เทพอสูรบรรพกาล -Ancient Strengthening Technique - AST บทที่ 304 - วิหคเพลิง ยาเม็ดเสริมอสูร
- หน้าแรก
- เทพอสูรบรรพกาล -Ancient Strengthening Technique
- AST บทที่ 304 - วิหคเพลิง ยาเม็ดเสริมอสูร
ฝากติดตามเพจด้วยนะครับ แฟนเพจ แจ้งเตือนก่อนใคร กดเลย
https://www.facebook.com/AncientStrengtheningTechnique
บทที่ 304 – วิหคเพลิง ยาเม็ดเสริมอสูร
เมื่อชิงสุ่ยได้ยินเสียงแห่งความสำเร็จจากการปรุงยา ใบหน้าของเขาก็เคยเห็นรอยยิ้มที่แสนพึงพอใจ และเขายังคงหล่อเลี้ยงพลังเปลวเพลิงบรรพกาลขนาดเล็กๆต่อไปเพื่อหล่อเลี้ยงพลังในยาเม็ด อีกประมาณ 2 ชั่วโมง
เมื่อเสร็จสิ้นกระบวนการชิงสุ่ยยังคงรอต่อไปอีก 1 ชั่วโมงก่อนที่จะเปิดฝาหม้อกลั่นยา ไอน้ำค่อยๆปะทุตัวขึ้นเหนือหม้อกลั่นยาเหล็กทองคำประกายเพลิง กลิ่นหอมต่างๆจะทำให้ผู้ที่ได้กลิ่นเป็นไปด้วยความรู้สึกสดชื่น
ยาเม็ดสีหิมะขาวทั้ง 5 เม็ดขนาดเท่าเม็ดองุ่นปรากฏอยู่ที่ก้นหม้อกลั่นยาเหล็กทองคำประกายเพลิงตั้ง 5 เม็ดเต็มไปด้วยความสวยงาม ชิงสุ่ยค่อยๆบรรจุมันลงไปในขวดกระเบื้องอย่างพึงพอใจ!!!
นับตั้งแต่ที่เขาได้ใช้เปลวเพลิงบรรพกาลพร้อมกับหม้อกลั่นยาเหล็กทองคำประกายเพลิง ชิงสุ่ยก็พบว่าเขามักจะไม่ล้มเหลวเลยตลอดการพยายามปรุงยา รวมถึงตัวเขาเองก็สามารถควบคุมระดับเปลวเพลิงได้อย่างช่ำชอง แม้ว่าอัตราความสำเร็จในตัวยาเหล่านั้นจะไม่สูงมากนัก
"ช่างมันเถอะ ลองลงมือทำตัวยาที่มีความสำเร็จต่ำทั้งสองตัวที่ได้มาจากผู้อาวุโสชาง แล้วทุกอย่างจะชัดเจนเอง"ชิงสุ่ยรู้สึกค่อนข้างมั่นใจในตัวเอง
หลังจากนั้นชิงสุ่ยก็ได้พักกินอาหารที่ได้ทำเอาไว้ และหวนกลับมาฝึกฝนพลังการโคจรปราณกระทิงคลั่งโดยอาศัยพลังปราณจากเคล็ดวิชากายาบรรพกาล เนื่องจากเขารับรู้ได้ว่ามันมีบางอย่างกำลังถูกกระตุ้นจิตวิญญาณของเขาอยู่
ชิงสุ่ยรู้สึกว่าภาพหยินหยางในทะเลแห่งปัญญาของเขานั้นกำลังแสดงผลที่ไม่น่าเชื่ออยู่ แม้มันจะไม่ชัดเจนมากนัก แต่เขาก็รับรู้ได้ถึงการเปลี่ยนแปลง ไม่ว่าจะเป็นเส้นเลือด กระดูก เส้นลมปราณ กล้ามเนื้อ จุดตันเถียน ซึ่งมันมีผลข้างๆมาก
หลังจากนั้นชิงสุ่ยก็กลับมาเข้าสู่ขั้นตอนการปรุงยาอีกครั้ง ในครั้งนี้ชิงสุ่ยตัดสินใจที่จะกลั่นยาเม็ดส่งเสริมจิตวิญญาณ โดยสมุนไพรต่างๆที่บรรจุอยู่ในกล่องนั้นก็ถูกเตรียมพร้อมจนครบถ้วนแล้ว ในตอนนี้สิ่งที่ยากที่สุดนั่นก็คือการควบคุมระดับองศาความร้อนให้เพียงพอ
ขั้นตอนการกลั้นเริ่มต้นด้วยการ หยิบสมุนไพรออกมาจากกล่องสมุนไพรต่างๆ และเริ่มวางมันลงไปในหม้อกลั่นรายการจับคู่สมุนไพรที่มีผลลัพธ์ที่เหมาะสมกัน จากนั้นเตรียมควบคุมระดับอุณหภูมิ ควบคุมการกลั่น ควบคุมการระเหิด เพื่อให้ได้คุณภาพที่สูงที่สุด และทำการก่อนอีกครั้ง ระเหิดอีกครั้ง และควบคุมอุณหภูมิอย่างต่อเนื่องเพื่อให้มันเป็นยาเม็ดที่มีความใสมากที่สุด
และการปรุงยาจะดูเหมือนเรื่องที่ง่ายๆ แต่พวกมันจำเป็นต้องใช้ความมุ่งมั่นอย่างเต็มที่ไม่ว่าจะเป็นทางร่างกายหรือทางจิตใจ เพื่อเตรียมพร้อมนึกถึงขั้นตอนไม่ว่าจะเป็นการกลั่นจนกระทั่งการระเหิด……..
แม้แต่เกิดข้อผิดพลาด น้อยที่สุด แต่บางครั้งการกันยาก็มักจะเกิดการล้มเหลว ยิ่งยาเม็ดเหล่านั้นมีคุณภาพที่สูงมากเท่าไหร่ มันยิ่งจำเป็นต้องใช้การกลั่นและการระเหิดที่มีประสิทธิภาพเทียบซ้ำแล้วซ้ำเล่า ดังนั้นอัตราความสำเร็จของมันจึงต่ำมาก ส่วนยาที่ใช้ทักษะการกลั่นและการระเหิดตัวยาเพียงแค่ครั้งเดียวอัตราความสำเร็จของพวกมันก็ย่อมสูงตาม
ชิงสุ่ยควบคุมเปลวเพลิงบรรพกาลโดยอาศัยความมุ่งมั่นจากการรับรู้ทางจิตวิญญาณ เพื่อที่จะได้รับรู้ถึงการเปลี่ยนแปลงของสมุนไพรที่บรรจุอยู่ในหม้อกลั่นยาเหล็กทองคำประกายเพลิง รับรู้ความรู้สึกในแต่ละขั้นตอน ระเหิด กลั่น ระเหิด กลั่น ………………….
ทุกๆการปรุงยามันมักจะดูดกลืนพลังวิญญาณของผู้กลั่นยาจำนวนมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับยาเม็ดที่มีคุณภาพสูง ถ้าหากผู้กลั่นยามีระดับความสามารถที่ต่ำ ร่างกายของคนผู้นั้นก็ไม่อาจทนทานการกลั่นยาคุณภาพสูงได้ นั่นเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมนักปรุงยาถึงได้เป็นผู้ฝึกตนที่แข็งแกร่งเช่นกัน
ชิงสุ่ยรู้สึกว่าที่อัตราความสำเร็จของเขานั้นสูงมันจะต้องเกี่ยวข้องกับรูปภาพหยิน-หยางที่ปรากฏอยู่ในทะเลแห่งปัญญามักจะถ่ายทอดพลังวิญญาณให้กับเขาอย่างไม่หยุดยั้ง มันทำให้เขารู้สึกว่าระดับพลังวิญญาณในร่างกายของเขานั้นถูกเติมเต็มอยู่ตลอดเวลา
ภายใต้การควบคุมของชิงสุ่ย เปลวเพลิงบรรพกาลได้เปลี่ยนแปลงสภาพไปหลายๆครั้ง ในบางครั้งระดับเปลวเพลิงนั้นก็ดูสั้นจนไม่เกินครึ่งฝ่ามืออย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน เขาพยายามควบคุมการกลั่นและการระเหิดซ้ำแล้วซ้ำเล่าเพื่อให้ประสบความสำเร็จ ชิงสุ่ยไม่กล้าที่จะลดความระมัดระวังลงเลยแม้แต่น้อย
หยาดเหงื่อจำนวนมากปรากฏขึ้นบนหน้าผากของชิงสุ่ย หยาดเหงื่อเหล่านั้นมิใช่หยาดเหงื่อที่เกิดจากความร้อน แต่มันเป็นหยาดเหงื่อที่เกิดจากความรู้สึกกังวลเนื่องจากเขาได้ก้าวเข้าสู่ขั้นตอนสุดท้าย!!!
ปังงงงงง!!!!!!
เปลวเพลิงที่อยู่ในมือของชิงสุ่ยระเบิดออก
"เห้อ ช่างน่าเสียดาย!!!"
ความล้มเหลวเกิดขึ้นในขั้นสุดท้าย ชิงสุ่ยมั่นใจว่าเขาก็ได้ทำตามวิธีที่อยู่บนกระดาษหนังทุกขั้นตอน มันควรมีอัตราความสำเร็จที่สูงขึ้น แต่มันอาจเป็นเพราะความประมาทที่เชื่อมั่นในความสำเร็จเหล่านั้น ดังนั้นเขาจึงมุ่งมั่นจะควบคุมเปลวเพลิงให้ได้ดีกว่านี้
ในครั้งนี้ชิงสุ่ยรู้สึกมั่นใจมากกว่าแต่ก่อน เขามั่นใจว่าความสำเร็จย่อมเกิดจากความพยายามอย่างต่อเนื่อง และเมื่อไหร่ที่เขาประสบความสำเร็จ อัตราความสำเร็จในการปรุงยาของเขาก็ยอมต้องสูงขึ้นเช่นกัน
หลังจากนั้นเขาก็เริ่มโคจรพลังปราณกายาบรรพกาลผสมผสานเข้ากับปรานกระทิงคลั่งและเริ่มกลั่นยาเม็ดส่งเสริมจิตวิญญาณอีกครั้ง!!!!
ความคุ้นเคยของเขาพัฒนาเพิ่มขึ้นเมื่อผ่านเข้าสู่การกลั่นยาครั้งที่ 2
ชิงสุ่ยเริ่มชินชากับการกลั่นและการระเหิดยาจนสามารถควบคุมมันอย่างคุ้นเคย ทุกๆการเคลื่อนไหวคือว่าเป็นสิ่งที่สำคัญ การแสดงออกของเขานั้นสามารถบ่งบอกได้เลยว่าเขาจะต้องประสบความสำเร็จในการกลั่นยาเม็ดส่งเสริมจิตวิญญาณ
และแล้วชิงสุ่ยก็ได้ยินเสียงที่คุ้นเคยมันเป็นเสียงที่ปรากฏขึ้นในทุกๆครั้งถ้าหากการขึ้นรูปเม็ดยาสำเร็จ เขาเต็มไปด้วยความรู้สึกประหลาดใจและมีความสุข มันเป็นดังความสุขที่คล้ายคลึงกับในครั้งอดีต ในตอนที่เขากลั่นยาเม็ดฟื้นฟูขนาดเล็กได้สำเร็จ
ยาเม็ดสีเขียวเข็มขนาดเท่าเม็ดองุ่น เปล่งประกายเรืองรอง พร้อมส่งกลิ่นหอมอ่อนๆจากก้นหม้อกลั่นยา ชิงสุ่ยรีบบรรจุมันลงในขวดกระเบื้องที่เขาได้เตรียมเอาไว้ล่วงหน้า
หลังจากหยุดพักเพียงชั่วครู่หนึ่ง ชิงสุ่ยก็เริ่มกลั่นยาเม็ดส่งเสริมจิตวิญญาณอีกครั้ง!!!
ประสบความสำเร็จ!!!
ประสบความสำเร็จ!!!
ประสบความสำเร็จ!!!
……………….
ชิงสุ่ยยิ้มให้กับอัตราความสำเร็จของการกลั่นยาอย่างไม่ต้องสงสัย แต่ใครจะคาดคิดกันว่าการกลั่นยาเม็ดส่งเสริมจิตวิญญาณแต่ละครั้งนั้นจะได้มาซึ่งยาเม็ดถึง 10 เม็ด ทุกๆ 1 เม็ดจะขยายขอบเขตเวลาได้ถึง 15 วัน แต่ถ้าหากเขาต้องการเวลา 5000 ปีละ…….
ปริมาณสมุนไพรที่ชางหวู่ย่ามอบให้เขานั้นมีมากพอที่ทำให้กลั้นยาเม็ดนี้ 100 ครั้ง ซึ่งหมายความว่าถ้าหากเขาประสบความสำเร็จในทุกๆครั้ง เขาจะมีมันมากถึง 1000 เม็ด แม้ว่าเขาจะล้มเหลวไปบ้าง แต่ส่วนที่เหลือของยาเม็ดส่งเสริมจิตวิญญาณก็ยังมีมากเพียงพอให้เขาใช้มันเป็นเวลากว่า 2 เดือน
"แค่นี้ก็เพียงพอแล้ว นอกเหนือจากสมุนไพรพันปี ข้าก็ควรเหลืออพวกมันเอาไว้วาง เพียงเท่านี้เวลา 2 เดือนในดินแดนหยกยุพราชอมตะเวลาประมาณ 17 ปีแล้ว"ชิงสุ่ยคิดไปหัวเราะไป
เขากลั่นยากว่า 10 ครั้ง โดยที่พักสลับกันไป เวลากว่า 2 วันล่วงเลยไปอย่างรวดเร็ว ไม่รวมกับวันแรกที่มุ่งมั่นในการฝึกฝน วันที่สามก็จบลง
ในวันที่ 4 ชิงสุ่ย เริ่มต้นกลั่นยาเม็ดเสริมอสูร ความหวังในการสำเร็จจากการกลั่นยาเม็ดเสริมอสูรเรียกได้ว่าแขวนอยู่บนเส้นด้าย อัตราความสำเร็จนั้นมีเพียงแค่ 1%
อาจเป็นเพราะว่าเขาได้ใช้เวลาหลายวันในการกลั่นยา มันจะทำให้เขารู้สึกว่าเขานั้นพร้อมแล้วที่จะกลั่นยาเม็ดเสริมอสูร ความรู้สึกของเขานั้นไร้กังวลเช่นเดียวกับครั้งแรกที่เริ่มกันยาเม็ดส่งเสริมจิตวิญญาณ แต่แล้วชิงสุ่ยก็ต้องประสบพบเจอกับความล้มเหลว!!!
ล้มเหลว!!!!
หลังจากการล้มเหลวผ่านไปถึง 2 ครั้ง ชิงสุ่ยอัดแน่นไปด้วยอารมณ์ที่ไม่พอใจ ได้ทุกครั้งที่อยู่ในขั้นตอนสุดท้าย "การขึ้นรูปยาเม็ด" ทุกอย่างจะล้มเหลวทันทีไปพร้อมกับเปลวเพลิง
ชิงสุ่ยยังคงมุ่งมั่นในการป้อนยาต่อไป แต่เขามักจะให้เวลาตัวเองเพียงชั่วครู่หนึ่งในการปรับสภาพจิตวิญญาณก่อนที่เริ่มต้นทำมันใหม่
ล้มเหลว!!!!
ล้มเหลว!!!!
………………….
"ติง!!!!!!!"
เมื่อชิงสุ่ยได้ยินเสียงความสำเร็จ เขาเต็มไปด้วยความงุนงงก่อนที่จะเริ่มตอบสนองต่อเสียงนั้น เปลวเพลิงบรรพกาลค่อยๆหยุดลงอย่างรวดเร็ว
เมื่อเปิดหม้อกลั่นยาเหล็กทองคำประกายเพลิงออกมา ยาเม็ดเสริมอสูรสีโลหิตตั้ง 5 เม็ดก็ปรากฏขึ้นต่อหน้าชิงสุ่ย มันปล่อยความร้อนและกลิ่นหอมที่น่าอัศจรรย์
เขาจัดเก็บมันอย่างเป็นระเบียบและพักร่างกายเพียงชั่วครู่หนึ่งก่อนที่จะเริ่มลงมือทำมันต่อ อาจเป็นเพราะความสำเร็จก่อนหน้านี้ มันจะทำให้ครั้งที่ 2 และที่ 3 นั้นประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก
ประสบความสำเร็จ!!!
ประสบความสำเร็จ!!!
ประสบความสำเร็จ!!!
……………..
เมื่อเขาเห็นยาเม็ดเสริมอสูรกว่า 100 เม็ดที่ประสบความสำเร็จ ชิงสุ่ยเพื่อหยุดการกระทำทุกอย่างและจัดเก็บพวกมันทั้งหมด
ในครั้งนี้ การปรุงยาของเขานั้นกินเวลาเกือบทั้งสัปดาห์ หลังจากหยุดลง ชิงสุ่ยรู้สึกผ่อนคลายอย่างมาก เขาจึงล้มตัวลงนอนก่อนที่จะกลับมาฝึกฝนการโคจรพลังปราณอีกครั้ง
"อืมมม ลองดูผลของยาเม็ดส่งเสริมจิตวิญญาณกันดีกว่า!!!"หลังจากที่ชิงสุ่ยตื่นขึ้นมาเวลากว่าครึ่งวันก็ได้ผ่านไป
ต้องขอบคุณที่ผลลัพธ์จากยาเม็ดส่งเสริมจิตวิญญาณนั้นนับเวลาเป็นวันดังนั้นไม่ว่าจะกินมันในเวลาไหนผลของมันก็จะอยู่ต่อไปจนครับเวลา 1 วัน
ชิงสุ่ยหยิบยาเม็ดส่งเสริมจิตวิญญาณสีเขียวเข้มออกมาแล้วคือมันเข้าไปในทันที ความรู้สึกเย็นยะเยือกเพิ่มขึ้นจากจุดตันเถียน พุ่งทะยานเข้าสู่สมองของเขา มันทำให้เขารู้สึกสดชื่นไปทั่วร่างกาย การรับรู้ทางจิตวิญญาณของเขาและการรับรู้ถึงสิ่งรอบกายเพิ่มขึ้นในทันทีกว่าเท่าตัว
"อืม ถ้าหากมันเป็นเช่นนี้ ในอนาคตถ้าหากข้ากินมันในระหว่างการต่อสู้ล่ะ …….."
สมมติฐานของชิงสุ่ยไม่ใช่เรื่องแปลก แต่ช่างน่าเสียดายที่ยาเม็ดส่งเสริมจิตวิญญาณนั้นมีคุณค่ามากเกินไป และคนปกติก็มักจะไม่นำมันออกมากินในระหว่างการต่อสู้ตามปกติ เว้นเสียแต่ว่ามันจะเป็นการต่อสู้เพื่อแลกระหว่างชีวิตและความตาย ซึ่งตัวของชิงสุ่ยนั้นไม่ได้ตระหนักถึงเรื่องนี้
หลังจากเริ่มโคจรพลังปราณจากเคล็ดวิชากายาบรรพกาล ชิงสุ่ยก็รู้สึกถึงความเร็วในการดูดซึมจิตแห่งปราณ ที่แทรกอยู่ระหว่างสวรรค์และโลก พวกมันผสานเข้ากับพลังปราณจากเคล็ดวิชากายาบรรพกาลได้อย่างรวดเร็ว มันเป็นความรู้สึกที่น่าตื่นเต้น ในตอนแรกเขารู้สึกราวกับว่ามันเป็นการเข็นครกขึ้นภูเขา แต่ตอนนี้เขารับรู้ได้เลยว่าภูเขาที่แสนชันนั้นเล็กลงในทันที
อีกครึ่งวันต่อมา ชิงสุ่ยก็เปิดตาขึ้นหลังจากที่ได้โคจรพลังปราณจากเคล็ดวิชากายาบรรพกาลมาเป็นเวลานาน เขาเผยให้เห็นรอยยิ้มอย่างช่วยไม่ได้ และถอนหายใจในขณะที่พูดกับตัวเอง "ยาเม็ดส่งเสริมจิตวิญญาณเป็นสิ่งที่ยอดเยี่ยมจริงๆ หลายคนไม่อาจก้าวข้ามประตูที่เป็นตัวนำทางสู่ระดับเทวะเซียนเทียนได้ตลอดจนจบสิ้นชีวิตของพวกเขา แต่ถ้าหากพวกเขามียาเม็ดส่งเสริมจิตวิญญาณที่มากเพียงพอ ผลลัพธ์เหล่านั้นก็ย่อมต้องแตกต่างจากเดิมไปอย่างแน่นอน"
หลังจากที่ได้ใช้งานยาเม็ดส่งเสริมจิตวิญญาณ ชิงสุ่ยไม่ต้องการที่จะเสียเวลาไปเลยแม้แต่นิดเดียว ดังนั้นเขาจึงโคจรพลังปราณอย่างไม่หยุดยั้ง ตราบเท่าที่เขาทำได้
เมื่อเขารู้สึกเบื่อ เขาจะเริ่มโคจรพลังปราณจากเคล็ดวิชากายาบรรพกาลและเริ่มผสมผสานเข้ากับพลังปราณกระทิงคลั่ง บางครั้งก็ฝึกฝนเคล็ดวิชาฝ่ามือสังหารเทวอัสนี ย่างกล่าวอําพรางเมฆ รูปลักษณ์พยัคฆ์ รูปลักษณ์หมี รูปลักษณ์กระเรียน…………….
ในช่วงขณะนั้น ชิงสุ่ยสังเกตเห็นว่าการรับรู้ของเขานั้นเปิดกว้างมากยิ่งขึ้น เขาจึงเปลี่ยนไปเป็นการฝึกฝนเคล็ดวิชาฝ่ามือศักดิ์สิทธิ์ ตัวของเขาเองก็อยากรู้เหมือนกันว่าเคล็ดวิชาวันนี้มันจะน่าทึ่งเพียงใด
พลังปราณจากเคล็ดวิชากายาบรรพกาลเริ่มโคจรไปตามเคล็ดวิชาฝ่ามือศักดิ์สิทธิ์ มือของเขาทั้งสองข้างค่อยๆแปรเปลี่ยนเป็นสีสว่างจนเกือบโปร่งใส กลิ่นอายความศักดิ์สิทธิ์ที่แข็งแกร่งค่อยๆแทรกซึมออกมาจากมือทั้งสองข้าง
ชิงสุ่ยรู้ว่ากลิ่นอายที่แผ่ออกมานั้นถูก "ขัดเกลา" มาจากเคล็ดวิชากายาบรรพกาล ซึ่งจากที่เขาเคยใช้งานมาถึงสองสามครั้ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในตอนที่เขาใช้กำลังทั้งหมดในการช่วยเหลือห่าวหยุนลิ่วลี่ เขารู้สึกว่าฝ่ามือศักดิ์สิทธิ์ของเขานั้นสามารถทะลวงเข้าสู่จุดตันเถียนได้อย่างรวดเร็ว
ซึ่งผลลัพธ์ของมันเธอได้ว่าเป็นสิ่งที่น่าพึงพอใจ แต่ตัวของเขานั้นคงจะใช้ฝ่ามือศักดิ์สิทธิ์ผสานเข้ากับเคล็ดวิชาเข็มสยบลิขิตฟ้าแรกเริ่มก็ต่อเมื่อเกิดบางสิ่งบางอย่างที่ไม่อาจรักษาให้หายขาดได้โดยอาศัยยาเม็ดเพียงลำพัง
และแล้วเวลาที่เขาจะต้องออกจากดินแดนห้วงมิติมาถึง ชิงสุ่ยยังคงเต็มไปด้วยความรู้สึกพึงพอใจในยาเม็ดส่งเสริมจิตวิญญาณ และไม่คิดถึงยาเม็ดเสริมอสูรทั้ง 100 เมตร เขาก็คิดถึงวิหคเพลิงของเขา
จาก 1 เม็ดจะสามารถเพิ่มพลังโดยรวมได้ 10% และสามารถใช้มันมากถึง 5 เม็ด นั่นก็หมายความว่า มันจะช่วยเพิ่มความสามารถได้ถึง 50% ไม่ว่าจะเป็นด้านความแข็งแกร่ง ด้านบอลเพลิง ด้านความทนทาน ด้านความเร็ว ………
เพียงแค่คิดชิงสุ่ยเองก็รู้สึกตึง ถ้าหากวิหคเพลิงของเขามีพลังและความเร็วเทียบเท่ากับราชันย์เวหาเหยี่ยวทมิฬ เขาย่อมต้องเต็มไปด้วยความพอใจ
ชิงสุ่ยตะโกนเรียกวิหคเพลิงของเขา!!!
ในช่วงเวลาที่ผ่านมา เขาปล่อยให้มันอยู่ในดินแดนหยกยุพราชอมตะ ซึ่งในตอนนี้เขาติดสินใจแล้วว่ามันถึงเวลาแล้วที่ควรปล่อยให้มันออกมาบินในโลกภายนอกบ้าง
เมื่อได้ยินเสียงเรียกของชิงสุ่ย วิหคเพลิงร้องตะโกนด้วยเสียงที่มีความสุข และบินตรงไปยังเจ้านายของมัน
ชิงสุ่ยยิ้มก่อนที่จะเอายาเม็ดเสริมอสูรออกมา
"รับนะ!!!"
วิหคเพลิงบินโฉบยาเม็ดเสริมอสูรด้วยปากของมัน และกลืนมันลงไปอย่างรวดเร็ว!!!
ชิงสุย่ยังคงมองดูวิหคเพลิงที่บินอยู่บนท้องนภาอย่างมีความสุข เขาทำได้เพียงแค่รอ รอว่าสักวันหนึ่งพรสวรรค์ 1% ที่มีอยู่ในตัวของวิหคเพลิงของเขาจะตื่นขึ้น!!!