ฝากติดตามเพจด้วยนะครับ แฟนเพจ แจ้งเตือนก่อนใคร กดเลย
https://www.facebook.com/AncientStrengtheningTechnique
บทที่ 301 – กระดาษหนังที่จารึกการกลั่นตัวยา
"ชิงสุ่ย ข้ามีใบส่วนผสมยา 2 ชิ้น อีกทั้งยังมีส่วนผสมสำหรับมันอีกด้วย"ชางหวู่ย่ากล่าวมันในขณะที่เขาเดินต่อไปยังที่ห้องเพื่อนำใบส่วนผสมยามาให้กับชิงสุ่ย "มันช่างเป็นความอัปยศของข้ายิ่งนักที่ไม่อาจสามารถกลั่นมันได้สำเร็จ แต่ใบส่วนผสมยาชิ้นนี้เป็นของล้ำค่าอย่างมาก ดังนั้นค่าจึงขอมอบมันให้กับเจ้า!!!"
ชิงสุ่ยมองดูแผ่นหนังสัตว์อย่างมีนัยยะ ความอยากทดลองนั้นมันมากจนเกินห้ามใจ เมื่อการฝึกฝนสามารถกลั่นจนถึงระดับนึง ยาเม็ดเหล่านั้นก็จะมีความสามารถในการฟื้นฟูมากยิ่งกว่าการใช้ศาสตราวุธระดับพระเจ้าเสียอีก
ยาเม็ดที่แข็งแกร่งย่อมสามารถปรับปรุงร่างกายของผู้บริโภคได้ และโดยทั่วไปที่รู้กัน ยาเม็ดที่ดีนั้นก็ย่อมสร้างขึ้นได้ยากเฉกเช่นเดียวกับศาสตราวุธระดับพระเจ้า พวกมันย่อมเป็นสิ่งที่ดึงดูดเหล่าผู้คนให้มาเพื่อแย่งชิง และมันก็ย่อมตามมาด้วยการสังหารหมู่
หลังจากที่ได้เห็น ชิงสุ่ยก็รับเอาใบสั่งผสมยาจากชางหวู่ย่าและกล่าวตอบ "ขอบคุณท่านผู้อาวุโสอย่างยิ่ง"
เมื่อรับใบส่วนผสมยามา มันยิ่งทำให้เขารับรู้ได้เลยว่าความสัมพันธ์ของเขากับชางหวู่ย่านั้นมีเพิ่มมากขึ้นเพียงใด
ชิงสุ่ยรู้ดีว่าใบส่วนผสมยานี้ไม่ใช่สิ่งของที่เก่าแก่มาก แต่มันอาจเป็นเพราะว่าฝีมือในการกลั่นยาของชางหวู่ย่าไม่ได้รับการคัดเกลา แต่วิสัยทัศน์และมุมมองของเขานั้นยังถือว่าอยู่ในระดับที่ดี ถ้าหากชางหวู่ย่าพิจารณาแล้วว่าใบส่วนผสมยาชิ้นนี้เป็นของมีค่า แน่นอนว่ามันก็ย่อมต้องเป็นของที่มีคุณภาพสูง
"มันคงไม่ใช่ปัญหาต่อตัวเจ้าอย่างแน่นอน แม้ว่าใบส่วนผสมยานี้จะดูไม่เลวร้าย และอัตราความสำเร็จนั้นค่อนข้างต่ำ" ชางหวู่ย่าหัวเราะเบาๆ "ดังนั้นอัตราความสำเร็จเพียง 1% ย่อมถือเป็นเรื่องที่ดี เจ้าควรจะมีส่วนผสมที่จำเป็นเอาไว้ครอบครองให้มากนัก มันก็ปกป้องความล้มเหลวเหล่านั้นได้"
เมื่อชิงสุ่ยได้เปิดดูเขาก็พบกับเงื่อนไขที่แปลกประหลาดบนกระดาษหนังแผ่นนี้
ประสิทธิภาพของยาเม็ดนี้จะสามารถเพิ่มพลังให้กับสัตว์อสูรได้ถึง 10% โดยสัตว์แต่ละตัวนั้นจะสามารถใช้งานยาเม็ดชนิดนี้ได้ถึง 5 เม็ดต่อ 1 ครั้ง อีกทั้งมันยังมีโอกาสปลุกความสามารถพิเศษในการต่อสู้
เมื่อพิจารณาจากประสิทธิภาพนี่ก็เป็นอีกตัวอย่างหนึ่งที่มีคุณภาพสูงมากมันเป็นตัวอย่างที่ส่งผลเช่นเดียวกับตัวยาที่ใช้ในเหล่ามนุษย์ทุกคน มันถือได้ว่าเป็นยาที่มีคุณภาพสูงอย่างมากในหมู่เหล่ายาระดับราชันย์ขั้นที่ 1 ที่สำคัญสุดคือคนหนึ่งคนสามารถกินมันไม่ถึง 5 เม็ดต่อ 1 ครั้งนั่นก็หมายความว่าในแต่ละครั้งนั้นจะสามารถเพิ่มพละกำลังได้ถึงครึ่งหนึ่งเลยทีเดียว
ถึงแม้ว่าในปัจจุบันชิงสุ่ยจะค่อนข้างพอใจในตัวยาที่เขามี แต่มันที่ทำให้เขารู้สึกสนใจมากยิ่งขึ้นเมื่อมันสามารถกระตุ้นความสามารถพิเศษในการต่อสู้ได้
ความสามารถในการต่อสู้!! มันไม่น่าแปลกใจเลยที่ทำให้ชิงสุ่ยรู้สึกสนใจ ในสายพันธุ์ทาสอสูรทุกชนิดนั้นล้วนมีทักษะพิเศษในการต่อสู้เป็นของตัวเอง เช่นสัตว์อสูรสายพันธุ์หมี ในบางครั้งพวกมันก็สามารถปรับความสามารถในการต่อสู้ทางธรรมชาติของพวกมันออกมาได้ด้วยตัวเอง ซึ่งผลของมันจะทำให้พลังโจมตีและป้องกันที่พวกมันถือครองถูกยกระดับขึ้นเป็นเท่าตัวหรือบางทีมันอาจมากกว่านั้น
ความสามารถในการต่อสู้ของสัตว์ประเภทพยัคฆ์คือความโดดเด่นทางด้านความเร็ว เมื่อความเร็วของพวกมันถูกปลุกให้ตื่นขึ้นมา ความเร็วที่พวกมันถือครองจะสูงขึ้นทันที 2 เท่าหรือมากกว่า แต่อย่างไรก็ตามมันก็ย่อมขึ้นอยู่กับลักษณะความหายากของสัตว์อสูรชนิดนั้นๆ
ไม่ว่าจะเป็นสัตว์อสูรชนิดใด เมื่อความสามารถถูกปลุกให้ตื่นขึ้น พลังของพวกมันก็ย่อมจะถูกยกระดับขึ้นเช่นกัน และถ้าหากพวกมันสามารถควบคุมพลังเหล่านั้นได้ความน่ากลัวที่พวกมันถือครองก็จะเพิ่มสูงขึ้นในทันที
ชิงสุ่ยก็เริ่มคิดเกี่ยวกับความสามารถในการต่อสู้ของวิหคเพลิง บางทีมันอาจจะสามารถใช้พลังธาตุไฟเพื่อเพิ่มความเสียหายจากการโจมตีมากยิ่งขึ้น ในบางครั้งมันอาจไปปลุกพลังสายเลือดของนกหงส์เพลิงในตำนานขึ้นมาก็เป็นได้
เขาค่อนข้างรู้สึกตื่นเต้นเมื่อคิดเกี่ยวกับสายเลือดนกหงส์เพลิงที่สถิตอยู่ในตัวของวิหคเพลิง บางทีอาจมีวันใดวันหนึ่งมันสามารถปลุกสายเลือดของนกหงส์เพลิงขึ้นมาได้?
แต่แล้วเมื่อเขาคิดถึงอัตราความสำเร็จที่มีเพียง 1 เปอร์เซ็นต์ และเมื่อต้องกลั่นพวกมันทั้ง 5 คลังด้วยอัตราความสำเร็จ 1% มันก็ยิ่งทำให้เขาครุ่นคิดถึงโอกาสความสำเร็จในการปลุกพลังความสามารถในการต่อสู้ว่ามันจะสามารถเกิดขึ้นได้จริงๆหรือ
" ช่างมันเถอะ ค่าความคิดเรื่องเหล่านั้นหลังจากที่ข้าสามารถกลั่นมันได้สำเร็จ ลองดูใบต่อไปดีกว่า" ชิงสุ่ยครุ่นคิด " นี่มันอะไรกัน? ยาเสริมอสูรในหน้ากระดาษหนังแผ่นที่ 1 นับได้ว่าเป็นยาที่ดีกว่าตัวยาอื่นๆมากมายที่อยู่ในระดับราชันขั้นที่ 2 แต่ประเภทยาในหน้ากระดาษหนังแผ่นที่ 2 นี่มันอะไรกัน" ชิงสุ่ยคิดในขณะที่เขาเปิดดูกระดาษแผ่นนั้น
ส่วนประกอบยาเม็ดส่งเสริมจิตวิญญาณ : รากห่อสิ่วโอว 1000 ปี ผงกระดูกเสือ 1000 ปี ดีหมี 1000 ปี โลหิตเต่า 3000 ปี ดอกบัว 7 กลีบ ดอกฟ้าขาว กลีบดอกบัวแปดเหลี่ยม น้ำค้างทิพย์ขาว กลีบดอกม่วง บัวหิมะ 1000 ปี และโคโรค 1000 ปี!!!
ยาเม็ดชนิดนี้จะช่วยให้ผู้ฝึกตนมีความเร็วในการฝึกฝนเพิ่มขึ้น 2 เท่าและจะคงอยู่อย่างนั้นไปตลอดครึ่งวัน
"นี่มัน……"หัวใจของชิงสุ่ยแทบถูกผ่าออกเป็นเสี่ยงเสี่ยง ยาเม็ดชนิดนี้แทบทำให้ยาเม็ดอื่นๆที่อยู่ระดับ 1 หรือ 2 ของยาเม็ดระดับราชันย์กลายเป็นของขยะในทันที
สิ่งที่สำคัญที่สุดของยาเม็ดชนิดนี้นั่นก็คือการไม่มีข้อจำกัด ผู้ฝึกตนจะสามารถใช้มันได้ตลอดตราบเท่าที่ผู้ฝึกตนเหล่านั้นจะสามารถต้านทานธรรมชาติได้
หนึ่งสิ่งสำคัญที่ต้องรู้ไว้นั่นก็คือผู้ฝึกตนโดยทั่วไปมักจะซึมซับพลังปราณที่เกิดจากพื้นฟ้าและผืนแผ่นดินโดยแทรกซึมผ่านร่างกาย ผิวหนังกล้ามเนื้อกระดูก เส้นลมปราณ และจุดลมปราณจนถึงอวัยวะภายใน
แต่ความเร็วในการดูดซับของแต่ละคนนั้นก็ย่อมแตกต่างกันไป บางคนอาจจะเร็วบางคนอาจจะช้า สำหรับผู้ที่ดูดซับช้าระยะเวลาในการฝึกฝนก็ย่อมต้องนานเป็นเรื่องธรรมดา
ดังนั้นการที่คนคนนึงดูดซับพลังปราณได้ช้าและทำให้ระยะการฝึกฝนยาวนานก็ย่อมต้องสรรหาบางสิ่งบางอย่างเพื่อขึ้นเวลา ลดช่องว่างความสามารถระหว่างตัวเองและผู้อื่น
มันจะทำให้ชิงสุ่ยรู้สึกดีในทันที ผู้อื่นอาจจะใช้ประโยชน์จากยาเม็ดชนิดนี้ในการฝึกฝนเพิ่มขึ้น 2 เท่า มันก็เท่ากับว่าระยะเวลาของพวกเขานั้นเพิ่มขึ้นเพียงแค่ 2 วัน
ซึ่งตัวของชิงสุ่ยนั้นแตกต่างออกไปเนื่องจากเขานั้นถือครองดินแดนหยกยุพราชอมตะ ถ้าหากเขาได้ใช้งานยาเม็ดส่งเสริมจิตวิญญาณ มันจะทำให้เวลาที่เดิมมากกว่าผู้อื่น 15 เท่าในดินแดนหยกยุพราชอมตะเพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่า
นั่นก็เท่ากับเวลาที่เขาได้รับเพิ่มขึ้นถึง 30 เท่า
1 วันในโลกความเป็นจริงจะเท่ากับเวลา 1 เดือนในทันที เพียงแค่คิดชิงสุ่ยก็รู้สึกได้ถึงความต้องการ มันเปรียบดังการโกงชะตาชีวิตของตัวเขาเอง
"เออ ท่านผู้อาวุโส แม้ว่าความสำเร็จในการกลั่นยาชนิดนี้มันจะมีต่ำ แต่ข้าคิดว่ายาชนิดนี้จะต้องมีอยู่มากในแผ่นดินใหญ่ใช่หรือไม่?" ชิงสุ่ยรู้สึกว่าตัวอย่างนี้มันเป็นสิ่งที่มีค่ามากนัก แม้ว่ามันจะมีอัตราความสำเร็จที่ต่ำ แต่เมื่อเทียบกับผู้คนที่อยู่บนแผ่นดินใหญ่อื่นๆ เขาก็เชื่อว่าย่อมมีผู้ที่สามารถแต่งงานได้ และผู้ที่มีฐานะที่ค่อนข้างสูงก็ยอมที่จะสามารถครอบครองมันได้ และมันคงไม่น่าแปลกใจเลยที่อยากเพิ่มความเร็วในการฝึกฝนสองถึงสี่เท่านั้นก็คงจะปรากฏขึ้นในตลาดมืดและหอประมูลมากมาย แต่มันคงมีน้อยคนนักที่จะสามารถครอบครองยาเม็ดเหล่านี้
"ถูกต้องแล้วล่ะ ถึงแม้พวกมันจะดูเป็นสิ่งของที่มีค่า แต่เจ้าก็ย่อมสามารถหาได้ในแผ่นดินใหญ่อื่นๆ ซึ่งค่าใช้จ่ายของมันก็ย่อมสูงเช่นกัน เมื่อข้านึกถึงในอดีต ข้าเคยใช้มันในการฝึกฝนเพียงแค่ครั้งเดียวถึงสองครั้งเท่านั้น ในตอนนั้นข้าได้นำส่วนผสมมากมายที่แสนมีค่าไปยังนิกายเทพโอสถเพื่อแลกเปลี่ยนกับยาเม็ดนี้"ชางหวู่ย่าหัวเราะในขณะที่เขานึกย้อนคืนความทรงจำ
ในตอนนี้ชิงสุ่ยก็เริ่มเข้าใจแล้วว่าทำไมมีรุ่นเยาว์มากมายจึงสามารถบรรลุแล้วดับเทวะกษัตริย์ได้ สำหรับชายอายุ 40 ปีที่ผ่านการฝึกฝนมามากกว่า 30 ปี ถ้าหากเขาเกิดมาในตระกูลที่ร่ำรวยและสามารถใช้ยาเม็ดที่เพิ่มความเร็วในการฝึกเกินกว่าสี่เท่าขึ้นไปตลอดระยะเวลาในการฝึกฝนนั่นก็เท่ากับว่าเขาได้ฝึกฝนไปมากกว่า 120 ปีมันเป็นสิ่งที่คนยากจนคงไม่อาจเทียบได้
ในตอนแรกเขาคิดว่าเขาเป็นเพียงคนเดียวที่สามารถต่อต้านกฎแห่งธรรมชาติได้โดยอาศัยดินแดนหยกยุพราชอมตะ และเมื่อเขาได้พบกับยาเม็ดส่งเสริมจิตวิญญาณมันก็ทำให้มุมมองที่เขามีต่อโลกใบนี้กว้างขึ้น
"เอ่อ ท่านผู้อาวุโส ข้ารู้สึกสงสัยเหลือเกินว่าการที่ท่านสามารถหาสิ่งของไปแลกเปลี่ยนเป็นตัวยาได้นั่นอาจมีความหมายว่านิกายเทพโอสถที่ท่านกล่าวถึงนั้นจะมีวิธีในการทำให้การกลั่นยาเม็ดส่งเสริมจิตวิญญาณมีอัตราความสำเร็จที่สูงขึ้น"ชิงสุ่ยรู้สึกว่างานหลักของนิกายเทพโอสถนั้นควรจะเกี่ยวข้องกับการปรุงยา และหลังจากที่เขาเปิดโลกกว้างในมุมมองใหม่ๆ เขาก็รู้สึกได้ว่านิกายเหล่านี้ย่อมสามารถพัฒนาตัวยาได้เช่นกัน
"ยอดเยี่ยม นิยายเทพโอสถก็ถือได้ว่าเป็นนิกายที่ยิ่งใหญ่ภายในมหาทวีปเมฆามรกตบางทีมันอาจเปรียบได้กับนิกายเทวโลกของเรา แต่พวกเขานั้นจะโด่งดังทางด้านการกลั่นยา แต่สิ่งที่ทำให้พวกเขานั้นคล้ายคลึงกับผู้อาวุโสอย่างตัวข้า คือพวกเขานั้นจะไม่ข้องเกี่ยวกับกลุ่มบุคคลใดๆ มันจึงทำให้ชื่อของนิกายเทพโอสถไม่เป็นที่รู้จักมากนักในมหาทวีปเมฆามรกตแห่งนี้"ชางหวู่ย่าปอบในขณะที่เขาครุ่นคิด
"แต่ข้าขอบอกได้เลยว่า ยาเม็ดส่งเสริมจิตวิญญาณที่อยู่ในมือของเจ้านั้น มีอัตราความสำเร็จในการกลั่น 50% เฉกเช่นเดียวกับที่นิกายเทพโอสถถือครอง นั่นก็หมายความว่าและทุกๆ 2 ครั้งที่เจ้าได้กลั่นยาชนิดนี้เจ้าก็จะประสบความสำเร็จอย่างน้อย 1 ครั้ง"
"ในวันพรุ่งนี้ เจ้าจงมาหาข้า ท่านลุงหวู่จี้จะนำส่วนผสมสำหรับตัวยาทั้งสองมาให้เจ้า ข้าหวังว่าเจ้าจะสามารถทำมันได้สำเร็จ"ชางหวู่ย่าหัวเราะอย่างร่าเริง
"ท่านผู้อาวุโส การที่ท่านนำใบกลั่นยาที่สำคัญชนิดนี้มาให้ข้าเรียนรู้มันคงไม่ดีนัก"ชิงสุ่ยคิดหนักก่อนที่เขาจะกล่าวถามชางหวู่ย่า " ถ้าหากมันเป็นเช่นนั้นวิวัฒนาการของมนุษย์ก็คงยอมสูญหายไปเรื่อยๆ และหนทางใดกันล่ะที่ทำให้วิถีแห่งการกลั่นยาพัฒนาสูงขึ้น?"
ชางหวู่ย่ากล่าวกับชิงสุ่ยหลังจากที่เขาคิดเมื่อเหล่านี้ "ข้าเพียงแค่อยากให้เจ้าได้ลอง แม้ว่ามันจะไม่เหมาะสม แต่ตราบใดที่เจ้าสามารถการกับมัน แม้จะล้มเหลวแต่อย่างน้อยก็ได้เรียนรู้"
"ข้าขอขอบพระคุณท่านเป็นอย่างมาก ท่านผู้อาวุโส"ชิงสุ่ยเราแสดงความกตัญญูต่อชางหวู่ย่า
เมื่อชิงสุ่ยกลับไปยังที่พักของเขา เขาก็เริ่มตรวจสอบข้อมูลของตัวยาเสริมอสูร และยาเม็ดส่งเสริมจิตวิญญาณซ้ำไปซ้ำมา รวมถึงคิดเรื่องการกลั่นยาเม็ดเหล่านี้ในวันรุ่งขึ้น ตวงเขานั้นเต็มไปด้วยความสงสัยว่าอัตราความสำเร็จในการกลั่นของเขาจะเป็นเฉกเช่นเมื่อก่อนหรือไม่
เปลวเพลิงบรรพกาลหยินหยางและหม้อกลั่นยาเหล็กทองคำประกายเพลิงของเขานั้นก็ดูเหมือนว่าจะเหนือกว่าสิ่งที่นิกายเทพโอสถคือครองเล็กน้อย และทักษะส่วนตัวในการสัญญาของชิงสุ่ยก็คงไม่ได้เลวร้ายกว่าผู้อื่น
ปัจจุบัน ชิงสุ่ยยังคงมองดูรูปโฉมงามที่อยู่ภายในดินแดนหยกยุพราชอมตะ และในทุกๆครั้งเขาก็มักจะนึกถึงนายหญิงแห่งคฤหาสน์เมฆาที่แสนจะลึกลับ คำพูดคำจาของเธอนั้นเป็นสิ่งที่ทำให้หน้าทึ่งและมักจะสร้างความพึงพอใจได้อย่างน่าอัศจรรย์
ท่วงท่าแส้เดี่ยวไทเก๊ก!!!
ชิงสุ่ยยังคงปล่อยหมัดไทเก๊กเพื่อควบคุมฝ่ามือสังหารเทวอัสนี ทุกกระบวนท่าสมบูรณ์แบบสมกับอยู่ในระดับผู้เชี่ยวชาญ การเคลื่อนไหวนั้นลื่นไหลดุจสายน้ำ จังหวะที่แสดงถึงความแข็งแกร่งมันก็ทำให้รู้สึกเหมือนคลื่นระเบิดที่กำลังปะทุตัวเพื่อถล่มคู่ต่อสู้
จากการฝึกฝนอย่างหนักหน่วงผสมผสานกับความรู้สึกที่หลากหลาย ฝ่ามือสังหารเทวอัสนีก็ได้เพิ่มความเร็วขึ้นอย่างรวดเร็ว แต่เขาเองยังคงไม่พึงพอใจเขารู้สึกว่ามันยังคงก้าวหน้าได้มากกว่านี้
ชิงสุ่ยรู้ดีว่าเขาต้องใช้เวลาอีกมากเพื่อจะสามารถบรรลุในระดับดินแดนแห่งสัจธรรม และเพื่อให้บรรลุถึงระดับนั้น เขาก็คงจะต้องพึ่งพายาเม็ดส่งเสริมจิตวิญญาณ ซึ่งมันจะทำให้เขามีเวลาภายในดินแดนหยุพราชอมตะเพิ่มขึ้นเป็น 30 ปีเมื่อเวลาบนโลกความเป็นจริงก้าวเข้าสู่สิ้นปี
ซึ่งเวลาเรานั้นมันก็คงเพียงพอ เมื่อชิงสุ่ยคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้เขาก็ระเบิดเสียงหัวเราะออกมา ถ้าหากเขาก้าวข้ามขึ้นสวรรค์ขั้นที่ 5 ของเคล็ดวิชากายาบรรพกาลมันจะเป็นเช่นไร เวลา 30 ปีย่อมดูเหมือนยาวนานถ้าหากนับจากสายตาของบุคคลทั่วไป แต่สำหรับผู้ฝึกตนนั้นมันเป็นเวลาเพียงแค่ช่วงสั้นๆเท่านั้น
"ปังงงงงงง!!!!!"
เสียงคลื่นที่ดังและฟังชัด เกิดขึ้นในทุกกระบวนท่าเพลงหมัดไทเก๊กที่ชิงสุ่ยตัวปล่อยออกมา คลื่นระเบิดเกิดขึ้นในทุกท่วงท่า ทุกท่วงท่านั้นเกิดจากความรู้ที่สะสมอยู่ในระดับดินแดนทักษะจิตซ่อนเร้น
คลื่นพลังเทวอัสนีสังหาร!!!!
"ตูม!!!!!!"
ชิงสุ่ยระเบิดเสียงหัวเราะทันทีที่ได้ยินเสียงคลื่นระเบิดจากพลัง มันเป็นเสียงระเบิดที่น่าสะพรึงกลัวซึ่งถูกปลดปล่อยออกมาจากเพลงหมัดไทเก๊ก
แส้เดียวไทเก๊ก!!!!!!!
"ฮ่าๆๆๆๆๆ ข้าไม่อยากเชื่อเลยว่า ข้าจะสามารถก้าวข้ามมันเข้าสู่ทักษะดินแดนส่องใจ นี่มันช่างเป็นความเร็วที่สูงมากนับถ้าเทียบกับการที่ข้าก้าวข้ามดินแดนผู้เริ่มต้นเข้าสู่ดินแดนผู้เชี่ยวชาญ
ในวันรุ่งขี้น ชิงสุ่ยก็ยังคงฝึกฝนในช่วงเช้าตามปกติ แต่เวลานี้เขามักใช้เวลาส่วนใหญ่ในการฝึกฝนเพลงหมัดไทเก๊กเขายังคงหันหน้าเข้าหาดวงอาทิตย์เพื่อซึมซับแสงแดดจากดวงตะวัน การเคลื่อนไหวของเขานั้นทุกท่วงท่าเต็มไปด้วยความเป็นธรรมชาติและไหลลื่นดุจสายน้ำ แม้กระทั่งเงาก็ยังคงเคลื่อนไหวราวกับเป็นส่วนหนึ่งของธรรมชาติ
