advent of the archmage - Chapter 191: เรื่องราวของเสือผู้ซื่อสัตย์ ส่วนที่ 3
นักเวทย์ที่สวมผ้าคลุมหนังหมีเดินออกมาจากป่าภายใต้สายตาเฝ้าระวังของเสือนภา ฮู้ดของผ้าคลุมนั้นได้ปกคลุมใบหน้าส่วนใหญ่ของนักเวทย์ทำให้ปกปิดใบหน้าของเขาเอาไว้ ขณะที่เขาเดินออกมา, เสื้อคลุมนักเวทย์สีแดงเข้มที่อยู่ข้างใต้เสื้อคลุมชั้นนอกก็เผยออกมาเล็กน้อย, และในมือของเขา, นักเวทย์กำลังถือคทาที่สร้างออกมาอย่างปราณีตเอาไว้อยู่
ในตอนแรก, เสือนภาเห็นว่าเป็นคนแต่ยังไม่รู้ถึงตัวตนของนักเวทย์ลึกลับคนนี้ แต่ว่า, นักรบบาดเจ็บที่อยู่ข้างๆเขานั้นรับรู้ถึงตัวตนของคนๆนี้ได้เร็วกว่ามาก
“นั่นมันคทาคว้าดาว!” เขาตะโกน “และท่านกำลังสวมผ้าคลุมผู้รวบรวมเปลวเพลิง! ท่านคือลิงค์!”
นักรบคนนี้เป็นสมาชิกหลักของสมาคม, ดังนั้นเขาจึงคุ้นเคยกับอาวุธและอุปกรณ์ของบุคคลที่แข็งแกร่งที่สุดในทวีป นอกจากนี้, ลิงค์ยังเป็นคนที่กำจัดสมาคมสาขาป่าเกอร์เวนท์จนสิ้นซากและฆ่าปีศาจทาร์วิสได้โดยตัวคนเดียว, ดังนั้นจึงเป็นเรื่องธรรมดาที่สมาคมจะให้ความสนใจข่าวและข้อมูลเกี่ยวกับเขาเป็นพิเศษ
มันไม่ใช่เรื่องน่าแปลกเลยที่พอลิงค์ปรากฏตัวออกมานักรบคนนี้ก็สามารถระบุตัวตนของลิงค์ได้อย่างง่ายดายด้วยรายละเอียดที่เปิดเผยออกมาเพียงเล็กน้อย
ตอนแรกลิงค์วางแผนที่จะปกปิดตัวตนของตัวเองเอาไว้เมื่ออยู่ต่อหน้าคนพวกนี้, แต่ในตอนที่เขาได้ยินคำพูดของนักรบเขาก็เงียบไปพักนึงและตัดสินใจดึงฮู้ดลง ในตอนที่เขาทำแบบนั้นธาตุไฟที่วนอยู่รอบผ้าคลุมผู้ควบคุมเพลิงก็เปิดเผยความเจิดจรัสของมันออกมาทั้งหมด ธาตุไฟพวกนี้ไหลไปทั่วร่างกายของลิงค์และจากนั้นก็ไปรวมกันที่เหนือหัวของเขา, ก่อรูปเป็นมงกฏเพลิงขึ้นมา
ผ้าคลุมหนังหมีสีขาวหิมะ, ออร่าอันรุนแรงสีแดงเพลิงสดใส, มุงกฏเพลิงอันเจิดจรัสและความผันผวนอย่างรุนแรงของพลังมานาที่อยู่รอบร่างกายของลิงค์, ทั้งหมดนี้ได้มารวมกันเพื่อสร้างบุคคลอันน่าโดดเด่นซึ่งมีทั้งพลังและพรสวรรค์ที่ชัดเจนที่สุดแม้จะแสดงกับผู้สังเกตุการณ์ที่มีประสบการณ์น้อยที่สุดก็ตาม
รูปลักษณ์ภายนอกอันน่าเกรงขามนี้ก็มีประโยชน์มากๆในโลกแห่งฟิรุแมนเช่นกัน ด้วยตัวตนที่ลิงค์แผ่ออกมา, เศษสุดท้ายของการต่อต้านในดวงตาของนักรบก็หายไปจนหมดในตอนนี้และถูกแทนที่ด้วยความกลัวและความหวั่นเกรงแทน
เมื่อได้มาเห็นคนที่ขยี้ปีศาจเลเวล 8 ทาร์วิสด้วยหัตถ์เวทย์มนตร์เพลิงกับตาของตัวเอง แม้ว่านักรบคนนี้จะเป็นสมาชิกระดับสูงของสมาคมและเป็นที่น่าเคารพและหวั่นเกรงของคนนับพัน, เขาก็ยังไม่สามารถรวบรวมความกล้าเพื่อดูหมิ่นบุคคลที่ยิ่งใหญ่เช่นนี้ได้
“ท่านไม่ควรมาอยู่ที่นี่!” นี่คือทั้งหมดที่เขาสามารถพูดออกมาได้ “ทำไมท่านถึงมาอยู่ที่นี่? ท่านควรจะอยู่ที่ที่รกร้างเฟิร์ดไม่ใช่หรอ?”
เครือข่ายข่าวสารของสมาคมนั้นทำงานได้ดีมากอย่างเห็นได้ชัด, ถึงแม้ว่าพวกเขาจะยังไม่ดีพอที่จะเอาชนะคนอย่างลิงค์ก็ตาม
แม้ว่าเสือนะภาจะตึกตะลึงเมื่อมันได้เห็นนักเวทย์ที่เอาชนะปีศาจทาร์วิสได้ในคืนนั้น, แต่ผู้ชายคนนี้ก็ยังอยู่เหนือกว่าการคาดการณ์ทั้งหมดของมันอยู่ดี มันไม่เคยคิดเคยฝันเลยว่าจะมีคนที่สามารถต้อนแอนดรูจนจนมุมและบังคับให้เขาหนีไปได้ด้วยการโจมตีเพียงไม่กี่ที!
นี่มันน่าประทับใจจริงๆ!
ลิงค์เดินเข้ามาหานักรบจนเขาอยู่ห่างจากเขาประมาณ 20 ฟุต จากนั้นเขาก็ก้มหัวลงและมองลงมาที่นักรบ
ชุดเกราะที่เขาส่วมอยู่นั้นส่วนใหญ่ได้ถูกหัตถ์เพลิงเมื่อก่อนหน้านี้เผาจนเกรียมไปหมดแล้ว มีบาดแผลไฟไหม้ทั่วร่างของเขา, แม้ว่าจะยังมีร่องรอยของออร่าต่อสู้เหลืออยู่บ้าง, แต่ตอนนี้มันก็อ่อนแอเกินกว่าจะคุกคามลิงค์ได้
จากนั้นเขาก็ตรวจสอบชุดเกราะดูใกล้ๆแล้วพบว่ามันเป็นเกราะสีดำบริสุทธิ์ที่สลักเครื่องยศเอาไว้บนอก มันเป็นรูปมีดที่มีเลือดหยดลงมาจากมันหกหยด—เครื่องยศของสมาคม ซึ่งเลือดหกหยดนั้นได้บ่งบอกระดับและตำแหน่งในองค์กรณ์ของนักรบคนนี้
“สมาคมสินะ?” ลิงค์พูด
นักรบไม่ยอมตอบกลับไป
“โล่เงางั้นหรอ?” ลิงค์ถาม
ตอนที่อยู่ในเกมส์, มอเฟียสในช่วงนี้ได้จุดไฟศักดิ์สิทธิ์ขึ้นมา เพราะหน่วย MI3 อันแข็งแกร่ง, อาณาจักรนอร์ตันทางตอนเหนือจึงไม่ค่อยได้รับผลกระทบจากการเพิ่มขึ้นของสมาคม, แต่ทางตอนใต้นี้, ทุกภูมิภาคได้ตกอยู่ในเงื้อมมือขององค์กรชั่วร้ายนี้แล้ว
นี่เป็นผลมาจากการเน้นไปที่การค้าและการพาณิชย์ของหกประเทศทางใต้, ซึ่งมันก็หมายความว่ากำลังทหารของพวกเขานั้นอ่อนแอ ยิ่งไปกว่านั้น, ประเทศเหล่านี้ก็เป็นแค่อาณาจักรเล็กๆ 6 หกแห่งที่ไม่สามารถสะสมพลังและทรัพยากรได้มากพอที่จะต่อสู้กับองค์ที่ขยายตัวเร็วอย่างสมาคม ดังนั้น, อาณาจักรทางใต้จึงกลายเป็พื้นที่อุดมสมบูรณ์ที่ทำให้สมาคมเติบโตขึ้นด้วยอำนาจและอิทธิพล—ซึ่งพวกเขามีมากจนบอกได้เลยว่าพวกเขามีอยู่ทุกที่ในดินแดนแห่งนี้
ในขณะเดียวกันนั้นเอง, โล่เงาก็เป็นสาขาหัวกะทิของสมาคมซึ่งประกอบด้วยนักรบถือโล่
“ท่านรู้เรื่องเกี่ยวกับโล่เงาได้ยังไง?” นักรบถามด้วยความหวาดกลัวในดวงตาของเขา นี่ไม่ใช่เรื่องที่นักเวทย์จากทางเหนือควรรู้!
“หืม, ก่อนหน้านี้ฉันก็ไม่มั่นใจหรอกนะ” ลิงค์พูดอย่างพอใจ “แต่ตอนนี้ฉันยืนยันมันได้แล้วหล่ะ”
นักรบพูดไม่ออก เทคนิคการสอบสวนแบบนี้เป็นหนึ่งในเรื่องแรกๆที่เขาได้เรียนรู้ในฐานะสมาชิกหลักของสมาคม มันช่างน่าอับอายจริงๆกับการที่เขาเผลอปล่อยความลับขององค์กรให้รั่วไหลออกไปด้วยการติดกับดักโง่ๆแบบนี้!
พอเรื่องนี้ได้รับการยืนยันแล้ว, ลิงค์ก็สังเกตุเห็นแจ้งเตือนสว่างขึ้นบนหน้าอินเตอร์เฟส เขาตรวจสอบมันแล้วตระหนักได้ว่ามันคือข้อความภารกิจสำเร็จ ตอนนี้เขาได้รับ 100 โอมนิพ้อยท์และแสตมป์วิญญาณแล้ว ลิงค์ไม่ได้แสดงปฏิกิริยาออกมากับข่าวนี้แล้วหันกลับไปหานักรบ
“วันนี้ฉันไม่อยากต่อสู้แล้ว” เขาบอกนักรบ “แต่ฉันก็ปล่อยแกไปไม่ได้เหมือนกัน แกรู้ใช่ไหมว่าต้องทำอะไร?”
นักรบถอนหายใจออกมายาวๆด้วยความโล่งอกกับความเห็นของลิงค์ เขารู้ว่าเขาไม่มีโอกาสชนะนักเวทย์คนนี้ได้และไม่มีโอกาสหนีไปทั้งที่ยังมีชีวิตได้ ถ้าเขาฝืนต่อสู้กับเขาต่อ, มันก็มีแต่จะสร้างความทรมานและความเจ็บปวดให้ตัวเองเท่านั้น ดังนั้นโอกาสเดียวที่เหลืออยู่สำหรับเขาก็คือการฆ่าตัวตาย
จากนั้นนักรบก็ถอนชุดเกราะของเขาออกและแทงมีดตรงเข้าไปในหัวใจของเขาในทันที ด้วยการแทงที่เด็ดขาดเพียงครั้งเดียว, มีดก็เจาะทะลุผิวหนังและเนื้อสดๆของเขาและโดนหัวใจของเขา จากนั้นนักรบก็ล้มกระแทกกับพื้น, จากโลกนี้ไปด้วยฝีมือของตัวเอง
เสือนภาได้เฝ้าดูฉากนี้ด้วยสายตาที่เปล่งประกาย, หัวใจของเขาถูกเติมเต็มด้วยความหวั่นเกรงและความเคารพในตัวนักเวทย์คนนี้
เขาพูดออกมาเพียงไม่กี่คำและนักรบคนนั้นก็ฆ่าตัวตายอย่างเชื่อฟังโดยไม่โต้แย้งอะไรเลย, เสือคิด ช่างเป็นชายที่น่ายำเกรงอะไรเยี่ยงนี้!
พอเขามั่นใจว่านักรบตายแล้ว, ลิงค์ก็ย้ายความสนใจไปยังเสือนภา
“แกมีชื่อไหม?” ลิงค์ถาม
“มีสิ” เสือตอบกลับไปอย่างภาคภูมิใจ “ชื่อของข้าคือดอเรียส”
“โอเค” ลิงค์ตอบกลับไปสั้นๆ จากนั้นเขาก็เดินวนรอบดอเรียสที่อ่อนแอและบาดเจ็บสาหัสและพบว่ามันไม่ได้อันตรายถึงชีวิต
“ฉันอยากรู้จริงๆ” ลิงค์พูดอีกครั้ง “แกกำลังคิดอะไรอยู่ถึงมาวนเวียนอยู่แถวป่าที่อยู่ใกล้กับเมืองใหญ่ขนาดนี้ แกไม่รู้หรอว่าความโลภของมนุษย์นั้นสุดหยั่งถึงขนาดไหนและอันตรายอะไรที่จะเข้ามาหาแก?”
“อ่า, แต่นายท่าน” เสือคร่ำครวญหลังจากที่ถอนหายใจออกมายาวๆ “ท่านไม่รู้ความเจ็บปวดของการอกหักหรอก!”
ขณะที่มันพูด, เสือก็ลากตัวเองไปยังฝั่งของลำธารและล้มตัวลงอย่างอาภัพ ไม่มีร่องรอยของความดุร้ายในดวงตาของมันเลย, มีแต่ความทรงจำที่ขมขื่นเท่านั้น
“งั้นลองว่ามาสิ” ลิงค์พูด, ตอนนี้เขารู้สึกสนใจแล้ว
ดวงตาของดอเรียสเข้มข้นในขณะที่เขาพยายามนึกถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตลอดหลายปีที่ผ่านมานี้ เขานอนเงียบอยู่พักนึงก่อนที่จะเล่าเรื่องราวของเขาออกมาในที่สุด
“ท่านรู้ไหมว่าเมื่อ 200 ปีก่อนดินแดนทั้งหมดนี้เป็นป่าไม้เขียวขจี?” เสือเริ่มพูด “กลับไปตอนนั้น, ข้าเป็นราชาของป่าแห่งนี้ พวกเราเสือนภานั้นเป็นส่วนน้อยและกระจายห่างออกไปตามที่ต่างๆ ทุกคืนพระจันทร์เต็มดวงในฤดูใบไม้ผลิพวกเราจะมารวมตัวกันและกินสัตว์ตัวเล็กๆ, พูดคุยกันและเล่นเกมส์ด้วยกัน, สร้างสายสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นในหมู่พวกเราและในที่สุดก็เลือกคู่ครองสำหรับปีนี้”
พอเสือเล่ามาถึงจุดนี้, หัวของมันก็หดลงอย่างเศร้าโศกและห้อยอยู่เหนือไหล่ของมันอย่างระทวย
“ในตอนนั้น, ข้าได้พบกับคู่ครองที่อยู่กับข้ามาหลายสิบปี” ดอเรียสพูด “ชื่อของเธอคือโอรา, และเธอก็เป็นราชินีของข้า เธอมีขนหนานุ่มสีเขียวบริสุทธิ์และหุ่นที่งดงาม ข้ามักจะเคลิบเคลิ้มกับดวงตาอันอ่อนโยนของเธอ, และตลอดหลายปีมานี้, ข้าก็ยังจำความรู้สึกที่พลุ่งพล่านในตอนที่ข้าร่วมรักกับเธอได้อยู่เลย ข้าแข็งแกร่งที่สุดในเผ่าพันธุ์ของข้า, และข้าสามารถทนได้หนึ่งนาทีเต็ม หนึ่งนาทีเต็ม! ท่านเชื่อไหมหล่ะ? ข้ารู้มาว่าพี่น้องของข้าทุกตัวสามารถทนได้แค่ครึ่งวินาทีเท่านั้นเอง! แต่ว่าตอนนี้ทุกอย่างได้จากไปหมดแล้ว…ราชินีของข้า, ลูกๆของเขา, บ้านของข้า—ทุกอย่างได้ถูกฝังไปตามการเวลาและเป็นอดีตที่ไม่สามารถเข้าถึงได้แล้ว”
จากนั้น, เสือนภาก็หันกลับมาเผชิญหน้ากับลิงค์ด้วยใบหน้าที่บิดเบี้ยวด้วยความเศร้าโศกและความเจ็บปวด
“นักเวทย์มนุษย์” เขาพูดถึงลิงค์ “ท่านไม่มีทางเข้าใจความดำลึกของความเศร้าโศกของข้าหรอก ตอนนี้ข้าไม่มีที่ไปแล้ว ทำไมท่านไม่พาข้ากลับไปที่หอคอยอสุราซะหล่ะ? ถึงที่นั่นจะค่อนข้างน่าเบื่อ, แต่อย่างน้อยก็ไม่มีใครมารบกวนข้า”
พอเสือนภาเล่าเรื่องราวของเขาออกมา; ลิงค์ก็เริ่มเข้าใจแรงจูงใจที่อยู่เบื้องหลังพฤติกรรมแปลกๆของเขาเมื่อก่อนหน้านี้ เขาจ้องไปที่หมอกหน้าสีดำที่ปกคลุมเสืออยู่, จากนั้นก็ชี้คทาของเขาไปที่ดอเรียส
“ปัดเป่า!” เขาร่ายเวทย์
ปัดเป่า
เวทย์เลเวล 5
ผล: เวทย์ชำละล้างระดับสูงที่สามารถชะล้างเวทย์มนตร์ที่แข็งแกร่งจากเป้าหมายได้
นี่เป็นเวทย์ที่ลิงค์เพิ่งจะเชี่ยวชาญในช่วงเวลาว่างของเขา มันมาจากสมุดโน้ตที่เขียนโดยมาสเตอร์เกรนซี่ที่ซึ่งเขาได้บันทึกบทเรียนอันมีค่าที่เขาได้เรียนรู้และประสบการณ์อันล้ำค่าของเขาพร้อมกับทักษะเวทย์มนตร์ระดับสูงของเขา ซึ่ง, ลิงค์รู้สึกว่าเวทย์นี้น่าสนใจ, ดังนั้นเขาจึงใช้เวลาศึกษามันจนเชี่ยวชาญ
พอเวทย์ถูกร่าย, บอลแสงขนาดเท่ากำปั้นที่เปล่งแสงสีรุ้งก็ออกมาจากปลายคทาของลิงค์และรอยตรงไปหาเสือนภาดอเรียส มันร่ายรำอยู่รอบตัวเสือเป็นเวลาพักนึง, แสดงแสงอันงดงามของมันออกมา ทุกๆที่ที่แสงกระทบกับบาดแผลบนร่างกายที่บาดเจ็บของเสือจะมีเศษพลังงานแห่งความมืดและธาตุมืดที่เหลืออยู่ข้างในถูกบีบออกมาและสลายไปในอากาศ
พอเวทย์ร่ายเสร็จ, ร่างกายของดอเรียสก็ถูกชะล้างและบริสุทธิ์อย่างสมบูรณ์, และไม่มีด้ายธาตุมืดเหลืออยู่เลย มันขยับร่างกายของมันอย่างไม่มั่นใจและเริ่มลุกขึ้นด้วยขาของมัน จากนั้นมันก็เริ่มเดินเป็นวงกลม ตอนแรก, การก้าวของมันสั่นคลอนและไม่มั่นคง, แต่ไม่นานหลังจากนั้น, มันก็ฟื้นคืนสมดุลกลับมาและได้รับความเร็วของมันอีกครั้ง ตอนนี้บาดแผลบนร่างกายของมันได้รับการรักษาเกือบหมดแล้ว, และเลือดก็หยุดไหลอย่างสมบูรณ์แล้ว มันฟื้นตัวด้วยความเร็วอันน่าอัศจรรย์!
มันต้องบอกเลยว่าหนึ่งในเหตุผลสำหรับการฟื้นตัวอันรวดเร็วของมันนั้นก็คือความแรงฮึดที่จะมีชีวิตอยู่ของตัวเสือนภาเอง จากนั้นมันก็หยุดเดินและหันมาหาลิงค์
“นายท่าน” มันพูด “ท่านลงใต้มาเพื่อกำจัดคนชั่วพวกนี้หรอ?”
“ไม่ใช่หรอก” ลิงค์ตอบคำถามขณะที่เขาส่ายหัว “ฉันมีแผนอื่นในหัวของฉัน” อย่างไรก็ตาม, คำถามของดอเรียสก็ได้เตือนเขาว่าเขายังมีผู้แข็งแกร่ง, และส่วนใหญ่ก็อาจจะเป็นพวกชั่วร้ายที่แหกคุกออกมาอยู่เป็นจำนวนมาก เขาควรจะทำอะไรสักอย่างกับเรื่องนี้
และสำหรับสัตว์เวทย์มนตร์ตัวนี้, ตอนแรกเขาตั้งใจจะเก็บมันเอาไว้ในฐานะสัตว์ต่อสู้และใช้แสตมป์วิญญาณเพื่อควบคุมมันและทำให้มันเชื่อง แต่ตอนนี้พอเขาได้รู้เรื่องราวของสัตว์ป่าตัวนี้, ลิงค์ก็เริ่มเห็นใจดอเรียส, เห็นใจมากเสียจนเขารู้สึกไม่สบายใจที่จะใช้สแตมป์วิญญาณกับมัน
เหตุผลของเรื่องนี้นั้นง่ายมาก, มันไม่ได้มาจากความสงสารมากขนาดนั้น, และเขาก็ไม่ได้ตั้งใจจะปล่อยสัตว์ป่าตัวนี้ให้เป็นอิสระด้วย เขาแค่รู้สึกว่าสัตว์ป่าซื่อตรงที่มีสติปัญญาสูงตัวนี้, คงจะไม่มีความจำเป็นต้องใช้แสตมป์วิญญาณหรือเวทย์มนตร์อื่นๆเพื่อให้ได้รับความซื่อสัตย์จากมัน, แค่การใช้ทริคทางจิตวิทยาเล็กน้อยก็น่าจะได้ผลแล้ว
ลิงค์ทำทีเป็นว่าเขากำลังจะกลับ, แต่หลังจากนั้นเขาก็หันกลับมามองเป็นครั้งสุดท้าย
“โลกมนุษย์เต็มไปด้วยความโหดร้ายและความโลภ” เขาพูดกับเสือ “มันอันตรายเกินไปสำหรับสิ่งมีชีวิตเวทย์มนตร์อย่างแก แกควรจะหนีไปจากที่นี่ให้ไกลที่สุดเท่าที่จะทำได้และอย่ากลับมาที่นี่อีก แล้วก็, อย่าทำเรื่องไม่ดีอีกนะ”
หลังจากนั้น, ลิงค์ก็ดึงฮูดขึ้นมาและหันเดินจากไป
ดอเรียสตกใจกับการกระทำของลิงค์ นี่ไม่ใช่สิ่งที่เขาคาดเอาไว้ว่าจะเกิดขึ้นเลย นักเวทย์คนนี้ช่วยชีวิตของเขาเอาไว้และกำจัดธาตุมืดออกจากร่างกายของเขา, แต่เขากลับทิ้งเขาไว้ที่นี่ก่อนที่เขาจะได้พูดขอบคุณด้วยซ้ำเนี่ยนะ?
“นี่เดี๋ยวก่อนสิ!” ดอเรียสตะโกน “ท่านกำลังล้อข้าเล่นหรอ?” ยังไงซะดอเรียสก็เป็นเสือนภาอันแข็งแกร่ง! เขาไม่เคยหนีจากภาระหน้าที่ของเขาในการชำระหนี้บุญคุณ!
ลิงค์ไม่สนใจเขาและเดินต่อไปเรื่อยๆ ไม่นานนักเขาก็เข้าป่าและมุ่งหน้าไปทางใต้ หลังจากเดินไปได้ครึ่งไมล์, เขาก็ได้ยินเสียงฝีเท้าที่นุ่มนวลและว่องไวกำลังตามเขามา ไม่นานนักเสียงดังลั่นของเสือก็ตัดผ่านความเงียบสงบของป่า
“นี่! นักเวทย์มนุษย์!” เสือนภาตะโกน “ท่านกำลังจะไปที่ไหน?”
“แล้วเกี่ยวอะไรกับแกหล่ะ?” ลิงค์ถามพร้อมกับหุบยิ้มเอาไว้
“แน่นอนว่ามันต้องเกี่ยวกับข้าสิ!” เสือตอบ “ท่านช่วยชีวิตของข้า! ข้าไม่สามารถจากท่านไปเฉยๆได้! นี่ไม่ใช่วิธีที่ข้า, เสือนภาดอเรียสผู้น่าเคารพนับถือควรทำ!”
ลิงค์แอบยิ้มอย่างลับๆแต่ก็ยังคงไม่สะทกสะท้านกับคำพูดของเขา
“ไม่ต้องกังวลหน่า” เขาพูด “มันไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร”
“มันไม่ใหญ่สำหรับท่าน, แต่มันเป็นเรื่องชีวิตและความตายของข้า!” เสือตอบ “นอกจากนั้น…ข้าก็ไม่มีที่ไปด้วย และตอนนี้สมาคมก็ตั้งค่าหัวข้าอีก, มันคงจะไม่ปลอดภัยหากข้าต้องเคลื่อนไหวคนเดียว ทำไมท่านไม่พาข้าไปที่ป่าเกอร์เวนท์แล้วให้ข้าซ่อนตัวที่นั่นหล่ะ? ข้าจะไม่ทำร้ายใคร, ข้าสัญญา!”
แม้ว่าดอเรียสจะซื่อตรงและไร้เดียงสาเกินไปในบางครั้ง, แต่มันก็ยังคงชัดเจนมากๆในสถานการณ์ที่ตึงมือในขณะนี้ มันรู้ว่าว่าโลกเป็นสถานที่ที่อันตรายสำหรับสัตว์เวทย์มนตร์ ซึ่งตอนนี้, มีผู้ไล่ตามจำนวนนับไม่ถ้วนที่ออกมาจับตัวมัน และถ้ามันยังอยู่ตัวเดียว, มันก็คงจะหมดหวังรอดแน่ๆ!
ถ้ามันอยากมีชีวิตรอด, มันก็ต้องหาพรรคพวกที่แข็งแกร่ง ซึ่งเห็นได้ชัดว่า, นักเวทย์ที่อยู่เบื้องหน้ามันนั้นเป็นชายที่แข็งแกร่งพอที่จะช่วยมัน นอกจากนี้, เขาก็ได้ช่วยชีวิตของมันเอาไว้, แต่กลับไม่ขออะไรตอบแทนเลย ดังนั้นดอเรียสจึงมั่นใจว่านี่เป็นคนประเภทที่มันสามารถเชื่อใจได้!
ลิงค์รู้ว่าตอนนี้ดอเรียสติดกับเขาแล้ว
“งั้นพวกเรามาทำงานกันเป็นทีมเป็นไง?” ลิงค์แนะนำ “ฉันจะปกป้องแกและให้ที่พักกับแก, แล้วแกก็จะกลายมาเป็นนักรบของฉัน พอพวกเรากลับไปทางเหนือ, ฉันจะให้แกอยู่ในดินแดนของฉัน ฉันจะสั่งให้คนของฉันเตรียมอาหารให้ที่ถูกปากแก, ทำความสะอาดขนของแก, ตัดให้เล็บแก, แปลงฟันให้แกและอื่นๆ ถ้าแกต้องการ, ฉันยังสามารถส่งคนของฉันไปตามหาภรรยาให้แกสักสองสามตัวได้ด้วยนะ แกคิดว่าไง?”
“นั่นฟังดูไม่แย่เลยสักนิด!” ดอเรียสตอบ, ดวงตาของเขาเปล่งประกายสดใส เขาไม่เคยนึกฝันว่าจะได้รับการดูแลที่เริศหรูแบบนี้มาก่อนเลย! แถมเขาอาจจะได้ภรรยาสักสองสามตัวและจะได้คนคอยปรนบัติรับใช้เขาตลอดเวลาด้วย พอคิดเกี่ยวกับมันแล้วก็ทำให้น้ำลายของเขาไหลออกมา!
“ถ้างั้นก็เยี่ยมเลย” ลิงค์พูด “ถ้าโอเคตอนนี้ก็คุกเข่าซะแล้วให้ฉันขี่หลังแกไปที่เมืองโอปอลทางใต้”
“ก็ได้; ยังไงซะท่านก็ตัวไม่หนักอยู่แล้ว” ดอเรียสค่อนข้างไม่เต็มใจในการให้ลิงค์ขี่หลัง เขาจะยอมเรื่องนี้ให้คนอย่างลิงค์เท่านั้น หากคนอื่นมาขอเรื่องแบบนี้เขาก็คงจะกินพวกเขาในคำเดียว, ต่อให้พวกเขาจะช่วยชีวิตของเขาเอาไว้ก็ตาม!
ความเร็วของเสือนภานั้นสูงมากเหมือนที่ข่าวลือว่าเอาไว้จริงๆ ตอนแรก, ดอเรียสจะวิ่งเหยาะๆอย่างช้าๆเพราะร่างกายของเขายังอ่อนแอจากการโจมตีอยู่ แต่หลังจากนั้น, ลิงค์ก็ร่ายธาตุแห่งการรักษาใส่ดอเรียส, ดังนั้นความเร็วของมันจึงเพิ่มขึ้นสูงมากเพราะร่างกายของมันได้รับการรักษา มันใช้เวลาไม่ถึงสองชั่วโมงในการเดินทางระยะทางประมาณหนึ่งร้อยไมล์, และตอนนี้พวกเขาก็อยู่ที่ประตูเมืองโอปอลแล้ว
“มีสำนักงานใหญ่ของพันธมิตรนักเวทย์ทางใต้อยู่ในเมือง” ดอเรียสพูด “ที่นั่นมันเต็มไปด้วยนักเวทย์, ข้าไม่สามารถเข้าใกล้มันได้”
“ไม่เป็นไร, รอฉันที่นี่แหล่ะ” ลิงค์พูด “ฉันจะไปที่เมืองสักพักนึงนะ”
จากนั้นลิงค์ก็กระโดดลงจากหลังเสือและเข้าประตูเมืองไป ตอนนี้จิตวิญญาณที่เฉียบคมของเขาตรวจพบความยุ่งเหยิยงของพลังงานแห่งความมืดข้างในเมืองแม้เขาจะอยู่ที่ประตูเมืองก็ตาม
มีปีศาจจากหุบเหวอยู่ในเมืองนี้อย่างแน่นอน! ลิงค์คิด ดี นี่ก็หมายความว่าเซลีนอยู่ไม่ไกลจากที่นี่
…
ในการประชุมพันธมิตรนักเวทย์ทางใต้
ในตอนที่ลิงค์เข้าเมือง, ทีมสืบสวนชุดใหม่ก็เพิ่งออกจากปราสาทเวทย์มนตร์และกำลังมุ่งหน้ามาที่เมืองโอปอลเช่นกัน ทีมนี้ประกอบด้วยคน 30 คนและนำโดยจอมเวทย์แฮนลอทธ์ ในบรรดาสมาชิกของทีม, หนึ่งในนั้นก็คือลูกศิษย์ของแฮนลอทธ์, เวเวอร์
“ปีศาจเป็นสิ่งชั่วร้ายที่ต้องถูกกำจัด” แฮนลอทธ์พูดก่อนที่พวกเขาจะออกเดินทาง “ใครก็ตามที่ขัดขวางภารกิจนี้จะถือว่าเป็นศัตรูของพวกเรา, ไม่ว่ามันจะเป็นพวกสมาคมหรือใครก็ตาม!”
“กำจัดปีศาจ!” สมาชิกทีมพูดประสานเสียงกัน
เวเวอร์ได้เข้าร่วมกับพรรคพวกเขาเขาในการตะโกนคำพูดเหล่านี้เช่นกัน, แม้ว่าเขาจะกำลังกำคทาเมอลินที่อยู่ในมือของเขาแน่นอย่างไม่รู้เรื่องก็ตาม ภาพของผู้หญิงที่ขโมยหัวใจของเขาผุดขึ้นมาในความคิดของเขา
ยกโทษให้ผมด้วย เวเวอร์กัดฟันของเขา นี่เป็นหน้าที่ของผม; มันเป็นสิ่งที่ผมต้องทำ
แฮนลอทธ์ไม่ได้สังเกตุเห็นพฤติกรรมแปลกๆของลูกศิษย์ของเขา เขารู้สึกได้แค่จิตวิญญาณอันแรงกล้าและความกระตือรือร้นที่แสดงออกมาจากนักเวทย์ในทีมของเขาและเขาก็รู้สึกพอใจกับมันอย่างมาก
“ไปกันเถอะ!” แฮนลอทธ์ตะโกน มันเป็นคำสั่งสุดท้ายของเขาก่อนที่พวกเขาจะออกจากปราสาทเวทย์มนตร์และมุ่งหน้าไปเมืองโอปอล