เทพอสูรบรรพกาล -Ancient Strengthening Technique - AST บทที่ 305 - การตื่นขึ้นของพรสวรรค์ ราชันย์วิหกเพลิง
- หน้าแรก
- เทพอสูรบรรพกาล -Ancient Strengthening Technique
- AST บทที่ 305 - การตื่นขึ้นของพรสวรรค์ ราชันย์วิหกเพลิง
ฝากติดตามเพจด้วยนะครับ แฟนเพจ แจ้งเตือนก่อนใคร กดเลย
https://www.facebook.com/AncientStrengtheningTechnique
บทที่ 305 – การตื่นขึ้นของพรสวรรค์ ราชันย์วิหกเพลิง
ชิงสุ่ยมองไปยังวิหคเพลิงที่บินอย่างเริงร่า เขายังคงรอทั้งวัน เพื่อโอกาสเพียง1%ของการตื่นขึ้น มันเป็นพรสวรรค์ตามธรรมชาติที่จะเกิดขึ้น
ตอนนั้นเอง ประกายแสงสีแดงปรากฏบนตัววิหคเพลิง มันร้องเสียงแหลมสูงแต่กังวาลและเริงร่า ชิงสุ่ยที่สัมผัสได้ถึงความรู้สึกนั่น เขารู้สึกได้ว่าวิหคเพลิงกำลังแข็งแกร่งขึ้น หากมันแข็งแกร่งขึ้นเพียง10%จากพลังทั้งหมด นั่นไม่ใช่เรื่องเล็กที่ควรมองข้ามเลย
ชิงสุ่ยรอจนวิหคเพลิงกลับไปยังที่ของมัน แต่ยังไงการตื่นขึ้นอย่างมหัศจรรย์ที่เขารอยังไม่ได้เกิดขึ้น แม้ชิงสุ่ยจะคาดการณ์ไว้แล้ว เขายังรู้สึกผิดหวังเล็กน้อย นอกจากนั้นเขายังคาดหวังว่ามันจะต้องเกิดขึ้นแน่ๆ
เมื่อมีการคาดหวังย่อมมีความผิดหวัง คาดหวังสูงย่อมผิดหวังสูงตาม!
1%ของการตื่นขึ้นเป็นโอกาสที่ต่ำเกินไป แม้ว่าโอกาสเพียง1ใน100 เขาก็ยังคาดหวังกับ1%นั่น ถ้าชิงสุ่ยโชคดี เขาจะได้เห็นมัน แต่หากอับโชค เขาจะไม่ได้เห็นมันแม้เฝ้ามองเป็นพันครั้ง
ชิงสุ่ยหยิบเอายาเสริมอสูรสำหรับวิหคเพลิงออกมา เมื่อมันเห็นเม็ดยานั่น วิหคเพลิงร้องออกมาอย่างตื่นเต้น เหมือนว่าวิหคเพลิงจดจำผลประโยชน์อันหอมหวานของยาเสริมอสูรได้
ชิงสุ่ยโยนยาเสริมอสูรเม็ดที่2เข้าสู่ปากของวิหคเพลิง มันกลืนแทบจะทันที ประกายแสงสีแดงปรากฏขึ้นอีกครั้ง ในตอนนี้ ชิงสุ่ยสามารถรู้สึกถึงพลังของวิหคเพลิงที่เพิ่มขึ้นเกิน10% แต่พรสวรรค์ตามธรรมชาติก็ยังไม่ปรากฏ เขารู้ว่านั่นเป็นเพราะการตื่นขึ้นของพรสวรรค์ตามธรรมชาติไม่ได้เพียงแค่เพิ่มพลังเพียง10%เท่านั้นแต่จะเพิ่มพลังทั้งหมด วิหคเพลิงยังคงบินวนรอบๆอย่างร่าเริง… ชิงสุ่ยยังคงคาดหวังไว้สูงว่าวิหคเพลิงจะต้องตื่นขึ้น มันจะ เหลือเชื่อถ้าหากพลังของวิหคเพลิงพัฒนาไปจนเกินจินตนาการ มันจะใกล้จะกลายเป็นราชันย์วิหคเพลิง หลังจากพรสวรรค์ตามธรรมชาติของมันตื่นขึ้น วิหคเพลิงของเขาต้องแข็งแกร่งขึ้นอย่างมาก
ยาเม็ดที่3ยังคงให้ผลเช่นเดิม ชิงสุ่ยรู้ว่าพลังและความรุ่งโรจน์ ของวิหคเพลิงได้เพิ่มขึ้นอีกระดับ หลังจากนั้นความแข็งแกร่งของวิหคเพลิงเพิ่มขึ้นถึง30%
เม็ดที่4…
ชิงสุ่ยอยากจะหยุดเพียงเท่านี้ ในที่สุด เขาเริ่มคาดหวังเพียงเล็กน้อยในโอกาสตื่นขึ้น1%นั่น มากกว่านั้น สิ่งที่เขาคิดเรื่องของการตื่นขึ้นของพรสวรรค์ตามธรรมชาติทำให้เขาสับสนเล็กน้อย เขาคิดว่านั่นแข็งแกร่งกว่าอสูรทั่วไป โอกาสของการตื่นขึ้นมีเพียงเล็กน้อย มันเป็นพรสวรรค์ตามธรรมชาติ
บางทีการตื่นขึ้นของพรสวรรค์ตามธรรมชาติอาจต้องการโลหิตแห่งปลุกพลัง มันคงจะยอดเยี่ยมหากวิหคเพลิงของเขาได้รับการปลุกพรสวรรค์ตามธรรมชาติโดยโลหิตแห่งปลุกพลัง การตื่นขึ้นจะทำให้วิหคเพลิงได้รับเคล็ดวิชาของราชันย์วิหคเพลิง
นี่เป็นครั้งที่4ที่ชิงสุ่ยมอบเม็ดยาให้แก่วิหคเพลิง แต่มันก็ยังคงไม่ตื่นขึ้น เขาลังเลอยู่พักหนึ่งก่อนจะให้ ยาเม็ดที่5แก่วิหคเพลิง และมองดูการเปลี่ยนแปลงอย่างใกล้ชิด นี่จะเป็น“ครั้งสุดท้าย”ที่เขาจะมอบยาเสริมอสูรแก่วิหคเพลิง
สุดท้าย ชิงสุ่ยก็ผิดหวัง สิ่งเดียวที่เกิดขึ้นหลังจากยาเสริมอสูรเม็ดที่5คือ พลังของวิหคเพลิงที่เพิ่มขึ้น50%. เขารู้สึกผิดหวังแต่วิหคเพลิงกลับเริงร่าและไร้กังวล
ชิงสุ่ยรู้ว่าโอกาสจะเพิ่มขึ้นหากมีโลหิตแห่งปลุกพลัง แต่เขายังหวังว่าวิหคเพลิงจะตื่นขึ้นด้วยตนเองตามธรรมชาติ
วิหคเพลิงกลืนยาเสริมอสูรเม็ดที่5 ชิงสุ่ยมองไปยังยาเสริมอสูรนับร้อยเม็ดในมือของเขา และคิดหนักเกี่ยวกับเรื่องนี้ สุดท้ายแล้วเขาก็มอบยาเสริมอสูรเม็ดที่เหลือแก่วิหคเพลิง
วิหคเพลิงไม่ลังเลและยินดีอย่างมากที่ได้รับยานั่นในทันที ชิงสุ่ยเห็นประกายแสงสีแดงบนตัววิหคเพลิง เขายินดีที่วิหคเพลิงแข็งแกร่งขึ้นมากหว่าครึ่งหนึ่งของความแข็งแกร่งเดิม แต่พรสวรรค์ตามธรรมชาติก็ยังหลับใหล
หลังจากได้รับเม็ดยาเกิน5เม็ด ความแข็งแกร่งได้รับก็ค่อยๆลดน้อยลงไป จนถึงขั้นที่ไม่เกิดผลอะไรขึ้น สงสัยว่า ผลของการตื่นขึ้นตามธรรมชาติจะยังออกมาหรือไม่?
เมื่อถึงยาเม็ดที่7 ประกายสีแดงก็ปรากฏอีกครั้ง แต่ความแข็งแกร่งเพิ่มขึ้นเพียงเล็กน้อย ในเวลานี้ ชิงสุ่ยตัดสินใจว่าจะให้ยานี้แก่วิหคเพลิงต่อไป
“ลืมซะเถอะ ยานี่ไร้ประโยชน์เสียแล้ว ข้าไม่สนว่ามันจะเกิดผลอะไรหรือไม่เกิดขึ้น ไม่มีอะไรให้สูญเสียแล้ว”
ชิงสุ่ยพูดกับตนเองก่อนป้อนยาเม็ดที่8!
เม็ดที่9!
…
เม็ดที่32!
ตอนนั้นเอง วิหคเพลิงมีเม็ดกว่า30เม็ดหรือมากกว่าในท้องของมัน ประกายแสงสีแดงจางๆเป็นสิ่งเดียวที่ต่อความหวังแก่ชิงสุ่ย
วิหคเพลิงชื่นชอบในการกินยาเสริมอสูรแม้ว่าความแข็งแกร่งจะไม่ได้เพิ่มขึ้น หรือไม่ว่ามันจะไม่อยากกินยาแล้ว ยาเสริมอสูรต้องอร่อยมากแน่นอน ชิงสุ่ยคิด หรือไม่ก็ประกายสีแดงที่เกิดขึ้นทำให้มันรู้สึกสบายตัว
ชิงสุ่ยโยนยาเสริมอสูรลอยเข้าสู่ปากวิหคเพลิง ประกายแสงสีแดงส่องประจายก่อนจะหายไป เขาป้อนมันอีกครั้ง โดยไม่หวังจะเห็นการตื่นขึ้นของพรสวรรค์ตามธรรมชาติ
เม็ดที่67!
เม็ดที่68!
…
ชิงสุ่ยตาแดงขึ้น เขาขยับมืออย่างอย่างอัตโนมัติเพื่อป้อนยา เขารอดูประกายสีแดงที่จะเกิดแต่มันกลับไม่มีอะไรเกิดขึ้น
นั่นทำให้ชิงสุ่ยสิ้นหวัง
“นี่มันเรื่องบ้าอะไรกัน ไม่มีประกายสีแดงแล้ว” ชิงสุ่ยนับเม็ดยาเสริมอสูรประมาณ20เม็ดในมือเขา
ตอนนี้ชิงสุ่ยลังเลว่าจะให้ยาเสริมอสูรแก่วิหคเพลิงต่อไปหรือไม่ เขารู้สึกว่ามันเริ่มกระสับกระส่าย ทันใดนั้น วิหคเพลิงบินไปยังต้นอู้ทงใหญ่ใกล้ๆ
ชิงสุ่ยวิ่งตามวิหคเพลิงด้วยความลังเล เขามองไปยังกิ่งที่มันเกาะ วิหคเพลิงกู่ร้องเสียงดัง ด้วยเสียงที่ดังขึ้นเรื่อยๆ.
ชิงสุ่ยกังวลว่ายานั่นอาจส่งผลต่อวิหคเพลิงเพราะมันกินมากเกินไป หากเกิดเรื่องที่เลวร้ายแก่มันล่ะ? นั่นเป็นความรับผิดชอบที่สำคัญของเขา
ชิงสุ่ยมองด้วยความรู้สึกผิดขณะที่วิหคเพลิงยังคงกู่ร้องไม่หยุด เขารู้สึกว่าตนช่วยอะไรไม่ได้กับผลที่เกิดขึ้น
ขณะนั้นเอง ชิงสุ่ยรู้สึกถึงพลังที่ปล่อยออกมาจากตัวของวิหคเพลิง ทันใดนั้นร่างกายของวิหคเพลิงก็ปล่อยพลังออกมาand และขณะเดียวกันก็เกิดประกายแสงจ้า
ทั้งหมด3เฉดสี แดง ส้ม เหลือง!
สีแดงดุจดังลูกไฟ ส้มและเหลืองนั้นกระจ่างดุจแสงบริสุทธิ์!
เวลานั้น ชิงสุ่ยตาบอดชั่วขณะด้วยความสว่างของแสงที่เกิด มันรวดเร็วมาก แต่ชิงสุ่ยรู้ทันทีว่าวิหคเพลิง ตื่นขึ้นสำเร็จตั้งแต่มันปล่อยแสงครั้งแรก
พรสวรรค์ตามธรรมชาติของมันได้ตื่นขึ้นแล้ว!
ชิงสุ่ยรู้สึกราวกับฝันไป ทุกๆอย่างที่เกิดขึ้นเหมือนกับไม่ใช่ความจริง แต่เขารู้นี่ไม่ใช่ความฝันและมันคือความจริงพรสวรรค์ตามธรรมชาติของมันได้ตื่นขึ้นแล้วหลังจากกินเม็ดยาไปถึง80เม็ด
วิหคเพลิงถูกห่อหุ้มไปด้วยแสงอันงดงามทั้ง3 ชิงสุ่ยตะลึงและสมหวังในใจ เขากลัวว่าหากเพียงกระพริบตา เขาจะพลาดการมองแสงอันสวยงามนั่น
เมื่อแสงสว่างวาบขึ้น ชิงสุ่ยมองวิหคเพลิงอย่างระมัดระวัง นั่งลงบนกิ่งต้นอู้ทง เขาสังเกตเห็นว่าวิหคเพลิงมีขนสีแดงที่ลุกเป็นไฟ แต่ความสวยงามและท่าทางสงบเยือกเย็นได้เปลี่ยนไป
ชิงสุ่ยรู้สึกว่ามันแข็งแกร่งขึ้นมากแบบกะทันหัน วิหคเพลิงกลายเป็นสัตว์อสูรในชั้นอาณาจักรพลังปราณเทวะกษัตริย์ แก่นสัตว์อสูรในร่างกายของมันเติบโตขึ้นหลายระดับ ไม่ได้ด้อยไปกว่าราชันย์เวหาเหยี่ยวทมิฬ
ใครจะรู้ว่าแม้แต่หัวหน้าแห่งนิกายเทพกระบี่เมื่อเผชิญหน้ากลับวิหคเลิงยังต้องหลีกหนี หากตัดสินใจที่จะสู้ วิหคเพลิงจะไม่ใช่สัตว์อสูรในชั้นอาณาจักรพลังปราณเทวะกษัตริย์ทั่วไป หากมันไม่ได้ใช้ลูกไฟเพลิงอินทนิล
ชิงสุ่ยเริ่มคิดว่าวิหคเพลิงสามารถใช้กงเล็บ จะงอยปาก และปีก ในการกำจัดคู่ต่อสู้ที่อยู่สามขั้นพื้นฐานของชั้นอาณาจักรพลังปราณเทวะกษัตริย์อย่างง่ายดาย นี่คือสิ่งที่เปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่บนตัวของวิหคเพลิง ยังไม่รวมไปถึงความเร็วและพละกำลัง
ยา5เม็ดแรกทำให้ความแข็งแกร่งของวิหคเพลิงเพิ่มมากขึ้น แต่การตื่นขึ้นของพรสวรรค์ตามธรรมชาติทำให้วิหคเพลิงเหมือนได้เกิดใหม่ด้วยพลังที่ไม่เหมือนเดิม
ทันใดนั้น ชิงสุ่ยก็เห็น “มงกุฏ” ปรากฏอยู่บนศีรษะของวิหคเพลิง มันดูเล็กเพราะเขายืนอยู่ห่างจากวิหคเพลิง แต่เขามั่นใจว่ามันคือ “มงกุฏ” แน่ๆหลังจากมองอย่างถี่ถ้วน
ชิงสุ่ยคุ้นเคยกับ “มงกุฏ” เพราะ ราชันย์เวหาเหยี่ยวทมิฬ ก็เป็นสัตว์อสูรที่มี “มงกุฏ” บนศีรษะของมัน “มงกุฏ” นั่นไม่สำคัญว่าเล็กแค่ไหน เพียงสัตว์อสูรที่แข็งแกร่งและสายเลือดชั้นสูงเท่านั้นที่จะได้ครอบครองมงกุฎ
เหมือนกับพยัคฆ์ก่อนหน้า มันมีคำนำหน้าว่า “ราชา” – ราชาแห่งสัตว์อสูร แต่วิหคเพลิงคือจักรพรรดิแห่งหมู่มวลวิหค!
ชิงสุ่ยเรียกวิหคเพลิง และเห็นได้ว่าทั้งคู่มีปฏิสัมพันธ์ที่ดีขึ้น มันเป็นความรู้สึกแปลก ๆ หากวิหคเพลิงกลายเป็นส่วนหนึ่งของเขา
ชิงสุ่ยมองวิหคเพลิงที่ถลาลงจากกิ่งไม้และกู่ร้องไปบนท้องฟ้า เขารู้ทันทีว่ามีบางอย่างเปลี่ยนไปเกี่ยวกับความเร็วของมัน ตอนนั้นเอง ชิงสุ่ยเชื่อว่าวิหคเพลิงหรือสัตว์อสูรอื่นที่ได้รับสายเลือดราชันย์วิหคเพลิงจะได้รับประโยชน์มหาศาลเมื่อพวกมันได้ปลุกพรสวรรค์ตามธรรมชาติของพวกมัน
เมื่อเขามองไปยัง “มงกุฏ” ใกล้ๆ ชิงสุ่ยตะลึงไปเลยเพราะนั่นคือมงกุฏของ “ราชันย์วิหคเพลิง”
พรสวรรค์ตามะรรมชาติของมันตื่นขึ้นแล้ว สายเลือดราชันย์วิหคเพลิงตื่นขึ้นแล้ว!
แม้ว่ามันจะดูเล็ก ๆ บนศีรษะนกขนาดใหญ่ และมรขนาดพอๆกับมงกุฏของมนุษย์ มงกุฏยังคงเปร่งประกาย ยิ่งกว่านั้น มงกุฏนั่นดูยิ่งให3ญ่และน่าดึงดูดใจอย่างมาก ดูเหมือนวิหคเพลิงได้พัฒนาไปสู่ขั้นวิหคในตำนาน
ราวกับวิหคธรรมดาที่ได้กลายเป็นราชันย์วิหคเพลิง!
“นี่เป็นเรื่องที่หาได้ยากยิ่ง ราชันย์วิหคเพลิง!” ชิงสุ่ยอ้าปากค้างด้วยความประหลาดใจ เขาดีใจอย่างมากเมื่อเห็นมงกุฏนั่น แต่เขาไม่รู้ว่ามันคือมงกุฎแห่งราชันย์วิหคเพลิง
แม้จะผิดหวังไปบ้างที่ “มงกุฏ” เล็กกว่าที่ชิงสุ่ยหวังไว้ แต่เขาก็ดีใจที่มันได้ครอบครองมงกุฏ แม้ว่าเขาไม่เคยเห็น มงกุฏของราชันย์เวหาเหยี่ยวทมิฬ แต่เขารู้สึกได้ว่ามงกุฎของพวกมันย่อมแตกต่างกันแน่นอน
วิหคบางส่วนเท่านั้นที่จะครอบครอง“มงกุฏ”ยิ่งกว่านั้น มงกุฏแห่งมหาราชันย์และมงกุฏแห่งราชันย์วิหคเพลิง ก็ได้รับการยกย่องว่าเป็นมงกุฏอันยิ่งใหญ่ ดังนั้น “มงกุฏ” ที่ต่างชนิดกันย่อมแสดงถึงแสนยานุภาพที่ต่างกัน ขนาดของ“มงกุฏ” ยังได้รับผลจากพลังและระดับขั้น
แม้แต่ชายแก่ที่ตาบอดยังรู้ว่ามุงกุฏของราชันย์เวหาเหยี่ยวทมิฬคือมงกุฏแห่งมหาราชันย์ “มงกุฏ” ของมันมีขนาดยักษ์ อย่างน้อยที่สุดก็10เท่าของมงกุฏแห่งราชันย์วิหคเพลิง แต่ยังไงระดับของมงกุฏทั้งสองจะต่างกันอย่างยิ่งใหญ่ ทั้งสองไม่สามารถเปรียบเทียบได้
เมื่อชิงสุ่ยยื่ยมืออกไปและสัมผัสวิหคเพลิง เขารู้สึกถึงความสามารถอันยิ่งใหญ่ของมัน โดยเฉพาะความเร็วต้องเหนือกว่าราชันย์เวหาเหยี่ยวทมิฬอย่างแน่นอนจุดเด่นของวิหคเพลิงคือความเร็วซึ่งได้เพิ่มขึ้นหลายเท่า
ยา5เม็ดแรกทำให้ความแข็งแกร่งของวิหคเพลิงเพิ่มมากขึ้นครึ่งหนึ่ง นั่นส่งผลต่อการเพิ่มขึ้นของพลัง พลังชีวิต ความเร็ว และร่างกายของวิหคเพลิง เมื่อพรสวรรค์ตามธรรมชาติได้ตื่นขึ้น ความแข็งแกร่งเพิ่มขึ้นหลายเท่าตัว ก่อนหน้านี้ สองสิ่งที่เพิ่มขึ้นคือ ความเร็ว และลูกไฟเพลิงอินทนิล นั่นทำให้ศัตรูขั้นแรกเริ่มของอาณาจักรพลังปราณเทวะกษัตริย์แพ้พ่าย
วิหคเพลิงไม่เคยหนีรอดเมื่อเผชิญหน้ากับราชันย์เวหาเหยี่ยวทมิฬก่อนหน้านี้ แต่ตอนนี้ได้เปลี่ยนไปแล้ว ชิงสุ่ยโล่งใจและไม่สามารถซ่อนความรู้สึกตนเองได้
“ฮ่า ฮ่า หากถล่มตระกูลเยียนตอนนี้ย่อมสำเร็จแน่นอน” ชิงสุ่ยคิดเรื่องนี้อย่างสำราญ