advent of the archmage - Chapter 206: เกาะประหลาด
มันเป็นเวลาหนึ่งชั่วโมงแล้ว; ลิงค์ลอยอยู่ในอากาศโดยใช้เวทย์ลอย เขาค่อยๆร่วงลงมาอย่างช้าๆและตอนนี้ก็อยู่ที่ระดับความสูง 6,000 ฟุต เขากำลังเรียกสติของตัวเองในช่วงเวลานี้
แม้ว่าผลของรบกวนมานาจะยังไม่หายเป็นปลิดทิ้ง, แต่ความเร็วในการร่ายเวทย์ของเขาในตอนนี้ก็กลับสู่สภาพปกติของมันแล้ว ผลข้างเคียงเดียวที่เหลืออยู่ก็คือจุดอ่อนที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะปรากฏขึ้นในเวทย์มนตร์ของเขาเพราะสถานะที่เขาติดอยู่ ซึ่งมันคงจะไม่เป็นอะไรถ้าใช้เวทย์มนตร์กับคนธรรมดา อย่างไรก็ตาม, มันคงจะเข้าขั้นหายนะถ้ามีจุดอ่อนแบบนี้ในระหว่างที่ต่อกรกับนานะ
ถ้าเขาไม่มีหินนักปราชญ์สีขาวในมือ, เขาก็คงจะมีโอกาสรอดน้อยมาก, ไม่ต้องพูดถึงการพลิกกระดานเลย
นานะถูกออกแบบมาให้คำนวณทุกรายละเอียดการต่อสู้จนถึงรายละเอียดที่เฉพาะเจาะจง เธอถูกสร้างมาได้สมบูรณ์แบบมากจนแม้กระทั่งผู้เชี่ยวชาญการต่อสู้อย่างลิงค์ก็ยังรู้สึกกดดันและติดพัน
ประสบการณ์การต่อสู้สี่ร้อยปีนี่เป็นพลังที่ยากจะต่อกรจริงๆ แม้ว่าลิงค์จะไม่ได้รู้สึกพ่ายแพ้ก็ตาม เขาเชื่อว่าถ้าเขาได้รับประสบการณ์การต่อสู้ที่มากพอ, เขาเองก็จะมีความรู้ในการต่อสู้อันไร้ที่ติเหมือนนานะ
เสียงกระพือปีกดังจนสามารถได้ยินได้ ลิงค์มองไปที่ข้างหลังเขาแล้วเห็นนานะกับกริฟฟินอีกตัว เธอกำลังบินโฉบอยู่ที่ระยะห่างออกไป 600 ฟุต, จ้องมองมาที่เขาอย่างใจจดใจจ่อ ลิงค์มีสมาธิสูงมาก, แม้ว่าเขาจะยังอยู่นิ่งตลอดเวลา เขาแสดงท่าทีผ่อนคลายและเยือกเย็นในขณะที่เขาลอยลงไปอย่างช้าๆ
นานะเองก็รักษาระยะของเธอแล้วลดระดับความสูงของเธออย่างช้าๆ, ให้พอดีกับการเคลื่อนที่ของลิงค์
การต่อสู้กลางเวหาเมื่อสองครั้งก่อนหน้านี้ได้จบลงด้วยความล้มเหลวของเธอ ซึ่งนี่หมายความว่าความได้เปรียบที่เธอจะเอาชนะลิงค์ได้กลางอากาศนั้นไม่สูงเลย ดังนั้นเธอจะรอจนลิงค์ถึงพื้นก่อนแล้วค่อยทำการเคลื่อนไหว พื้นดินเป็นชัยภูมิของเธอ เธอสามารถฆ่าเป้าหมายของเธอได้ด้วยการโจมตีเพียงครั้งเดียว
“ล็อคเป้าหมาย ปัจจุบันเป้าหมายกำลังลงพื้นในระยะ…1,900…1,800…1,700…” น้ำเสียงอันสดใสดังมาจากนานะอย่างต่อเนื่องในขณะที่ดวงตาสดใสของเธอจดจ่ออยู่กับลิงค์ มันดูบริสุทธิ์และสดใสมาก, แม้ว่ามันอาจจะให้ความรู้สึกเหมือนกับผู้เก็บเกี่ยวที่จุติลงมาถ้าคนๆนั้นเป็นเป้าหมายก็ตาม
หลังจากผ่านไปครึ่งชั่วโมง, ระยะความสูงของลิงค์ก็ลดลงไปอีก 3,000 ฟุต เกาะที่อยู่ข้างล่างเขามองเห็นได้ชัดขึ้น เขาสามารถมองเห็นพืชและสัตว์บนเกาะได้อย่างชัดเจน นอกจากนี้, เขาก็รู้สึกประหลาดใจอยากมากเมื่อพบว่าจุดลงพื้นของเขานั้นอยู่ตรงเกราะสีดำพอดี
บังเอิญอะไรอย่างนี้ ลิงค์ยิ้ม เขามีมานาประมาณ 1,900 แต้มและน่าจะสามารถคงสภาพหัตถ์ไททันไว้ได้ประมาณ 20 วินาที ซึ่งนี่น่าจะเพียงพอแล้วที่จะจัดการกับนานะ
ในตอนนั้นเอง, เสียงลมอันแผ่วเบาก็ดังขึ้นอีกครั้ง จากนั้นลิงค์ก็รู้สึกได้ถึงความผันผวนของเวทย์มนตร์ที่คุ้นเคย แล้วพอเขาหันกลับไปดู, เขาก็เห็นเซลีนกับแวนซ์ที่กำลังกลับมาจากภารกิจของพวกเขา แวนซ์ถือคทาที่มีกระโหลกสีดำติดที่ปลายของมันอยู่ มันเป็นอะไรไปไม่ได้นอกจากตุลาการทมิฬ นี่เป็นข่าวดี ถ้าพวกเขาสามารถผ่านหนึ่งวันไปได้, นี่ก็จะเป็นกุญแจสู่ชัยชนะของพวกเขา อย่างไรก็ตาม, พวกเขาต้องเปลี่ยนแผนการในตอนนี้
“ลิงค์, เป็นยังไงบ้าง?” เซลีนกระซิบในขณะที่เธอจ้องมาที่ใบหน้าซีดเผือดของลิงค์ด้วยสีหน้ากังวล
“บาดเจ็บนิดหน่อยหน่ะ” ลิงค์ตอบ
นานะเองก็สังเกตุเห็นการมาถึงของพวกเขาแล้วปรับตำแหน่งของเธอในทันทีเพื่อรับรองความปลอดภัยของเธอ อีกด้านนึง, ลิงค์ก็ใช้โอกาสนี้เพื่อใช้ผลสมองปลอดโปร่งของผ้าคลุมผู้ควบคุมเปลวเพลิง ผลสมองปลอดโปร่งนั้นจะฟื้นมานา 2,000 แต้ม ซึ่งในการต่อสู้ที่ช่วงเวลาเสี้ยววินาทีสามารถกำหนดความเป็นความตายได้นั้น, การมีมานาเยอะๆย่อมมีประโยชน์กว่าอยู่แล้ว
หลังจากเปิดใช้ผลพิเศษนี้, คลื่นความร้อนอ่อนๆก็ห่อหุ้มผ้าคลุม มันเหมือนกับว่าจู่ๆอุณหภูมิร่างกายของลิงค์ก็เพิ่มขึ้นอย่างบ้าคลั่ง, ทำให้มันดูค่อนข้างน่ากลัว
นานะไม่เคยเห็นปรากฎการณ์แบบนี้มาก่อน เธอคิดว่าลิงค์กำลังจะปล่อยเวทย์มนตร์ที่แข็งแกร่ง ดังนั้นเธอจึงถอยหลังไป 300 ฟุตในทันที
ยังไงซะ, เธอก็เป็นแค่หุ่นเชิดเวทย์มนตร์ แม้ว่าประสบการณ์การต่อสู้ของเธอจะมีประโยชน์, แต่สติปัญญาของเธอก็ยังมีขีดจำกัด ลิงค์รู้สึกว่าโอกาสของเขากำลังสูงขึ้น
ด้วยการใช้ข้อได้เปรียบนี้, เซลีนก็มาถึงตัวลิงค์ได้ในที่สุด
จากนั้นแวนซ์ก็ร่ายเวทย์ลอยใส่ทุกคนเพื่อที่ลิงค์จะได้มีเวลาทุ่มสมาธิกับนานะ แล้วพวกเขาก็ลอยลงไปอย่างช้าๆ
“ลิงค์, แผนการณ์ตอนนี้เป็นยังไง?” แวนซ์จ้องไปที่นานะ, ที่ตอนนี้กำลังขี่กริฟฟินอยู่ ดวงไฟแห่งจิตวิญญาณในดวงตาของเธอนั้นกำลังพลุ่งพล่าน หุ่นเชิดตัวนี้ฉลาดเกินไป; พวกเขาสูญเสียแม้กระทั่งข้อได้เปรียบทางอากาศของพวกเขา
ลิงค์ได้ตัดสินใจแล้ว “พอพวกเราถึงพื้น, ผมจะปล่อยเวทย์เลเวล 9”
แม้ว่าเขาจะรู้สึกโล่งใจที่แวนซ์กับเซลีนกลับมาสนับสนุนเขาได้แล้ว, แต่มันก็ได้พิสูจน์มาแล้วว่าการรวมพลังของพวกเขานั้นไม่เพียงพอที่จะจัดการกับนานะ แถมตอนนี้เขาก็ได้รับบาดเจ็บ, ดังนั้นมันจึงเป็นไปไม่ได้ที่จะยื้อการต่อสู้จนผลของตุลาการทมิฬจะกลับมาใช้ได้ในวันถัดไป
เวทย์เลเวล 9 เป็นเพียงวิธีเดียวเท่านั้น
เซลีนพูดขัด “บางทีพวกเราน่าจะฆ่ากริฟฟินของเธอได้นะ”
ลิงค์ยิ้มอย่างขมขื่ม “ฉันลองดูแล้ว “เธอปกป้องมันได้ดีมาก ไม่ว่าฉันจะทำอะไร, มันก็ไม่สำเร็จสักอย่าง นอกจากนี้, ตอนนี้ฉันก็ติดผลรบกวนมานาอยู่ด้วย ความแข็งแกร่งของเวทย์ระดับต่ำของฉันน่าจะลดลงไปอย่างน้อย 50% นะ”
พอได้ยินคำพูดพวกนี้, เซลีนก็ล้มเลิกความคิดของเธอ
แวนซ์ก็พูดไม่ออกเช่นกัน เขาเคยได้ยินข่าวลือเกี่ยวกับลิงค์ในตอนที่เขาอยู่ในสภาพพร้อมรบเต็มกำลัง มันพูดได้เลยว่าฉากการต่อสู้นั้นคล้ายกับพายุเวทย์ระดับต่ำที่โหมกระหน่ำใส่ศัตรูของเขาอย่างไร้ความปราณี พอคิดว่านานะสามารถป้องกันพายุเวทมนตร์อันน่าหวาดกลัวนี้ได้! เขาก็อาจจะช่วยอะไรไม่ได้มากนักแม้ว่าเขาจะอยู่ในการต่อสู้นั้นด้วยก็ตาม
แวนซ์ยังรู้สึกเจ็บช้ำด้วยที่พวกเขาจะต้องมาเสียเวทย์เลเวล 9 กับหุ่นเชิดตัวนึง เขาพูดอย่างไม่เต็มใจ “พวกเราสามารถปล่อยให้เซลีนพาพวกเราหนีได้นี่”
ก่อนที่ลิงค์จะได้พูด, เซลีนก็ส่ายหัวของเธอแล้วตอบ “ความเร็วของฉันช้ากว่ากริฟฟินมากเลยนะถ้าฉันต้องแบกคนไปด้วยสองคน แถมมันต้องใช้ความอดทนของฉันด้วย”
แล้วแวนซ์ก็ผายมือออกมาอย่างจนปัญญา “ข้าเดาว่าพวกเราคงไม่มีทางเลือกแล้วสินะ”
พวกเขาทั้งสามนิ่งเงียบในขณะที่พวกเขาร่วงหล่นอย่างช้าๆ
ตั้งแต่ที่นานะได้กริฟฟินมาช่วย, พวกเขาก็สูญเสียข้อได้เปรียบทางอากาศไป แถมพวกเขายังเสียข้อได้เปรียบในการเปิดการโจมตีก่อนด้วยเพราะมีข้อจำกันในระยะการร่ายเวทย์ของพวกเขา นานะนั้นระวังตัวมากแล้วจะถอยทุกครั้งที่เธอรู้สึกได้ว่ามีบางอย่างผิดปกติ เธอจะไม่ยอมให้พวกเขามีโอกาสปล่อยเวทย์มนตร์อะไรเลย
ดังนั้น, ทั้งสองฝ่ายจึงทำได้แค่รอจนกว่าจะถึงพื้นก่อนที่จะเริ่มการโจมตีที่รุนแรง
เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว, และไม่นานนัก, พวกเขาก็อยู่เหนือพื้นดินแค่ 300 ฟุต ด้านล่างพวกเขาเป็นเกาะสีดำที่ดูแปลกประหลาด
ทันใดนั้นเอง, ลิงค์ก็รู้สึกได้ว่ามีบางอย่างผิดปกติ จู่ๆมือของเขาก็รู้สึกหนัก พูดให้ชัดกว่านี้, มันคือนิ้วของเขาที่รู้สึกหนัก มันเหมือนกับว่ามีบางอย่างกำลังดึงมันอยู่ ลิงค์รู้สึกสับสน ซึ่งเขาก็ตระหนักได้อย่างรวดเร็วว่าความรู้สึกถูกดึงนี้มาจากตราประทับบารอนบนนิ้วของเขา
สัญชาติญาณของลิงค์บอกให้เขาตรวจสอบตราประทับบารอนในทันที อย่างไรก็ตาม, ในตอนที่เขาขยับ, เขาก็รู้สึกเสียวแปลบเบาๆจากแหวน ความรู้สึกนี้ก็มาจากแหวนป้องกันที่เขาส่วมเช่นกัน หากลิงค์ไม่ใช่คนรู้สึกไวเขาคงจะไม่ทันรู้ตัว ตอนนี้มันรู้สึกเหมือนกับว่ามีกระแสไฟฟ้าเล็กๆกำลังวิ่งผ่านพวกมันอยู่
แต่ทำไมมันถึงเป็นกลางอากาศหล่ะ?
ขณะที่พวกเขาร่วงลงมาเรื่อยๆ, ลิงค์ก็รู้สึกว่าความรู้สึกถูกดึงจากตราประทับบารอนนั้นชัดเจนขึ้น แหวนวงนี้ไม่ได้ทำมาจากวัตถุดิบคุณภาพดี, มันก็แค่เหล็กถูกๆ
เดี๋ยวนะ…เหล็กหรอ?
แรงฉุดนนี้คล้ายกับแรงดึงดูดจากแม่เหล็กเลย หรือว่านี่จะเป็นสนามแม่เหล็กจริงๆ?
จากนั้นลิงค์ก็มองไปที่เกาะสีดำ เขาสังเกตุเห็นว่าในความเป็นจริงแล้วเกาะแห่งนี้เป็นแนวหินสีดำขนาดใหญ่ที่มีเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 900 ฟุต มีกรวดกระจัดกระจายบนพื้นผิวของเกาะซึ่งดูแปลกประหลาดมากๆ ลิงค์เห็นว่าหนึ่งในพวกมันดูเหมือนจะห้อยลงมาจากหน้าผาอย่างไม่มั่นคงโดยไม่ได้รับความช่วยเหลือจากภายนอกเลย ซึ่งนี่เป็นการละเมิดกฎฟิสิก
ลิงค์นึกขึ้นได้อย่างกระทันหัน “หรือว่าที่นี่จะเป็นเกาะแม่เหล็ก?”
พวกเขาอยู่เหนือระดับพื้นแค่ 150 ฟุตแล้วแรงดึงดูดที่ดึงตราประทับบารอนนั้นก็รุนแรงขึ้นทุกนาที ลิงค์ต้องเก็บแหวนเอาไว้ในจี้ต่างมิติเพราะมันหนักเกินไปที่จะสวม จากนั้นเขาก็พยายามยกคทาคว้าดาวในมือของเขาขึ้นมา
ตัวคทานั้นส่วนใหญ่ทำมาจากทองคำและทอเรียมคุณภาพดีแทบทั้งหมด, ซึ่งทั้งสองนี้เป็นสารโลหะ ในตอนที่เขาขยับคทา, เขารู้สึกว่าอุณหภูมิพื้นผิวของคทาจะเพิ่มขึ้นเล็กน้อย
ในตอนที่สารโลหะตัดผ่านเส้นแม่เหล็ก, แรงดันไฟฟ้าจะก่อให้เกิดความต่างศักย์ขึ้น ถ้าวงจรไฟฟ้าปิดถูกสร้าง, มันก็จะเกิดการสร้างกระแส และด้วยความที่คทามีรูปร่างไม่สม่ำเสมอ, มันจึงมีกระแสวนเกิดขึ้นที่โครงสร้างภายในของมัน, ทำให้อุณหภูมิสูงขึ้น ฉันแค่ขยับพร้อมกับคทาเพียงเล็กน้อย, อุณหภูมิก็ต่างกันจนรู้สึกได้แล้ว สนามแม่เหล็กบนเกาะนี้รุนแรงขนาดไหนกันถึงมีอัตราการแปลงกระแสไฟฟ้าที่รุนแรงขนาดนี้?
นี่เป็นทฤษฎีการใช้สนามแม่เหล็กเพื่อผลิตไฟฟ้าบนโลก แม้ว่ารายละเอียดเฉพาะอาจจะแตกต่างกันเล็กน้อยในฟิรุแมน, แต่ทฤษฎีหลักๆนั้นก็เหมือนกัน อันที่จริง, นี่เป็นทฤษฎีพื้นฐานที่สุดสำหรับเวทย์ธาตุสายฟ้าส่วนใหญ่
จากนั้นลิงค์ก็สะดุดเข้ากับความคิดนึง เขาจ้องไปที่นานะที่อยู่ห่างออกไป 600 ฟุตแล้วตระหนักได้ว่าตัวเธอนั้นทำมาจากสารโลหะทั้งตัว เกาะแห่งนี้จะเป็นสถานที่ที่เธอจะได้พบกับความตายของเธอ!
ลิงค์รู้สึกตื่นเต้นแล้วพูดขึ้นมาในทันที “ทั้งสองคนรู้สึกรึเปล่า? ก็แห่งนี้มีความพิเศษอยู่”
เซลีนไม่รู้สึกอะไรเลยนอกจากปวดหัวเล็กน้อย ซึ่งนี่เป็นความผิดปกติทางร่างกายทั่วๆไปเมื่ออยู่ภายใต้สนามแม่เหล็กที่รุนแรง
แวนซ์, ในอีกด้านนึง, รู้สึกได้ดีกว่าเล็กน้อยแล้วอ้าปากค้าง “นี่มันน่าสนใจจริงๆ! เกาะแห่งนี้เป็นเหมืองสำหรับวัสดุแม่เหล็กที่แข็งแกร่งมากๆ!”
“บางทีพวกเราน่าจะมีโอกาสจัดการนานะได้ที่นี่นะ” ลิงค์หันไปหาเซลีนแล้วถาม “เธอมีดาบสำรองเก็บไว้บ้างไหม?”
“แน่นอน” เซลีนเอาดาบมือเดียวที่ทำจากทองออกมา
“ดาบเล่มนี้โอเคเลย พวกเราจะเริ่มการต่อสู้กับนานะที่นี่” ดวงตาของลิงค์เปล่งประกายขณะที่เขาประกาศ
เกาะแห่งนี้พิเศษมากๆ, แล้วนานะก็คงจะไม่มีประสบการณ์จัดการกับสนามแม่เหล็กอย่างแน่นอน การขาดประสบการณ์การต่อสู้ของนานะจะเป็นข้อได้เปรียบที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของพวกเขา นอกจากนี้, ต่อให้เธอมีประสบการณ์การต่อสู้ที่เกี่ยวข้อง, มันก็เปล่าประโยชน์ เพราะความจริงที่ว่าร่างทั้งร่างของเธอประกอบไปด้วยสารโลหะนั้นก็หมายความว่าการเคลื่อนไหวของเธอจะถูกจำกัดที่นี่!