advent of the archmage - Chapter 189: เรื่องราวของเสือผู้ซื่อสัตย์ ส่วนที่1
ลิงรีบมุ่งลงไปทางใต้จากที่รกร้างเฟิร์ดอย่างเร่งรีบ เขาข้ามแม่น้ำดำมาและในที่สุดเขาก็ผ่านชายแดนของอาณาจักรสิงโตได้ด้วยเพียงเวลาแค่3วัน เขาทำให้การเดินทางนี้เป็นความลับ คอยระมัดระวังไม่ให้คนอื่นรู้ว่าเขาเป็นใครมาจากไหน
เมื่อเขามาถึงอาณาจักรสิงโต เขาก็ลดความเร็วของเขาลงและเดินทางผ่านป่าที่ไม่มีใครอาศัยอยู่เพื่อเข้าสู่ใจกลางอาณาจักร และจากนั้น เขาก็จ้างรถม้าและมุ่งหน้าไปสู่เมืองโอปอลที่ๆมีรายงานว่ามีการพบเห็นปีศาจ
เพื่อปกปิดตัวตนของเขา ลิงค์ได้ใส่ผ้าคลุมฮู้ดที่ทำมาจากหนังของหมีน้ำแข็งทับผ้าคลุมผู้รวบรวมเปลวเพลิงอันสวยงามของเขา เขาจะไม่เอาคทาของเขาออกมาถ้าเกิดว่ามันไม่จำเป็น ในตอนนี้ ลิงค์นั้นดูเหมือนกับนักเวทย์พเนจรธรรมดาๆเลย
อาณาจักรลีโอนั้นเป็นประเทศที่ร่ำรวยและมั่งคั่งที่มีกิจกรรมการค้าขายอย่างกว้างขวาง ด้วยเหตุนี้ ถนนในใจกลางของอาณาจักรจึงถูกปูอย่างดี,เรียบและกว้างขวาง ถนนที่นี่นั้นดีพอๆกับเส้นทางแห่งราชาของอาณาจักรนอร์ตันเลย ดังนั้นรถม้าจึงเดินทางได้อย่างสะดวกและเดินทางไปได้ไกลภายในเวลาอันสั้น
ที่ด้านหน้าของพวกเขาคือเมืองที่มีแม่น้ำขนานที่เห็นได้จากระยะไกล และสามารถเห็นยอดต้นไม้สูงจนไปถึงก้อนเมฆได้ เมื่อพวกเขามาถึงเมือง พวกเขาก็เจอกับสะพานหินที่ดูแคบมากๆแต่กลับมีการจราจรที่คับคั่ง ซึ่งมันเป็นเพราะว่า จะต้องจ่ายค่าผ่านทางก่อนข้ามสะพาน ซึ่งนั่นมันทำให้เกิดปัญหาคอขวดขึ้นที่นี่ มันจึงทำให้การเคลื่อนที่ของรถม้าและเกวียณช้าลงมาก
ลิงค์รู้สึกเบื่อที่ต้องรอในรถม้า เขาจึงหยิบคัมภีร์ศิลปะการต่อสู้ที่แวนซ์ให้เขามาและเริ่มที่จะศึกษามัน ศิลปะการต่อสู้ระดับอีพิค-ผู้พิชิตจักรพรรดินั้นเป็นเทคนิคระดับสูงมากจริงๆ ยิ่งไปกว่านั้นมันถูกคิดค้นขึ้นโดยแวนซ์ ผู้คิดค้นศิลปะการต่อสู้ นอกจากนี้ลิงค์ยังไม่เคยเจอเวทย์ที่เฉพาะทางแบบนี้ในเกมมาก่อนและเขาก็ไม่สามารถหามันได้ในเมนูเวทมนตร์ของระบบเกมเช่นกัน นั่นจึงทำให้ลิงค์หมกมุ่นในการศึกษาเวทย์ศิลปะการต่อสู้อย่างรวดเร็ว
เห็นได้ชัดว่าเวทย์นี้มีความเข้าใจลึกซึ่งเกี่ยวกับร่างกายของมนุษย์และแสดงถึงวิธีการรวบรวมพลังไว้ภายในร่างกาย ลิงค์ทำได้แค่คิดว่า ผู้คิดค้นการศึกษาศิลปะการต่อสู้นั้นเก่งจนไม่มีใครเทียบได้จริงๆ!
แม้ว่าเวทย์นี้จะเป็นประเภทเวทย์ลึกลับ ลิงค์ก็ยังรู้สึกสนใจในการศึกษาออร่าต่อสู้และศิลปะการต่อสู้อย่างมาก;เขาพบว่ามันมีโอกาสที่จะใช้ประโยชน์ได้ดีมากๆ ลูซี่ แจกเกอร์ กิลเดิร์น และนักรบคนอื่นๆในกองทหารรับจ้างของเขาจะต้องได้ประโยชน์จากมันอย่างมากแน่ถ้าพวกเขาได้ฝึกและปลูกฝังเรื่องศิลปะการต่อสู้ เมื่อกำลังของพรรคพวกของเขาแข็งแกร่งมากขึ้นไปกว่านี้ พลังของลิงค์เองก็จะเพิ่มขึ้นด้วยเช่นกัน
หลังจากที่ศึกษาคัมภีร์ไปได้ครึ่งนึง ลิงค์ก็เริ่มที่จะใส่ความคิดของเขาลงไปในเทคนิคนี้
มันช่างน่ามหัศจรรย์จริงๆ แต่มันต้องการความบริสุทธ์ของธาตุมากเกินไปสำหรับผู้ฝึกซ้อม ไม่เพียงแต่ผู้ฝึกจะต้องมีความแข็งแกร่งทางร่างกายเท่านั้น ความแข็งแกร่งทางร่างกายก็ต้องมีเช่นกัน-นั่นหมายความว่ามันต้องใช้ความพยายามอย่างมากในขั้นตอนการฝึก
ลิงค์ยังรู้มากขึ้นอีกว่าผู้ที่ฝึกผู้พิชิตจักรพรรดินั้นจะต้องมีนิสัยที่น่าเคารพและไม่มีเศษเสี้ยวของความมืดอยู่ในจิตใจเลย นอกจากนี้ยังต้องมีการตัดสินใจที่มุ่งมั่นและเด็ดเดี่ยวอีกด้วย จากที่ลิงค์สังเกตสมาชิกของกองกำลังทหารรับจ้างของเขาแล้ว สมาชิกทั้งหมดของคนที่เหมาะสมกับเทคนิคนี้นั้นไม่น่าจะมีมากกว่า10คน แจกเกอร์น่าจะสามารถฝึกจนใช้งานมันได้เต็มที่ ในขณะที่คนอื่นก็สามารถพยายามทำได้ด้วยเช่นกัน แต่การพัฒนาของพวกเขาจะถูกจำกัดและจะทำให้พวกเขาสูญเสียเวลาและพลังงานเท่านั้น
การใช้งานจริงของเทคนิคนี้นั้นแย่เกินไป ลิงค์คิด แม้ว่ามันจะมีประสิทธิภาพมากในการเพิ่มความแข็งแกร่งของคนๆเดียว แต่มันช่วยได้ไม่มากในการเพิ่มพลังให้กับทั้งกองกำลัง เพียงแค่ถ้าเกิดว่าเทคนิคนี้นั้นสามารถให้ทุกคนฝึกฝนและใช้มันเพื่อพัฒนาความสามารถตัวเองให้ดีขึ้นได้-นั่นมันจะดีมากๆเลย!
การเสริมกำลังของคน10คนเป็น2เท่าย่อมดีกว่าการเสริมพลังของคนๆเดียว10เท่าอยู่แล้ว นี่เป็นหลักการสำคัญที่หมายถึงความแตกต่างระหว่างชัยชนะหรือความพ่ายแพ้ในสงคราม!
ในตอนนั้นเอง ความคิดที่จะสร้างวิธีการฝึกฝนขั้นพื้นฐานให้กับกองทหารรับจ้างก็เริ่มฝังรากลึกลงไปในจิตใจของลิงค์ แต่มันเป็นแค่ความคิดลวกๆที่เกิดขึ้นในตอนนี้เท่านั้น เพราะว่าเขานั้นยังรู้เกี่ยวกับออร่าต่อสู้และศิลปะการต่อสู้น้อยมาก
จากนั้นลิงค์จึงศึกษาคัมภีร์ต่อ และในตอนที่เขากำลังจดจ่อกับมันอยู่เต็มที่นั้นเอง อยู่ๆเขาก็ได้ยินเสียงคำรามที่เหมือนกับของสัตว์ป่าดังขึ้น เสียงคำรามนั้นเหมือนกับฟ้าผ่าที่ทำให้อากาศสั่นไหวและแผ่นดินเกือบจะแยกออกจากกัน มันดังมาจากป่าที่อยู่ข้างๆกับเมืองโอปอล และด้วยการคำรามครั้งเดียวนั้นทำให้ฝูงนกตกใจบินหนีไปทั่วท้องฟ้า
โทนเสียงคำรามที่ดุร้ายและน่ากลัวนั้นลิงค์รู้สึกคุ้นเคยกับมันมาก
ผู้คนที่อยู่ในเกวียนและรถม้าที่ต่อแถวจ่ายค่าผ่านทางสะพานอยู่นั้นก็ต่างเริ่มสนทนากันว่าที่มาของเสียงนั้นคืออะไร,ทำให้ลิงค์ที่อยู่ในรถม้านั้นยากที่จะฟังเสียงคำรามได้อย่างชัดเจน เขาจึงโยนเหรียญเงินให้กับคนขับรถม้าและให้คำสั่งกับเขา
“เลฟ”ลิงค์เรียก”ไปถามคนที่อยู่รอบๆเกี่ยวกับเสียงคำรามที่ดังขึ้นเมื่อกี้และหามาให้ได้ว่าสัตว์ประเภทไหนที่ทำเสียงแบบนี้”
“ครับ ท่าน!”เลฟถูกกระตุ้นด้วยเหรียญเงิน จากนั้นเขาก็รีบพุ่งออกไปเพื่อทำการสืบเรื่องราว
10นาทีถัดมา เลฟวิ่งกลับมาพร้อมกับข้อมูลที่เขาได้รวบรวมมา
“ท่านครับ”เขาพูด”ผู้คนพูดกันว่ามีสัตว์วิเศษได้มาที่เขตนอกเมือง ว่ากันว่ามันเป็นเสือตัวใหญ่ที่สูงกว่า13ฟุต มันได้มาที่นี่เมื่อ1เดือนก่อนหน้านี้และได้กินคนไปบางคน แต่ว่าหลังจากนั้นมันกลับหายไปอย่างไร้ร่องรอย ไม่มีใครสามารถหามันพบ;มีเพียงเสียงคำรามเท่านั้นที่สามารถได้ยินดังมาจากป่าเป็นบางครั้ง”
“อย่างนั้นเหรอ?”ลิงค์ถาม ความสงสัยของเขาเริ่มลึกขึ้น”แต่ทำไมมันถึงมีพฤติกรรมแบบนั้นล่ะ? มีข่าวลืออื่นเกี่ยวกับมันมั้ย?”
“ครับ มีข่าวลือมากมายเกี่ยวกับมัน”เลฟตอบ”บางคนก็บอกว่าพ่อค้าที่ร่ำรวย โอลิดอร์ได้ซื้อเสื้อโค้ทขนเสือที่ทำมาจากขนของสัตว์วิเศษตัวนั้น บางคนก็บอกว่าสัตว์ร้ายตัวนี้มาจากแดนปีศาจและมันถูกส่งมาที่นี่เพื่อเฝ้าดูสถานการณ์ในดินแดนนี้ บางคนก็บอกว่า…”
เลฟเล่าต่อเกี่ยวกับข่าวลือมากมายที่เขาได้ยินมาจากชาวเมือง ทั้งหมดนั้นเป็นแค่เพียงการคาดเดาที่ไม่มีคุณค่าจริงๆหรือมีโอกาสที่จะเป็นจริงต่ำมาก ลิงค์ไม่สามารถปะติดปะต่อเรื่องเล่าพวกนี้ได้เลย
หลังจากนั้น ลิงค์ก็จ่ายค่าผ่านทางสะพานและรถม้าก็เคลื่อนที่ขึ้นไปบนสะพาน และเมื่อพวกเขาไปถึงตรงกลางสะพาน เสียงคำรามดังสนั่นก็ดั่งขึ้นมาจากป่าที่อยู่ไกลออกไปอีกครั้ง ครั้งนี้ เสียงมันดูโกรธมากกว่ารอบแรกและลิงค์ก็คิดว่ามันยิ่งรู้สึกคุ้นเคยมากๆเลยในครั้งนี้
ที่ทวีปนี้มีสัตว์วิเศษแค่ไม่กี่ตัวที่มีรูปร่างเป็นเสือและทรงพลังขนาดนี้ และลิงค์ยังได้พบกับสัตว์แบบนี้ด้วยตัวของเขาเองเมื่อ1เดือนที่แล้ว…เดี๋ยวนะ เขานึกออกแล้ว!
หรือว่ามันจะเป็นเสือนภาที่หนีออกมาจากหอคอยอสุรา? แม้ว่าเขาจะพูดออกมาเป็นคำถาม ในตอนนั้นเอง ในจิตใจของลิงค์ก็ไม่มีข้อสงสัยเกี่ยวกับตัวตนที่แท้จริงของสัตว์ร้ายแล้ว
เหตุผลที่ลิงค์มั่นใจเพราะว่าพฤติกรรมอันแปลกๆของเสือนภาในสถาบันอีสโควฟในคืนนั้นเหมือนกับพฤติกรรมแปลกๆของเสือตัวนี้-ถ้าเสือต้องการที่จะหายไปหรือซ่อนตัวภายในป่า งั้นทำไมมันถึงต้องทำเสียงดังแบบนั้นตลอดทั้งวันด้วยล่ะ?
เมื่อรถม้าได้ข้ามสะพาน ก็มีเสียงคำรามดังขึ้นมาอีกครั้งจากป่า ในครั้งนี้ เสียงของสัตว์ร้ายดังเหมือนกับมันกำลังเจ็บปวดอยู่
มันบาดเจ็บงั้นเหรอ?ลิงค์คิดด้วยความประหลาดใจ แต่ใครจะไปทำร้ายสัตว์ร้ายที่แข็งแกร่งแบบนั้นได้กันล่ะ?
เสือนภาเลเวล6นั้นน่าจะมีร่างกายที่แข็งแกร่งอย่างไม่น่าเชื่อและทักษะการต่อสู้ที่หาใครเปรียบได้ ยิ่งไปกว่านั้น ถ้าเกิดว่ามันเจอคู่ต่อสู้ที่มันไม่สามารถชนะได้ มันก็น่าจะสามารถหนีได้ด้วยความเร็วสูง ยังไงซะชื่อของมันก็ไม่ได้มีไว้ประดับเฉยๆ อ้างอิงจากในตำนาน เสือนภาสามารถขยับได้ด้วยความเร็ว300ไมล์ต่อชั่วโมง-นั่นเร็วเป็น2เท่าของเฟนเรียลมของลิงค์ ความจริงแล้ว มันเร็วยิ่งกว่ารถซูเปอร์คาร์ซะอีก!
รถม้าได้มาถึงประตูเมืองอย่างรวดเร็วในตอนนี้ อยู่ๆลิงค์ก็ได้ยินชาวเมืองคุยกันเรื่องเกี่ยวกับเสือนภาอยู่ข้างๆกับรถม้าของเขา
“นายได้ยินนั่นรึเปล่า?”คนนึงพูดขึ้นมา”นั่นต้องเป็นเสียงของมาสเตอร์ที่แข็งแกร่งกำลังจับเจ้าเสือเวทมนตร์แน่ๆ!”
“นี่เทศมนตรีได้จ้างใครบางคนมาทำมันแล้วงั้นเหรอ?”อีกคนนึงตอบ”ไม่ มันไม่น่าเป็นไปได้ ฉันไม่ได้ยินข่าวลือแบบนั้นเลยนะ”
“ใครสนล่ะ?ตราบใดที่เจ้าสัตว์ร้ายยังคงอยู่ในป่า พวกเราก็คงอยู่กันอย่างเป็นสุขไม่ได้ มันเป็นข่าวดีที่ในที่สุดก็มีคนพยายามที่จะไล่หรือจับมัน แต่ว่า ฉันหวังว่าควรจะมีใครบางคน่ามันไปเลยมากกว่า”
เมื่อพวกเขาพูด ก็มีเสียงคำรามดังมาจากป่าอีกครั้ง ครั้งนี้ มันดูเจ็บปวดมากยิ่งกว่าเดิม
ลิงค์เริ่มรู้สึกกลัวอย่างแท้จริงในตอนนี้ ใครที่สามารถทำให้เสือนภาเลเวล6เจ็บจนสามารถร้องออกมาดังขนาดนั้นและทำให้มันไม่สามารถหนีได้ต้องมีอย่างน้อยเลเวล7!
แม้ว่าลิงค์จะรู้ว่าตัวเขาเองไม่สามารถทำแบบนั้นได้ด้วยตัวเอง ถ้าเกิดว่าสถานการณ์บังคับให้เขาต้องสู้กับเสือนภา งั้นเขาก็ต้องพึ่งพลังของหินนักปราชญ์สีขาวเท่านั้น ถึงแม้จะเป็นอย่างนั้น เขาก็ไม่สามารถหยุดเสือจากการวิ่งหนีได้!
แต่ว่าจอมเวทย์เลเวล7นั้นได้แพร่กระจายจนสามารถหาที่ไหนก็ได้ในทวีปฟิรุแมนแล้วงั้นเหรอ?ลิงค์ครุ่นคิด เขาพบว่าเรื่องนี้มันน่าสงสัยมากจนในที่สุด คำอธิบายที่เป็นไปได้ก็ผุดขึ้นมาในหัวของเขา
หรือว่านั่นจะเป็นหนึ่งในนักโทษที่หนีออกมาจากหอคอยอสุรา?
เขาจำได้อย่างชัดเจนในวันนั้น ภายในกลุ่มของนักโทษหลบหนีมีกลุ่มของจอมเวทย์เลเวล6เป็นกลุ่มใหญ่ ที่มีจำนวนไม่ต่ำไปกว่า20คน นอกจากพวกเขาแล้วก็มีจอมเวทย์เลเวล7 5คน แล้วก็มีคนนึงที่สามารถร่ายเวทย์สะท้อนเลเวล8ได้ ในเมื่อแวนซ์รวมอยู่ในจำนวนทั้งหมดนี้แล้ว ก็จะมีจอมเวทย์เลเวล7 เพียง4คนที่เหลืออยู่ในตอนนี้
สัตว์วิเศษนั้นมีความแข็งแกร่งทางกายภาพที่แข็งแกร่งอย่างมาก เลือดเนื้อและกระดูกของมันและขนของมันนั้นต่างเป็นวัตถุดิบเวทมนตร์ที่มีค่า มันไม่ใช่เรื่องแปลกเลยที่เสือนภาจะตกเป็นเป้าหมายในเมื่อมันไม่ได้พยายามที่จะปกปิดตัวตนของมันเลย;มันปล่อยเสียงคำรามอันดังลั่นเพื่อบอกให้โลกรู้ว่ามันอยู่ที่ไหน
ในเมื่อเขาคิดแบบนี้ ลิงค์ก็คิดว่าเขาจะต้องไปจัดการเรื่องนี้ด้วยตนเองแล้ว เหล่านักโทษที่หนีออกมานั้นส่วนมากมีนิสัยที่คลุมเครือที่บางคนได้ก่อคดีอันร้ายแรงกับคนเป็น บางคนยังถูกขับไล่และไม่สามารถหาที่ๆพวกเขาจะถูกยอมรับในสังคมได้ คนประเภทแบบนี้นั้นมักจะตกลงสู่ความมืดในท้ายที่สุด ซึ่งนั่นหมายความว่าวันนึงจะต้องกลายเป็นศัตรูที่ลิงค์จะต้องจัดการ
ถึงแม้ว่าเขาอาจจะไม่สามารถจัดการกับคู่ต่อสู้ได้ในตอนนี้ แต่มันก็เป็นการดีที่ลิงค์จะสำรวจและรวบรวมข้อมูลให้มากที่สุดเท่าที่เขาจะทำได้ในตอนนี้
“เลฟ หยุดรถก่อน”ลิงค์สั่ง”ฉันได้มาถึงที่หมายแล้ว”จากนั้นเขาเปิดกระจกหน้าของรถม้าออกและโยน5เหรียญทองให้กับเลฟก่อนที่เขาจะได้พูดตอบกลับ
เลฟนั้นถึงกับตกตะลึงเมื่อเขาเห็นเหรียญทอง เขาหยุดรถม้าในทันที และจากนั้นลิงค์ก็กระโดดลงจากรถม้าและเดินออกไปทันที เขาไม่ได้เดินเข้าไปที่ประตูเมือง แต่เขากลับตรงเข้าไปทางป่า
โฮกกกกกก!!!!
มีเสียงสัตว์ร้ายร้องดังมาจากป่าอีกครั้ง แต่ครั้งนี้มันไม่ดูเหมือนเสียงคำรามแต่เหมือนกับเสียงครวญมากกว่า
ลิงค์ร่ายเวทย์ รวดเร็วดั่งชีต้าร์ให้กับตัวเองเพื่อที่จะเพิ่มความเร็วและพลังงาน จากนั้นเขาก็ปกปิดตัวตนด้วยเวทย์หายตัวระดับสูงซึ่งมันสามารถปกปิดเสียงเดิน,กลิ่นและมานาของเขาได้ในขณะที่เขายังหายตัวอยู่ เมื่อพร้อมแล้ว ลิงค์ก็พุ่งตรงไปทางที่เป็นที่มาของเสียงคำราม
โฮกกกก!!!
ลิงค์สามารถรู้สึกได้ว่าเจ้าสัตว์ร้ายได้อ่อนแอลงในตอนนี้ เสียงมันดูเหมือนว่าจะไม่ห่างจากเขามากแล้วในตอนนี้ ลิงค์คาดว่าเสือนภาน่าจะอยู่ห่างจากเขาประมาณ1ไมล์
ลิงค์วิ่งไปอีกเป็นเวลา3นาที และในที่สุดเขาก็มาถึงสถานที่ต่อสู้
เขาอยู่ที่ริมห้วยเล็ก ๆ ในป่า ต้นไม่ที่อยู่รอบๆเขาได้ถูกถอนรากและล้มลงกองกับพื้น เขาสามารถรู้สึกถึงพลังของธาตุลมและธาตุมืดได้ปะทะกันอย่างรุนแรงที่นี่เมื่อไม่นานมานี้ และที่บนโขดหินของลำห้วย มีเสือนอนจมกองเลือดอยู่ มันหายใจอย่างรุนแรง พยายามที่จะมีชีวิตอยู่
ไม่ไกลจากเขามีคน3คนยืนอยู่ 2คนในนั้นเป็นนักรบและแต่ละคนต่างถือโล่ อีกคนนึงที่เหลืออยู่เป็นนักเวทย์ที่ถูกปกคลุมด้วยหมอกหนาสีดำ และตัวของเขาได้สวมผ้าคลุมสีดำที่ปกปิดตัวเขาไว้ทั้งตัว
นักเวทย์ยืนอยู่ข้างกับโล่ของนักรบ ในขณะที่มีเส้นหมอกสีดำที่เหมือนกับเชือกไหลออกมาจากคทาของเขาและพุ่งเข้าไปที่แผลบนตัวของเสือนภา หมอกนั้นได้กัดกินเลือดเนื้อของมันด้วยพลังความมืด,ออร่าปีศาจ
เสือนั้นอ่อนแอเกินไปที่จำทำอะไรนอกจากการร้องด้วยความเจ็บปวด เห็นได้ชัดว่ามันเจ็บปวดอย่างมากในตอนนี้ แต่มันก็ไม่ได้พยายามดิ้นหรือขยับเลยแม้แต่นิดเดียว มันน่าจะถูกดูดพลังออกหมดอย่างสมบูรณ์แล้ว
หลังจากนั้น ลิงค์ได้ประมาณเลเวลและความแข็งแกร่งของทั้ง3คนอย่างแม่นยำ
2คนในนั้นเป็นนักรบเลเวล6ที่ใช้ออร่าต่อสู้สีดำ ลิงค์คิด นี่เป็นบางอย่างที่เขาไม่เคยเจอมาก่อน และอีกคนก็คือเนโครแมนเซอร์เลเวล7 เห็นได้ชัดว่าเป็นลิซ เขาต้องมาจากหอคอยอสุราอย่างแน่นอน และเขากำลังใช้เวทย์ การเปลี่ยนร่างไสยเวทย์เลเวล7!
แจ้งเตือนเด้งขึ้นมาที่อินเตอเฟสของเขา ลิงค์มองไปที่มันและพบว่ามันเป็นภารกิจใหม่
ภารกิจ:หยุดการเปลี่ยนร่างไสยเวทย์
รายละเอียดภารกิจ:1.ฆ่าพวกคลั่งศาสนาและช่วยเหลือเสือนภา 2.สำรวจตัวตนที่แท้จริงของคนคลั่งศาสนาทั้ง3
รางวัล1:100แต้มโอมนิ
รางวัล2:แสตมป์วิญญาณ(สำหรับใช้กับสัตว์ต่อสู้)
โอเคถ้างั้น ลิงค์คิดหลังจากที่เห็นแจ้งเตือนพวกนี้ เขาก็รับภารกิจแบบไม่มีความลังเล