Banished Disciple’s Counterattack - BDC ตอนที่ 4 เปลวอัคคีตกลงมาจากสวรรค์(2)
ตอนที่ 4 เปลวอัคคีตกลงมาจากสวรรค์(2)
ด้วยลำคอที่แห้งผาก บุรุษหนุ่มพลันอ้าปากขึ้นมา เมื่อเพ่งมองเข้าไปยังจุดตันเถียนของเขาที่เกิดการเปลี่ยนแปลงชนิดพลิกฟ้าคว่ำดินแล้วก็ถึงกับอ้าปากค้าง “นี่….นี่คือทะเลปราณในตันเถียนหรือ?”
ระดับขั้นการฝึกตนนั้นมีอยู่ด้วยกันห้าระดับ: ควบรวมลมปราณ, ปุถุชนหยวน, หยางแท้, พลังวิญญาณเสมือน, รัตติกาลว่างเปล่า และ สวรรค์สันโดษ
ที่เย่เฉินตกตะลึงพรึงเพริดไปนั้นเป็นเพราะสิ่งที่เรียกว่า ‘ทะเลปราณในตันเถียน’ นั้นอยู่สูงกว่าจุดตันเถียนธรรมดาอยู่ขั้นหนึ่ง มีเพียงเมื่อผู้ฝึกตนบรรลุขึ้นถึงระดับรัตติกาลว่างเปล่าได้แล้วเท่านั้น พวกเขาจึงจะสามารถเปิดใช้ทะเลปราณในตันเถียนได้ ทว่ากลับเหนือความคาดคิดของเขา อัคคีเที่ยงแท้นั้นไม่เพียงแต่จะฟื้นฟูจุดตันเถียนของเขา ทว่ากลับกระตุ้นเปิดทะเลปราณในตันเถียนให้เขาอีกด้วย
ในพริบตานั้น พลังวิญญาณอันบางเบาที่อยู่ระหว่างสวรรค์และโลกก็พลันกระเพื่อมไหว
ไม่นานพลังงานเหล่านั้นก็หมุนวนรอบกายเย่เฉิน ก่อร่างเป็นวังน้ำวนของพลังวิญญาณล้อมกักเขาไว้ แล้วซึมซาบพุ่งผ่านเข้าไปในร่างกายของเขาผ่านทางจุดเส้นลมปราณและรูขุมขนทั้งหมด แล้วสุดท้ายจึงแล่นพล่านเข้าไปในจุดตันเถียนของเขา
รูขุมขนทั้งหมดในร่างกายของเย่เฉินเปิดอ้าออก เรือนร่างของเขาดูดซับเอาพลังวิญญาณที่ผสานอยู่ระหว่างสวรรค์และโลกนี้เข้าไปอย่างบ้าคลั่งราวกับหลุมไร้ก้น
ชั่วขณะนี้เอง อัคคีเที่ยงแท้ก็พลันมีปฏิกิริยาขึ้นมาอีกครั้ง พลังงานทั้งหมดที่พลุ่งพล่านเข้าไปในจุดปราณของเย่เฉินถูกสกัดกลั่นโดยเจ้าเปลวเพลิง และกลายเป็นพลังงานแท้จริงสีทองสว่าง แม้แต่ทะเลปราณที่แห้งเหือดก็เป็นสีทอง ทั้งยังมีพลังงานสีทองไหลวนอยู่ที่นั่น
“เจ้าเปลวไฟสามารถสกัดกลั่นพลังงานแท้จริงได้อย่างไรกัน!”
เย่เฉินจ้องมองทะเลปราณในตันเถียนของเขาด้วยดวงตาเลือนรางราวปกคลุมด้วยเมฆหมอก เซถลาคราหนึ่ง แล้วล้มฟุบลงบนพื้นสิ้นสติสมประดีไป
ในยามเช้าตรู่ แสงสว่างจ้าอันอบอุ่นสาดส่องผ่านบานหน้าต่าง ทาบทอลงบนใบหน้าของเย่เฉิน
บุรุษหนุ่มค่อยๆ เปิดเปลือกตาขึ้นอย่างช้าๆ แล้วจึงเห็นใบหน้าไร้เดียงสาพร้อมดวงตากลมโตกำลังกะพริบปริบๆ อยู่ตรงหน้าเขา
“พี่ชาย ท่านตื่นแล้ว” เด็กชายผู้นั้นแย้มยิ้มเห็นฟันขาวสะอาดสองแถว
“เจ้าเป็นใครกัน?” เย่เฉินพลันผุดลุกขึ้นนั่งทันที มองไปยังเด็กชายและบรรยากาศรอบๆ กายเขา แล้วจึงพบว่าตนเองอยู่ในสถานที่แปลกตาไม่คุ้นเคย “นี่ข้าอยู่ที่ไหน ข้ามาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร”
เด็กชายที่ใสสะอาดบริสุทธิ์นั้นตอบคำด้วยรอยยิ้มสัตย์ซื่อ “ข้าชื่อหู่หวา ที่นี่เป็นสวนวิญญาณขนาดเล็กแห่งสำนักเหิงเยว่ ท่านสลบไสลไม่ได้สติอยู่ในป่าเมื่อคืนนี้ ท่านตาของข้ากับข้าก็เลยช่วยกันพาท่านมาที่บ้าน”
“เหิง…สำนักเหิงเยว่?” คำตอบนี้ทำให้เย่เฉินมึนงงขึ้นมา
ในรัฐต้าฉู่นี้ถูกควบคุมโดยหนึ่งตำหนักสามสำนัก สำนักทั้งสามนั้นได้แก่ เจิ้งหยาง, ชิงหยุน และสำนักเหิงเยว่ซึ่งครอบครองดินแดนทางฝั่งใต้ ก่อให้เกิดเป็นสถานการณ์เผชิญหน้าแบบสามก๊กสามเหล่า สำนักเหิงเยว่และสำนักเจิ้งหยางนั้นเป็นคู่แข่งกัน เย่เฉินไม่เคยคาดคิดเลยว่าหลังจากเพิ่งถูกขับออกจากสำนักมาเมื่อวาน วันนี้เขากลับต้องมาอยู่กับฝ่ายศัตรูคู่แค้นของสำนักเจิ้งหยาง – สำนักเหิงเยว่
“ท่านหิวหรือไม่ ข้าจะไปหาอะไรมาให้ท่านกิน” เห็นว่าเย่เฉินกลายเป็นเหม่อลอย หู่หวาก็วิ่งออกไปด้านนอก
เย่เฉินยังคงจมดิ่งอยู่ในห้วงภวังค์ นั่งนิ่งอยู่บนแคร่ไม้ไผ่ไม่ขยับเขยื้อน หลังจากผ่านไปครู่ใหญ่เขาจึงค่อยได้สติ และนึกย้อนความทรงจำถึงเหตุการณ์ที่ได้ประสบมาเมื่อคืน
“เมื่อคืนนี้?” ความทรงจำจากเมื่อคืนย้ำเตือนให้เย่เฉินรีบตรวจสอบร่างกายของตนทันที ทะเลปราณในตันเถียนนั้นเป็นสีทองสว่าง ดูราวกับโลกใบใหม่ ส่วนที่ว่างเปล่าด้านบนนั้นปกคลุมไปด้วยหมอกสีขาว พร้อมด้วยคลื่นพลังงานสีทองที่หมุนวนอยู่ในส่วนล่าง
“ข้ามิได้ฝันไป ทุกสิ่งทุกอย่างคือความจริง”
ลมหายใจของเย่เฉินพลันกลายเป็นรัวเร็วถี่กระชั้น หลังจากได้นอนหลับไปตื่นหนึ่ง ไม่เพียงแต่จุดตันเถียนที่แตกสลายของเขาจะฟื้นฟูขึ้นมาใหม่ แต่ยังเปิดใช้งานทะเลปราณในตันเถียนได้อีกด้วย อีกทั้ง ณ ที่แห่งนั้น พลังงานแท้จริงยังถูกสกัดกลั่นแก่นแท้ออกมามากขึ้นเรื่อยๆ ชายหนุ่มกำหมัดแน่น เย่เฉินเรียกคืนความรู้สึกทะเยอทะยานแห่งผู้ฝึกตนที่สูญหายไปนานให้ฟื้นคืนกลับมา ยามนี้ประกายตาของเขาสว่างจ้าและเต็มเปี่ยมไปด้วยพละกำลัง ยังยอดเยี่ยมเสียยิ่งกว่าตอนก่อนหน้านี้
ทุกสิ่งทุกอย่างนี้ล้วนสมควรจะเกิดจากเปลวเพลิงสีทองทั้งสิ้น
เย่เฉินนึกถึงอัคคีเที่ยงแท้ และมองเข้าไปยังตำแหน่งที่มันลอยตัวอยู่ในทะเลปราณโดยสัญชาตญาณ เปลวไฟนั้นวูบไหวราวกับเด็กน้อยที่กระโดดโลดเต้นไปมาและกู่ร้องอย่างร่าเริงยินดี
“อัคคีเที่ยงแท้ เจ้ามาจากที่ใดกัน”
ยามเมื่อเย่เฉินจุดประกายความคิดของตน เปลวเพลิงก็พลันปรากฏขึ้นบนฝ่ามือของเขา อุณหภูมิภายในห้องพุ่งสูงขึ้นอย่างรุนแรงทันที เขาไม่รู้สึกหวาดกลัวเจ้าเปลวไฟอีกต่อไปแล้ว แต่กลับรู้สึกใกล้ชิดสนิทสนมอย่างยิ่ง
“นับตั้งแต่วันนี้ เจ้าจะติดตามข้าไป” ด้วยความหฤหรรษ์เกินบรรยายที่พลุ่งพล่านอยู่ในใจ เย่เฉินแย้มยิ้มและแตะสัมผัสเปลวเพลิงวูบวาบกลุ่มนั้น
“พี่ชาย ออกมากินข้าวเช้าเถอะ!”
“ข้ากำลังไป” เย่เฉินเก็บอัคคีเที่ยงแท้กลับเข้าไปแล้วกระโดดลงจากเตียง
แฟนเพจ จักรพรรดิยุทธ์อมตะอหังการ์ BDC –นิยายแปล