advent of the archmage - Chapter 215: อสรพิษทมิฬ, บ่วงบาศก์ของสตรีแห่งความมืด
ลิงค์กลับมายังที่นั่งของเขาแล้วรอฟังกษัตริย์ลีออนพูด
“ออกไปจากท้องพระโรงก่อน” กษัตริย์ลีออนสั่งเหล่าบริวารและข้าราชบริพาร
ทุกคนลุกขึ้นแล้วออกไปในทันที, ซึ่งคนสุดท้ายที่ออกไป, ได้ปิดประตูบานยักษ์ที่อยู่ข้างหลังพวกเขา จากนั้นกษัตริย์ลีออนก็หันไปหากรินท์ที่ยังอยู่ข้างๆเขา
“มาสเตอร์กรินท์” เขาสั่ง “เอาภาพเวทมนตร์ให้มาสเตอร์ลิงค์ดูทีซิ”
กรินท์พยักหน้าแล้วเอาคำภีร์ออกมา เขาใช้มือแห่งนักเวทย์ส่งมันไปให้ลิงค์, จากนั้นเขาก็เปิดมันแล้วศึกษามันอยู่พักนึง ลิงค์พบว่ามีร่องรอยสีน้ำตาลแดงของเลือดอยู่บนคำภีร์ซึ่งแสดงรายละเอียดภาพของดาร์คเอลฟ์คนนึง พื้นหลังของภาพนั้นเป็นป่ามืดครึ้ม, ในขณะที่ดาร์คเอลฟ์คนนั้นถูกบดบังทั้งตัวด้วยเกราะหนังและสวมหน้ากากฮู้ดไว้ที่หัวของเขา มีแค่ดวงตาของดาร์คเอลฟ์เท่านั้นที่เปิดเผยออกมา, และเขาก็อยู่ในท่าชันเข่าซึ่งทำให้ความกระหายเลือดในดวงตาพวกนั้นชัดเจนยิ่งขึ้น
ในแวบแรก, มันดูไม่มีอะไรพิเศษเกี่ยวกับดาร์คเอลฟ์ตัวนี้ แต่ในขณะที่เขาศึกษามันอย่างใกล้ชิด, ลิงค์ก็พบจุดที่ผิดปกติบางจุด สิ่งที่เห็นได้ชัดที่สุดที่เขาสังเกตุได้ก็คือดวงตา, ซึ่งเป็นสีแดงเข้มเหมือนกับดาร์คเอลฟ์คนอื่นๆ แต่, ยิ่งเขาสังเกตุมันมากเท่าไหร่, เขาก็ยิ่งเห็นรูนเล็กๆบนม่านตาพวกนั้นชัดเจนขึ้นเท่านั้น มือของดาร์คเอลฟ์เองก็แปลกเช่นกัน—พวกมันไม่ใช่นิ้วปกติแต่เป็นกงเล็บแทน, และเล็บนั้นก็คมกริบราวกับเล็บของสัตว์ร้าย
“ภาพเวทมนตร์นี้ส่งกลับมาจาก MI3” กรินท์พูด “นักเวทย์คนนึงได้สละชีวิตของตัวเองเพื่อเอามันมา”
ลิงค์ตกตะลึงในทันทีที่เขาเห็นภาพนี้เพราะเขารู้อยู่แล้วว่ามันคืออะไร แต่, เขาก็ยังคงรักษาความเยือกเย็นเอาไว้
“ดาร์คเอลฟ์คนนี้แข็งแกร่งหรอครับ?” ลิงค์ถาม
“แข็งแกร่งมากเลยหล่ะ!” กรินท์ตอบด้วยน้ำเสียงจริงจัง
กษัตริย์ลีออนนั่งบนบังลังก์พร้อมกับขมวดคิ้วแน่น, แล้วไม่พูดอะไรออกมา การเปิดเผยนี้ไม่ได้สร้างความประหลาดใจให้กับลิงค์เลย ภายในเกมส์, กองทัพของอาณาจักรนอร์ตันนั้นไม่เคยชนะการต่อสู้ไหนที่ดาร์คเอลฟ์นักฆ่าประเภทนี้ปรากฎตัว
แต่ลิงค์ต้องพยายามทำเป็นเหมือนกับว่าเขาไม่รู้เรื่องนี้
“ช่วยอธิบายมาทีครับ” เขาพูดกับกรินท์
ครั้งนี้, กษัตริย์ลีออนเป็นคนตอบเขา
“ข้อมูลที่พวกเราได้มาจาก MI3 มีใจความว่าดาร์คเอลฟ์ประเภทนี้มีความเร็วสูงมากๆ, มีออร่าที่แข็งแกร่งและทนทาน, และมีความป่าเถื่อนและความกระหายเลือดตามธรรมชาติ ความแข็งแกร่งของพวกมันพอๆกับนักรบเลเวล 6, และพวกมันก็ทำงานกันเป็นกลุ่ม พวกมันดูเหมือนกับว่าไม่รู้จักเหนื่อยล้าและสามารถทำงานได้ตลอดทั้งวันโดยไม่พักผ่อน พวกมันเชี่ยวชาญในการลอบสังหารเจ้าหน้าที่ในกองทัพแบทเทิลเมจของพวกเรา MI3 ได้พยายามวางกับดักจับตัวพวกมัน, แต่จนถึงตอนนี้พวกเราก็สูญเสียสมาชิกระดับสูงของ MI3 ไปหลายคนแล้วโดยที่จับพวกมันไม่ได้เลย ภาพนี้เป็นสิ่งเดียวที่พวกเราได้มาในตอนนี้”
ลิงค์พยักหน้าแล้วก้มดูภาพอีกครั้ง แม้ว่าภาพนี้จะชัดเจนมากๆ, แต่มันก็ยังมีรายละเอียดไม่เพียงพอสำหรับลิงค์, ดังนั้นเขาจึงร่ายเวทย์ตาอินทรีย์แล้วตรวจสอบมันให้ใกล้ขึ้น ในขณะที่ศึกษาภาพ, ลิงค์ก็ยกคทาของเขาขึ้นแล้วเริ่มวาดมันในอากาศ
แสงสีขาวปรากฎขึ้นที่ปลายคทาของลิงค์, มันเหมือนกับว่าอากาศเป็นกระดานวาดภาพของเขา คทาเคลื่อนไหวในอากาศและทิ้งเครื่องหมายแสงที่ลบไม่ได้เอาไว้ในเส้นทางของมัน ประมาณหนึ่งนาทีต่อมา, ลิงค์ก็หยุดวาดด้วยคทาของเขา, แล้วเขาก็ได้ทิ้งวงเวทย์ผนึกที่เก็บรูนเวทย์มนตร์ประมาณหนึ่งร้อยรูนเอาไว้ในอากาศ
จากนั้น, ก็มีบางอย่างแปลกๆเกิดขึ้น
เงาในมุมที่มืดที่สุดของท้องพระโรงค่อยๆขยายตัว, และตะเกียงเวทมนตร์ก็ดูเหมือนกับถูกปกคลุมด้วยชั้นของหมอกสีดำ, แสงหลี่ลงอย่างมาก ตอนนี้มันให้ความรู้สึกเหมือนกับว่าความมืดแผ่ซ่านไปทั่วทั้งท้องพระโรง
กษัตริย์ลีออนรู้สึกกระวนกระวายใจกับการเปลี่ยนแปลงนี้อย่างเห็นได้ชัด
“นี่มัน…รูนแห่งความมืด!” กรินท์อุทานด้วยความตื่นตระหนัก “มาสเตอร์ลิงค์, เกิดอะไรขึ้นเนี่ย?”
ลิงค์สบัดคทาของเขาที่ผนึกเวทย์มนตร์เพื่อทำให้รูนกระจาย เขาเพิ่งจะใช้เทคนิคการจำลองที่เขาพบในสมุดโน้ตของแวนซ์ มันเป็นเทคนิคที่ทรงพลังมากๆ, แต่มันก็ดูรุนแรงสำหรับพวกที่ไม่เคยเห็นมันมาก่อน
พอรูนเวทมนตร์ในอากาศหายไป, หมอกสีดำในท้องพระโรงก็สลายไป, แล้วทุกอย่างก็กลับมาเป็นปกติ
“รูนพวกนี้อยู่ที่ม่านตาของดาร์คเอลฟ์ในภาพนี้” ลิงค์อุทาน “ผมไม่รู้หน้าที่เฉพาะของมัน, แต่หากตัดสินใจผลแปลกประหลาดที่มันสร้างขึ้นเมื่อสักครู่นี้, พวกเราก็สามารถสันนิษฐานได้ว่าร่างกายของดาร์คเอลฟ์คนนี้เปลี่ยนไปจากเวทย์มนตร์แห่งความมืดด้วยวิธีการบางอย่าง”
กรินท์อ้าปากค้างด้วยความตกใจ
“ท่านหมายความว่าดาร์คเอลฟ์คนนี้ถูกดัดแปลงด้วยไสยเวทย์งั้นหรอ?” เขาถาม
น้ำเสียงของกรินท์เปลี่ยนไปในตอนที่เขาถามลิงค์ เขาเคยคิดว่าลิงค์ยังเด็กเกินกว่าที่จะเข้าใจในทฤษฎีเวทมนตร์อย่างลึกซึ้ง แต่จากสิ่งที่เขาเห็นจนถึงตอนนี้, เขาถูกบังคับให้ยอมรับเขาเป็นจอมเวทย์ที่แท้จริงและถือว่าเขามีฐานะเท่าเทียมกัน
“ใช่ครับ, ไสยเวทย์” ลิงค์ตอบกลับไป “แต่ไม่ใช่แค่เวทมนตร์ไสยเวทย์ทั่วๆไปนะ ท่านคงเห็นแล้วหล่ะว่า, ไม่มีการเชื่อมโยงที่เป็นรูปธรรมระหว่างรูนเวทมนตร์ที่ผมเพิ่งวาดไปเมื่อสักครู่เลย ซึ่งนี่มันไม่สอดคล้องกับกฎสากลในรูนทั่วๆไป มันเหมือนกับว่าตัวตนของพวกมันนั้นมีอิทธิพลต่อธาตุมืดในสภาพแวดล้อม, ซึ่งหมายความว่าพวกมันแข็งแกร่งอย่างเหลือเชื่อ”
“ท่านหมายความว่าพวกมันคือ…”
“พวกมันไม่ใช่แค่รูนแห่งความมืดทั่วๆไป” ลิงค์พูด “พูดมันเป็นรูนศักดิ์สิทธิ์แห่งความมืด!” รูนแบบแรกนั้นเป็นพลังของสิ่งมีชีวิตทั่วๆไป, แต่แบบหลังเป็นพลังจากพระเจ้าแห่งความมืด, และความแตกต่างของระดับพลังทั้งสองนั้นก็เหมือนกับฟ้ากับเหว!
“ถ้าพวกมันเป็นรูนศักดิ์สิทธิ์แห่งความมืดจริงๆ” กรินท์พูด “ก็มีแค่นักบวชเท่านั้นนี่ที่สามารถสร้างพวกมันได้ แต่ว่านักบวชจะสร้างเวทย์ศักดิ์สิทธิ์ที่แข็งแกร่งขนาดนี้ได้ยังไง?”
เวทย์ศักดิ์สิทธิ์นี้ทรงพลังพอที่จะเปลี่ยนกลุ่มนักสู้ให้กลายเป็นนักฆ่าเลเวล 6 ระดับพลังอันน่าหวาดกลัวนี้ไม่เคยได้ยินในดินแดนแห่งแสงเลย!
“นั่นก็จริงครับ” ลิงค์พูดต่อ “เวทย์ศักดิ์สิทธิ์ทั่วๆไปนั้นต้องการนักบวชหนึ่งคนเป็นสื่อกลางรับผลกระทบ แล้วด้วยความที่นักบวชเป็นแค่สิ่งมีชีวิตทั่วๆไป, พลังของเวทย์ศักดิ์สิทธิ์จึงลดลงอย่างมาก การสร้างนักฆ่าเลเวล 6 นั้นต้องการอำนาจและพลังงานจำนวนมหาศาลซึ่งมันเป็นไปไม่ได้ ดังนั้น, ผมเดาว่าพวกมันน่าจะมีอุปกรณ์แห่งความมืดระดับพระเจ้าอยู่ในมือของพวกมันนะครับ”
น้ำเสียงของลิงค์นั้นราบเรียบมากๆราวกับว่าเขากำลังระบุข้อเท็จจริงจากหนังสือเรียน แต่เขาก็ได้สร้างทฤษฎีที่แทบจะไม่มีเหตุผลหักล้างได้ขึ้นมาและในที่สุดก็ได้ข้อสรุปที่สะเทือนโลก—อุปกรณ์แห่งความมืดระดับพระเจ้า!
ถ้าคำพูดเหล่านี้รั่วไหลออกไปนอกท้องพระโรงนี้, พวกมันคงจะมีอำนาจมากพอที่จะปล่อยพายุแห่งความวุ่นวายทั้วทั้งอาณาจักรนอร์ตันหรือแม้กระทั่งทั่วดินแดนแห่งแสงเลยก็ได้ ในประวัติศาสตร์ของฟิรุแมนนั้น, เมื่อไหร่ก็ตามที่อุปกรณ์ระดับพระเจ้าปรากฎขึ้น, มันก็หมายความว่าโลกทั้งใบกำลังนำมาซึ่งการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ที่อาจจะเปลี่ยนแปลงโลกไปตลอดกาล
จนถึงตอนนี้, ไม่มีใครพบอุปกรณ์ระดับพระเจ้าชิ้นไหนในดินแดนแห่งแสงเลย อุปกรณ์ที่แข็งแกร่งที่สุดก็เป็นแค่อุปกรณ์ระดับศักสิทธิ์ที่มีชื่อว่าจอกศักดิ์สิทธิ์เท่านั้น ซึ่งมันถูกเก็บรักษาเอาไว้ในโบสถ์แห่งแสงในเมืองศักดิ์สิทธิ์ของซาราน่า
แม้กระทั่งกรินท์ก็ยังรู้สึกว่าลิงค์พูดถูก, แต่เขายังอยากยึดมั่นในด้ายแห่งความหวังเส้นสุดท้ายและปฏิเสธที่จะเชื่อมัน
“แต่ใครจะยอมเสียสละมากขนาดนั้นเพียงเพื่อเอาอุปกรณ์ระดับพระเจ้ามายังโลกใบนี้หล่ะ?”
แม้ว่าตัวตนของอุปกรณ์ระดับพระเจ้านั้นจะไม่สามารถปฏิเสธได้, เพราะพลังที่หลุดโลกของพวกมัน, แต่มันก็ขัดกับกฎของอาณาจักรฟิรุแมนในการนำมันมายังโลกใบนี้ ดังนั้น, การรักษาตัวตนของอุปกรณ์ระดับนี้จึงต้องการทรัพยากรและพลังงานจำนวนมากจนไม่สามารถจินตนาการได้ และเมื่อพลังงานนี้หมดลง, อุปกรณ์ระดับพระเจ้าก็จะถูกบีบออกจากระนาบของความเป็นจริงนี้ในทันที
ดังนั้น, ในโลกมนุษย์นี้, จึงมีแค่อุปกรณ์ระดับศักดิ์สิทธิ์เท่านั้นที่เป็นอุปกรณ์ที่แข็งแกร่งที่สุดที่สามารถมีตัวตนได้อย่างมั่นคง
ลิงค์ถอนหายใจออกมา เขารู้ว่าใครเป็นคนเอาอุปกรณ์ระดับพระเจ้าเข้ามาในโลกนี้, และเขาก็รู้ผลที่จะตามมาเช่นกัน
ภายในเกมส์, อุปกรณ์แห่งความมืดระดับพระเจ้านี้ถูกเรียกว่า “อสรพิษทมิฬ, บ่วงบาศก์ของสตรีแห่งความมืด” และมันก็เป็นอาวุธของราชินีแมงมุมลอร์ธ เหตุผลเดียวที่ทำไมมันถึงสามารถถูกนำมายังโลกมนุษย์ได้ก็เพราะดาร์คเอลฟ์ได้สังเวยวิญญาณ 10,000 ดวง ในตอนที่พวกเขาโจมตีแกลดสโตน
แต่การเปลี่ยนแปลงของพระจันทร์สีเลือดนั้นไม่ได้เกิดขึ้นในโลกนี้, แต่ดาร์คเอลฟ์ก็ยังสามารถนำอุปกรณ์ระดับพระเจ้านี้มาได้ ซึ่งมันสามารถอธิบายได้อย่างเดียวสำหรับเรื่องนี้, นั่นก็คือพวกเขาพบเผ่าพันธุ์อื่นให้สังเวย!
“ผมคิดว่า” ลิงค์กระซิบ “ดาร์คเอลฟ์ต้องใช้วิธีการสังเวยเพื่อนำอุปกรณ์นี้มายังโลกมนุษย์แน่ๆ”
“วิธีการสังเวยหรอ? อัญเชิญอุปกรณ์ระดับพระเจ้าเนี่ยนะ?” กรินท์ถามด้วยความที่ยังไม่เชื่อ “แต่นั่นต้องการวิญญาณอย่างน้อย 10,000 ดวงเลยนะ!”
ลิงค์ตอบกลับไปแค่คำเดียว
“แกลดสโตน”
คำพูดนี้ทำให้กรินท์หนาวไปถึงกระดูกสันหลัง กษัตริย์ลีออนปฏิเสธที่จะเข้าใจมันในตอนแรก, แต่หลังจากนั้นซักพัก, เลือดก็ถูกสูบจากใบหน้าของเขา, แล้วใบหน้าของเขาก็ดูซีดเผือด
ใช่, เมื่อหนึ่งปีก่อนดาร์คเอลฟ์ได้วางแผนลอบโจมตีเมืองแกลดสโตน มันเป็นแผนการชั่วร้าย, แต่ถึงแม้จะส่งคนไปสืบสวนเหตุจูงใจที่แท้จริงของดาร์คเอลฟ์ที่อยู่เบื้องหลังการกระทำแบบนี้, แต่ก็ไม่เคยมีข้อสรุปที่น่าเชื่อถือมาก่อนเลย
แต่ตอนนี้, ลิงค์ได้ลดความสงสัยไปทีละขั้นผ่านตัวตนของรูนแห่งความมืดในดวงตาของดาร์คเอลฟ์และสรุปว่าต้องมีอุปกรณ์แห่งความมืดระดับพระเจ้าอยู่ในโลกมนุษย์แน่ๆ ดังนั้น, ตอนนี้เขาจึงพบเหตุผลอันน่ากลัวที่อยู่เบื้องหลังการโจมตีในแกลดสโตน
ดาร์คเอลฟ์ได้พยายามสังหารหมู่วิญญาณผู้บริสุทธิ์ในแกลดสโตนและสังเวยพวกเขาเพื่ออัญเชิญอุปกรณ์แห่งความมืดระดับพระเจ้าแล้วใช้มันเพื่อเปิดสงครามกับอาณาจักรแห่งแสง
ถ้าแผนการของดาร์คเอลฟ์สำเร็จ, อาณาจักรนอร์ตันก็คงจะประสบกับเหตุการณ์ที่โหดเหี้ยมที่สุดในตอนนี้ ความเป็นไปได้ที่จะโต้กลับหรือชัยชนะเล็กๆนั้นคงจะเป็นแค่เรื่องขำขัน
ยังมีเงาแห่งความสงสัยสุดท้ายในใจของกษัตริย์ลีออน
“มาสเตอร์ลิงค์” เขาถาม “ทั้งหมดนี้เป็นแค่การคาดเดาของท่านงั้นหรอ?”
ลิงค์พยักหน้า เขาไม่สามารถปฏิเสธเรื่องนั้นได้ เพราะเขาไม่มีหลักฐานที่ใช้สนับสนุนคำกล่าวอ้างของเขาเลยไม่ว่าเขาจะมั่นใจความจริงในเรื่องเหล่านั้นมากแค่ไหนก็ตาม
“แต่ว่า, ฝ่าบาท” ลิงค์พูด “มีวิธีที่ง่ายที่สุดที่จะยืนยันทฤษฎีของกระหม่อม พวกเราแค่จำเป็นต้องสืบสวนว่ามีการสังหารหมู่อื่นๆทางตอนเหนือรึเปล่า พวกมันไม่สามารถซ่อนเรื่องแบบนั้นได้อย่างมิดชิดหรอก บางที MI3 น่าจะหาร่องรอยบางอย่างของ…”
ก่อนที่ลิงค์จะพูดจบ, กษัตริย์ลีออนก็ทรุดลงกับบัลลังก์อย่างหมดหนทาง หยาดเหงื่อไหลท่วมหน้าผากของเขา, และดวงตาของเขาก็เปลี่ยนเป็นความมืดและความหนาวเหน็บเหมือนกับพายุ คำพูดของลิงค์ต้องสร้างความสั่นคลอนให้เขาอย่างมหาศาลแน่ๆ, แม้ว่าลิงค์จะไม่มั่นใจว่าทำไมก็ตาม
ลิงค์หันไปหากรินท์เพื่อขอคำอธิบายแต่ไม่นานนักเขาก็พบว่าจอมเวทย์คนนี้ก็ไม่ได้อยู่ในสภาพที่ดีเหมือนกัน ใบหน้าของเขาขาวซีด, และมือทั้งสองข้างของเขาก็จับคทาแน่น มันดูเหมือนกับว่าความรู้สึกทั้งหมดของเขาถูกเอาออกไปจากร่างกายของเขาและทั้งหมดที่เขาต้องการก็คือความตาย
“เกิดอะไรขึ้น?” ลิงค์ถาม
กรินท์หัวเราะอย่างถากแถงอยู่พักใหญ่ๆก่อนที่จะตอบคำถามลิงค์ เสียงหัวเราะของเขาดูเหมือนกับเสียงร้องไห้มากกว่าในตอนที่ลิงค์ฟังมัน
“อันที่จริง” กรินท์พูดด้วยน้ำเสียงแหบแห้งและหนาวเหน็บ “พวกเราได้รับข่าวบางอย่างมาจากทางเหนือ ท่านเคยได้ยินเรื่องคนเถื่อนทุ่งน้ำแข็งไหมหล่ะ?”
“เคยครับ” ลิงค์ตอบ “พวกเขาเป็นเผ่าพันธุ์ที่ใช้ชีวิตบนเกาะน้ำแข็งมาหลายชั่วอายุคนและพวกเขาก็ล่าวาฬเพื่อหาเลี้ยงชีพ” เขาอ่านเรื่องพวกนี้มาจากหนังสือ, แต่คนพวกนี้เป็นพวกป่าเถื่อนและไม่ได้เข้าร่วมในเรื่องระหว่างอาณาจักรมากนัก, ดังนั้นจึงไม่ค่อยมีใครสนใจพวกเขา
“ใช่” กรินท์พูดต่อ “สามเดือนก่อน, กองทัพของพวกเราได้รับคำร้องขอความช่วยเหลือจากคนพวกนี้ พวกเขาบอกว่าปีศาจได้จู่โจมเกาะของพวกเขาและสังหารหมู่ประชาชนส่วนใหญ่ พวกเขาหวังว่าพวกเราจะสามารถช่วยพวกเขาได้ ไม่มีใครเก็บมันมาคิดจริงจังในตอนนั้นเพราะพวกเขาเป็นแค่คนเถื่อน นอกจากนี้, กองทัพของพวกเราก็ได้วางแผนทำสงครามกับดาร์คเอลฟ์อยู่ด้วย…แต่ใครจะไปคิดกันหล่ะ…ใครจะไปคิดกันหล่ะว่าเรื่องมันจะกลายเป็นแบบนี้!”
พูดอีกนัยนึงก็คือ, คนเถื่อนทุ่งน้ำแข็งถูกสังหารหมู่แทนประชาชนของอาณาจักรนอร์ตัน แล้วผลลัพธ์ของมันนั้น, ก็ทำให้อุปกรณ์แห่งความมืดระดับพระเจ้ามาอยู่ที่นี่, และอาณาจักรนอร์ตันก็ต้องประสบกับผลที่ตามมาอันโหดร้ายที่กำลังมาถึง
เวรกรรมตามทันจริงๆ!
กษัตริย์ลีออนเอานิ้วลูบหางตาของเขา, ปาดน้ำที่หลั่งออกมาอย่างเงียบๆ จากนั้นเขาก็หันไปหาลิงค์แล้วพูดกับเขาด้วยน้ำเสียงอันนอบน้อม
“มาสเตอร์ลิงค์” เขาเริ่มพูดเหมือนกับแก้ตัว “ท่านคิดว่าพวกเรามีโอกาสชนะสงครามนี้ไหม?”
นักเวทย์หนุ่มได้แสดงปัญญาและดุลยพินิจอันปราดเปรื่องต่อหน้าต่อตาของเขา เขาสามารถคาดเดาแผนการชั่วร้ายของดาร์คเอลฟ์ได้ด้วยเงื่อนงำเพียงเล็กน้อยและสรุปการมีอยู่ของอุปกรณ์แห่งความมืดระดับพระเจ้าในขณะที่ยังเยือกเย็นและสงบนิ่งอยู่
ตัวตนของบุคคลเช่นนี้ทำให้กษัตริย์ลีออนมีความหวังเล็กน้อย บางทีน่าจะมีความจริงอยู่บ้างที่มีข่าวลือบอกว่าเขาเป็นผู้ถูกเลือกของเทพแห่งแสง บางทีเด็กหนุ่มคนนี้อาจจะสามารถช่วยดินแดนแห่งแสงได้ในสักวันนึง
ลิงค์ไม่ได้บอกว่าพวกเขาสามารถชนะได้หรือไม่
“ฝ่าบาท” ลิงค์พูด, พร้อมกับแกว่งคำภีร์คาบเลือดที่เก็บภาพของดาร์คเอลฟ์เอาไว้ในมือของเขา “อนาคตไม่สามารถคาดเดาได้ พวกเราจะชนะหรือแพ้นั้นขึ้นอยู่กับความพยายามในปัจจุบันของพวกเรา พวกเรายังไม่ถึงจุดตกต่ำที่สุด, ดังนั้น, ในขั้นแรก, พวกเราต้องจับดาร์คเอลฟ์นักฆ่าไสยเวทย์ให้ได้และศึกษาจุดอ่อนของมัน จากนั้นพวกเราก็จะสามารถรับมือกับอุปกรณ์แห่งความมืดระดับพระเจ้าได้ ฝ่าบาททรงเห็นด้วยกับกระหม่อมไหม?”
“แต่ดาร์คเอลฟ์พวกนี้แข็งแกร่งเกินไปนะ” กษัตริย์ลีออนพูด “และทักษาการต่อสู้ของพวกมันก็อยู่ในระดับที่ไม่สามารถจินตนาการได้ พวกมันทำงานกันเป็นกลุ่ม, และพวกมันก็เคลื่อนไหวได้รวดเร็วจนน่าเหลือเชื่อ แม้กระทั่งนักดาบรุ่งอรุณคาร์โนสก็ยังจำตัวพวกมันไม่ได้เลย”
นักดาบรุ่งอรุณคาร์โนส, นักรบเลเวล 8, เป็นนักรบที่แข็งแกร่งที่สุดในอาณาจักรนอร์ตันและอาจจะแข็งแกร่งที่สุดในเผ่าพันธุ์มนุษย์ เขามักจะประจำอยู่ในพระราชวัง, แต่เมื่อตัดสินจากคำพูดของกษัตริย์, เขาต้องถูกส่งไปยังสนามรบทางตอนเหนือด้วยแน่ๆ ซึ่งนี่ได้พิสูจน์ว่าสถานการณ์ของอาณาจักรนอร์ตันนั้นเลวร้ายขนาดไหน!
ลิงค์ประสานนิ้วของเขาที่หน้าอกแล้วตกอยู่ในความเงียบเป็นเวลาพักนึง
“ผมจะไปทางเหนือด้วยตัวเอง” ลิงค์พูดออกมาในที่สุด
“หา?” กษัตริย์ลีออนกับกรินท์มองหน้ากันด้วยความตกใจ ตั้งแต่เอาชนะปีศาจเลเวล 8 ทาร์วิสมาได้ ลิงค์ก็เป็นที่รู้จักทั่วทั้งดินแดนแห่งแสงในฐานะแบทเทิ่ลเมจที่ทรงพลังที่สุด มันจะเป็นทีมที่น่ายำเกรงขนาดไหนกันถ้าเขาสามารถทำงานร่วมกับนักดาบรุ่งอรุณได้!
มันคงพูดได้เลยว่าถ้าสองคนนี้ทำไม่สำเร็จหลังจากร่วมมือกัน, ก็คงไม่มีใครในดินแดนนี้ทำได้แล้ว!
“แล้วท่านจะออกเดินทางเมื่อไหร่, มาสเตอร์ลิงค์?” กรินท์ถาม
“ผมขอเวลาหนึ่งสัปดาห์เพื่อจัดการเรื่องของผมก่อนที่จะออกเดินทาง” ลิงค์ตอบ
“ได้สิ! ได้!” กษัตริย์พูด, เขายืนขึ้นด้วยความตื่นเต้นในตอนนี้ “โปรดบอกมาข้ามาได้เลยว่าข้าทำอะไรเพื่อท่านได้บ้าง, มาสเตอร์ลิงค์, ข้าจะทำอย่างเต็มที่เพื่อทำให้ท่านพอใจ!”
“ถ้างั้นฝ่าบาทช่วยทำให้มั่นใจด้วยว่าจะไม่มีใครรู้การเคลื่อนไหวและที่อยู่ของกระหม่อม” ลิงค์พูด
ลิงค์ลังเลใจที่จะไปทางเหนือ, แต่ดูเหมือนว่ากองทัพของอาณาจักรนอร์ตันกำลังล่มสลายด้วยความพ่ายแพ้ต่อหน้าต่อตาของเขา ลิงค์ไม่สามารถอยู่เงียบๆและไม่ทำอะไรเลยได้อีกต่อไปแล้ว ณ จุดๆนี้