพิ่งมาใหม่ ผู้อาวุโสสำนักนามชิงอีชี้แนะมาว่าข้าสามารถเลือกเครื่องมือวิญญาณจากที่นี่ได้หนึ่งชิ้น”

 

บุรุษแซ่โจวรับเอาป้ายหยกไป พลิกดูก่อนจะโยนคืนให้กับเย่เฉิน สะบัดมือไปมาเล็กน้อย จากนั้นโจวต้าฝูก็กลับไปนอนเอนหลังบนเก้าอี้โยกดังเดิม เอ่ยตอบอย่างเรียบเฉย “เจ้าเพียงเข้าไปข้างในแล้วเลือกหยิบมาสักชิ้นก็ใช้ได้! ทว่าศิษย์ฝึกหัดนั้นจะสามารถเลือกได้เพียงอาวุธวิญญาณที่จัดเก็บไว้ยังชั้นหนึ่งเท่านั้น อย่าได้พยายามลักลอบเข้าไปในชั้นสองเล่า”

 

“อืม….!”

 

เย่เฉินก้าวเท้าเข้าไปในหอเครื่องมือวิญญาณหลังจากเก็บป้ายหยกของตนเองเข้าที่เรียบร้อยแล้ว

 

ชั้นแรกของหอเครื่องมือวิญญาณนั้นกว้างยาวหลายพันจ้าง(พันจ้างคิดเป็นประมาณสองพันสองร้อยเมตร) ทั้งยังใหญ่โตพอจะจัดเก็บอาวุธหลากหลายประเภทไว้มากมาย เครื่องมือวิญญาณแต่ละชิ้นต่างก็ดูแวววับจับตาราวกับบุปผาเพลิงที่ส่องประกายสว่างเจิดจ้า

 

“ไม่เหนือความคาดหมาย อาวุธในนี้ล้วนด้อยค่า” เย่เฉินลอบผิดหวังอยู่เล็กน้อย เนื่องเพราะเขาสามารถเลือกสรรได้เพียงเครื่องมือวิญญาณคุณภาพต่ำจากชั้นแรกนี้เท่านั้น

 

ไม่นานเขาก็สะกดข่มความคิดนั้นเอาไว้ในใจ เย่เฉินยกดาบที่มีด้ามจับรูปปีศาจเล่มหนึ่งขึ้นมา แต่แล้วก็สั่นศีรษะพลางพึมพำอย่างผิดหวัง “นี่เบาเกินไปแล้ว”

 

เย่เฉินวางดาบเล่มนั้นลงไป แล้วหยิบดาบวิญญาณขึ้นมา แม้ว่าดาบนั้นจะคมกริบอย่างยิ่ง เย่เฉินก็ยังคงวางมันกลับลงไป

 

เขายังคงหยิบเลือกอาวุธขึ้นมาและวางมันกลับลงไปเช่นนี้ ราวกับผู้คนที่กำลังเลือกซื้อผักกาดอยู่ในตลาดสด หลังจากหยิบๆ วางๆ อยู่ครู่ใหญ่ เย่เฉินก็ยังไม่พึงพอใจกับอาวุธชิ้นไหนเลย อาวุธเหล่านี้เป็นสิ่งที่ตัวเขาในอดีตไม่เคยคิดแม้แต่จะเหลือบมองด้วยซ้ำ ทว่าช่วงเวลาอันดีงามในวันเก่าๆ เหล่านั้นล้วนสูญสลายไปแล้ว ยามนี้เขาไร้ซึ่งทางเลือกอื่นใด จำต้องเลือกเอาจากหนึ่งในเครื่องมือด้อยค่าเหล่านี้เท่านั้น

 

จนกระทั่งควานหาดูทั่วทั้งชั้นหนึ่งแล้ว เขาก็ยังไม่อาจตัดสินใจได้ว่าจะเลือกอาวุธชิ้นใด

 

อย่างไรก็ตาม จู่ๆ อัคคีเที่ยงแท้ในทะเลปราณของเขาก็พลันเปล่งแสงวาบขึ้นมา เปลวเพลิงเส้นเล็กเรียวบางดั่งเส้นผมแยกตัวออกมาจากอัคคีเที่ยงแท้ แล้วปลิวหลุดออกมาจากร่างกายเย่เฉิน

 

เย่เฉินรีบพุ่งกายตามเปลวเพลิงเส้นนั้นไปอย่างตกตะลึงระคนงุนงง แล้วจึงมาถึงยังแท่นหินแห่งหนึ่ง ซึ่งมีดาบเหล็กสีดำสนิทวางอยู่ด้านบน อาจบางทีเป็นเพราะถูกวางทิ้งไว้นานหนักหนาแล้ว ตัวดาบจึงมีฝุ่นผงเกาะเต็ม เปลวอัคคีเที่ยงแท้แล่นไปหมุนวนวูบวาบรอบๆ ตัวดาบ

 

ระหว่างที่เย่เฉินกำลังตะลึงงัน ดาบนั้นก็เข้ามาอยู่ในมือเขาแล้ว เขากำลังคิดจะตรวจสอบเครื่องมือวิญญาณที่ถูกเลือกสรรโดยอัคคีเที่ยงแท้

 

ทว่าเขากลับประเมินความหนักของดาบเล่มนี้ต่ำเกินไป จึงไม่อาจจะถือมันไว้ได้แม้แต่ลมหายใจเดียว

 

“มันต้องหนักอย่างน้อย 200 จิน(100 กิโลกรัม)เป็นแน่” เย่เฉินคาดการณ์น้ำหนักของตัวดาบเล่มนี้ เป็นเรื่องยากยิ่งที่ศิษย์ทั่วๆ ไปจะยกดาบที่หนักอึ้งถึงเพียงนี้ได้ เพียงยกมันขึ้นมาก็ต้องสูญเสียพลังปราณไปมหาศาลแล้ว หากผู้ฝึกตนคิดต่อสู้กับผู้อื่นโดยใช้กระบี่เล่มนี้ ไม่ทันจะถูกโจมตีจนพ่ายแพ้ก็คงเหน็ดเหนื่อยจนหมดแรงไปเองก่อนแล้ว ไม่ยากที่จะจินตนาการว่าเหตุใดมันจึงถูกวางทิ้งไว้ที่นี่โดยไร้ซึ่งผู้ใดสนใจอยู่เป็นเวลานาน

 

ทว่าความสนใจที่เย่เฉินมีต่อดาบเล่มนี้ก็เพิ่มขึ้นด้วยเหตุนี้เอง

 

“ใช้พลังปราณโยกเคลื่อนได้” เย่เฉินยกดาบขึ้นมาแล้วเป่าเศษฝุ่นซึ่งเกาะติดอยู่ที่ผิวนอกออกไป

 

เขาสามารถสัมผัสได้ถึงความผิดที่ผิดทางของดาบเล่มนี้ ทั้งยังได้เห็นตัวอักษรสองพยางค์ – เทียนชุ่ย(天阙) ถูกสลักไว้บนด้ามจับ

 

“เทียนชุ่ย” เย่เฉินกระซิบพลางพินิจพิจารณาตัวดาบอย่างใกล้ชิด

 

ขอบของมันยังไม่ถูกลับคม ซ้ำยังดูหนากว้างกว่าใบดาบวิญญาณทั่วไป เขาไม่อาจวิเคราะห์ได้ว่าทำจากวัสดุชนิดใด แต่ก็สัมผัสได้ถึงร่องรอยรูปลักษณ์ของความเก่าแก่โบราณที่ถูกสลักไว้บนตัวดาบอันหนักอึ้งของมัน

———————-

[1] องค์พระหมีเล่อโฝว (弥勒佛) คือพระศรีอาริยเมตไตรย รูปปั้นของท่านในจีนส่วนใหญ่จะมีรูปร่างอ้วนท้วนสมบูรณ์ รูปประกอบ: https://goo.gl/images/bsXuTJ

 

*********************

อ่านแล้วชอบเข้ามากดไลค์นะครับ

แฟนเพจ จักรพรรดิยุทธ์อมตะอหังการ์ BDC –นิยายแปล

 

Prev
Next

ความคิดเห็นสำหรับ "BDC ตอนที่ 9 ดาบหนักนามเทียนชุ่ย (1)"

5 1 โหวต
คุณชอบเรื่องนี้ไหม?
ติดตาม
เข้าสู่ระบบ
แจ้งเตือนของ
กรุณาเข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่คุณอาจชอบ

Start With Contracting Sprites
Start With Contracting Sprites
พฤษภาคม 28, 2022
ขยะแห่งตระกูลเคานต์ (Trash of the Count s family)
ขยะแห่งตระกูลเคานต์ (Trash of the Count s family)
พฤษภาคม 20, 2022
davisam
จักรพรรดิเทพมรณะ
มกราคม 14, 2023
The Alchemist God ทะลุมิติเทพศาสตรา
The Alchemist God ทะลุมิติเทพศาสตรา
มกราคม 12, 2023
อัศวินดำโค่นอำนาจ(黑骑)
อัศวินดำโค่นอำนาจ(黑骑)
มีนาคม 12, 2022
การกลับมาของฮีโร่
การกลับมาของฮีโร่
พฤษภาคม 17, 2022
ประวัติการเข้าชม
You don't have anything in histories
หมวดหมู่นิยาย
  • sci-fi (24)
  • Video Games (11)
  • กำลังภายใน (36)
  • จีนกำลังภายใน (1)
  • ดราม่า (3)
  • ตลก (3)
  • นิยายลิขสิทธิ์ (18)
  • นิยายแต่ง (3)
  • ย้อนยุค อนาคต (7)
  • สยองขวัญ (2)
  • เกมส์ออนไลน์ (5)
  • แฟนตาซี (161)

© 2025 Madara Inc. All rights reserved

Premium Chapter

คุณจำเป็นต้องเข้าสู่ระบบก่อน

wpDiscuz