ไปจีบสาวที่โลกอนิเมะกันเถอะ! - SGS บทที่ 2 – มาถึงขนาดนี้ก็ต้องสร้างฮาเร็มแล้วละ!
หลักจากได้ขบคิดอย่างจริงจังไปได้สักพัก วู่หยานก็เข้าใจความแตกต่างระหว่างหน้าจอทั้ง3อัน
อธิบายง่ายๆก็คือ ประเภทที่สามารถได้รับมาจากการฝึกคือ สกิล ประเภทที่ไม่สามารถได้จากการฝึกคือ พรสวรรค์ ขณะที่ สายเลือด ก็ตรงตัวคือต้องมีสายเลือดนั้นๆถึงจะสามารถใช้พลังแฝงที่อยู่ในสายเลือดได้
นอกจากนี้ การใช้ความสามารถก็ยังมีข้อจำกัด แม้ว่าจะไม่ได้อยู่ในประเภทเดียวกันก็ตาม เช่น เนตรวงแหวนกับเนตรมรณะไม่สามารถใช้พร้อมกันได้ เพราะทั้งสองต่างก็เกี่ยวข้องกับดวงตาด้วยกันทั้งคู่ เพราะฉะนั้นจึงไม่สามารถใช้พร้อมกันได้ ต้องเลือกเพียงแค่อย่างเดียว
ยิ่งไปกว่านั่น เขาไม่สามารถมีสองสายเลือดในเวลาเดียวกันได้ สามารถมีได้แค่หนึ่งสายเลือดเท่านั่น สมมุตถ้ามีอยู่แล้ว และยังไปซื้อสายเลือดอื่นมาอีก สายเลือดอันเก่าก็จะถูกลบออกไป
แต่ว่า โชคยังดีอยู่ที่สามารถขายสายเลือดเก่าทิ้งได้ แต่จะได้คืนกลับมาแค่50%จากราคาที่ซื้อมา มันเป็นอะไรที่โหดร้ายมาก แต่ก็ดีกว่าไม่ได้อะไรเลย…..
หลังจากได้คิดอีกรอบ วู่หยานก็พอจะเข้าใจระบบมากขึ้น ไม่ใชแค่อบิลิตี้ที่สามารถซื้อได้ แต่ยังมี อุปกรณ์ และ ไอเทม ทั้งสองอย่างนี้ทำให้ วู่หยาน แปลกใจ หลักจากดูสิ่งที่ใช้แลกเปลี่ยนทำให้เขากลืนน้ำลาย
ตามที่ระบบได้แจ้งไว้ วู่หยานก็เข้าใจว่า ถ้าจะแลกสิ่งพวกนี้เขาจำต้องใช้แต้มให้ถูกอัน EP(Equipment point)ก็ไว้แลกอุปกรณ์ IP(Item Point)ก็แลกไอเทม AP(Ability Point)ก็แลกความสามารถ และสุดท้าย SP(Summons Point)ไว้อัญเชิญตัวละครต่างๆ
ตราบใดที่เข้ามีแต้มแลกพอ เขาก็สามารถแลกหน้าอกมาซุกเล่นได้ หลังจากที่ได้ค้นคว้ามา วู่หยานก็เข้าใจว่า ยกเว้นแลกตัวเอง ทุกอย่างเขาสามารถแลกซื้อได้!
หลักจากได้ดูหมวด ความสามารถ อุปกรณ์ และ ไอเทม แล้ว วู่หยาน ก็ยังสามารถคุมสติตนเองได้อยู่ แต่พอเปิดดูหมวดอัญเชิญเท่านั้นแหละ เขาก็อ้าปากค้างตกตะลึงแบบสุดๆ
ฮัทสึเนะ มิคุ : 5,000 SP
.
.
.
แบล็ค ร็อค ชูตเตอร์ : 10,000 SP
.
.
.
อิคารอส : 100,000 SP
ในป่าที่ปกติจะเงียบสงบ ก็ได้เกิดเสียงดังขึ้น เป็นน้ำเสียงเจือปนไปด้วยความสุขปนลามก
สามารถเห็นได้อย่างชัดเจน ตรงพื้นที่โล่งของป่า มีเด็กหนุ่มคนหนึ่งกำลังกระโดดขึ้นๆลงๆ และพูดคำซ้ำๆกันจนเกิดเสียงดังไปทั่ว ใครก็ตามที่ได้เห็นภาพนี่ ควาามคิดแรกที่แว่บขึ้นมาในสมองคือ ตนเจอคนบ้า
วู่หยาน หัวเราะจนน้ำตาไหล ขณะที่ตัวก็ยังไม่หยุดเต้น ราวกับว่าจะโชว์ให้โลกว่ามีข้าความสุขมาก
วู่หยาน มั่นใจ1,000% ว่าถ้ามีแต้มมากพอ เขาก็สามารถเปิดฮาเร็มได้!
จะฆ่าสิบทิศ หรือจะพิชิตโลก ก็ง่ายดุจพลิกฝ่ามือ!
ความคิดพวกนี้ พวกคุณก็คิดเหมือนกันใช้มั้ยล่ะ!!?…
วู่หยานหวังอย่างยิ่งว่าตนจะสามารถเปิดระบบเพื่อ ‘ช่วยเหลือ’ เหล่าสาวน้อยออกมา แต่มันแย่สุดๆ ตรงที่เขามี 0 SP เขาจึงทำได้แต่กล้ำกลืนฝืนทนไปก่อน ขณะที่ฟังเสียงประกาศของระบบ
“เฮ้ ระบบ ฉันสามารถได้SPจากไหนได้บ้าง?” อยากร้องไห้ แต่ไม่มีน้ำตา วู่หยานก่นด่าในใจ มันเหมือนกับว่ามีเนื้อA5มาลอยอยู่ตรงหน้า แต่ก็คว้าไว้ไม่ได้ ไอ้ระบบเฮงซวยนี้มันโครตใจร้ายเลย……
“ยูสเซอร์ ต้องทำเควสให้สำเร็จเพื่อรับแต้ม หรือ ขายไอเทมให้ระบบ”
“ทำเควส? งั้นระบบ ตอนนี้มีเควสอะไรดีๆบ้าง?” มองไปที่เลขศูนย์ เขาหดหู่มาก แต่ก็กลับเป็นเหมือนเดิมอย่างรวดเร็ว นี่มันก็เหมือนในนิยาย ที่ต้องทำอีเว้นต์ให้สำเร็จ หรือเรียกได้ว่ามันคือ บททดสอบแห่งความรัก!!
แน่นอนว่านี้คือการมโน……..
หลักจากเขาถามไป ก็มีหน้าจอปรากฏขึ้นมาตรงหน้า
Hunting Quest : การเอาชีวิตรอด!!
ภารกิจที่ 1: ในป่าสัตว์อสูร ฆ่าสัตว์เวทมนต์ 100 ตัว
รางวัล: 2000 Ep, 2000 Ip, 1000 Ap, 1000 Sp
ภารกิจที่ 2: ในป่าสัตว์อสูร ฆ่าสัตว์เวทมนต์LV10 จำนวน 10 ตัว
รางวัล: 5000 Ep, 5000 Ip, 3000 Ap, 3000 Sp
ภารกิจที่ 3: ในป่าสัตว์อสูร ฆ่าสัตว์เวทมนต์LV20 จำนวน 1 ตัว
รางวัล: 10,000 Ep, 10,000 Ip, 5000 Ap, 5000 Sp
อืม… ถ้าเมื่อกี้เขามีความคิดที่จะไปตีมอนหาแต้มอย่างบ้าคลั่งละก็ตอนนี้เขาก็กำลังเหยียบความคิดโง่ๆนั่นให้จมดิน
เอ็งจะมาคาดหวังอะไรจริงๆจังๆกับนีทที่วันๆเอาแต่นอนดูอนิเมะวะครับ? ให้มาฆ่าสัตว์ประหลาดพวกนี้งั้นเหรอ? ตลกล่ะ! ถ้าทำอย่างจริงๆล่ะก็ กระดูกสักชิ้นของตูก็คงจะไม่เหลือแน่…….
“ระบบ แกให้เควสยากเกินไปแล้วนะเฮ้ย ฉันทำไม่ได้แน่อ่ะๆ ตูแค่เลเวลศูนย์เองนะ แล้วเอ็งจะมาบอกให้ไปฆ่าสัตว์เวทมนต์งั้นรึ? ลืมมันไปซะ ฉันกล้าพูดเลย ไม่ว่าจะเป็นสัตว์เวทมนต์ตัวไหนก็ฆ่าฉันได้ทั้งนั่น นี้มันไม่ใช้เป็นการส่งฉันไปเป็นมื้อค่ำให้มันรึไง?”
ยิ่งพูดวู่หยานยิ่งหัวร้อน ราวกับว่าเขาสามารถเห็นจุดจบของตัวเองได้ เขาพูดด้วยน้ำเสียงและท่าทางที่ดูน่าส่งสารสุดๆ ขณะเดียวกันในใจก็กำลังพิจารณาว่า ถ้าตนแกล้งบีบน้ำตา อาจจะทำให้มันดูน่าเชื่อถือมากขึ้น
ขณะที่จินตนาการถึงภาพที่ตนบีบน้ำตาขอร้องอย่างน่าสงสาร จู่ๆเขาก็หยุดไป
“ปี๊บ! ความจริงที่ว่ายูสเซอร์อ่อนแอเกินไป และไม่น่าจะเป็นไปได้ที่จะอยู่รอด ดังนั้นระบบจะให้แต้มเริ่มต้นของ Ep, Ip, Ap, Sp, อย่างละ 10,000 เพื่อเพิ่มความสามารถของยูสเซอร์ โปรดเลือกใช้อย่างชาญฉลาด!"
ตอนนี้ข้างๆหูของวู่หยาน เสียงที่ได้ยินมันเหมือนเสียงนางฟ้ามาโปรดไม่ผิด ทำให้เขามีความสุขมาก
ณ จุดๆนี้ แสดงว่าที่เราแกล้งทำเมื่อกี้มันได้ผล…….
หลังจากเขาได้รับ ‘รางวัล Log In’ ก็เข้าไปดูในระบบ ต้นทุนนี้จะเป็นสิ่งที่ทำให้เขารอดชีวิต ถ้านี้เป็นโลกอย่างว่าจริงๆ เขาก็ต้องแข็งแกร่งขึ้นเท่านั่น!
มีแค่พลังเท่านั่นที่จะทำให้คุณดูดี ถ้าไม่มีพลังมันก็เป็นแค่สวะ…….
ถ้ามีพลัง เราก็สามารถปักธงสาวได้ เช่น ผู้กล้าที่ไปช่วยชีวิตสาวสวย ผู้กล้าที่ไปช่วยชีวิตสาวสวย ผู้กล้าที่ไปช่วยชีวิตสาวสวย……..
หลังจากเปิดดูไปสักพัก เขาก็ค้นพบความจริงอันโหดร้าย
ของถูกมันก็ดีอยู่หรอก แต่พอเห็นอันล่างๆเท่านั่นแหละ ทั้งราคาทั้งความย้ำยวนของมัน สามารถทำให้เขาใจแตกตายได้เลย….
อดทนไว้ตัวฉัน มันต้องมีสัก จากนั้นวู่หยานก็ไล่ดูต่อไป จริงๆแล้ว สิ่งที่ควรซื้อย่างแรกคือ อบิลิตี้(ความสามารถ) หลังจากนั้นความแข็งแกร่งมันก็จะมาเอง
แม้ว่าตอนนี้เขาจะไม่สามารถซื้อความสามารถแพงๆได้ แต่ก็ยังมีบางอันที่น่าสนใจอยู่ และมันทำให้เขาคิดหนักเพราะไม่รู้ว่าจะเลือกอันไหนดี
สุดท้าย วู่หยานก็เลือกสกิล ปรมาจารย์ดาบ
ปรมาจารย์ดาบ : ผู้ที่ฝึกฝนในวิถีแห่งดาบ ความสามารถในการใช้ดาบเหมือนฝึกมาแล้วหลายสิบปี 10,000 AP
เมื่อซื้อเสร็จ ในเวลาเดียวกัน หัวของวู่หยานก็ปวดจี๊ด ภาพนับไม่ถ้วนปรากฏในจิตใจเขา!
ในภาพนั่น เป็นต้นกำเนิดของ ปรมาจารย์ดาบ เป็นการฝึกธรรมดาโดยการกวัดแกว่งดาบในมือนับครั้งไม่ถ้วน ในแต่ละภาพก็แสดงเทคนิคดาบที่ไม่เหมือนกัน ดูเหมือนพวกเขาต้องใช้เวลาทั้งชีวิตเพื่อศึกษาวิถีแห่งดาบเพื่อจะไปให้ถึงจุดๆเดียวกับวู่หยาน ณ ตอนนี้ แต่ละรายละเอียด แต่ละการเคลื่อนไหว ทุกๆอย่างได้สลักลงไปในจิตใจของเขา
วู่หยาน มีท่าทางเหม่อลอยราวกับกำลังมองดูอะไรสักอย่างอยู่ ในความรู้สึกของเขาไม่รู้ว่าผ่านไปนานเท่าใดแล้ว ที่ได้ศึกษาเทคนิคดาบเหล่านี้ อาจเป็น 1 ปีอาจเป็น 10 ปี หรืออาจจะเป็นวันเดียว …
ในไม่ช้า ภาพในหัวของเขาก็ค่อยๆหายไปจนหมด จากนั่นวู่หยานก็สะดุ้งเฮือก รู้สึกสับสนเล็กน้อย ในหัวของเขากำลังซึมซับประสบการณ์ที่ภาพเหล่านั้นส่งมาให้
และตอนนี้ เทคนิคดาบที่ทั้งลึกลับซับซ้อนทั้งหมดได้ถูกแกะสลักลงสมองของ วู่หยาน เรียบร้อยแล้ว แม้คิดอยากลืมมันก็เป็นไปไม่ได้…
ครู่หนึ่งวู่หยานก็ถอนหายใจอย่างโล่งอก ก่อนจะฉีกยิ้มออกมาอย่างมีความสุข
เดิมที คนบางคนกว่าจะได้รับสิ่งที่ระบบให้ อาจจะต้องศึกษามันทั้งชีวิต…..
ตอนที่เขากดซื้อไปความสามารถมันก็ถูกส่งเข้าสมองเขาเลย ดังนั้นตราบใดที่เขาคิด เขาก็สามารถใช้เทคนิคดาบพวกนี้ไดทันที!
ถึงจะไม่รู้ว่า พรสวรรค์ กับ สายเลือด มันทำอะไรได้ แต่แค่ สกิล ก็เพิ่มความแข็งแกร่งของเขาเยอะมากแล้ว และยังประสบการณ์ที่ได้รับนี้อีก
ก่อนหน้านี้เขารู้สึกเสียดายที่ใช้แต้มไปหมด แต่ตอนนี้เขารู้สึกว่ามันคุ้มค่ากับที่จ่ายไปมาก
วู่หยานไปซื้อดาบจากระบบ ก็คงมีวิชาดาบแล้วอ่ะ แล้วจะไม่ใช้ดาบได้ยังไงจริงไหม?
ดาบคุซานางิ (ระดับ D) : จากนารูโตะ ดาบของ อุจิวะ ซาสึเกะ ; 3000 EP
เส้นแสงกระพริบขึ้นมา พร้อมกับดาบและปลอกดาบในมือของ วู่หยาน
เล่นกับดาบในมืออย่างสนใจ วู่หยานพยักหน้าอย่างพึงพอใจ จากนั้นเอามันห้อยไว้ตรงเอวด้านหลังของเขา และปิดหน้าจอระบบ
เมื่อคิดถึงไอเท็ม เขาก็ไม่มั่นใจว่าจะใช้มันดีไหม อย่างแรกเลยยังมีแต้มไอเท็มอยู่ และสำหรับการอัญเชิญ แม้ว่าวู่หยานจะอยากอัญเชิญแทบตายแค่ไหน แต่เขาก็ไม่ต้องการเป็นผู้ชายที่หลบอยู่หลังผู้หญิง สาวน้อย2Dที่อัญเชิยมาต้องดีและแข็งแกร่งมากแน่นอน และนั่นมันทำร้ายศักศรีดิ์เขามาก อย่างน้อยเขาต้องเก่งกว่านี้แล้วค่อยมาคิดเรื่องอัญเชิญใหม่
“ระบบ มีแผนที่ของป่านี้หรืออะไรที่คล้ายๆกันบ้างไหม?” แม้มันจะน่าอายไปหน่อย แต่มันก็เป็นความจริงที่เขามีเซ้นส์เรื่องทิศทางค่อนข้างแย่ ที่พูดและทำมาทั้งหมดก่อนหน้านี้ก็แค่นอนเกาก้นดูเมะไปวันๆ….
“ปี๊บ! แผนที่ป่าของสัตว์ยักษ์ 3000IP ยืนยัน?”
"……. " อืม ตูผิดเองที่ไปคิดหวังพึ่งระบบ
ณ ตอนนี้ เขาเกือบจะถึงจุดที่ไม่มีแต้มแล้ว แม้จะเหลือนิดหน่อย แต่มันก็มีค่า และเขากะจะแลกมันกับเสบียงอาหารแทน
มั่นใจในตัวเองหน่อยตัวฉัน มันก็แค่ป่ากากๆเองแล้วจะไปกลัวหาไรวะ!
ว่าแล้ว วู่หยาน ก็ก้าวเดินไปด้วยความมั่นใจอันเต็มเปี่ยม ในที่ๆเมื่อกี้เขายังขาสั่นหงึกหงึก
ตอนนี้ ด้วยสกิลที่แลกมามันดีมาก ไม่ว่าอะไรก็เข้ามาเถอะ จะฟันให้เฮี้ยนเลยเว้ย!
อนิจจา วู่หยานได้ลืมไปแล้ว แม้จะมีสกิลดีแค่ไหน แต่เขาก็เป็นแค่LV0
“ปี๊บ! คำเตือน! พบสัตว์เวทมนต์ที่อันตราย ภายในรัศมีหนึ่งร้อยเมตร ตามการคำนวณ ถ้ามีการต่อสู้กัน โอกาสที่จะชนะน้อยกว่า 5% ขอแนะนำให้หลีกเลี่ยงการเผชิญหน้ากับศัตรูด้วยทุกสิ่งที่มี!"
เท้าของ วู่หยาน หยุดอยู่ในตำแหน่งเดิม และเขาก็ก้าวไปอีกก้าวด้วยใบหน้าที่ไร้ความรู้สึก
“เฮงซวยเอ้ย!!”