Banished Disciple’s Counterattack - BDC ตอนที่ 2 ศิษย์ผู้ถูกขับไล่(2)
ตอนที่ 2 ศิษย์ผู้ถูกขับไล่(2)
‘เป็นจ้าวคัง’ เย่เฉินนึกชื่อคนผู้นี้ขึ้นมาจากความทรงจำ ก่อนหน้านี้จ้าวคังมักจะปฏิบัติต่อเย่เฉินอย่างเคารพนบนอบเสมอมา ไหนเลยจะเคยใช้น้ำเสียงเสียดสีถากถางดังเช่นวันนี้
ฟุ่บ!
ห้วงความคิดของเย่เฉินพลันถูกขัดจังหวะ จ้าวคังเดินวนรอบตัวเขาเป็นวงกลม มองดูเขาตั้งแต่หัวจรดเท้า และเอ่ยขึ้นขณะที่เดาะลิ้น “ศิษย์พี่เย่ เหตุใดท่านถึงมาตกอยู่ในสภาพน่าสังเวชปานนี้ได้เล่า ในฐานะศิษย์น้องของท่าน ข้าให้รู้สึกสมเพชเวทนาท่านนัก!”
เย่เฉินไม่คิดจะเอ่ยคำใดตอบกลับ ทำเพียงก้าวเดินผ่านจ้าวคังไปเท่านั้น
“อย่าเพิ่งไปสิ!” จ้าวคังสาวเท้ามาดักหน้าเย่เฉินไว้ โบกพัดในมืออย่างนุ่มนวล สายตามองที่เขาอย่างล้อเลียนเหยียดหยัน
“อย่ามาขวางทางข้า”
“เจ้ามันเป็นตัวสวะอะไรกัน? เจ้ากล้าบอกให้ข้าหลีกไปงั้นหรือ” รอยยิ้มของจ้าวคังพลันสลายหายไปทันที “เจ้ายังคิดว่าตนเองเป็นดังเช่นที่เคยเป็นมาก่อนหน้านี้?”
เย่เฉินสั่นสะท้าน เขาต้องการจะตอกหน้าอีกฝ่าย ทว่ากลับไม่อาจเปิดปากเอ่ยคำใดได้
จ้าวคังยืนแยกขาออก แล้วเริ่มเอ่ย “ถ้าเจ้าต้องการจะจากไป ก็ต้องคลานลอดผ่านใต้หว่างขาข้าไปเท่านั้น! บางทีข้าอาจจะใจดีมอบหินวิญญาณให้เจ้าสักหลายก้อนเป็นค่าใช้จ่ายระหว่างเดินทางด้วยนะ ฮาฮา”
“จ้าวคัง” ประกายเย็นชาวาบผ่านดวงตาอันมืดครึ้มเลือนรางของเขา เย่เฉินพลันเงยหน้าขึ้นทันที
“ศิษย์จ้าว การกระทำของท่านนี้ออกจะ…” ศิษย์คนหนึ่งที่ยืนมองอยู่ท่ามกลางฝูงชนเอ่ยพึมพำออกมาเสียงเบา ราวกับว่ามันอยากจะให้ความยุติธรรมต่อเย่เฉินบ้าง ทว่า มันเองก็ไม่มีความมั่นใจมากพอ เนื่องเพราะพื้นฐานการฝึกตนที่ยังอ่อนด้อยของตน
“เจ้าจะรนหาที่ตายหรือ” จ้าวคังหันกลับไปและตะโกนใส่ศิษย์ผู้นั้น พร้อมปรายตามองมัน ทุกคนจึงพากันเงียบเสียงลงโดยพร้อมเพรียงด้วยหวาดกลัวในพลังของคนแซ่จ้าว
หลังจากข่มขู่บรรดาศิษย์ที่ล้อมวงอยู่ให้หวาดกลัวได้แล้ว จ้าวคังก็กลับมาเหลือบมองเย่เฉิน แสยะยิ้มเยาะอย่างสาแก่ใจ “เย่เฉิน เจ้าจะคลานหรือไม่ ข้า…”
พูดยังไม่ทันจบคำ จ้าวคังก็พลันหุบปากไป เพราะพบว่ามีเรือนร่างอันงามล้ำสายหนึ่งกำลังเดินตรงมาอย่างเชื่องช้า
เสื้อผ้าพลิ้วสะบัดไปในอากาศ เส้นผมสีดำสนิทเงางามปลิวกระจาย เป็นเด็กสาวผู้มีใบหน้างดงามโดดเด่น ประดุจเทพธิดาที่ลดตัวมาเยือนโลกหล้าโดยไร้ซึ่งความแปดเปื้อนใดๆ แม้แต่น้อย
“นั่นคือศิษย์พี่หญิง ‘จีหนิงชวง’ นี่นา” แสงอันเจิดจ้าเปล่งประกายระยับอยู่ในดวงตาของบรรดาศิษย์ทั้งหลาย
ด้วยเปลวเพลิงที่เต้นระริกอยู่ในดวงตาของเหล่าศิษย์ชาย พวกมันได้เปิดเปลือยความปรารถนาและคลั่งไคล้หลงใหลออกมาจนหมดสิ้น หญิงงามจากสำนักเจิ้งหยางฝ่ายนอกผู้นี้ได้รับความชื่นชมจากศิษย์ชายทั้งหมดทุกคน
ทุกคนในสำนักเจิ้งหยางรู้กันดีว่าจีหนิงชวงนั้นปฏิบัติกับทุกคนอย่างเฉยชาไม่แตกต่างกัน ยกเว้นก็แต่เย่เฉิน ต่อหน้าตัวตนของเย่เฉินในยามก่อนหน้านี้ หญิงสาวมักจะเผยด้านที่อ่อนหวานที่สุดของนางออกมา พวกเขาทั้งสองนับได้ว่าเป็นคู่รักในอุดมคติแห่งสำนักเจิ้งหยาง
แน่นอนว่า นั่นก็เป็นเรื่องในอดีตที่ผ่านพ้นไปแล้ว ยามนี้เย่เฉินตกต่ำอย่างน่าอนาถ และจีหนิงชวงผู้หยิ่งยโสย่อมไม่แสดงใบหน้าแย้มยิ้มของนางให้เขาเห็นดังเช่นแต่ก่อนอีกแล้ว
“จีหนิงชวง” เย่เฉินพึมพำด้วยน้ำเสียงแหบพร่าฟังแทบไม่ได้ศัพท์ด้วยสีหน้าซับซ้อน เขาไม่ได้หันกลับไป
เด็กสาวผู้นี้เป็นสตรีเพียงหนึ่งเดียวที่เขาต้องการจะปกป้องคุ้มครองไปชั่วชีวิต จีหนิงชวงผู้เคยแย้มยิ้มให้กับเขาทั้งวัน พลันกลับกลายเป็นเย็นชาเหินห่างตั้งแต่วินาทีที่รู้ว่าเขาสูญเสียพื้นฐานการฝึกตนไปจนหมดสิ้น และจุดตันเถียนของเขาก็พังทลายลง
ตั้งแต่วินาทีนั้น เย่เฉินก็เข้าใจถึงคำกล่าวที่ว่าคำรักคำสาบานล้วนแต่ระเหยหายไปในอากาศ
“น้องหญิงหนิงชวง” จ้าวคังคลี่พัดออกด้วยท่วงท่าแข็งทื่อ แย้มยิ้มส่งให้นาง แตกต่างจากคนที่ทำท่าทางอำมหิตราวกับจะกินเลือดกินเนื้อเมื่อครู่โดยสิ้นเชิง
จีหนิงฃวงพยักหน้าอย่างสุภาพและส่งยิ้มตามมารยาทให้จ้าวคังด้วยท่าทีห่างเหิน ราวกับไม่มีความปั่นป่วนวุ่นวายใดๆ ในโลกหล้าที่จะมาทำให้ดวงตางดงามอันสงบนิ่งราวกับสระน้ำของนางเกิดระลอกคลื่นขึ้นมาได้
ถึงแม้จีหนิงชวงจะเคยทอดถอนใจและรู้สึกสงสารเย่เฉินอยู่บ้าง แต่นางก็เพียงก้าวย่างแผ่วเบาไปตรงหน้าเขา ดวงตาเฉยเมยของนางสื่อความหมายออกมาเพียงอย่างเดียว: ข้ากับเจ้า เราอยู่กันคนละโลก
“ลาก่อน” หญิงงามแซ่จีเอ่ยประโยคเรียบง่ายดาษดื่นออกมาด้วยน้ำเสียงหนักแน่นแฝงความเย็นชาไว้เต็มเปี่ยม
“เจ้าทำหน้าอย่านั้นหมายความว่าอะไร สงสารหรือ” เย่เฉินก้มตัวลงไปหยิบเอาห่อสัมภาระบนพื้นขึ้นมา โดยไม่แม้แต่จะชำเลืองมองจีหนิงชวงอีกครั้ง การบอกลาของนางไร้ซึ่งไออุ่นแม้แต่น้อย และนี่ทำให้จิตใจของเย่เฉินแตกสลาย
หญิงงามแซ่จียังคงเงียบงันและรู้สึกเหม่อลอยเล็กหน้อยเมื่อบังเอิญนึกย้อนถึงภาพฉากความรักครั้งเก่าก่อนของทั้งคู่ขึ้นมาอย่างกะทันหัน
“ข้าไปล่ะ!” เย่เฉินปัดฝุ่นดินออกจากห่อสัมภาระ หมุนกายกลับอย่างเชื่องช้า ลากถ่วงฝีเท้าหนักอึ้งของตัวเองให้ก้าวเดิน เงาร่างสูงโปร่งของเขาดูเงียบเหงาโดดเดี่ยวอย่างที่สุดภายใต้แสงจันทร์ยามค่ำคืนนี้ที่สาดส่องลงมา
แฟนเพจ Banished Disciple’s Counterattack –นิยายแปล