Banished Disciple’s Counterattack - BDC ตอนที่ 8 ลูกศิษย์ที่ไม่มีผู้ใดต้องการ (2)
ตอนที่ 8 ลูกศิษย์ที่ไม่มีผู้ใดต้องการ (2)
หลังจากอ่านจดหมายเสร็จ ผู้อาวุโสชิงอีก็ส่งต่อให้มันกับปรมาจารย์ระดับหัวหน้าทั้งสาม แล้วแย้มยิ้มเอ่ยคำ “ศิษย์พี่ทั้งหลาย สหายน้อยผู้นี้มีนามว่าเย่เฉิน ได้รับการแนะนำจากจางเฟิงเหนียน ข้าจึงใคร่ปรึกษากับพวกท่านในเรื่องการเลือกสรรอาจารย์ให้กับหนุ่มน้อยแซ่เย่ผู้นี้ พวกท่านมีผู้ใดจะเป็นอาจารย์ให้เย่เฉินหรือ โปรดไว้หน้าจางเฟิงเหนียนสักครั้ง”
“โอ้? หาได้ยากนักที่จางเฟิงเหนียนจะแนะนำศิษย์ให้กับพวกเรา” จดหมายถูกส่งมอบหมุนเวียนกันไปในมือของทั้งสามคน แล้วก็พากันมองดูเย่เฉินขึ้นๆ ลงๆ
“เจ้าอายุกี่ปีแล้ว” จงเหล่าเต้าผู้มีหน้าท้องกลมโตปรายตามองมายังเย่เฉิน
“สิบหกขวบปีขอรับ”
“สิบหก” ผู้แซ่จงได้ยินดังนี้ก็เลิกคิ้วชี้ชัน “ผู้ฝึกตนอายุสิบหกขวบปีผู้หนึ่งกลับบรรลุถึงได้เพียงระดับหนึ่งของขั้นควบรวมลมปราณ พรสวรรค์ของเจ้านี่ช่าง…”
กระแอมกระไอเล็กน้อยแล้วก็ลุกขึ้นยืนอย่างไม่ใยดี มันตบไปที่หน้าท้องกลมโตของตนเองเบาๆ พลางเอ่ย “เอ ดูเหมือนว่าข้ามีเรื่องที่ต้องไปจัดการในยอดเขาเทียนหยาง คงต้องขอตัวก่อนแล้ว”
พูดยังไม่ทันจบประโยคดี บุรุษร่างอวบแซ่จงก็วิ่งถลาออกไปจากห้องโถงอย่างรวดเร็วจนไม่เห็นฝุ่นแล้ว ด้วยเกรงว่าจะถูกผู้อาวุโสชิงอีผู้นี้ฉุดรั้งไว้จนต้องรับเย่เฉินเข้าไปเป็นศิษย์
หลังคนแซ่จงจากไปได้เพียงชั่วขณะ เก่อหงเองก็หยัดกายลุกขึ้นยืนพร้อมเอามือไพล่หลัง ปรายตามองเย่เฉินอย่างดูถูกเหยียดหยาม “ทางยอดเขาตี้หยางเองก็มิเคยต้องการคนไร้ค่า”
ผู้แซ่เก่อก็ออกไปจากห้องโถงเช่นกัน
ผู้อาวุโสชิงอีได้แต่ต้องจ้องเขม็งไปที่ชิงหยางเจินเหริน “ศิษย์พี่ชิงหยาง โปรดเห็นแก่หน้าข้าสักครั้ง รับเย่เฉินเป็นศิษย์ของท่านด้วยเถิด”
ชิงหยางเจินเหรินขมวดคิ้วแน่น จากนั้นก็ส่ายศีรษะอย่างเชื่องช้า “ศิษย์น้องชิงอี ช่องว่างระหว่างระดับพลังของเขากับเงื่อนไขข้อจำกัดที่ยอดเขาเหรินหยางของข้าต้องการนั้นห่างชั้นกันเกินไป พรสวรรค์ของเขาต่ำต้อยเกินกว่าจะเข้าไปยังยอดเขาเหรินหยางได้ ขออภัย คำขอของเจ้านี้ข้ารับไว้ไม่ได้”
“แต่…”
“ข้ายังมีกิจธุระต้องจัดการ ขอตัวไปก่อนแล้ว” ชิงหยางเจินเหรินสะบัดแขนเสื้อคราเดียวก็พุ่งทะยานจากไปไกล
ปรมาจารย์ระดับหัวหน้าทั้งสามพากันจากไปทีละคน เห็นได้ชัดว่าแต่ละคนล้วนปฏิเสธไม่ยอมรับเย่เฉินเป็นศิษย์
เย่เฉินเข้าใจเรื่องทั้งหมดได้ไม่ยาก น่าเหลือเชื่อเพียงใดที่ผู้ฝึกตนอายุสิบหกคนหนึ่งกลับยังบรรลุเพียงระดับแรกของขั้นควบรวมลมปราณ คนเหล่านั้นย่อมต้องถูกหัวเราะเยาะเย้ยหากพวกมันไม่อาจสั่งสอนชี้แนะศิษย์พรสวรรค์ต่ำผู้หนึ่งให้ก้าวหน้าด้วยดีได้
หากพวกมันได้รับรู้พรสวรรค์ที่แท้จริงของเย่เฉิน มีหรือจะไม่วิ่งแจ้นกลับมาและแก่งแย่งแข่งขันกัน
เห็นหัวหน้าปรมาจารย์ทั้งสามจากไปกันทีละคน ผู้อาวุโสชิงอีก็ดูอับอายขายหน้า
เขากระแอมกระไอและมองดูเย่เฉินด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม “สหายน้อย เจ้ายอมเป็นศิษย์ฝึกหัดหรือไม่”
“ไม่เป็นไรขอรับ บางทีข้าอาจได้เป็นศิษย์ทั่วไปในสักวันหนึ่ง”
“ดีมาก” อาวุโสสำนักชิงอีดึงเอาป้ายหยกขาวออกมาจากแขนเสื้อ พลังชีวิตหมุนวนรอบปลายนิ้วของเขา จากนั้นก็มีตัวอักษรนาม ‘เย่เฉิน’ ถูกสลักเสลาไว้ เขาส่งมอบป้ายให้กับเย่เฉิน แล้วจึงแย้มยิ้มให้ “หนุ่มน้อย นี่เป็นป้ายหยกของเจ้า”
นอกจากป้ายหยก อาวุโสชิงอียังได้หยิบเอาขวดหยกที่ปิดมิดชิดออกมาขวดหนึ่ง จากตำแหน่งที่เย่เฉินยืนอยู่ยังได้กลิ่นหอมของโอสถ ไม่ต้องสงสัยเลยว่าข้างในขวดนั้นย่อมต้องเป็นน้ำยาวิญญาณที่ช่วยในการฝึกตนแน่นอน
“ศิษย์ฝึกหัดไม่อาจได้รับชุดเครื่องแบบหรือเคล็ดฝึกตนประจำสำนักของเราได้ ดังนั้นจึงมีเพียงขวดหยกน้ำยาวิญญาณขวดเดียวนี้ที่จะมอบให้เจ้าได้”
“ขอบคุณผู้อาวโส” เย่เฉินตอบคำ แล้วจึงรับเอาน้ำยาวิญญาณมา สำหรับเขาเรื่องชุดเครื่องแบบนั้นหาได้สำคัญอันใดทั้งสิ้น
“เอาล่ะ คราวนี้เจ้าก็ไปยังหอเครื่องมือวิญญาณและเลือกเครื่องมือของตนได้ชิ้นหนึ่ง!” อาวุโสชิงอีตบไหล่เย่เฉินด้วยรอยยิ้มเต็มใบหน้า พร้อมทั้งกล่าวด้วยน้ำเสียงนุ่มนวลอ่อนโยนราวกับว่าเขาเป็นผู้อาวุโสของเย่เฉิน “หนุ่มน้อย จงพากเพียรให้มาก! ข้าจะรอดูความก้าวหน้าของเจ้าภายในสามเดือน”
***************
ในแฟนเพจจะลงก่อนในเว็ป ใครอยากอ่านก่อนอย่าลืมเข้ามากดไลค์นะครับ
แฟนเพจ จักรพรรดิยุทธ์อมตะอหังการ์ BDC –นิยายแปล