advent of the archmage - Chapter 187: ลิซพันปี
ลิงค์เปิดจดหมายออกและตรวจดูแผนที่ที่ร่างไว้หยาบๆที่อยู่ภายใน เมื่อมองมันลิงค์พบว่าเขารู้สึกคุ้นเคยกับสถานที่ที่อยู่ในแผนที่มาก หลังจากตรวจสอบอย่างใกล้ชิดยิ่งขึ้น เขาก็พบว่ามันคือแผนที่ของเทือกเขามอดไหม้
ในแผนที่นั้นมีเส้นสีแดงที่ขีดลากจากส่วนตะวันออกเฉียงใต้ของเทือกเขามอดไหม้ไปจนถึงสถานที่ที่มีชื่อว่าอ่าวฉลาม และบนแผนที่ก็มีข้อความเขียนเอาไว้ว่า
ฉันสามารถช่วยนายเปลี่ยนสภาพอากาศในที่รกร้างเฟิร์ดได้ แต่ว่านายต้องมาคนเดียวนะ นายกล้าพอรึเปล่า?
ลิงค์ทำได้แค่ยิ้มเจื่อนๆเมื่อเขาอ่านข้อความพวกนี้
หืม….นี่เป็นกับดักงั้นเหรอหรือว่าเขาเป็นคนที่จะให้ถูกมองเห็นไม่ได้?ลิงค์สงสัย
คนที่ส่งจดหมายนี้มาให้เขาใช้ตัวล็อครูปแบบมัลฟอย ซึ่งนั่นหมายความว่าผู้ส่งจะต้องเป็นนักเวทย์เมื่อดูจากคุณภาพของรูนและเลเวลของเวทมนตร์ที่ใช้แล้ว เขาน่าจะเป็นนักเวทย์เลเวล5หรือสูงกว่านั้น
นักเวทย์ที่แข็งแกร่งแบบนั้นคงไม่เสียเวลาของเขาด้วยการแกล้งลิงค์หรอก
อีกอย่าง อ่าวฉลามนั้นก็ไม่ได้อยู่ไกลจากเทือกเขามอดไหม้นัก ถ้าไปตามถนนก็เพียงแค่5ไมล์เท่านั้นเอง ดังนั้นลิงค์จึงตัดสินใจที่จะไปที่นั่นเพื่อดูว่ามีอะไรกันแน่
แน่นอน มันมีความเป็นไปได้ที่เขาจะพบกับอันตรายที่นั่น แต่ว่าเขาได้เชี่ยวชาญเวทย์ข้ามมิติและยังมีโอกาสอีกสองครั้งที่จะใช้พลังของหินนักปราชญ์สีขาวได้ และในตอนนี้เขายังมีแต้มโอมนิอีกตั้ง200แต้ม ดังนั้นแม้ว่าจะมีใครบางคนได้วางกับดักและลอบโจมตีเขา เขาก็มีความมั่นใจว่าเขาจะไม่ถูกฆ่าง่ายๆ
อีกความเป็นไปได้นึงคือการพบกับคนที่สามารถเปลี่ยนสภาพอากาศของที่รกร้างเฟิร์ดได้จริงๆ ซึ่งถ้าเป็นอย่างนั้นจะหมายความว่ามันจะช่วยยกปัญหาอันใหญ่หลวงที่เขาพบอยู่ตอนนี้ให้หายไป!
ด้วยความคิดนี้ในใจ ลิงค์คิดว่ามันไม่มีเหตุผลไหนเลยที่จะห้ามเขาไม่ให้ไปพบกับบุคคลปริศนาคนนี้เลย
มันเป็นเวลาช่วงกลางวันในตอนนี้ และอากาศก็ยังดีอยู่ ลิงค์บอกลาเลขาของเขาโจชัวร์จากนั้นเขาก็ออกมาจากค่ายคนเดียว
เมื่อเขาออกมานอกค่าย ลิงค์ก็อัญเชิญเฟนเรียลมออกมาและพุ่งตรงไปที่อ่าวฉลาม ด้วยความเร็วของเฟนเรียลมเขาใช้เวลาการเดินทาง5ไมล์ด้วยเวลาแค่เพียง6นาที
เมื่อเขามาถึงอ่าวฉลาม หน้าผาก็โผล่มาให้เห็นในทัศนวิสัย ลิงค์กระโดดลงจากเฟนเรียลมและวิ่งไปทางผา เขาพบชายหาดรูปแหวนอยู่ที่บริเวณรอบๆหน้าผา แต่ว่าเขากลับไม่พบใครเลยนอกจากนกนางนวล
ลิงค์เดินไปตามหน้าผาแต่ก็ยังคงไม่พบกับใครเลย และในตอนที่เขากำลังเริ่มสงสัย เขาก็สัมผัสได้ถึงความผกผันของมานา เขารีบหันกลับไปและเห็นสิ่งที่เกือบจะโปร่งแสงปรากฏออกมาจากรอยแตกของหินหน้าผา
ลิงค์เข้าใจในทันทีว่าทำไมบุคคลปริศนานี้ต้องการให้เขามาคนเดียวตั้งแต่แรกเห็น ถ้าเกิดคนธรรมดาได้มาเห็นรูปร่างอันน่ากลัวนี้ล่ะก็ พวกเขาอาจจะกลัวจนช็อคตายจากการมองเห็นรูปร่างของเขาแน่นอน
เขาก็คือลิซ ลิซแท้ๆ ที่มีร่างกายเป็นโครงกระดูกทั้งหมดโดยที่ไม่มีเนื้ออยู่เลย กระดูกของเขานั้นดูสวยงามอย่างน่าประหลาด มันดูเหมือนกับหินหยกเลย ภายในเบ้าตาของเขานั้นมีเปลวเพลิงสีฟ้าที่มีพลังวิญญาณและมานาจำนวนมหาศาลพุ่งออกมาจากมัน จากสิ่งนี้ลิงค์สามารถประเมิณได้ว่าเขาจะต้องมีเลเวลอย่างน้อย7แน่ๆ และนั่นมันก็แข็งแกร่งพอๆกับแอนโทนี่ อาจารย์ใหญ่ของสถาบันอีสโควฟ
แน่นอนว่า ความแข็งแกร่งขนาดนี้ยังไม่มากพอที่จะทำให้ลิงค์กลัว เขายกเลิกเฟนเรียลมอย่างใจเย็นและเดินไปหาลิซ
“ขอผมรู้ชื่อของคุณได้มั้ยครับ?”ลิงค์ถามในตอนที่เขายังอยู่ห่างจากลิซอยู่30ฟุต
ลิซนั้นเป็นสิ่งมีชีวิตแห่งความมืด พวกเขานั้นส่วนมากจะมีนิสัยชั่วร้ายและเห็นสิ่งมีชีวิตอื่นเป็นเพียงแค่ของเล่นของตัวเอง แต่ ลิงค์สามารถสัมผัสอะไรบางอย่างที่พิเศษได้จากลิซคนนี้ พลังความมืดที่ลิงค์สัมผัสได้จากเขานั้น มันบริสุทธ์และเงียบสงบ เช่นเดียวกลับความสงบยามเที่ยงคืน และก็ไม่มีร่องรอยของความชั่วร้ายจากเขาเลยซักนิดเดียว มันแตกต่างอย่างสิ้นเชิงกับที่เขาสัมผัสได้จากเฉดหรือเบลที่เพิ่งเปลี่ยนร่างเป็นลิซเมื่อเร็วๆนี้เลย ดังนั้นลิงค์เลยดัดสินใจที่จะยังไม่ลงมือและเข้าหาลิซ
“ข้าชื่อแวนซ์”ลิซตอบ
“หืม?”ลิงคิดว่าเขาเคยได้ยินชื่อนี้ที่ไหนมาก่อน เขาพยายามที่จะนึกถึงมันอย่างระมัดระวัง;จากนั้นก็มีบางอย่างพุ่งเข้ามาในความทรงจำของเขา “คุณใช่คนที่เป็นคนคิดค้นการศึกษาเรื่องออร่าต่อสู้ใช่มั้ย?”
มันเป็นไปได้งั้นเหรอ?อ้างอิงจากบันทึกประวัติศาสตร์แล้ว ลิซจะต้องมีอายุประมาณ1000ปีถึงจะสามารถเป็นผู้คิดค้นการศึกษาออร่าต่อสู้ได้! แต่แล้วลิซคนนี้กลับเป็นแค่นักเวทย์เลเวล7 แล้วเขาสามารถมีชีวิตอยู่นานขนาดนี้ได้อย่างไร?
แม้กระทั่งคนที่เป็นระดับตำนานก็ยังไม่สามารถอยู่นานขนาดนี้ได้ ราชาขององค์กรณ์ใต้ดินมอเฟียสเองนั้นยังมีอายุไม่ถึง500ปีเลย และเขาก็ทำการบูชายัญให้กับเทพปีศาจอยู่ตลอด ทำไมงั้นเหรอ? เพราะเขารู้ว่าอีกไม่นานเขาก็จะหมดอายุขัยยังไงล่ะ!
สิ่งที่ทำให้ลิงค์ตกใจคือ แวนซ์พยักหน้า
“ข้าไม่คิดเลยว่าเจ้าจะรู้จักข้าด้วย”ลิซพูด”ช่างเป็นเกียรติจริงๆ เจ้าคงสงสัยว่าทำไมข้าถึงอยู่ได้นานขนาดนี้ ข้ากลัวว่าข้าจะไม่สามารถอธิบายเจ้าอย่างละเอียดที่นี่ได้ และตอนนี้ข้าสามารถบอกได้แค่ว่าข้าได้ทำการแลกเปลี่ยนกับเทพปีศาจในทะเลแห่งความว่างเปล่า หลังจากที่ข้าได้ทำบาปอันน่าเวทนาลงไปก็ถูกจับขังไว้ในหอคอยอสุรามาตลอด400ปีที่ผ่านมา
เทพปีศาจนั้นเป็นชื่อโดยรวมของเทพแห่งความมืดชั้นต่ำ พวกมันส่วนมากจะเป็นกึ่งเทพชั้นต่ำ และพวกมันก็มีเป็นฝูงมากมาย มันมีอย่างน้อย100ชื่อที่แตกต่างกันสำหรับเทพปีศาจที่เป็นที่รู้จักกันในมุมมืดของทวีปฟิรุแมน ตราบใดที่ใครคนหนึ่งรู้ชื่อจริงของเทพปีศาจพวกนี้พวกเขาก็จะสามารถอัญเชิญพวกมันมาได้จากการทำพิธีกรรมพิเศษและทำการแลกเปลี่ยนกับพวกมัน
การแลกเปลี่ยนพวกนี้ส่วนมากจะโหดร้ายและเต็มไปด้วยเลือด ซึ่งนั่นหมายความว่าอดีตของแวนซ์นั้นไม่ได้สะอาดเหมือนกับออร่าอันสงบของเขาเลย
แต่มันไม่ใช่เรื่องน่าตกใจสำหรับลิงค์เลย ประวัติศาสตร์ได้บันทึกว่า แวนซ์ได้พยายามที่จะศึกษาศิลปะการต่อสู้และออร่าต่อสู้โดยได้ทำการทดลองอันน่ากลัวกับนักรบที่ยังเป็นๆอยู่ เขานั้นอาจจะเป็นผู้คิดค้นการศึกษาศิลปะการต่อสู้ แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าวิธีการที่เขาทำให้ได้มันมานั้นจะสามารถยอมรับได้ อ้างอิงจากตำนานแล้วเขานั้นหายตัวไปอย่างเป็นปริศนาโดยที่ไม่มีร่องรอยอะไรเหลือเลย และตอนนี้ลิงค์ก็รู้แล้วว่าเขานั้นได้ทำการแลกเปลี่ยนกับเทพปีศาจจริงๆและได้เปลี่ยนร่างกลายเป็นลิซไปแล้ว
ถ้าให้พูดง่ายๆ แวนซ์ก็คืออัจฉริยะบ้าคลั่งที่ทำการกระทำที่น่าสงสัยแต่เขานั้นไม่ได้มีนิสัยชั่วร้ายอย่างแท้จริง
ลิงค์ไม่ได้สนใจเรื่องแบบนั้น แม้ว่าเขาจะยังคงลังเลที่จะร่วมมือกับเขาดีรึเปล่า แต่ว่า ลิซได้สัญญาที่จะช่วยเขาแก้ไขปัญหาที่เร่งด่วนให้เขาในจดหมาย และลิงค์ก็ไม่ได้ต้องการที่จะทำให้เขาผิดหวังอย่างน้อยก็ก่อนที่เขาจะทำความรู้จักกับเขาซักนิดนึงก่อน หลังจากที่คิดไตรตรองอยู่อย่างเงียบๆซักพัก ลิงค์ตัดสินใจที่จะไม่เสียเวลาด้วยการอ้อมไปมา
“คุณพูดว่าคุณสามารถช่วยแก้ปัญหาเรื่องสภาพอากาศให้ผมได้งั้นเหรอ?”ลิงค์ถาม
แวนซ์หัวเราะด้วยเสียงแหบๆในตอนที่เขาได้ยินลิงค์พูด
“ข้าเจอกับผู้หญิงที่น่าสนใจคนนึงในป่าเกอแวนท์หลังจากที่หนีออกมาจากหอคอยอสุรา”แวนซ์พูด”นางบอกข้าว่าเจ้าคือเด็กหนุ่มที่ใจกว้างและจะไม่ไล่ข้าไปในตอนที่เจ้าเห็นข้า นั่นเป็นเหตุผลที่ข้าตัดสินใจมาที่นี่ เห็นได้ชัดเลยว่านายพูดถูก”
“ผู้หญิงคนนั้นชื่อเอเลนอร์หรือเปล่า?”ลิงค์ถาม เขาค่อนข้างตื่นตระหนกกับการเปิดเผยนี้”นายไม่ได้ทำร้ายเธอ ใช่มั้ย?”เอเลนอร์นั้นเป็นเพื่อนที่ดีกับเขาและได้ช่วยเขาไว้มากมายหลายครั้งก่อนหน้านี้ ลิงค์ไม่ต้องการให้เธอเป็นอันตราย
แวนซ์ส่ายหัวของเขาเป็นการปฏิเสธ
“นี่ข้าดูเป็นคนชั่วร้ายในสายตาเจ้างั้นเหรอ?”เขาถามลิงค์”ไม่ เจ้ามองข้าผิดไป ทั้งหมดที่ข้าต้องการคือการเรียนรู้ความจริง ใช้ ข้าอาจจะเคยใช้วิธีการอันโหดร้ายเพื่อที่จะทำตามเป้าหมาย แต่มันก็ไม่ได้คุ้มค่าในท้ายที่สุดหนิ?”
ลิงค์นั้นโล่งใจที่ได้ยินว่าเอเลนอร์ปลอดภัย นั่นเป็นสิ่งที่เขาห่วงที่สุด เขาไม่ได้สนใจที่จะทำให้ตัวเองมีปัญหากับความผิดพลาดเรื่องอดีตของลิซ
“แล้วผมต้องทำอะไรตอบแทนสำหรับความช่วยเหลือของคุณล่ะ?”ลิงค์ถาม
“แน่นอนว่าเจ้าเป็นคนที่ฉลาด”แวนซ์พูดพร้อมกับหัวเราะ”นั่นทำให้เรื่องง่ายขึ้นมาก ดี จะเริ่มยังไงดีล่ะ,ข้าพึ่งจะได้อิสระของข้ากลับมาเมื่อไม่นานนัก ดังนั้นข้าจึงไม่มีคทาอยู่กับตัวเลย และข้าก็ไม่สามารถสร้างมันขึ้นมาเองได้ด้วย…”
ดูเหมือนว่าลิซจะเห็นหนึ่งในอุปกรณ์เวทมนตร์ของลิงค์และรู้ว่าอันนั้นเป็นผลงานของเขาเอง
“เรื่องนั้นไม่มีปัญหา”ลิงค์พูด”ผมจะสร้างให้กับคุณอันนึงให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ และผมสัญญาว่ามันจะออกมาดีเหมือนกับอันที่ผมใช้อยู่แน่นอน”ยังไงซะการสร้างคทาก็ไม่ได้เป็นเรื่องใหญ่สำหรับลิงค์
“และจากนั้น”ลิซพูดต่อ”ข้าจะต้องไปเอาพระราชวังใต้ดินของข้าคืน แต่นั่นไม่ใช่สิ่งที่ข้าสามารถทำคนเดียวได้ ข้าต้องการความช่วยเหลือ”
“พระราชวังใต้ดินของคุณงั้นเหรอ?”ลิงค์ถามด้วยความสงสัย”เกิดอะไรขึ้นกับมันงั้นเหรอ?”ลิงค์เริ่มคิดแล้วว่าลิซนั้นขอจากเขามากเกินไป
“ข้าถูกขังนานถึง400ปี ในตอนแรก ข้าคิดว่าโลกภายนอกนั้นมันหนวกหูและวุ่นวายเกินไป ดังนั้นข้าจึงตัดสินใจที่จะอยู่ในหอคอยอสุราไปตลอดกาล แต่ในเมื่อข้าออกมาแล้วตอนนี้ ข้าไม่มีทางเลือกนอกจากต้องหาที่ๆจะไป ข้าเคยสร้างพระราชวังใต้ดินเอาไว้ ดังนั้นข้าจึงคิดที่จะกลับไปที่นั่น ยังไงก็ตาม ข้อก้พบว่า มันได้ถูกยึดไปโดยกลุ่มของเนโครแมนเซอร์ หัวหน้าของพวกมันเป็นนักดาบ-เนโครแมนเซอร์เลเวล6ที่น่ากลัว และลูกน้องของพวกมันก็แข็งแกร่งเพราะว่าพวกมันได้เชี่ยวชาญศิลปะการต่อสู้ที่ข้าได้เป็นคนสร้างขึ้นมาเมื่อนานมาแล้ว และนับดาบ-เนโครแมนเซอร์คนนี้ยังได้เข้าถึงการควบคุมผนึกเวทมนตร์ภายในพระราชวังใต้ดินของข้า ข้าไม่สามารถจัดการเขาได้ด้วยตัวคนเดียว”
“แต่ว่าคทาอย่างเดียวก็มีค่าถึง20000เหรียญทองแล้วนะ”ลิงค์พูดอย่างชัดเจน”แล้วคุณยังคงขอให้ผมช่วยคุณในการยึดพระราชวังใต้ดินของคุณคืน คุณไม่คิดเหรอว่าคุณขอผมมากเกินไปน่ะ?”
ลิงค์นั้นได้มีชื่อเสียงค่อนข้างเยอะแล้วในตอนนี้ เขามั่นใจว่าต่อให้ไม่มีความช่วยเหลือของลิซเขาก็จะสามารถหาทางอื่นที่จะแก้ไขปัยหาเรื่องสภาพอากาศได้อยู่ดี ยกตัวอย่างเช่น เขาอาจจะไปที่เกาะแห่งรุ่งอรุณเพื่อหาคนช่วยที่นั่น ยังไงซะ ไฮเอลฟ์นั้นเป็นที่โด่งดังในเรื่องของนักเวทย์ที่แข็งแกร่ง ดังนั้นลิงค์จึงมั่นใจว่าเขาจะสามารถหาใครบางคนที่สามารถช่วยเหลือเขาได้
แวนซ์หัวเราะและเอาฝ่ามือที่เป็นกระดูกของเขาถูกัน ทำให้มันเกิดเสียงดังขึ้นตอนที่เขาทำอย่างนั้น
“ข้าอาจจะขอมากเกินไป”ลิซพูด”แต่เมื่อข้าได้พระราชวังใต้ดินของข้ากลับคืนมา แน่นอนว่าข้าจะมีของรางวัลให้กับเจ้า มันอาจจะไม่มีเหรียญทองมากนัก แต่มันมีวัตถุดิบเวทมนตร์มากมายและคัมภีร์ศิลปะการต่อสู้ระดับอีพิคถึง7ชนิด ข้าได้เก็บพวกมันมาตลอดจนถึงตอนนี้ แต่ข้าก็ไม่ได้ใช้มัน ดังนั้นถ้าเจ้าต้องการ เจ้าสามารถเลือกคัมภีร์ศิลปะการต่อสู้ที่เจ้าต้องการไปได้เลย หรือเจ้าจะเอามันไปทั้งหมดเลยก็ได้ ส่วนเรื่องวัตถุดิบเวทมนตร์ พวกเราสามารถแบ่งมันอย่างเท่าๆกันได้! ยังไงซะ คำตอบเรื่องการแก้ปัญหาเรื่องสภาพอากาศที่ข้ามีให้เจ้าก็อยู่ในหนังสือที่ข้าเก็บไว้ในพระราชวังใต้ดินของข้า ดังนั้นข้าจึงต้องกลับไปเพื่อเอามันมา”
เมื่อเขาได้ยินสิ่งเหล่านี้ ความสนใจของลิงคืก็ถึงจุดพีค ยังไงซะแวนซ์ก็เป็นผู้คิดค้นการศึกษาเรื่องศิลปะการต่อสู้ ดังนั้นมันจึงมีโอกาสสูงมากที่เขาจะพูดเรื่องจริง คัมภีร์ศิลปะการต่อสู้ระดับอีพิค7แผ่นนั้นอาจจะไม่ค่อยมีค่าสำหรับลิซ1000ปีอย่างแวนซ์ แต่สำหรับลิงค์ ไอเท็มพวกนี้มันมีค่ามากในการช่วยเขาในการเสริมความแข็งแกร่งของกองกำลังของเขา!
“ถ้าคุณพูดเรื่องจริงละก็”ลิงค์พูดหลังจากที่วัดระดับความสำคัญอยู่พักนึง”งั้นพวกเราน่าจะไม่สามารถจัดการเขาได้ด้วยตัวคนเดียว ผมจะต้องหาผู้ช่วยคนอื่นเพิ่ม”
พระราชวังใต้ดินนั้นไม่เหมือนกับโลกภายนอก พื้นดินและภายในของมันนั้นซับซ้อนและเป็นเขาวงกตซึ่งนั่นทำให้เขาไม่สามารถใช้เวทมนตร์ของเขาได้เต็มที่ ยิ่งไปกว่านั้นคู่ต่อสู้ยังเป็นนักดาบที่แข็งแกร่งที่เชี่ยวชาญกับพื้นที่อีกและยังมีพลังที่แข็งแกร่งในขณะที่มีความช่วยเหลือจากลูกน้องอันแข็งแกร่งมากมาย นี่ไม่ใช่การต่อสู้ที่จะชนะได้ง่ายๆเลย
ผู้ช่วยที่ดีที่สุดสำหรับกรณีนี้คือ นักสู้ที่แข็งแกร่งที่จะไม่ถูกรบกวนจากออร่าของลิซที่น่ากลัวและฉลาดพอที่จะคิดด้วยตัวเองได้
จากการไตร่ตรองอยู่นาน ลิงค์ก็คิดว่าคนที่ดีที่สุดที่จะสามารถช่วยพวกเขาได้ที่นี่ก็คือเจ้าหญิงปีศาจ เซลีน ไม่เพียงแต่เธอเป็นนักเวทย์ที่แข็งแกร่งเท่านั้น แต่เธอยังมีประสบการณ์ในการต่อสู้ระยะประชิดซึ่งมันจะมีประโยชน์มาก
“ข้าไม่มีปัญหาในเรื่องนั้น”แวนซ์พูด”แต่ว่าเจ้าจะใช้เวลาในการหาตัวผู้ช่วยนานแค่ไหน?”
“ผมก็ไม่ค่อยแน่ใจเท่าไหร่”ลิงค์ตอบ”เธออยู่ที่ทางใต้ในตอนนี้ แต่ผมจะลองอัญเชิญเธอมาดู ถ้าเกิดว่าไม่มีการตอบสนอง งั้นผมก็คงจะต้องลงไปตามหาเธอด้วยตัวเอง จากการคาดคะเนของผมมันคงใช้เวลาประมาณ1เดือน”
“ไม่เป็นไร”ลิซพูด”ข้าขอให้เจ้าโชคดีในการตามหาเธอ โอ้ แล้วก็ เจ้ามีคทาสำรองที่ข้าสามารถใช้ได้ในตอนที่ข้ารออันใหม่มั้ย?”แวนซ์ยื่นมือมาหาลิงค์ในตอนที่เขาพูด
ลิงค์มีคทาสำรองอยู่ แต่ว่ามันนั้นต่างกับคทาหลักของเขาที่เขาใช้อยู่ตอนนี้มาก เขาได้สร้างมันขึ้นมาอย่างหยาบๆด้วยมิธริลที่เหลืออยู่เพื่อฝึกการสร้างของเขา แต่ในเมื่อดูเหมือนว่าแวนซ์จะต้องการคทาด่วนมากขนาดนั้น เขาก็ได้หยิบมันออกมาจากจี้ต่างมิติของเขาและโยนมันให้กับเขา
แวนซ์หยิบคทาไปและทดลองร่ายเวทย์กับมันดูนิดหน่อย ดูเหมือนว่าเขาจะพึมพำอะไรบางอย่างในตอนที่เขาร่ายเวทย์ด้วยและกระดูกที่ปากของเขาก็กระทบกันเป็นเสียงรัวๆในตอนที่เขาทำอย่างนั้น
“นี่เป็นคทาที่แย่ที่สุดที่ข้าเคยใช้มาในรอบ1000ปีเลย”แวนซ์พูด”แต่ข้าคิดว่ามันก็ดีกว่าไม่มีอะไรล่ะนะ”
ลิงค์ไม่ได้คิดมากกับคำพูดเยาะเย้ยของลิซ จากนั้นเขาได้อัญเชิญเฟนเรียลมอีกครั้งและหันหลังให้กับลิซ
“ผมจะลองอัญเชิญเธอดูทันทีในตอนที่ผมกลับไป”ลิงค์พูด”ผมหวังว่าทุกอย่างคงจะไปได้ด้วยดี”
“ดี”แวนซ์พูด”ข้าจะอยู่ที่อ่าวฉลามนี่ซักพัก โอ้ ใช่ ข้าได้ถูกขังไว้นานเกินจนข้าลืมศิลปะการต่อสู้ไปเกือบหมดแต่ข้ายังคงจำได้อยู่อันนึง-ผู้พิชิตจักรพรรดิ มันเป็นศิลปะการต่อสู้ธาตุไฟ คิดซะว่ามันเป็นคำขอบคุณจากข้าละกัน”
ในตอนที่เขาพูด แวนซ์ได้ยื่นคัมภีร์เวทมนตร์มาให้เขา
ลิงค์เปิดคัมภีร์ดูและจ้องมันอยู่ซักพัก เขาคิดว่ามันเป็นเวทย์ที่เจ๋งดี แต่ว่ามีชื่อที่น่าตลก
“มันเป็นเวทย์ที่ดีนะแต่ว่าชื่อมันไม่ดูไม่มีเหตุผลไปหน่อยเหรอ?”ลิงค์พูด
แวนซ์ยิ้มอย่างมีเลศนัยตอบกลับ และกรามบนกับกรามล่างของเขาก็กระทบกันดังเมื่อเขาทำอย่างนั้น
“แต่ว่าพวกที่ซื่ออย่างนักรบคงไม่เรียนมันหรอกถ้าเกิดมันไม่มีชื่อที่ดูยิ่งใหญ่แบบนี้น่ะ!”เขาพูด
ลิงค์ไม่ตอบอะไรและกระโดดขึ้นไปบนหลังของเฟนเรียลม
“ผมจะเตรียมคทาของคุณให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้”เขาพูด จากนั้นเขาก็หันหมาป่าของเขาและเร่งกลับไปที่เทือกเขามอดไหม้
ลิงค์เป็นนักเวทย์คนเดียวที่อยู่ในเทือกเขามอดไหม้ในตอนนี้ เพราะว่าคาร์ลิโด้นั้นอยู่ในเมืองริเวอร์โควฟและเอเลียร์ดก็กลับไปที่สถาบันเวทมนตร์อีสโควฟ ฉะนั้นลิงค์จึงไม่ได้กังวลเรื่องที่จะมีใครสัมผัสได้ถึงความผันผวนของมานาที่เขาทำ เมื่อเขากลับไปถึงกระท่อมไม้ของเขา เขาก็เอาขนปีกสีดำที่เซลีนได้ให้เขามาและร่ายเวทย์บอลเพลิงอันเล็กๆเพื่อเผามัน
ขนสีดำค่อยๆไหม้อย่างเงียบๆและช้าๆภายใต้ไฟสีเทา มันไหม้อยู่นาน3นาที;จากนั้นไฟก็ลุกโชติช่วงขึ้นมาช่วงนึงก่อนที่มันจะค่อยๆแผ่วลงและดับไปในทันที
ในขณะเดียวกัน ลิงค์ก็ไม่สามารถสัมผัสได้ถึงออร่าของเซลีนเลยแม้แต่นิดเดียว ซึ่งนั่นทำให้เกิดความไม่สบายใจขึ้นภายในใจของเขา
ลิงค์ไม่ใช่นักเวทย์มือใหม่ในแบบที่เขาเคยเป็นอีกแล้ว เขารู้ว่าการเผาขนนั้นเป็นขั้นตอนการอัญเชิญที่จะต้องมีผู้รับและผู้รับจะต้องตอบสนองการอัญเชิญของเขาด้วยออร่า ในเมื่อเขาสัมผัสถึงออร่าของเซลีนไม่ได้เลยจนถึงตอนนี้ มันทำให้เขาเป็นกังวลมาก
เขานึกถึงข่าวลือที่เขาได้ยินว่ามีการปรากฏตัวของปีศาจระดับสูง3ตัวในอาณาจักรสิงโตและหัวใจที่ไม่เคยสั่นไหวของลิงค์ก็ได้กระวนกระวายเป็นครั้งแรก
มีอะไรไม่ดีเกิดขึ้นกับเธองั้นเหรอ?ลิงค์สงสัย เกิดอะไรขึ้นกับไอหน้าม่อเวเวอร์กัน,หรือว่าเขาจะทำอะไรไม่ดีกับเซลีน?มีบางอย่างไม่ถูกต้อง ฉันจะต้องลงใต้เพื่อตามหาเธอ!