advent of the archmage - Chapter 254: เส้นบางๆระหว่างความเป็นและความตาย
ที่รกร้างเฟิร์ด
ลิงค์มองขึ้นไปบนฟ้า พระจันทร์ลอยขึ้นสูง, แผ่แสงสีเงินออกมาและปกคลุมพื้นที่รกร้างด้วยหมอกเย็นๆสีขาว มันเป็นคืนที่ฟ้าโปร่งเหมาะสำหรับการบิน
“โรมิลสัน อย่าใช้อาชาทมิฬนะ ใช้เวทย์บินดีกว่าพวกเราจะได้กลับไปถึงเร็วๆ” ลิงค์พูด เขามั่นใจมากว่านักฆ่าจะต้องพยายามหยุดพวกเขา ถ้าพวกเขาบิน พวกเขาก็จะผ่านปัญหานี้ไปได้
โดยที่ไม่ทันได้คาดคิด โรมิลสันก็พูดอะไรแปลกๆออกมา “ข้าบินไม่เป็น”
“นายเป็นนักเวทย์เลเวล7 ไม่ใช่หรอ? นายไม่รู้จักเวทย์บินเลยเนี่ยนะ?” ลิงค์ขมวดคิ้วแน่น นี่เป็นสถานการณ์ที่น่าอึดอัด
โรมิลสันรู้สึกอายยิ่งกว่าเดิม “ข้าไม่ชอบอยู่บนฟ้าหน่ะ…ให้เจ้าบินหล่ะเป็นไง?”
ใครจะไปคิดกันหล่ะว่าเขากลัวความสูง?
ลิงค์ส่ายหัว “ฉันมีมานาเหลือไม่มากแล้ว และเราก็มีศัตรูเป็นนักเวทย์เลเวล 6 ด้วยคนนึง ฉันจะต้องเตรียมตัวรับมือกับการลอบโจมตีเอาไว้”
เขาได้พบกับผนึกเวทมนตร์เลเวล 6 เพลิงนรกมาก่อนหน้านี้ ซึ่งนั่นก็หมายความว่าศัตรูนั้นมีนักเวทย์ที่ทรงพลังมากๆซึ่งเขาจะต้องคอยระวังตัวเอาไว้
ฟันเฟืองความคิดของลิงค์เคลื่อนไหว และเขาก็ได้ไอเดียขึ้นมา เขาทิ้งแผนเก่าที่จะกลับไปที่ค่าย, แล้วควบเฟนเรียลมวิ่งตรงไปทางชายฝั่ง “ตามฉันมา!”
“จะไปไหนหรอ?” โรมิลสันรีบตามไป
“ตามเส้นทางกลับน่าจะมีนักฆ่าอยู่ มันไม่ปลอดภัย” ลิงค์พูด ถ้าเกิดว่ามีแค่พวกเขา 2 คน ลิงค์ก็สามารถสู้ได้ แต่ตอนนี้พวกเขาต้องปกป้ององค์หญิงมิลด้าที่บาดเจ็บปางตายไปด้วย ดังนั้นเขาจึงไม่มีความมั่นใจว่าจะทำได้
โรมิลสันไม่มีความคิดอื่นและทำได้แค่ตามลิงค์ไปติดๆ หลังจากผ่านไปพักนึง อยู่ๆเขาก็ตะโกนขึ้นมาด้วยความหวาดกลัว “ลิงค์ องค์หญิงทนต่อไปไม่ไหวแล้ว พวกเราควรทำยังไงกันดี?”
ลิงค์หันไปดูองค์หญิงมิลด้า ตัวเธอซีดเผือก และผมสีทองของเธอก็สูญเสียประกายความสดใสไป พอมองเข้าไปใกล้ๆ เขาก็เห็นว่าองค์หญิงมิลด้าได้หายใจแผ่วลง ออร่ามานาของเธอก็ปั่นป่วนมากๆ
มานาที่วุ่นวายนั้นหมายความว่าสติของผู้ใช้กำลังจะสูญเสียการควบคุมของร่างกายไป นักรบเองก็มีปรากฏการณ์ที่คล้ายๆกัน หลายครั้งที่นักรบที่แข็งแกร่งตาย ออร่าต่อสู้ภายในของพวกเขาจะพังทลายลงไปด้วย บางครั้ง มันจะเกิดขึ้นเป็นทอร์นาโดออร่าต่อสู้
ถ้าสิ่งนี้กำลังเกิดขึ้นกับเจ้าหญิงมิลด้าในตอนนี้หล่ะก็, มันก็หมายความว่าองค์หญิงกำลังจะตาย ต่อให้พวกเขาสามารถพาองค์หญิงกลับไปที่เทือกเขามอดไหม้ได้ ก็อาจจะไม่มีใครที่สามารถช่วยองค์หญิงได้
“นายเอายามาด้วยรึเปล่า?” ลิงค์ถาม
“เอามา แต่พวกมันใช้การไม่ได้เลย องค์หญิงมักจะพกน้ำทิพย์เอลฟ์เอาไว้กับตัวเสมอ มันคือยาศักดิ์สิทธ์ที่มีผลล้างพิษขั้นรุนแรง พระองค์ได้ใช้มันไปแล้ว แต่มันไม่ได้ผล พิษนั้นรุนแรงเกินไป” สีหน้าของโรมิลสันนั้นซีดมาก; มันดูเหมือนกับว่าเขากำลังจะร้องไห้เลย
เขานั้นเคยมีชีวิตที่สงบสุขอยู่ที่เกาะรุ่งอรุณแต่เขากลับต้องมาเจอกับความวุ่นว่ายในทันทีที่เขามาอาณาจักรนอร์ตัน ตอนนี้, แม้กระทั่งองค์หญิงของเขาก็กำลังจะสิ้นใจ จิตใจของเขานั้นพังทลายไม่เหลือชิ้นดีแล้ว
ปัญหาก็คือแม้แต่น้ำทิพย์เอลฟ์ก็ยังใช้ไม่ได้ผลกับพิษนี้ มันเป็นเรื่องที่เจอได้ยาก
หลังจากคิดอะไรบางอย่างได้ ลิงค์ก็พูดขึ้นมา “ขอฉันดูแผลขององค์หญิงหน่อย”
หลังจากนั้น เขาก็ใช้มือแห่งนักเวทย์ดึงองค์หญิงออกมาจากอาชาทมิฬของโรมิลสัน ในครั้งนี้, โรมิลสันไม่ได้ห้ามลิงค์ เขานั้นสติกระเจิงไปเรียบร้อยแล้ว ส่วนลิงค์ก็ยังคงสงบนิ่งเหมือนเช่นเคย ซึ่งนี่เป็นฟางเส้นสุดท้ายของเขา
เมื่อองค์หญิงมิลด้ามาอยู่บนหลังของเฟนเรียสายลม ลิงค์ก็ควบคุมให้มันวิ่งอย่างนุ่มนวล เขาร่ายเวทย์แฟลชเพื่อสร้างแสงสว่างและเปิดเปลือกตาขององค์หญิงขึ้นอย่างระมัดระวัง
ดวงตาที่เหมือนกับคริสตัลของพระองค์ไม่มีประกายแล้ว และสีม่วงอ่อนของมันก็ได้กลายเป็นสีเขียวเข้ม รูม่านตาของพระองค์ขยายออก นี่เป็นข่าวร้าย
ลิงค์พลิกมือขององค์หญิงขึ้นมา เขาบีบหลังมือของพระองค์และสังเกตอย่างใกล้ชิด เขาเคยเห็นมือของพระองค์มาก่อนแล้วในช่วงกลางวัน ในตอนนั้นผิวหนังของพระองค์เนียนนุ่มราวกับครีม แต่ตอนนี้, ลิงค์พบว่าผิวหนังนั้นมีสีเข้มขึ้น ในตอนที่เขาบีบและดึงหนังให้ตึง, เขาเห็นจุดเล็กๆสีเขียวเข้มอยู่เต็มไปหมด เมื่อมองครั้งแรก มันเหมือนกับว่ามีแมลงตัวเล็กๆจำนวนมากอยู่ใต้ผิวหนังของพระองค์
พอเห็นแบบนี้ ลิงค์ก็มีความคิดบางอย่างเกี่ยวกับชนิดของพิษที่ฉาบอยู่ที่ปลายลูกธนู เขาคิด ระบบ ฉันต้องการข้อมูลรายละเอียดเกี่ยวกับพิษนี้ พิษเลือดเทา
หลังจากนั้นซักพัก ข้อมูลของพิษเลือดเทาก็ได้ปรากฏขึ้นบนวิสัยทัศน์ของลิงค์
พิษเลือดเทา
พิษระดับอีพิค
ประวัติ: ปรากฏขึ้นครั้งแรกในปี 1229 ของปฏิทินศักดิ์สิทธ์ พิษรุ่นแรกนั้นได้ถูกสร้างขึ้นโดย ดีนส์ ลูกศิษย์ของจอมเวทย์ดาร์กเอลฟ์ ไอมอนส์ หลังจากการปรับปรุงอยู่หลายครั้ง มันก็ได้กลายเป็นพิษที่รักษาไม่หาย
วิธีใช้:เอาไปผสมกับเลือดของเหยื่อ พิษจะทำลายเซลล์ตลอดทางผ่านของมัน และจะเกิดเป็นจุดเลือดสีดำภายใต้ผิวหนังของเหยื่อ จากนั้นอวัยวะของพวกเขาก็จะเริ่มละลาย ตามด้วยกล้ามเนื้อ จนในที่สุด เหยื่อก็จะเหลือเพียงแค่ผิวหนังที่ไร้รอยขีดข่วนและโครงกกระดูก
ผลพิเศษ: ไฮเอลฟ์นั้นแทบไม่มีภูมิต้านทานต่อพิษนี้เลย ต่อให้ใช้ยารักษา เหยื่อก็อาจจะไม่สามารถรอดได้ถ้าเกิดว่าพวกเขาเป็นไฮเอลฟ์
วิธีแก้พิษวิธีที่ 1: น้ำยาแสงจันทร์
วิธีแก้พิษวิธีที่ 2: ฟอกเลือด
(หมายเหตุ: พิษจะต้องถูกเอาออกให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ ถ้าเกิดว่าอวัยวะเริ่มละลายแล้วหล่ะก็ มันจะไม่สามารถรักษาได้อีก)
ลิงค์อ่านข้อมูลอย่างรวดเร็ว เมื่อเขาได้ความคิดขึ้นมา เขาก็รีบเปิดเสื้อขององค์หญิงออกในทันที เขากดหน้าอกของพระองค์ลงอย่างนุ่มนวลเพื่อตรวจสอบสภาพอวัยวะภายในของเธอ
ร่างกายของเจ้าหญิงมิลด้าในตอนนี้ถูกปกคลุมด้วยรอยคล้ำสีดำ ไม่เหลือความสวยงามเอาไว้เลย ดังนั้นลิงค์จึงไม่เสียสมาธิ หลังจากผ่านไปซักพัก เขาก็ปิดเสื้อของพระองค์แล้วพูด “ฉันรู้แล้วว่ามันเป็นพิษอะไร มันสามารถละลายอวัยวะภายในของเธอได้ ฉันตรวจสอบดูแล้ว ตอนนี้อวัยวะภายในของเธอเริ่มมีการเปลี่ยนแปลงไปบ้างแล้ว เธอน่าจะอยู่รอดได้อย่างนานที่สุดก็ประมาณ 30 นาที”
“หา!” โรมิลสันอ้าปากค้าง มองไปที่ลิงค์แล้วพูด “มาสเตอร์ลิงค์ ท่านมีวิธีรักษาใช่มั้ย ท่านจะต้องมีวิธีรักษามันใช่มั้ย?”
“ใช่ แต่พวกเราต้องจัดการศัตรูที่ขวางทางพวกเราก่อน” ลิงค์รู้สึกได้ว่านักฆ่ากำลังไล่หลังพวกเขามา พวกมันไม่ได้หายไปไหนและใช้ประโยชน์จากความเร็วของพวกมันในการไล่ตามลิงค์และโรมิลสัน
ตอนนี้, พวกมันอยู่ห่างไปประมาณ 2,000 ฟุต ด้วยความเร็วระดับนี้ พวกมันน่าจะตามมาทันในอีก 5 นาที
โรมิลสันก็รู้สึกได้เช่นกัน เขาตะโกนอย่างเกรี้ยวกราด “ไอพวกนักฆ่าบ้านั่น! ข้าจะฆ่าพวกมันทุกคนเอง!”
“ไม่ พวกเราจะสู้กับพวกมันไม่ได้ พระองค์ทนไม่ไหวแน่”
ลิงค์ประเมินสถาการณ์อย่างเยือกเย็น เวลาขององค์หญิงมิลด้ากำลังจะหมดลง; ชีวิตของพระองค์แขวนอยู่บนเส้นด้าย เขาจะต้องฟอกเลือดเธอเดี๋ยวนี้!
โรมิลสันกำลังจะร้องไห้ เขามองไปที่ด้านหลังสลับกับองค์หญิงที่อยู่บนหลังเฟนเรียสายลม ความคิดของเขายุ่งเหยิง และมันอาจจะส่งผลกับการร่ายเวทย์ของเขา!
“ใจเย็น โรมิลสัน องค์หญิงไม่ตายหรอก ฉันมีทางช่วยพระองค์อยู่ แต่ว่านายจะต้องทำตามที่ฉันพูดนะ!”
โรมิลสันเองก็รู้สึกตัวว่าเขากำลังเสียสติ เขาพยายามทำให้ตัวเองใจเย็นลง แล้วเขาก็พยักหน้า “โอเค!”
ลิงค์ผลิตวัตถุดิบเวทมนตร์บางอย่างบนหลังเฟนเรีย เขาไม่มีน้ำยาแสงจันทร์แล้วก็ไม่รู้วิธีที่ทำมันด้วย ดังนั้นเขาจึงไม่สามารถใช้วิธีนี้ได้
สำหรับวิธีการที่ 2 เขาต้องการที่จะฟอกเลือด
ทฤษฏีการฟอกเลือดนั้นง่ายมาก มันคือเครื่องกรองน้ำธรรมดาที่มีผนึกเวทมนตร์อยู่ในตัวกรอง จากนั้นนักเวทย์ก็จะควบคุมให้ผนึกเวทมนตร์เอาพิษออกมาอย่างแม่นยำโดยไม่ให้เกิดความเสียหายต่อเซลล์เลือด
ทั้งหมดนี้ นักเวทย์จะต้องมีพื้นฐานในด้านการเสริมพลังที่แน่นมากๆ ซึ่งเห็นได้ชัดว่าลิงค์มีมันอยู่
แต่ลิงค์ก็ไม่ได้มีที่ฟอกเลือดเหมือนกัน แต่มันก็ไม่ได้ซับซ้อนมากจนเกินไป เขานั้นมีวัตถุดิบอยู่ดังนั้นเขาสามารถสร้างแบบง่ายๆขึ้นมาได้อย่างรวดเร็ว
โดยที่ไม่ได้พูดอะไรอีก เขาก็ตั้งสมาธิและเริ่มสร้างมัน
โรมิลสันไล่ตามมาและถามด้วยความสงสัย “พวกเราจะไปที่ไหนกัน?”
“อย่ามากวนฉัน! ถ้ามีใครมา หยุดพวกมันซะ!” ลิงค์ต้องควบคุมเฟนเรียสายลมและสร้างที่ฟอกเลือดโดยไม่ให้ผิดพลาดไปด้วยในเวลาเดียวกัน ซึ่งมันยากมากๆ
ความหวังทั้งหมดในการช่วยองค์หญิงอยู่ที่นักเวทย์มนุษย์คนนี้ โรมิลสันไม่กล้าที่จะพูดอะไรอีก เขาตามลิงค์ไปอย่างเงียบๆพร้อมกับถือคทาเอาไว้ในมือ เขานั้นพร้อมที่จะโจมตีนักฆ่าทุกคนที่โผล่ออกมา
2 วินาทีผ่านไป ลิงค์ก็รู้สึกได้ว่ามานาขององค์หญิงเริ่มแผ่วลง และพระองค์ก็เริ่มที่จะไม่หายใจแล้ว พระองค์กำลังจะสิ้นพระชนม์
โรมิลสันเองก็คอยมองอาการขององค์หญิงอยู่เช่นกัน เขารู้สึกกังวลราวกับว่าหัวใจของเขาจะกระโดดออกมาจากหน้าอกของเขา เขาทำได้แค่หวังให้ลิงค์เร่งความเร็วขึ้น!
ประมาณ 2 นาทีต่อมา ลิงค์ก็สร้างที่ฟอกเลือดที่ทำจากมิธริลได้สำเร็จ มันมีรูปร่างเหมือนหัวใจดวงเล็กๆที่มีทางเข้าและทางออกของเลือด ส่วนตรงกลางนั้นเป็นที่โล่งๆที่มีขนาดเท่ากับกำปั้น มันถูกสร้างขึ้นมาอย่างหยาบๆ แต่ลิงค์ไม่มีเวลาจะมาเป็นห่วงเรื่องนั้น
หลังจากทดลองอยู่ 2-3 ครั้งเพื่อยืนยันว่ามันใช้งานได้ ลิงค์ก็เปิดเสื้อขององค์หญิงออกอีกครั้ง เขากดหน้าอกของพระองค์เพื่อดูว่าหัวใจขององค์หญิงอยู่ที่ไหน จากนั้นเขาก็เพิ่มแรงกดและแทงท่อสองเส้นเข้าไปที่หัวใจขององค์หญิงผ่านใต้รักแร้ของพระองค์
ด้วยท่อสองเส้นที่อยู่ในร่างกายขององค์หญิง ลิงค์ได้ขยายการรับรู้ของเขาไปพร้อมกับการฟอกเลือด และสนามพลังฮิกซ์เองก็ได้ขยายขึ้นอยู่ข้างในนั้นเช่นกัน
สนามพลังได้เปลี่ยนรูปร่างของท่อด้วยการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย มันค่อยๆเชื่อมต่อกับเส้นเลือดแดงใหญ่อย่างระมัดระวัง ส่วนใหญ่มันไม่มีข้อผิดพลาดอะไร ลิงค์ได้เปิดใช้เวทย์ในที่ฟอกเลือด
หัวใจมิธริลส่องแสงจางๆ จากนั้นลิงค์ก็เห็นเลือดสีดำข้นถูกดูดออกมาจากร่างกายขององค์หญิง มันไหลเข้ามาในที่ฟอกเลือดและไหลกลับเข้าไปในร่างกายขององค์หญิงหลังจากที่มันถูกฟอกด้วยผนึกเวทมนตร์
กระบวนการนี้เกิดขึ้นวนไปเรื่อยๆ
ลิงค์ควบคุมผนึกเวทมนตร์ที่อยู่ในที่ฟอกเลือดอย่างระมัดระวัง ทีละนิดๆ พิษเลือดเทาได้ถูกคัดออกมา
นี่เป็นงานที่ใช้เทคนิคสูงมาก เขาต้องควบคุมความเสถียรของคลื่นมานาและชำระล้างพิษ ถ้าเขาทำพลาด เลือดขององค์หญิงก็จะเสียหาย และถึงแม้ว่าเขาจะกำจัดพิษออกมาได้, แต่องค์หญิงก็จะสิ้นพระชนม์อย่างแน่นอนถ้าเป็นแบบนั้น
ลิงค์มีสมาธิอย่างถึงที่สุดในงานนี้และหลบเลี่ยงทุกปัญหา
หลังจากผ่านไป 2 นาที เลือดจากร่างกายขององค์หญิงก็เริ่มมีสีแดง ในขณะที่, ที่ฟอกเลือดนั้นมีสีเข้มขึ้นเรื่อยๆ องค์หญิงเองก็เริ่มหายใจถี่ขึ้น
สำเร็จ! ลิงค์รู้สึกโล่งใจ
สำหรับมือใหม่ ลิงค์นั้นได้ประสบความสำเร็จในการผ่าตัดหัวใจอันซับซ้อนตั้งแต่ครั้งแรก เขานั้นถูกประทานพรมาจากพระเจ้าอย่างแท้จริง
พูดตรงๆเลยก็คือ เขานั้นได้พึ่งพาสัมผัสการรับรู้ที่แข็งแกร่งของนักเวทย์ในการสัมผัสส่วนต่างๆ มันเหมือนกับการเดินในที่มืด เขาไม่รู้เลยว่าเขาจะทำสำเร็จหรือไม่และเขาก็พยายามอย่างถึงที่สุด
ในเมื่อมันได้ผล เขาก็ต้องทำมันต่อไป
ลิงค์ทำการฟอกเลือดต่อไป เขาคาดว่าด้วยความเร็วประมาณนี้เขาน่าจะฟอกเลือดขององค์หญิงเสร็จภายในเวลา 10 นาที สมาธิของเขาทั้งหมดอยู่ที่ ที่ฟอกเลือด แต่เขาเองก็เป็นห่วงเรื่องนักฆ่าเช่นกัน
“สถานการณ์เป็นยังไงมั่ง?” เขาถามโรมิลสัน
โรมิลสันได้มองดูสภาพขององค์หญิง ในตอนแรก, ลิงค์ถูกสงสัยว่ากำลังล่วงเกินร่างกายขององค์หญิง แต่องค์หญิงก็ดีขึ้นจริงๆ ดังนั้นโรมิลสันจึงไม่ได้พูดอะไร
เพื่อตอบคำถามของลิงค์ เขารายงานอย่างรวดเร็ว “พวกมันตามมาจะทันแล้ว ตอนนี้พวกมันอยู่ห่างกับเราประมาณ 400 ฟุต”
“400 ฟุตหรอ?” ลิงค์มองกลับไป โดยใช้แสงสว่างของพระจันทร์ เขาเห็นกลุ่มของเงาดำกำลังไล่ตามมาทางพวกเขา คนที่อยู่ข้างหน้าสุดนั้นเป็นคนที่ถือมีดสายตายมทูต*(สายตาของผู้เก็บเกี่ยว เก่า)
“ฉันต้องการเวลาอีก 10 นาทีในการฟอกเลือด ฉันร่ายเวทย์ไม่ได้ ดังนั้นนายจะต้องเป็นคนหยุดพวกมัน!” ลิงค์ตะโกน
“เอ่อ…พวกมันมีตั้ง 14 คนเลยนะ ข้าไม่คิดว่าข้าจะสามารถจัดการพวกมันได้หรอก” โรมิลสันไม่กล้าประเมินพลังของตัวเองมากเกินไปอีก
ลิงค์พูดต่อ “ทำตามที่ฉันพูดก็พอ ถ้านายทำตามที่ฉันพูดไม่ได้ ก็บอกมาว่าทำไม่ได้”
“แล้วฉันจะต้องพูดอะไรถ้าฉันทำตามที่นายพูดได้?” โรมิลสันถามอย่างโง่ๆ
ลิงค์ถอนหายใจ เขานั้นหมดความอดทนกับคนปัญญาอ่อนอย่างนี้แล้ว เขาตะโกน “ถ้านายทำตามที่ฉันพูดได้ งั้นก็ทำมันซะสิ! นายจะมัวมาพูดอะไรอีกหล่ะ? นี่ฉันต้องสอนนายเรื่องนี้ด้วยหรอ?”
“อ่า เอ้อ เอ้อ ข้าเข้าใจแล้ว” โรมิลสันรู้สึกตัวขึ้นมาในทันทีว่าเขาได้ถามอะไรบางอย่างที่โง่มากออกไป
“ยิงเวทย์แสงขึ้นไปบนฟ้าเดี๋ยวนี้! อย่าหยุดนะ”
นี่เป็นเวทย์แสงสว่าง และโรมิลสันเองก็รู้วิธีร่ายมัน เขาไม่รู้ว่าทำไมลิงค์ถึงต้องการมัน แต่เขาก็ทำได้แค่เทำตามคำสั่งเท่านั้น
บอลแสงพุ่งออกมาจากคทาของเขาและลอยขึ้นไปบนฟ้า แสงสีขาวได้ทำให้พื้นที่นี้สว่างขึ้นมาราวกับเป็นตอนกลางวัน ไม่มีผู้ลอบโจมตีคนไหนสามารถซ่อนจากแสงสว่างนี้ได้
ลิงค์มองไปที่ชายฝั่งที่อยู่ใกล้ๆ เขาปรับเส้นทางของเขาและวิ่งไปที่ชายหาด
นักฆ่าที่ไล่ตามพวกเขามานั้นอยู่ห่างออกไปประมาณ 300 ฟุตแล้ว ลิงค์มองไปที่ถ้ำที่อยู่ที่ชายหาดและเห็นดวงไฟสีเขียวอันน่าสยดสยองอันแสนคุ้นเคยอยู่ข้างใน เขาทำการตัดสินใจ เขาวิ่งไปอีก 600 ฟุตและพูด “หยุดซะแล้วร่ายเวทย์โจมตีเลเวล 7 เลย”
“ข้าต้องใช้เวลาร่ายประมาณ 3 วินาที พวกมันไม่ได้โง่ และพวกมันจะต้องหลบได้แน่ๆ ถ้าเป็นแบบนั้น พวกเราก็จะจบเห่แน่…!” โรมิลสันร้องไห้
“ทำตามที่ฉันพูดเถอะหน่า!” ลิงค์สั่ง ไฮเอลฟ์ได้เสียเวลาไป 2 วินาทีด้วยเรื่องไร้สาระพวกนี้
โรมิลสันสะดุ้ง เขาเริ่มร่ายเวทย์ป่าหนามในทันที
ป่าหนาม
เวทย์เลเวล7
มานาที่ใช้: 3500 แต้ม
ผล: หนามต้นไม้ที่สร้างขึ้นจากองค์ประกอบทางธรรมชาติที่แข็งตัวทำให้เกิดหนามอันหนาทึบและร้ายแรง ในระยะ 240 ฟุตจากตัวผู้ร่าย
(หมายเหตุ:นี่เป็นเวทย์กึ่งสนับสนุน-กึ่งโจมตี ส่วนมากจะใช้ในการวางกับดักใส่ศัตรู)