advent of the archmage - Chapter 230: บีบจนตาย
มีสีขาวสองประเทศที่แตกต่างกันอย่างชัดเจนในพื้นที่ระหว่างขั้วโลกเหนือของป่าทมิฬ, ประเภทแรกนั้นเป็นสีขาวที่สดใสและชัดเจน, สีที่บริสุทธิ์ ซึ่งประเภทนี้พบในหิมะของทางเหนือ ส่วนอีกประเภทเป็นสีขาวหม่นๆที่มาพร้อมกับสัมผัสของเลือดเหมือนที่พบในกระดูก และป้อมโครงกระดูกก็เป็นป้อมที่สร้างขึ้นมาจากกองกระดูกล้วนๆ
แล้วมันเป็นกระดูกใครหล่ะ?
เอาหล่ะ, ผู้นำผู้ยิ่งใหญ่คงจะบอกคุณว่าในฐานะเครื่องบรรณาการที่มอบให้สตรีแห่งความมืด, ป้อมโครงกระดูกจึงรวบรวมกระดูกของวิญญาณอย่างน้อย 20,000 ดวงเอาไว้ วิญญาณเหล่านี้ถูกเผาเพื่อปลดปล่อยพลังอันไร้ที่สิ้นสุด จากนั้นกระดูกและโครงกระดูกของพวกเขาก็จะถูกดองเอาไว้และใช้เพื่อสร้างป้อมปราการสีขาวที่มีความกว้างและความยาว 180 ฟุตและสูง 160 ฟุตเช่นกัน
และที่ส่วนบนสุดของป้อมก็เป็นห้องโถงโครงกระดูกสีขาว
ที่ด้านหน้าของห้องโถงคือบัลลังก์โครงกระดูกที่ทำมาจากงาช้างแมมมอธ, เมื่อไหร่ก็ตามที่มีเหตุการณ์สำคัญ, จะมีเงาของบุคคลคนนึงที่ถูกปกคลุมด้วยเปลวเพลิงสีดำปรากฎขึ้นบนบัลลังก์
และตอนนี้, มันก็เป็นหนึ่งในช่วงเวลาเหล่านั้นที่มีเหตุการณ์สำคัญเกิดขึ้น
บนบัลลังก์โครงกระดูกมีร่างเงานั่งอยู่อย่างสง่างาม, และในเวลาเดียวกันนั้น, เสียงอันหอมหวานและสนุกสนานก็ดังขึ้นในห้องโถง
“มีหนูตัวใหญ่อยู่ในป่า” เสียงพูด “และข้าไม่ชอบมันเอาซะเลย ตอนนี้, หนูตัวนั้นได้พาเพื่อนของมันมาใกล้ป้อมแห่งนี้มากเกินไปแล้ว, แต่ยังไม่มีแมวตัวไหนของข้าจับพวกมันได้เลย บรูธตัน, เมาล์, พวกเจ้าทั้งสองช่วยจับหนูพวกนี้ให้ข้าได้ไหม?”
บรูธตัน, เป็นปีศาจเลเวล 7 ที่สูงกว่า 13 ฟุต, และผิวหนังของเขาก็เป็นหนามสีดำพร้อมกับเขาทรงมีดบนหัวของเขา เขาใช้ดาบคู่ขนาดยักษ์ซึ่งแต่ละเล่มนั้นมีความยาวประมาณสิบฟุต เขาเคยเป็นนักรบที่คอยปกป้องป้อมของนักเวทย์ไอมอนส์ แต่พออุปกรณ์ระดับพระเจ้า, อสรพิษทมิฬมายังโลกนี้, เขาก็กลายมาเป็นนักรบคุ้มกันป้อมโครงกระดูกตามคำสั่งของไอมอนส์
ส่วนเมาล์นั้นเป็น, นักรบมังกรทมิฬที่มีความแข็งแกร่งเลเวล 7, เขามีรูปร่างที่พิเศษและแข็งแกร่งไม่ต่างไปจากปีศาจเลย ความชำนาญในการใช้ดาบของเขาแทบจะเรียกว่าสมบูรณ์แบบ, และเขาก็เป็นนักดาบคนสำคัญของป้อมโครงกระดูก
พอได้รับคำสั่ง, พวกเขาทั้งคู่ก็โค้งให้อย่างเคารพแล้วพูด “น้อมรับบัญชาครับ, ผู้ส่งสารแห่งความมืด!”
ขณะที่พวกเขาพูด, ก็มีแสดงดังขึ้นมาจากด้านนอกห้องโถง
“อ้า! อ้ากกกก! ฆ่าข้า! ฆ่าข้าเถอะ!!!!”
เสียงนี้แฝงไปด้วยพละกำลังมหาศาล, มันดังพอที่จะทำให้ทั้งป้อมโครงกระดูกสั่นสะเทือน แม้แต่ใบหน้าของบรูธตันกับเมาล์ก็ยังแสดงร่องรอยของความไม่สบายใจออกมา
ทีมาของเสียงร้องที่สั่นสะเทือนป้อมโครงก็ดูกนั้นก็คือนักรบที่เก่งที่สุดของมนุษย์, นักดาบรุ่งอรุณคาร์โนสที่เพิ่งจะถูกจับและถูกพามาที่ป้อมโครงกระดูก
มีแค่ร่างเงาบนบัลลังก์โครงกระดูกเท่านั้นที่ยังไม่ได้รับผลกระทบอะไร
“โอ้, ดูเหมือนว่าคาร์โนสที่รักของข้าจะไม่มีความสุขนะ” เงาพูด “ข้าต้องลงไปปลอบเขาแล้วหล่ะ พวกเจ้าทั้งสองไปได้แล้ว”
จากนั้น, ร่างเงาก็ยืนขึ้น, แล้วเอวอันเพรียวบางของเธอก็ส่ายเหมือนกับงูในขณะที่เธอเดินลงไปยังดันเจี้ยนที่อยู่ใต้ป้อมโครงกระดูกอย่างช้าๆและเรียบง่าย
บรูธตันกับเมาล์มองหน้ากันครู่นึงหลังจากนั้นก็หันกลับแล้วออกไปจากห้องโถง ในตอนที่พวกเขาทั้งคู่ออกมานอกป้อมโครงกระดูกนั้น, ก็มีกลู 40 คนตามหลังพวกเขามา, พร้อมกับมีหน่วยสอดแนมจากมือแห่งความตาย 200 คนและทหารเกือบ 3,000 คนตามมาด้วย
“เมาล์, พวกเราจะแบ่งทหารกันคนละครึ่ง” บรูธตันพูด “มาดูกันเถอะว่าใครจะจับหนูพวกนั้นได้ก่อน”
“5555, ก็ได้,” เมาล์ตอบกลับ “แต่ผู้ชนะจะได้อะไรหล่ะ?” ในสายตาของเขา, บรูธตันก็ไม่ต่างอะไรจากพวกโง่ หากไม่มีพละกำลังของเขา, เขาก็ไม่มีประโยชน์อะไรเลย มันเป็นเรื่องสนุกที่จะได้เห็นไอโง่แบบนี้พ่ายแพ้ให้กับเขา
“อืม, งั้นเป็น…” บรูธตันตอบพร้อมกับชำเลืองตามองนักรบมังกรในขณะที่เขาตัดสินใจเรื่องนี้ เอาจริงๆ, เขาไม่เคยชอบไอสารเลวนี่เลย “ถ้าเจ้าชนะ, นับจากนี้ไปข้าจะทำตามคำสั่งของเจ้าเสมอ แต่ถ้าข้าชนะ, เจ้าไม่ต้องทำตามคำสั่งของข้าหรอก; ข้าแค่อยากจะตบหน้าเจ้าสักที”
“เยี่ยม! ถือว่าเป็นอันตกลง!”
จากนั้นพวกเขาทั้งสองก็แบ่งทหารกันคนละครึ่งแล้วแยกกันไปคนละทาง
…
ในระยะแค่หนึ่งไมล์ด้านนอกป้อมโครงกระดูก, มีเนินค่อนข้างสูงในป่าซึ่งยอดของมันถูกหิมะปกคลุมอย่างสมบูรณ์ ลิงค์, นักรบมังกรแดงเฟลิน่า, แอนนี่, และหน่วยสอดแนมคนอื่นๆทุกคนมารวมตัวกันอยู่ในกระท่อมน้ำแข็งชั่วคราวที่สร้างขึ้นจากหิมะนี้ พวกเขาเจาะรูผ่านหิมะและสังเกตุการเคลื่อนไหวในป้อมโครงกระดูกจากที่นี่
“มีกระดูกเพียบเลย! แถมพวกการ์ดก็เยอะแยะไปหมด!” แอนนี่อุทาน, และแทบจะเก็บความตกใจเอาไว้ไม่ได้ ภาพและขนาดจริงๆของป้อมโครงกระดูกนั้นอยู่เหนือจินตาการของเธอโดยสิ้นเชิง
อาณาเขตโดยรอบของป้อมโครงกระดูกนั้นกว้างมากๆ, และที่นั่น, เราจะมองเห็นทหารกว่า 10,000 คนกระจายอยู่ทั่วที่ราบอย่างชัดเจน แม้ว่าทหารแต่ละคนจะแข็งแกร่งแค่ประมาณนักรบเลเวล 1, แต่จำนวนของพวกเขาที่แตะ 10,000 คนนั้น, พวกเขาก็ถือได้ว่าเป็นกองกำลังที่น่ากลัวเลยทีเดียว
“ทหารพวกนี้ไม่ออกไปไหนเลย” ทหารสอดแนมคนนึงกระซิบ “พวกเราลักลอบเข้าไปในป้อมไม่ได้แน่ๆเลยครับ”
ศัตรูมีมากเกินไป และยิ่งพวกเขาเข้าใกล้ป้อมโครงกระดูกมากเท่าไหร่การคุ้มกันก็ยิ่งแน่นหนาขึ้นเท่านั้น ต่อให้พวกเขาใช้เวทย์หายตัวลักลอบเข้าไป, พวกเขาก็อาจจะยังชนเข้ากับทหารคนนึงแล้วตัวตนของพวกเขาก็จะถูกเปิดเผย
ในขณะเดียวกัน, บรูธตันกับเมาล์ก็ก้าวออกมาจากป้อมต่อหน้าต่อตาของทุกคน
“ลิงค์” เฟลิน่ากระซิบ “พวกมันต้องรู้ตัวแล้วแน่ๆเลยว่าพวกเราอยู่ที่นี่และส่งทีมออกมาค้นหาพวกเรา พวกเราจะถูกจับได้ที่นี่ในเร็วๆนี้”
ฝั่งศัตรูมีจำนวนมากเกินไป มันไม่มีความจำเป็นที่จะต้องใช้เทคนิคการค้นหาที่ยุ่งยากด้วยคนจำนวนมากขนาดนี้ ทั้งหมดที่พวกเขาต้องทำก็คือค้นหาทุกตารางนิ้วของพื้นที่, และคงไม่มีทางที่ลิงค์กับคนที่เหลือจะหลบซ่อนอยู่ได้
พวกเขาอยู่ที่เดิมมานานกว่าครึ่งชั่วโมงแล้ว ลิงค์เงียบกริบตลอดเวลามานี้ แล้ว, จู่ๆ, เขาก็พูดขึ้นมา
“คาร์โนสยังมีสติอยู่” เขากระซิบ “เขายังไม่ได้กลายเป็นร่างไสยเวทย์อย่างสมบูรณ์ เขายังช่วยได้อยู่, แต่พวกเราต้องรีบไปช่วยเขา”
“แต่ว่ายังไงหล่ะ?” แอนนี่ถาม
เฟลิน่าแค่ส่ายหัวของเธอ
“เรื่องมันถึงจุดที่น่ากลัวยิ่งกว่าที่ฉันคาดเอาไว้ซะอีก, ลิงค์,” เธอพูด “ฉันไม่คิดว่าพวกเราจะช่วยเขาได้หรอกนะ”
ลิงค์ทำเป็นไม่ได้ยินมัน เขารู้ว่ามันไม่ใช่ว่านักรบมังกรแดงไม่อยากช่วยคาร์โนส, แต่เธอแค่ไม่เชื่อว่าพวกเขาจะทำสำเร็จ ถ้าเขาสามารถแสดงให้เธอเห็นได้ว่าแผนการอาจจะสำเร็จ, เขามั่นใจว่าเธอจะร่วมด้วยอย่างแน่นอน
“พวกเราจะใช้แผนเดิม” ลิงค์พูด “ผมจะดึงดูดความสนใจของป้อมโครงกระดูก, และเธอจะลอบเข้าไปในป้อมโครงกระดูกและช่วยเขา เฟลิน่า, คุณต้องไปด้วย, แต่คุณแข็งแกร่งเกินไปดังนั้นพวกมันอาจจะทำให้คุณช้าลง คุณควรเคลื่อนไหวคนเดียว”
เฟลิน่ากัดริมฝีปากของเธอและขมวดคิ้วด้วยความสงสัย
“แผนการนี้มันเสี่ยงเกินไปนะ” เฟลิน่าพูด “ยังมีหัวหน้ากลูอยู่ในป้อมอีก ถ้าพวกเราไม่ล่อหัวหน้าออกมา, พวกเราจะไม่มีโอกาสเลย
“ผมรู้” ลิงค์ตอบ “แต่นี่เป็นแผนการที่เป็นไปได้ที่สุดที่พวกเรามีแล้ว มาเถอะ, พวกเรามีเวลาไม่มาก, มังกรทมิฬจะมาถึงที่นี่ในเร็วๆนี้ ทุกคน, เตรียมลักลอบเข้าไปในป้อมซะ ผมจะออกไปเดี๋ยวนี้!”
“ลิงค์…ระวังตัวด้วย!” แอนนี่กำชับกับเขา
“เดี๋ยวสิ!” เฟลิน่าห้ามเขา “พวกมันมีจำนวนมากเกินไปนะ!”
ลิงค์ไม่สนใจเธอ เขากระโดดออกมาจากบ้านน้ำแข็งโดยไม่ลังเลเลยแม้แต่นิดเดียวและเดินจากไปโดยไม่ซ่อนมานาของตัวเองเอาไว้ ตอนแรกเขาร่ายเวทย์รวดเร็วดั่งชีต้าแล้วร่ายอีกเวทย์เพื่อทำให้น้ำหนักของเขาเบาเหมือนกับขนนก จากนั้น, เขาก็แทบจะลอยลงไปจากเนินเขา
ระหว่างทาง, ออร่าสีแดงห่อหุ้มร่างกายของเขา, ตามมาด้วยเสื้อคลุมผู้ควบคุมเพลิงและคทาเพลิงพิโรธของเขา
เขาจะเผชิญหน้ากับศัตรูที่แข็งแกร่งมากในเร็วๆนี้, ดังนั้นเขาต้องใช้พลังทั้งหมดและความช่วยเหลือทั้งหมดที่เขามี
ตอนนี้, เขามีค่าโอมนิอยู่ 300 แต้ม และมานาสูงสุด 6,100 แต้ม อัตราฟื้นฟูมานาของเขาสามารถขยับไปได้สูงสุดที่ 220 แต้มต่อวินาที ด้วยความช่วยเหลือจากเสื้อคลุมผู้ควบคุมเพลิง, คทาเพลิงพิโรธแห่งสวรรค์, และรูนแสง, พรแห่งราชินีมังกรแดง, คำภีร์มิติและหินนักปราชญ์—เขามีเล่ห์กลมากมายเก็บเอาไว้สำหรับการแสดงซิมโฟนีแห่งเวทมนตร์!
นักรบมังกรทมิฬเมาล์รู้สึกถึงตัวตนของลิงค์ได้ในทันที เขาระเบิดเสียงหัวเราะออกมาดังลั่น
โอ้, ดูนั่นสิ, เขาคิด ข้าเจอหนูก่อน เตรียมเป็นทาสของข้าได้เลย, บรูธตัน!
จากนั้นเขาก็ปล่อยออร่าต่อสู้ของเขาออกมาแล้วพุ่งไปหาเป้าหมายด้วยความเร็วสูงสุด
มีเป้าหมายแค่คนเดียว, และมานาของเขาก็บ่งบอกว่าเขาเป็นแค่นักเวทย์เลเวล 6 เมาล์มั่นใจว่าเขาจะหั่นหนูตัวนี้เป็นชิ้นๆได้อย่างง่ายดายด้วยตัวคนเดียวโดยไม่ต้องพึ่งความช่วยเหลือของใคร!
“555555! เตรียมลิ้มลองดาบของข้าเอาไว้ได้เลย!”
ดาบในมือของเมาล์เริ่มปกคลุมด้วยเพลิงทมิฬ มันเป็นพลังของนักรบมังกรเพลิงที่ไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย ร่างกายอันถึกทนของมนุษย์มังกรนั้นทำให้เขามีความแข็งแกร่งที่เหนือธรรมชาติจนทำให้เขากำจัดศัตรูทั้งหมดได้ในการต่อสู้
ลิงค์ไม่ได้คิดที่จะถอยเลยสักนิด แต่, เขากลับเพิ่มความเร็วขึ้นอีก, แล้วระยะระห่างหว่างเขากับนักรบมังกรทมิฬก็สั้นลงอย่างรวดเร็ว
ที่ยอดเขา, คนที่เหลือพากันเหงื่อท่วม, โดยเฉพาะเฟลิน่า เธอรู้ดีว่านักรบมังกรคนนั้นแข็งแกร่งขนาดไหน เขามีเลเวลสูงกว่าลิงค์, และเขาก็มีกลู, นักฆ่า, และทหารจำนวนนับไม่ถ้วนตามหลังเขามา
นี่เป็นเหมือนกับการที่คนๆเดียวเผชิญหน้ากับทั้งกองทัพ ไม่มีความสงสัยในความคิดของเฟลิน่าเลยว่าลิงค์จะตายในเร็วๆนี้
ในชั่วพริบตา, ระยะห่างระหว่างลิงค์กับนักรบมังกรทมิฬก็เหลือไม่ถึง 300 ฟุต
เพลิงทมิฬที่ปกคลุมตัวนักรบมังกรทมิฬทวีความรุนแรงยิ่งขึ้น ในตอนที่ระยะห่างระหว่างพวกเขาเหลือแค่ 200 ฟุต, เมาล์ก็ปล่อยระเบิดออร่าต่อสู้ของเขาในทันที ไม่ว่ามันจะโดนเป้าหมายหรือไม่, เขาก็แค่อยากจะขัดขวางการร่ายเวทย์ของนักเวทย์ ยังไงซะออร่าต่อสู้ของเขาก็ไม่มีวันหมด, ดังนั้นเขาจึงไม่ต้องกังวลว่าจะเสียมันไป
แต่เขาก็หารู้ไม่ว่า, ลิงค์แซงหน้าเขาไปแล้ว
ที่ระยะ 300 ฟุต, เขาได้ทำสองสิ่ง สิ่งแรก, เขาเปิดใช้ผลสมองปลอดโปร่งจากเสื้อคลุมผู้ควบคุมเพลิง ด้วยสมองปลอดโปร่ง, ในเวลาห้านาทีเขาจะฟื้นฟูมานาได้ประมาณ 2,000 แต้ม, ซึ่งนั่นจะทำให้เขาร่ายเวทย์ได้อย่างเต็มพลัง อย่างที่สอง, เขาเปิดใช้ผลพิเศษจากคทาของเขา, เพลิงพิโรธแห่งสวรรค์, นั่นก็คือคลื่นเพลิง! คลื่นเพลิงนั้นใช้มานา 1,500 แต้ม, และทำให้ร่ายเวทย์ธาตุไฟที่ต่ำกว่าเลเวล 7 ได้ในทันที, ซึ่งมันยังเพิ่มพลังของเวทย์นั้นอีก 300% ด้วย และเพื่อชาร์จมันใหม่, เขาจะต้องร่ายเวทย์เลเวล 5 หรือสูงกว่าอย่างน้อยสิบครั้ง
แต่คทาของลิงค์ได้ชาร์จเอาไว้แล้ว, ดังนั้นเขาจึงสามารถเปิดใช้คลื่นเพลิงเพื่อเพิ่มพลังให้กับเวทมนตร์แรกของเขาได้ในทันที
ฟู่ววว!
มือยักษ์ปรากฎขึ้นในอากาศ, และแต่ละนิ้วก็มีความหนาประมาณ 3 ฟุตและยาว 15 ฟุต ในขณะที่ทั้งมือยาวประมาณ 30 ฟุต!
หัตถ์ไททันนี้ได้รับการเสริมพลังด้วยคลื่นเพลิง, และพลังของมันก็สูงกว่าปกติ 300% และมันยังถูกเสริมพลังด้วยผลของคทาเพลิงพิโรธด้วยและแรงขึ้นจากนั้นอีก 150% สรุปก็คือ, หัตถ์ไททันนี้แรงกว่าปกติ 450%
ในตอนที่พลังของเวทย์เลเวล 6 เพิ่มขึ้น 4.5 เท่าจากของเดิม, มันก็คงเทียบได้กับเวทย์เลเวล 7 ซึ่งนี่ทำให้หัตถ์เพลิงยักษ์เปลี่ยนเป็นสีน้ำเงิน, แต่ด้วยความที่ลิงค์ควบคุมพลังของมันเอาไว้เพื่อป้องกันไม่ให้ระเบิด, ความสว่างของหัตถ์เพลิงจึงไม่ได้เข้มข้นนัก อันที่จริง, ตอนนี้มีแค่เงาของโลหะเท่านั้น
ตอนนี้ธาตุไฟในเวทย์นี้ดูเหมือนกับว่าพวกมันทำมาจากธาตุโลหะ ซึ่งนี่แสดงให้เห็นว่าเวทย์นี้อัดแน่นขนาดไหน!
ในตอนที่มันปรากฎขึ้น, มันก็เปลี่ยนเป็นรูปหมัดในทันที ตอนนี้พื้นผิวของมันเปล่งแสงสีน้ำงานออกมา มันเจิดจ้ามากจนไม่สามารถมองตรงๆได้ จากนั้น, ในชั่วพริบตา, มันก็พุ่งผ่านระยะ 300 ฟุตและอัดเข้ากับเมาล์
ว้าว, ความเร็วในการร่ายเวทย์อะไรกันเนี่ย! เมาล์คิดด้วยความประหลาดใจในขณะที่ระเบิดออร่าต่อสู้ของเขาถูกปล่อยออกมา
ตูม!
หัตถ์ไททันถูกระเบิดออร่าต่อสู้ของเมาล์ขัดขวางเล็กน้อย, แต่หัตถ์เพลิงนี้ก็ไม่ได้สะทกสะท้านเลยเพราะระเบิดออร่าต่อสู้โดนเข้ากับส่วนที่เป็นโครงสร้างของมันซึ่งเสถียรและแข็งแรงที่สุด นอกจากนี้, ตัวพลังของหัตถ์ไททันเองก็แข็งแกร่งพอๆกับเวทย์เลเวล 7, ดังนั้นมันจึงเป็นไปไม่ได้ที่ออร่าต่อสู้ของเมาล์ที่มีเลเวล 7 เหมือนกันจะทำลายมันได้ในครั้งเดียว
และแล้ว, โอกาสเดียวของเมาล์ที่จะเอาชนะลิงค์ได้ก็ผ่านไป
ในจังหวะต่อมา, เขาก็ถูกหัตถ์ไททันอัดเข้าอย่างจัง มีเสียงตูมดังสนั่นเพราะเขาถูกอัดด้วยแรงกระแทกเต็มเหนี่ยว เมาล์มีเวลาแค่ระเบิดออร่าต่อสู้ของเขาเพื่อปกป้องตัวเอง, แต่มันก็ไม่พอเลยสักนิดเพราะเขาถูกส่งลอยกลับไปสองสามฟุต
ในกระบวนการนี้, ออร่าต่อสู้ของเมาล์ได้รับความเสียหายหนักและอยู่ในจุดที่อ่อนแอที่สุดชั่วคราว
และนั่นก็คือตอนที่ลิงค์โจมตีเขาอีกครั้งด้วยพลังโจมตีที่รุนแรงยิ่งกว่าเดิม เขาใช้โอกาสในขณะที่เมาล์ยังอยู่กลางอากาศแล้วเปลี่ยนหมัดไททันกลับไปเป็นหัตถ์ไททันแล้วจับเมาล์ในทันที ตอนนี้มือยักษ์ได้จับเมาล์เอาไว้ในฝ่ามือและเพิ่มอุณหภูมิของมันจนถึงขีดสุด
นี่เป็นรูปแบบการโจมตีตามสไตล์ของลิงค์, และไม่มีใครสามารถรอดจากมันได้!
“อั่ก…ดะ…ได้ยังไงกะ…” เมาล์ยังพูดไม่จบด้วยซ้ำก่อนที่ร่างของเขาจะถูกอุณห์ภูมิแผดเผาของหัตถ์ไททันเผาจนเป็นเถ้าถ่าน
คนอื่นๆมองฉากที่เพิ่งจะเกิดขึ้นนี้ด้วยความหวั่นเกรง
มันเหมือนกับว่าเมาล์แค่ถูกมือยักษ์นี้บีบเบาๆ แต่ในเวลาไม่นานเลย, ชีวิตของนักรบอันน่าภาคภูมิใจก็ถูกบีบเละและกลายเป็นขี้เถ้าในทันที
เขาแข็งแกร่งขนาดนี้เลยหรอ? เฟลิน่ามองฉากนี้ด้วยความสับสน เธอรู้ว่ามีความแตกต่างของพลังระหว่างเธอกับลิงค์, แต่เธอไม่เคยคิดเลยว่าช่องว่างมันจะใหญ่ขนาดนี้—แม้ว่าเธอจะเป็นนักรบที่มีพรสวรรค์ที่สุดของเผ่ามังกรก็ตาม!
บนเนินเขา, ศัตรูสุดแกร่งถูกฆ่าในเวลาไม่กี่วินาที ลิงค์อดระเบิดเสียงหัวเราะออกมาไม่ได้ เขามองพวกกลู, ดาร์คเอลฟ์, และนักรบกระดูกที่กำลังวิ่งขึ้นเนินตรงมาหาเขา เขาเก็บหัตถ์ไททันเวอร์ชันเสริมพลังเอาไว้ภายใต้การควบคุมอย่างสมบูรณ์ของเขาและพุ่งไปข้างหน้าโดยไม่ลังเลเลยแม้แต่นิดเดียว
นักรบมังกรทมิฬคนนี้เป็นแค่ของว่างสำหรับเขา!
ตอนนี้, มาเริ่มการต่อสู้จริงๆกันดีกว่า!