เทพอสูรบรรพกาล -Ancient Strengthening Technique - AST บทที่ 293 – ทักษะเพลงค้อนในตำนาน และความขัดแย้งระหว่างเก้าคฤหาสน์ในวังเทวโลก
- หน้าแรก
- เทพอสูรบรรพกาล -Ancient Strengthening Technique
- AST บทที่ 293 – ทักษะเพลงค้อนในตำนาน และความขัดแย้งระหว่างเก้าคฤหาสน์ในวังเทวโลก
ฝากติดตามเพจด้วยนะครับ แฟนเพจ แจ้งเตือนก่อนใคร กดเลย
https://www.facebook.com/AncientStrengtheningTechnique
บทที่ 293 – ทักษะเพลงค้อนในตำนาน และความขัดแย้งระหว่างเก้าคฤหาสน์ในวังเทวโลก
คำพูดของชาง หวู่ย่าทำให้ ชิงสุ่ยประหลาดใจ นี่ไม่ใช่อาวุธระดับสองหรอกหรือ?
ชิงสุ่ยจ้องมองไปอย่างละเอียดที่ค้อนสะท้านสวรรค์ของเขา และใช้ทักษะเนตรสรรค์ของเขามองดูมัน มันทำให้ชิงสุ่ยตกใจอย่างมากเมื่อเขาเห็นคุณสมบัติของอาวุธอันนี้
อาวุธระดับสอง 2 สีเพิ่มแข็งแกรงเพิ่มขึ้น20% ความแข็งแกรงเพิ่มขึ้น300ระดับ!
ชิงสุ่ยจ้องมองที่คุณสมบัติดังกล่าวตาของเขาแทบจะถลุนออกมา ค้อนสะท้านสวรรค์มีที่พลังบริสุทธิ์ และมีแรงกดดันทีหมาศาลมาก อาวุธรับ 2 ช่วยเพิ่มความแข็งแรงได้ถึง 300 ต่างกับข้องจำกัดของอาวุธระดับ1 มันสามารถเพิ่มความสามารถได้ ร้อยกว่าๆเท่านั้น หรือมากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ก็ไม่เกินสองร้อย นั้นคือคือคุณสมบัติที่สูงสุดที่สามารถสร้างได้ของอาวุธระดับ 1
แม้ว่าคุณสมบัติเหล่านี้จะทำให้เขาตกตะลึง แต่คุณลักษณะของค้อนนี้ก็ไม่ได้มีมากมายเกินไปมันแค่เพิ่มความแข็งแกร่งเพียงแค่อย่างเดียว ชิงสุ่ยมีความรู้สึกว่าถ้าเขาสามารถยกระดับและสร้างอาวุธระดับสองได้ มันจะทำให้เขาสามารถสร้างอาวุธที่น่าอัศจรรย์ยิ่งขึ้น และได้รับอาวุธที่มีสองคุณสมบัติ
"ชิงสุ่ย ที่จริงค้อนสะท้านสวรรค์ที่ข้ามอบเจ้าในตอนนี้ ข้าเคยเตรียมมันเป็นของขวัญวันเกิดให้ลูกของข้าในอดีตมาก่อน แต่มันก็เกิดเรื่องน่าเศร้าขึ้นซะก่อนข้าจึงไม่ได้มอบมันให้กับเขา … "ชาง หวู่ย่าส่งค้อนไปยังชิงสุ่ย
"อาวุโสสิ่งนี้มีค่ามากเกินไป … "
"ฮ่าฮ่า รับมันไปเถอะ ข้าและหวู่จี้ยอมรับเจ้าเป็นหนึ่งในครอบครัวเราแล้ว อย่างไรก็ตามมีแต่เจ้าที่เชี่ยวชาญในการใช้ค้อน ถ้าเจ้าไม่ยอมรับ มันก็ไม่มีใครที่สามารถใช้มันได้ มันไม่มีประโยชนะไรเลยสำหรับข้านอกเหนือจากเครื่องประดับที่ไว้ตกแต่งโลงศพของข้าเมื่อข้าตายเท่านั้น? "ชาง หวู่ย่า ส่ายหัวและหัวเราะ
ชิงสุ่ย ลังเลอยู่ชั่วครู่ แต่สุดท้ายก็ แล้ว เขาก็ยอมรับ น้ำหนักของค้อนไม่ได้ส่งผลกระทบอะไรกับเขา เนื่องจากเขาได้ฝึกกระบี่ใหญ่มานับครั้งไม่ถ้วน มันมีน้ำหนักมากว่าเมื่อเทียบกับค้อนอันนี้ อย่างไรก็ตามในขณะที่ชิงสุ่ยคว้าลงจับที่ด้ามของค้อน เขารู้สึกถึงความแข็งแกร่งที่พุ่งตรงเข้ามาในร่างกายของเขา … พละกำลังของเขาเพิ่มขึ้นอีก20% มันเท่ากับพละกำลังของชิงสุ่ยเพิ่มได้ขึ้นหมื่นกว่าจิน …
"ชิงสุ่ย มันเหมาะสำหรับที่จะใช้ร่วมกับทักษะเพลงค้อนของเจ้าหรือไม่?" ชาง หวู่ย่าหัวเราะอย่างมีความสุข ชองสุ่ยรู้สึกว่าชาง หวู่ย่าคงคิดว่าเขาเป็นลูกชายของเขาไปแล้วในตอนนี้ นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมเขาจึงมีความสุขเมื่อได้เห็นชิงสุ่ยที่กำลังถือค้อนที่เขาเตรียมไว้
ชิงสุ่ย ยิ้ม ขณะที่เขายกมือขึ้นด้วยมือซ้ายของเขา เขาปลดปล่อยทักษะพันค้อนของเขาออกมา มีแสงสว่างออกมากลางอากาศแสงที่ความโอ่อ่าตระการตา และเต็มไปด้วยอำนาจถูกปล่อยออกมา บางทีอาจเป็นเพราะความแข็งแกร่งของเขาชิงสุ่ยในตอนนี้ เขารู้สึกว่าค้อนสะท้านสวรรค์ของเขาแข็งแกร่งกว่าเหล็กค้อนเหล็กขนาดใหญ่ก่อนหน้านี้เป็นจำนวนมาก ไม่ต้องสงสัยเลยว่าทำไมอาวุธของพระถึงได้ถึงได้เป็นที่ต้องการอย่างมา และเมื่อเขามีพละกำลังเพิ่มขึ้น มันสามารถทำให้เขาปลดปล่อยศักยภาพของทักษะพันค้อนกัมปนาทได้ดียิ่งขึ้น
ค้อนสะท้านสวรรค์, เขย่าสะท้านสวรรค์ด้วยการฟาดเพียงครั้งเดียว, ค้อนเดิมเป็นอาวุธที่ไม่ได้รับความนิยมและดูถูกอย่างมาก แต่ภายใต้การใช้ของชิงสุ่ย แม้แต่การแกว่งหรือฟาดเพียงเบาๆก็ทำให้ผู้พบเห็นรู้สึกว่ามันสามารถทะลายได้แม้ภูเขาลูกใหญ่ๆ
ชาง หวู่ย่า, เฟย หวู่จี้, ชางห่าย หมิงเหยวี่ย และ ลิ่วลี่ ได้มองไปที่ชิงสุ่ยด้วยความกลัว แรงดึงดูดอันยิ่งใหญ่ ที่เขาปล่อยออกมาเป็นที่น่าสนใจอย่างมาก และความรุนแรงของเพลงค้อนที่เขาร่ายรำออกมา สามารถสร้างแรงกดดันได้อย่างมหาศาล ความหวาดกลัวได้สลักลึกลงไปที่หัวใจของพวกเขาได้ ทำให้พวกเขาสงสัยว่านี่คือทักษะเพลงค้อนในตำนานที่หายสาปสูญไปนานแล้วหรือไม่
เสร็จสิ้นจากการร่ายรำ ชิงสุ่ยรู้สึกว่าร่างกายของเขานั้นรู้สึกสบายเป็นอย่างมากมาก เมื่อท้ายที่สุดเขาก็ได้วางค้อนนั้นลงและจ้องมองไปที่คนอื่นๆ เขาได้ยิ้มออกมาอย่างเฉื่อยช้า เมื่อเขาสังเกตเห็นปฏิกิริยาของพวกเขา
"ดี ดี นี้เป็นทักษะค้อนที่ยอดเยี่ยม ตาแก่คนนี้เคยเห็นและผู้เชี่ยวชาญชั้นนำหลายๆคนที่ใช้ค้อนเป็นอาวุธมาก่อน แต่อย่างก็ตามในความรู้สึกของข้าสิ่งที่เจ้าได้แสดงออกมานั้นทรงอำนาจมากกว่าพวกเขาสะอีก แต่ว่าเจ้ายังขาดประสบการณ์อยู่ แต่ข้าเชื่อว่าตราบเท่าที่เจ้ายังคงฝึกฝนเพลงค้อนนี้อย่างหนัก มันจะทำให้เจ้ากลายเป็นคนที่ยอดเยี่ยมที่สุดในยุคของเจ้า "ชาง หวู่ย่า หัวเราะอย่างร่าเริง ในขณะที่เขารู้สึกมีความสุขอย่างแท้จริงในหัวใจของเขา
"ท่านอาวุโสท่านได้ยกยอข้าเกิดไปแล้ว แต่ข้าก็ขอบคุณสำหรับค้อนอันนี้!"
"ฮ่า ๆ ๆ ในเมื่อทุกคนมาที่นี้กันแล้ว นั้นก็ไปหาอะไรดื่มกันเถอะ มีอะไรบางอย่างที่อยู่ข้างในที่ข้าเก็บไว้มานาน และข้าจะให้หวู่จี้อธิบายเกี่ยวกับที่สถานที่แห่งนี้ให้กับพวกเจ้าฟังอย่างละเอียด" หวูย่ากล่าว
"มาทุกคนมาลอง 'สารุอำพันกัน' นี้เป็นสุราที่ช้าเก็บมานานกว่า 200 ปีแล้ว!"
ชาง หวู่ย่า หยิบสุราจำนวนมากออกมาและเทลงให้สำหรับทุกคน
สุรานั้นเปล่งประกายระยิบระยับ มันนั้นโปร่งแสงและส่งกลิ่นหอมที่อบอวลออกมามันคล้ายกกับกลิ่นที่มาจากสรวงสวรรค์ กลิ่นที่หอมหวนของมันคล้ายจะครอบงำผู้ได้สูดดมมัน
"ฮ่าฮ่า ดูเหมือนท่านอาวุโสจะมีความรู้เกี่ยวกับสุราอย่างมากสินะ ที่นี่เป็น สูตรเครื่องดื่ม สุราที่ข้าเคยเตรียมไว้ให้กับอาวุโสชางห่าย” แต่ชาง หวู่ย่าไม่ต้องการที่จะยอมรับมันไว้ “ข้ามอบให้ท่านเป็นการเพื่อแสดงความกตัญญูของข้าเท่านั้น ท่านอย่าได้ปฏิเสธมันเลย "ชิงสุ่ยนำสูตรสุราวิศิษฎ์พิสุทธิออกมา และส่งผ่านไปยัง ชาง หวู่ย่า
ชิงสุ่ยมองไปที่หมิงเยวี่ย เธอนั้นรู้สึกเจ็บปวดเมื่อได้ยินชื่อ ชางห่าย เธอพยายามไม่คิดอะไรเกี่ยวกับมัน เธอนั้นต้องยอมรับความจริงในเรื่องนี้ให้ได้ เมื่อเธอยอมรับมันได้ จะทำให้บาดแผลในหัวใจของเธอนั้นค่อยๆสมานตัวแล้วฟื้นตัวในที่สุด
ชาง หวู่ย่า หัวเราะและเขาก็รับมันไว้ เมื่อมองไปที่สูตรนั้น ตาของเขาเปิดกว้างขึ้นด้วยความประหลาดใจและตกใจ "ไม่คิดว่าเจ้าจะมีสูตรเครื่องดื่มสุราที่ล้ำค่าเช่นนี้ ตาแก่คนนี้จะขอรับมันไว้อย่างไม่อาย
"ตราบเท่าที่ท่านอาวุโสมีความสุข ข้าก็มีความสุขด้วยเช่นกัน ขอบคุณสำหรับทุกสิ่งทุกอย่างอีกครั้ง!"
คำพูดของชิงสุ่ยทำให้เกิดรอยยิ้มบนใบหน้าของชาง หวู่ย่า เขาได้ยิ้มอย่างกว้างขึ้นอีกครั้ง ชาง หวู่ย่าพยักหน้าด้วยความพึงพอใจในขณะที่เขากล่าวกับ เฟย หวู่จี้ว่า "เจ้าเด็กคนนี้รู้วิธีที่เอาใจคนแก่จริงๆๆ"
เฟย หวู่จี้ได้กลับพริบตากลับไปเป็นคำตอบ
"ท่านลุง ท่านสามารถบอกรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับสถานการณ์ภายในของราชวังเทวโลกได้หรือไม่? ข้า หมิงเยวี่ย และ ลิวลี่ รู้สึกราวกับว่าพวกเรากำลังลงอยู่ในที่ใดที่หนึ่งที่เราไม่ร็จัก "ชิงสุ่ยหัวเราะ
เฟย หวู่จี้ยิ้มขณะที่เขาค่อยๆเริ่มเล่าออกมา "จริงๆแล้วมีคนหลายคนที่ไม่ทราบเรื่องราวที่แท้จริงนี้ และความสัมพันธ์ที่ซับซ้อนของเก้าคฤหาสน์ภายในนิกายของเรา ถ้าเจ้าเข้าใจเรื่องราวภายในของหนึ่งในเก้าคฤหาสน์ แล้วเจ้าก็จะสามารถรับรู้เรื่องราวที่เหลือต่อไปได้ "
ชิงสุ่ยคิดถึงเรื่องอย่างละเอียดและเข้าใจว่าที่มีสาวกนับล้านคนอาศัยอยู่ในนิกาย จึงทำให้ที่นี้มีอำนาจอย่างมาก
"นั้นข้าจะเริ่มต้นจาก คฤหาสน์ดาราจันทราก่อน ถึงข้าจะเป็นผู้อาวุโสระดับสูงของที่นี้ก็ตามและท่านชาง หวู่ย่าเป็นสังฆราชของนี้"เฟย หวู่จี้ หัวเราะ
"ในช่วงเวลาที่ราชวังเทวโลกสร้างขึ้นผู้ก่อตั้งนั้นมีสาวกอยู่เก้าคน ซึ่งทั้งเก้าได้แยกออกมาสร้างคฤหาสน์เก้า ที่พวกเจ้ารู้จักในตอนนี้ อย่างไรก็ตามสาวกคนหนึ่งเป็นลูกชายของชายประมุขราชวังคนเก่า และสาวกอื่น ๆ อีก 8 คนจึงเลือกให้ลูกชายคนนั้นได้รับตำแหน่งประมุขคฤหาสน์สมบัติหลิงเซียวและทั้งหมดได้สาบานไว้ว่าทั้งพวกเขาและลูกหลานของพวกเขาจะไม่มีวันทรยศหอเทวะสมบัติหลิงเซียวไม่เพียงแค่นั้น แต่แม้แต่สาวกที่พวกเขาคัดเลือกก็จะถูกส่งผ่านไปยังคฤหาสน์สมบัติหลิงเซียวเพื่อพิจาณาในครั้งแรกก่อน "
นั้นแสดงว่าหอเทวะสมบัติหลิงเซียวน่าจะแข็งแกร่งที่สุดสินะ "ชิงสุ่ยถาม หลังจากเฟย หวู่จี่อธิบาย
"ในตอนแรกมันก็เป็นเช่นนั้น แต่หลังจากผ่านไปนับพันปี คฤหาสน์ทั้งแปด ได้ลุกขึ้นสู้กับคฤหาสน์สมบัติหลิงเซียวเพื่อแย่งชิงตำแหน่งของประมุขราชวังเทวโลก" เฟย หวู่จี้ถอนหายใจ
"อืมมม แล้วผลเป็นอย่างไร?" เรื่องราวดังกล่าวคุ้นเคยกับที่ชิงสุ่ยได้ยินมาเป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างคนรุ่นก่อนๆ อย่างไรก็ตาม มันก็เป็นเรื่องที่ยากที่จะควบคุมการทะเลาะและการต่อสู้ภายในระหว่างสมาชิกในยุคใหม่ เวลาอาจจะทำให้ทุกสิ่งนั้นเปลี่ยนแปลงไปและทำให้ทุกๆอย่างจบลง
"เห่ย ขณะนี้แม้ว่าดูผิวเผินแล้วคฤหาสน์สมบัติหลิงเซียวยังคงแข็งแกร่งที่สุด พวกเขาจะร่วมมือกับคฤหาสน์อื่นๆก็ต่อเมื่อกรณีที่มีภัยคุกคามจากภายนอกเท่านั้น ในช่วงเวลานั้นเป็นเวลาแห่งสันติภาพ แต่ในเวลาปกติมักมีความขัดแย้งระหว่างพวกเขากับคฤหาสน์อื่น ๆ ถึงแม้ประมุขหอเทวะสมบัติยังคงเป็นคนที่ได้รับตำแหน่งที่สืบทอดมากันมาตลอดชั่วอายุคนก็ตาม "
"และคฤหาสน์สมบัติหลิงเซียวยังคงได้รับการสืบทอดกันมาโดยตรงจากสายเลือดของผู้นำคนก่อนๆ แต่คฤหาสน์ทั้งแปดไม่ได้รับสืบทอดความสัมพันธ์ทางสายเลือด นอกเหนือจากนั้น คฤหาสน์ดาราจันทรา, คฤหาสน์เมฆา, คฤหาสน์ดารากรคฤหาสน์ดวงดาว ถูกปกครองโดยคนภายนอก และอีกสี่คฤหาสน์ยังได้ปกครองด้วยคนภายในอยู่ "
"แล้วระดับความแข็งแกร่งของแต่คฤหาสน์ละมันเป็นยังไงบ้าง?" ชิงสุ่ย รู้ว่าแต่ละคฤหาสน์แต่ละมีความลับและทักษะเฉพาะของตัวเองจึงส่งผลให้เกิดความแตกต่างในระดับความแข็งแกร่ง
"ถ้าอ่อนแอ่ที่สุดก็คือคฤหาสน์ดาราจันทราและคฤหาสน์เมฆา แต่ข้าไม่ค่อยรู้แน่ชัดเจนเกี่ยวกับความแข็งแกร่งของคฤหาสน์อื่นๆ " เฟย หวุ่จี้หัวเราะอย่างขมขื่น ขณะที่เขาตอบ