เทพอสูรบรรพกาล -Ancient Strengthening Technique - AST บทที่ 308 – การประลองของ ขั้นที่2 อาณาจักรพลังปราณเทวะกษัตริย์
- หน้าแรก
- เทพอสูรบรรพกาล -Ancient Strengthening Technique
- AST บทที่ 308 – การประลองของ ขั้นที่2 อาณาจักรพลังปราณเทวะกษัตริย์
ฝากติดตามเพจด้วยนะครับ แฟนเพจ แจ้งเตือนก่อนใคร กดเลย
https://www.facebook.com/AncientStrengtheningTechnique
บทที่ 308 – การประลองของ ขั้นที่2 อาณาจักรพลังปราณเทวะกษัตริย์
ชิงสุ่ยมองก้าวหมอกเมฆาของเขา ที่ถึงระดับที่ต้องการ น่าเสียดายที่มันเป็นเพียง ระดับสูงสุดของขั้นบรรพบุรุษ แม้ว่าจะรวดเร็วขึ้นมาก หมัดอันรายนั่นแทบจะโดนตัวชิงสุ่ย
ชิงสุ่ยรู้ถึงพลังในหมัดนั่น และรู้ว่าเขาไม่ได้ใส่พละกำลังทั้งหมด เขายังไม่ได้ใช้ฝ่ามือสังหารเทวอัสนี ดังนั้นชิงสุ่ยจึงก้าวถอยหลังอย่างแปลกตา
ก้าวเดินของเขาดูเรียบง่ายและลึกซึ้ง พร้อมกันนั้น “ท่วงท่าอังสาทะยานฟ้า” ด้วยพลังจากปอดและหลังมือถูกใช้พร้อมกับพุ่งไปข้างหน้า
ท่วงท่าอังสาทะยานฟ้า!
ชิงสุ่ยเข้าใจเพียงท่วงท่าที่เข้าใจง่ายของ24กระบวนท่าแห่งไท่เก๊ก และท่าที่ดีที่สุดในนั้นคือ ท่วงท่าแส้เดี่ยวไทเก๊กฝ่ามือเมฆา หมัดปัดป้องภัยพาล หอกคู่ทะลุพระกรรณ อาชาป่าพุงทะยาน และผนึกสวรรค์
นอกจากนี้ยังมี กระเรียนขาวสยายปีกที่ชิงสุ่ยฝึกฝนจนคุ้นเคย เขาต้องการประสบการณ์จากรูปลักษณ์กระเรียน ในเคล็ดวิชาเลียนแบบสัตว์ 9 อสูรและฝึกฝนอย่างหนักในท่วงท่านี้
“ปัง!”
ชิงสุ่ยไม่ได้ออกแรงมากนัก แต่ซงหลางต้องถอยกลับไปครึ่งก้าวด้วยพลังนั่น ตาของเขาหลี่อย่างทันที และพุ่งหมัดเข้าสู่หน้าอกของชิงสุ่ย
ชิงสุ่ยรู้สึกถึงพลังจำนวนมากในหมัดนี้และสังเกตเห็นแสงวาวที่อยู่บนหมัด ด้วยพลังอันแข็งแกร่งที่ไหลเวียนอยู่
ฝ่ามือสังหารเทวอัสนี!
ชิงสุ่ยไม่แน่ใจว่าหมัดของอีกฝ่ายมีพลังอะไร แต่รู้สึกถึงปราณที่รวดเร็วและเฉียบพลัน ในหมัดนั้น อากาศที่ออกมาในการชกดูเหมือนจะทำให้คนแยกออกจากกันได้
“ประกายสีทอง! บางทีเคล็ดหมัดหรือเคล็ดวิชาของเขาเชื่อมโยงกับธาตุโลหะงั้นหรือ?”
ตามการสันนิษฐานของชิงสุ่ย เขาพุ่งฝ่ามือเมฆาเข้าหาซงหลาง ในการโจมตีจุดสำคัญบนข้อมือของเขา ทุกๆท่วงท่าไทเก๊กของเขาอยู่ในขั้นดินแดนไร้ขอบเขต แม้ว่าจะไม่ได้ใช้วิชาจนชำนาญและเป็นธรรมชาติแต่ก็อยู่ในขอบเชตที่ชำนาญ
มันเป็นความผิดพลาดของซงหลางในการปะทะกับหมัดและเคล็ดวิชาของชิงสุ่ยอีกครั้ง ข้อมือของเขาที่รับฝ่ามือเมฆาของชิงสุ่ย ทำให้เขาเริ่มมีอาการชา และเขาถอยหลังไป2เมตรด้วย ความแข็งแกร่งที่ชิงสุ่ยใช้
ตอนนี้ซงหลางหยุดท่าเท้าของเขาและเริ่มประลองกับชิงสุ่ยด้วยท่าทีแปลก เขาถอดเข็มขัดออก ถ้าจะพูดให้ถูกมันคือแส้อันหนึ่ง สะบัดมัน และผ้าแพรที่ห่อมันไว้หลุดออก!
ชิงสุ่ยงุนงงเล็กน้อย
ท่อกลวงที่มีตะขอเงินแวววาวสร้างเสียงดั่งลมและสายฟ้าเมื่อแกว่งมัน มันคือแส้อัสนีกระหายเลือด – อาวุธสีเงิน นั่นปล่อยรังสีแห่งความตายอ่อนๆ และส่งกลิ่นแห่งความกระหายเลือด
“นำอาวุธของเจ้าออกมา!” ซงหลางกล่าวอย่างกล้าหาญ
เขารู้ว่าต้องเสียเปรียบหากประลองกับชิงสุ่ยโดยปราศจากอาวุธ แต่เขาไม่คาดว่าต้องใช้มันหลังจากประลองด้วยเมื่อเปล่า ที่สำคัญที่สุดการครอบครองความแข็งแกร่งที่ยิ่งใหญ่นั่น
ชิงสุ่ยไม่ได้วางแผนที่จะเปิดเผยตนเองก่อนเวลาอันควร เขาต้องการแค่ฝึกอย่างเงียบๆ และกลับมาแก้ไขข้อข้องใจกับตระกูลเยียน และทำตามความปรารถนาอาจารย์ของเขา
อย่างไรก็ตามตอนนี้เขาถูกบังคับให้เข้าสู่สถานการณ์เช่นนี้ มันไม่ควรจะประนีประนอมต่อไป ยิ่งกว่านั้น ผู้คนที่นี่รู้ว่าซงหลางมาเพื่อแย่งชิงหญิงสาวของเขา
“เจ้าแน่ในว่าต้องการประลองจริงๆ?” ชิงสุ่ยจ้องมองซงหลางอย่างตั้งใจ
ซงหลางมองไปยังชิงสุ่ยและมีความรู้สึกไม่สบายใจเล็กน้อยที่หน้าอกของเขาโดยไม่รู้ตัว เขารู้ว่าทั้งคู่จะต่อสู้จนความตายถ้าเขาตอบตกลงในเรื่องนี้ แต่ตอนนี้ เขาเริ่มลังเลใจ
แม้กระนั้น เขาขยับท่วงท่าที่สำคัญอีกครั้ง และคิดว่าชิงสุ่ยไม่ทราบเกี่ยวกับเรื่องนี้มาก่อนเพราะเพราะเขาพึ่งปรากฏตัวที่นี่ไม่นาน
“ข้ามั่นใจ!”
คำสามคำได้เอ่ยจากปากเขา!
“ฮ่าฮ่า นี่เป็นมหรสพชั้นยอด การประลองอันยิ่งใหญ่กำลังเริ่มขึ้น” ใครบางคนตะโกนออกมาหลังซงหลางตอบตกลง
“ประลองกับคฤหาสน์ดวงดาว ดวลเดี่ยวสู่ความตาย ชิงสุ่ย เราเป็นกำลังใจให้!”
“นั่นคือคนจองหองผู้โง่งม เข้ามายังคฤหาสน์ดาราจันทรา และกระทำการ กดขี่พวกเราคฤหาสน์ดาราจันทรา ชิงสุ่ย ทุบตีมันซะ จนกว่าแม่ของมันจะจำหน้าไม่ได้”
、、、、、、、、、、、、、、、、、
ผู้คนโดยรอบกระจายออกไปโดยอัตโนมัติเมื่อจำนวนคนมาเพิ่มมากขึ้น หลังจากฝ่ายตรงข้ามมาจากคฤหาสน์ดวงดาว และสิ่งสำคัญที่สุดคือการประลองระหว่างคฤหาสน์ดาราจันทราและคฤหาสน์ดวงดาว
นอกจากนี้หลายคนในกลุ่มมาจากคฤหาสน์ดาราจันทรา
“พี่ใหญ่ซ่ง ท่านต้องทำได้ ฆ่ามันซะ ทำให้พวกมันไม่สามารถจะเป็นชายได้” ชายหนุ่มในชุดคฤหาสน์ดวงดาวตะโกนออกมา
“มารดามันเถอะ พี่น้องมาเถอะ กล้าดียังไงมาทุบตีคนของเราในคฤหาสน์ดาราจันทรา แย่งหญิงสาวของเราและกดขี่เรา…:”
“ทุบตีมัน…”
รอบๆพวกเขาเกิดความยุ่งเหยิงแต่มันเต็มไปด้วยเสียงโห่ร้อง ชิงสุ่ยดึงกระบี่ดารายุพฆาตของเขาช้าๆ เขารู้สึกว่ากระบี่ดารายุพฆาต ที่ไม่ไเสริมด้วยคุณสมบัติใดๆ จะสามารถต่อกรกับแส้อัสนีกระหายเลือดได้
บางทีอาจเป็นเพราะชิงสุ่ยดึงอาวุธออกมาฝูงชนจึงเงียบทั้งหมด
ชิงสุ่ยคิดว่าจะเป็นละอายต่อซงหลางหากเขาใช้แส้ ชายที่โตขึ้นหากใช้อาวุธนี้ดูน่าเกลียด แต่มองไปยังสายยาว 3 เมตร ชิงสุ่ยรู้ว่ามันเป็นการเสริมพลังฝ่ามือสังหารเทวอัสนี
สายฟ้าคู่เป็นความสามารถอันมหัศจรรย์!
ซงหลางเดินไปข้างหน้าและสบัดแส้ของเขา ดุจดังอสรพิษที่เคลื่อนที่อย่างรวดเร็วและเสียงดังสายฟ้า ตรงเข้าไปยังหน้าอก
อากาศที่หนักแน่นดังขุนเขาพุ่งเข้าสู่ชิงสุ่ย ไร้ทางเลือกเมื่อต้องจัดการกับอาวุธที่มีหนามชนิดนี้
มันยากที่จะรู้ว่าจะป้องกันได้หรือไม่ กระที่แทงเข้าไปยังส่วนหนึ่งของแส้
เช้ง!
ความคม เสียงเสียดสีชัดดังขึ้นราวกับฟ้าร้องและพลังอันลึกลับตื่นขึ้นจากอาวุธ ชิงสุ่ยตื่นตระหนก และรีบดึงดาบของเขากลับมา
ไม่ได้หยุดเพียงเท่านั้นซงหลางยกแขนขึ้น แส้ถูกฟาดอีกครั้ง ครั้งนี้ด้วยพลังที่มากขึ้น มันดุจดังมังกรที่แหวกว่ายในทะเล พุ่งสู่คอของชิงสุ่ย
ชิงสุ่ยไม่คาดคิดว่าฝ่ายตรงข้ามของเขาจะมีความเชี่ยวชาญในการใช้แส้ขนาดนี้ เขาเปลี่ยนเคล็ดวิชาดาบ อากาศที่ไหลผ่านร่างของเขาก็กลายเป็นเสียงคำรามของพยัคฆ์ที่ได้ยินได้ชัดท่ามกลางกระหึ่มดังฟ้าร้องของศัตรู
สวรค์และปฐพีโดยรอบราวกับดับสูญไป ชิงสุ่ยยังคงยืนอยู่ ดุจพยัคฆ์ใหญ่ที่ปกป้องขุนเขา และมีขุนเขาอันใหญ่ยักษ์ใต้เท้าของเขา.
สงบนิ่งดังภูผา!
คลื่นพลังอันแข็งแกร่งพุ่งเข้าหาซงหลาง และชิงสุ่ย พร้อมกันด้วย เคล็ดวิชากระบี่ที่สำคัญของเพลงกระบี่เทวโลก ที่เขาเรียนรู้ไม่นานนี้
“ผ่าขุนเขาเพียงดาบเดียว!”
ดาบที่ขยับสร้างวงแสง และตรงไปป้องกันแส้ที่ดุจดังมังกรนั่น !
การปะทะกันสร้างเสียงที่ดังอย่างมาก ชิงสุ่ยตกใจในผลของอันน่าระทึกของสงบนิ่งดังภูผา เมื่อซงหลางโดนผลักถอยไป3ก้าว และแทบจะไม่สามารถหยุดยั้งได้
สาวกแห่งคฤหาสน์ดวงดาวและคฤหาสน์ดาราจันทราที่ยืนอยู่รอบๆก็โดนผลักออก3เมตร! ทุกๆคนได้เฝ้ามองการเปลี่ยนแปลงในการประลองอย่างตั้งใจ ซงหลางโดยผลักโดยชิงสุ่ย และพื้นด้านล่างเปรียบดังหม้อใบหนึ่ง
“ชิงสุ่ยแข็งแกร่งยิ่งนัก ฮ่า ฮ่า ตอนนี้พวกคฤหาสน์ดวงดาวมีแต่ชายไร้ความสามารถ” ใครบางคนพูดออกมาหลังจากซงหลางโดนผลักให้ถอยหลังไป
“ใช่ ใครกันนะที่เคยกล่าวหาผู้อื่นว่าไร้ความสามารถ ดูตอนนี้สิ”
“พี่ใหญ่ซง จัดการมันซะ ท่านจะแพ้ไม่ได้!” ผู้คนจากคฤหาสน์ดวงดาวเริ่มกระวนกระวาย
、、、、、、、、、、、、、、、、、
ชิงสุ่ยรู้สึกถึงอารมณ์นั่น มันเหมือนกับชีวิตในมหาลัยในโลกก่อนหน้าของเขา หลายครั้งที่ชิงสุ่ยตอบคนที่ถามเกี่ยวกับบ้านเกิดของเขา ว่าเขามาจากหมู่บ้านแห่งหนึ่ง เขาสังเกตเห็นสีหน้าดูถูกบนใบหน้าของอีกฝ่าย
ชิงสุ่ยจะเริ่มโกรธ หมู่บ้านนั่นผิดปกติอะไร ใครที่เป็นคนดูถูกหมู่บ้านและหนุ่มบ้านนอก…มันเป็นเรื่องยากสำหรับคนบ้านนอกที่จะหาคนรักในเมืองใหญ่ และหากตอนนี้คฤหาสน์ดวงดาวพ่ายแพ้ พวกเขาย่อมรู้สุกเช่นเดียวกัน มันจะเป็นการยากในการจีบหญิงสาวผู้ใด
ใบหน้าของซงหลางเต็มไปด้วยหลยาดเหงื่อแต่สายตาของเขายังคงมุ่งมั่น ตอนนี้เขารู้สึกเสียใจเล็กน้อย เพราะจะหากพบกับอารมณ์เกรี้ยวกราดของผู้คนหากพ่ายแพ้ และรังสีแห่งการฆ่าได้ปรากฏในดวงตาของเขา
ชิงสุ่ยสังเกตเห็นรังษีแห่งการฆ่าในดวงตานั่นและปมแน่นของอะไรบางอย่างที่ปรากฏบนหน้าอกของซงหลาง เขาต้องใช้เคล็ดวิชาสำคัญแน่และเคล็ดวิชานั่นต้องโหดร้ายอย่างแน่นอน
ชิงสุ่ยเพ่งไปยังพลังทั้งหมดของเขาและแผ่สัญชาตญาณของเขาออกไป!
พลังของซงหลางพุ่งมาอย่างรวดเร็ว แส้อัสนีกระหายเลือดในมือเขาเปลี่ยนเป็นสีแดงเลือดพร้อมกับที่เขาพุ่งเข้ามา
“ตายซะ!”
ด้วยน้ำเสียงทีี่ต่ำและราบเรียบ แส้อัสนีกระหายเลือดที่หนาขึ้นจนมีขนาดเท่ากับแขนทารกพุ่งเข้าจู่โจมชิงสุ่ย แส้สีเลือดนั่นดุจดังมังกรขด ราวกับว่ามันได้ลอกคราบเดิมออกไป
คิ้วของชิงสุ่ยขมวดเข้าหากัน และจับกระบี่ดารายุพฆาตอย่างแน่นขึ้น!
โคจรปราณกระทิงคลั่งจนถึงขั้นสูงสุด เขาพุ่งไปข้างหน้าพร้อมเสียงกู่ร้อง!
กระบี่คลื่นสามสะท้าน!
กระบี่ดารายุพฆาตของชิงสุ่ยปะทะเข้ากับหัวของมังกรนั่น!
ได้ยินเสียงระเบิดติดต่อกัน 2 ครั้ง และแส้อัสนีกระหายเลือดของซงหลางได้กลับสู่รูปแบบเดิมด้วยความห่อเหี่ยว เมื่อกระบี่ดารายุพฆาตของชิงสุ่ยยังคงพุ่งเข้าหาซงหลาง
ทันทีที่กระบี่ดารายุพฆาตสัมผัสตัวซงหลาง ชองสุ่ยเห็นรอยยิ้มอันโหดเหี้ยมปรากฏบนใบหน้าของซงหลาง และมีความเย่อหยิ่งในรอยยิ้มนั่น!
“จงภูมิใจเถอะ?”
ชิงสุ่ยรู้สึกถึงความผิดปกติ แต่ตอนนั้นเองแส้ของซงหลางก็กลายเป็นสีเลือดอีกครั้งและโจมตีด้วยความรุนแรงที่มากขึ้น กระบี่ของชิงสุ่ยแทงไปยังประกายแสงที่เป็นวงนั่น แต่มันไม่สามารถแทงทะลุไปได้
“บ้าเอ้ย เหตุใดข้าถึงลืมเคล็ดคุ้มครองศักดิ์สิทธิ์”
ชิงสุ่ยก้าวถอยหลังอย่างรวดเร็ว แต่ยังคงช้าเกินไป! แส้ที่ดุงดังอสรพิษนั่นฟาดลงมายังศีรษะของชิงสุ่ย!
ในช่วงเวลาสำคัญนี้ ชิงสุ่ยสงบสติทันที และล้มตัวลงค้ำด้วยหลังมือเพียงข้างเดียว
นี่คือท่าป้องกันที่ดีที่สุดในเพลงหมัดไทเก๊ก ผนึกสวรรค์!
เพลงหมัดไทเก๊กอยู่ในความแข็งแกร่งขั้นดินแดนไร้ขอบเขต ด้วยผลของเคล็ดเสริมกายาบรรพกาลและปราณกระทิงคลั่ง ได้สร้างรัศมีทองคำรอบๆตัวชิงสุ่ย ตามด้วยการปรากฏตัวของกระทิงคลั่งอันยิ่งใหญ่
มอออออ!
“ย่าห์“
ตอนนั้นเอง แส้ก็ฟาดลงมายังรัศมีและภาพลวงตาของกระทิงคลั่ง!
หัวใจของชิงสุ่ยเป็นหนึ่งเดียวกับการเคลื่อนที่ของไท่เก๊กอย่างถ่องแท้ ผนึกสวรรค์ มันรู้สึกมหัศจรรย์มาก ตอนนั้นเอง ชิงสุ่ยรู้สึกราวกับว่าร่างกายของเขา วิญญาณของเขา ได้รับการชำระล้างบางส่วน
แม้ว่าความแข็งแกร่งจะไม่เพิ่มขึ้นแต่พลังก็ได้รวมตัวกัน นั่นเป็นความรู้สึกราวกับว่า ได้ก้าวสู่ดินแดนหนึ่ง ราวกับว่าคนๆหนึ่งหันไปมองนางแบบที่เดินอยู่บนถนน มันเป็นความรู้สึกที่ได้ขีดเขียนอย่างอิสระโดยไม่ลังเล
ได้โปรดเกิดขึ้นอีกครั้ง! เส้นทางแห่งธรรมชาติ!
ชิงสุ่ยเบิกตาขึ้น และรู้สึกราวกับว่าได้ย้อนกลับไปร้อยปีก่อนทันที แต่อารมณ์ของเขาเปลี่ยนไป และสงบนิ่งดังภูผาของเขา ลื่นไหลนิ่งกว่าเดิม
สภาวะจิตใจสงบนิ่ง!
นี่คือคุณสมบัติของสภาวะจิตใจสงบนิ่ง นอกจากนี้ยังเป็นส่วนที่ยากที่สุดในพัฒนาการต่อสู้
ซงหลางตื่นตระหนก เคล็ดคุ้มครองศักดิ์สิทธิ์ปรากฏขึ้น เคล็ดวิชาที่สำคัญของเขาไร้ผลใดๆ เขามั่นใจว่าชิงสุ่ยไม่ได้ใช้คล็ดคุ้มครองศักดิ์สิทธิ์ แต่เขาป้องกันสำเร็จด้วยเคล็ดป้องกันอื่น
และภาพลวงตากระทิงที่สูงส่งนั่น!
ชิงสุ่ยไม่เคยคิดเลยว่าเพลงหมัดไทเก๊กจะมีความแข็งแกร่งเช่นนี้ โดยเฉพาะเมื่อรวมกับ ปราณกระทิงคลั่งของเขา ก่อนหน้านี้มีเพียงความแข็งแกร่งของเขาที่เพิ่มขึ้น30%และแสดงออกไป แต่ตอนนี้เขาสามารถเห็นภาพลวงตาของกระทิงคลั่ง