หน้าแรก Amnovel
  • หน้าแรก
  • นิยายทั้งหมด
  • เติมเงิน
  • ติดต่อเรา
ค้นหา
ค้นหาขั้นสูง
เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก
  • หน้าแรก
  • นิยายทั้งหมด
  • เติมเงิน
  • ติดต่อเรา
  • เข้าสู่ระบบ
เข้าสู่ระบบ
Prev
Next

เทพอสูรบรรพกาล -Ancient Strengthening Technique - AST บทที่ 291 – ทักษะต่อสู้ที่รุ่นแรง จู่โจม!

  1. หน้าแรก
  2. เทพอสูรบรรพกาล -Ancient Strengthening Technique
  3. AST บทที่ 291 – ทักษะต่อสู้ที่รุ่นแรง จู่โจม!
Prev
Next

ฝากติดตามเพจด้วยนะครับ แฟนเพจ แจ้งเตือนก่อนใคร กดเลย

https://www.facebook.com/AncientStrengtheningTechnique

 

บทที่ 291 – ทักษะต่อสู้ที่รุ่นแรง จู่โจม!

 

"พวกเจ้าคิดว่าเขาจะยอมรับคำท้าทายกงซุน เจี้ยนหยุ่น หรือไม่?" มีใครบางคนถามขึ้นมา

 

"กงซุน เจี้ยนหยุ่น อยู่ในระดับสูงสุดของปราณเทวะเซียนเทียน และคนที่มีความสามารถมากกว่าเขาก็มีเพียงลูกสาวคนโตของตระกูลกงซุนเท่านั้นเอง นางคือกงซุน เจี้ยนหวู่  และดูเหมือนว่าเขาจะเป็นคนที่จะได้รับสืบทอดผู้นำตระกูลต่อไปในอนาคต "ชายหนุ่มที่มีแผลเป็นที่น่ากลัวเป็นทางยาวที่ด้านซ้ายของใบหน้ากล่าว

 

"ดูการแสดงออกทางสีหน้าของเขา และท่าทางที่สงบนี้สิ ข้าคิดว่าเขาต้องรับคำท้าทายในครั้งนี้เป็นแน่ "คนหลายคนร่วมแสดงความคิดเห็น

 

ตอนนี้กงซุน เจี้ยนหวู่ได้ปรากฏตัวขึ้นในระยะไกลๆ ร่างกายที่งดงามที่ทรงเสน่ห์ และรอยยิ้มเล็กๆ ที่ปรากฏอยู่บนใบหน้าที่สวยงามของเธอมันได้ดึงดูดสายตาทั้งหมดไปทางนั้น

 

เธอได้จ้องมองที่ชิงสุ่ยจากระยะไกล แต่ในตอนนี้เขาได้ปิดตาลงและสงบนิ่งลงไปในห่วงแห่งสมาธิ

 

ตอนนี้มีผู้มารับชมจำนวนมากอัดแน่นเต็มลานประลอง แต่เขากับไม่ได้สนใจเกี่ยวกับมัน  ปราณของเขายังคงสงบนิ่งอยู่ พวกเขาได้นั้นดูคล้ายฝูงมดที่กำลังเดินอยู่รอบๆตัวเขา มันไม่สามารถทำให้เขานั้นสนใจได้เลย

 

ชิงสุ่ยรู้สึกประหลาดใจกับเรื่องนี้  ทำไมเขาถึงความมั่นใจเช่นนี้? หรือว่านี้คือความเย้อหยิ่งตัวของเขา? หรือมันเป็นแค่ความทะนงตัวเท่านั้น?

 

ชิงสุยได้เปิดตาของเขาขึ้น และมองเห็นฝูงชนที่กำลังจับจ้องมองมาที่เขา ความคิดเห็นต่างๆ ทั้งคำชมและนินทา บทสนทนาต่างๆได้ดังขึ้นไปถึงหูของเขา แต่เขาไม่สนใจเรื่องเหล่านี้ตราบใดที่พวกเขาไม่ได้ด่าทอถึงแม่ของเขา

 

ถ้าใครกล้าบังอาจกล่าวถึงแม่ของเขา เขาจะทำให้พวกมันนั้นหายสาบสูญไปและรู้สึกเสียกับใจกับมันที่กล้ากล่าวถึงแม่ของเขา

 

เขาได้เงยหน้าขึ้นมองไปที่ลานประลอง เขาได้มองเห็นรุ่นเยาว์ลายคนที่กำลังยื่นอยู่บนเวที แต่ในความเป็นจริงทุกคนที่นั้นมีอายุมากว่า 40 ปี แต่ยังถือว่าพวกเขายังคงเป็นรุ่นเยาว์ในโลกของเก้าทวีป

 

มีขายหนุ่มที่หล่อมากยืนอยู่  คิ้วของเขานั้นแหลมคมเหมือนดาบ และดวงตาของเขาก็สุกใสเหมือนดวงดาว เขามีจมูกที่แหลมคมบนใบหน้าขาวนวล เขานั้นมีหนวดเคราที่มุมทั้งสองของปาก ชิงสุ่ยยิ้มให้ชายคนนั้นที่มีท่าทางเยอหยิ่ง

 

ตอนนี้มันเป็นเวลาก่อนเที่ยง แต่ชิงสุ่ยก็ไม่ได้รีบร้อนขึ้นไปแต่อย่างไร  ตราบเท่าที่เขาเดินเข้าไปบนเวทีนี้ภายใน 2 ชั่วยาม ก็หมายความว่าเขานั้นยอมรับความท้าทายกงซุน เจี้ยนหยุ่น

 

"ชิงสุ่ย!" หมิงเยวี่ย และ ลิ่วลี่ มาถึงบริเวณนั้นแล้ว

 

"โอ้ทำไมพวกเจ้าถึงมาที่นี้?" ชิงสุ่ยยิ้มให้กับสาวสองคน ถึงแม้ว่าเขาจะไม่ได้จริงจังกับการประลองในครั้งนี้สักเท่าไร แต่เขาก็รู้สึกมีความสุขมากเมื่อทั้งสองนั้นมาให้กำลังใจเขา นี่เป็นแบบเดียวกับที่ครอบครัวของเขาปฏิบัติ

 

"เราจะไม่มาให้กำลังใจเจ้าได้ยังไง เมื่อวันนี้เจ้าจะประลองกับใครก็ไม่รู้? หรือว่าเจ้าจะไม่ต้องการให้พวกเรามาหา? "ลิ่วลี่ กล่าวว่าด้วยท่าทางที่เศร้าสร้อย เพราะใบหน้าที่เขาแสดงออกมานั้นไม่ได้แสดงออกถึงความสุขแต่อย่างใด

 

"ทำไมจะไม่ละข้าจะไม่มีความสุขได้ไงเมื่อได้เห็นผู้หญิงสองคนที่มีความงามซึ่งอาจทำให้เมืองและประเทศต่างๆเกิดความล่มสลายมาให้กำลังใจข้า"ชิงสุ่ยกล่าวและกอดเบา ๆที่ลิ่วลี่

 

เขาไม่ได้มีเจตนาร้ายในตอนนี้ มันเป็นแค่กอดที่อ่อนโยนเมื่อเขากอดลงไปที่ลิ่วลี่ มันเป็นการกอดอย่างใกล้ชิดและจริงใจ หัวใจทั้งสองของพวกเขาได้เต้นกันอย่างใกล้ชิด

 

พวกเขาได้กอดกันเพียงชั่วขณะเท่านั้น  แต่มันก็เป็นที่น่าพอใจอย่างมาก เขาปล่อยลิ่วลี่ออกจากอ้อมกอดอย่างช้าๆ แล้วหันไปมองทางหมิงเยวี่ย

 

เขากางแขนออกช้าๆ แต่ไม่มีปฏิกิริยาใด ๆเกิดขึ้นจากหมิงเยวี่ย เธอเพียงแค่ก้มหน้าลงและไม่กล้าที่จะมองไปที่ชิงสุ่ย ชิงสุ่ยกอดที่ร่างกายที่บอบบาง  แล้วค่อยๆเดินไปทางลานประลอง

 

แต่ในขณะนี้หญิงสาวที่ยืนอยู่ระยะไกลกำลังให้ความสนใจไปที่ชิงสุ่ย  คนรอบข้างไม่กล้าแม้ที่จะเข้าใกล้เธอ เธอยืนอยู่ที่นั่นอย่างเงียบๆ ร่างของเธอนั้นสูงโปร่งและมีเสน่ห์อย่างมาก

 

กงซุน เจี้ยนหวู่ ยิ้มเมื่อเห็นชิงสุ่ยมองไปในทิศทางของเธอ เธอไม่อาจลืมคำพูดของเขาก่อนที่เขาจะจากไปได้  ไม่มีใครเคยกล้าที่จะคุยกับเธอด้วยน้ำเสียงที่เยาะเย้ยเช่นนั้น

“ทุกคนในตระกูลกงซุนและครอบครัวของเจ้า ให้ความสำคัญกับเจ้าที่เป็นหลานสาวคนโตอย่างมาก มีแต่ข้าหรือที่ควรทรมาณ? อย่าทำกับคนอื่นในสิ่งที่เจ้าไม่อยากให้คนอื่นทำกับเจ้า” เธอคิดถึงคำพูดของชิงสุ่ย

 

เธอใช้ชีวิตที่หรูหราตั้งแต่ยังเยาว์วัย สิ่งที่เธอต้องการมักจะถูกประเคนเข้าสู่มือของเธอได้อย่างง่ายดาย เธอมักจะได้สิ่งที่ดีที่สุดและมีค่าที่สุดก่อนใครๆ ไม่มีใครกล้าที่จะโต้เถียงสิ่งที่เธอพูด

 

เธอนั้นมีพรสวรรค์อันล้ำค่าและมีรูปลักษณ์ที่สวยงาม  และเธอยังนั้นเป็นผู้นำสาวกของอาวุโสของคฤหาสน์ดาราจันทรา คนจำนวนมากใน คฤหาสน์ดาราจันทราต่างหลงใหลในตัวเธอ การได้เป็นทาสรับใช้เธอนั้นถือเป็นเกียรติอย่างมาก ดังนั้นผู้ชายจำนวนมากนับไม่ถ้วนก็เต็มใจที่จะเสี่ยงชีวิตของพวกเขาเพื่อเธอ

 

ท่าทางของชิงสุ่ย ทำให้เธอได้ตระหนักถึงการมีอยู่ของชายหนุ่มที่ไม่สนใจในตัวเธอและไม่เชื่อฟังคำพูดจองเธอ เธอชอบความรู้สึกแปลกประหลาดแบบนี้ เธอชอบความท้าทายเช่นนี้เพราะเธอไม่ชอบความรู้สึกของการได้ทุกสิ่งทุกอย่างมาอย่างง่ายดาย

 

ชิงสุ่ยได้มองไปที่กงซุน เจี้ยนหวู่ แล้วเดินผ่านเธอไป และได้เดินไปที่ลานประลอง เขาไม่เข้าใจความคิดของเธอที่อยู่เบื้องหลังรอยยิ้มนั้น  นั้นมันเป็นคำทักทายใช่มั้ย? หรือเธอหวังว่าข้าจะปล่อยน้องชายของเธอไปอย่างง่ายๆ?

 

เมื่อเขาเดินขึ้นไป มีคนข้างหน้าจ้องมองด้วยความรังเกียจ ชิงสุ่ยเข้าใจพวกเขานั้นคิดอะไร แต่เขารู้ว่าครอบครัวของชนชั้นสูงส่วนใหญ่ชอบมองคนที่อยู่ต่ำกว่าด้วยความดูถูก

 

มีข่าวลือหนาหูว่าเขาเป็นหลานชายของ ชาง หวู่ย่า เกือบทุกคนต่างเชื่อว่าทุกอย่างเกิดขึ้นมันต้องมีเหตุผลบางอย่างและต้องมีความจริงบางอย่างอยู่เบื้องหลังข่าวลือนี้

 

ตระกูลกงซุนนั้นรู้เกี่ยวกับสถานะของชาง หวู่ย่า ดังนั้นมันจึงทำให้ กงซุน เจี้ยนหยุ่น ดูถูกในสถานะในการมาเข้ามาของเขาอย่างมาก ชิงสุ่ยไม่ได้สนใจท่าทางทีดูถูกของเขา

 

มีบางชีวิตที่ทำงานอย่างหนักและอาศัยอยู่ในความเศร้าโศก!

 

มันก็เหมือนกับพีระมิด  คนที่ด้านล่างของฐานพีระมิดมักจะรับความกดขี่ข่มเหง พวกเขาต้องการเรียนรู้ที่จะใช้ชีวิตอยู่แม้จะต้องแบกรับความอับอาย  พวกที่อยู่บนยอดของพีระมิดไม่มีวันที่จะเข้าใจชีวิตที่ลำบากและความรู้สึกของผู้บ่มเพาะที่อยู่ในระดับอ่อนแอ มันเหมือนโลกที่แตกต่างกัน จนไม่สามารถที่จะเข้าใจได้   เช่นเดียวกับคนยากจนที่ไม่เคยเข้าใจวิธีชีวิตของคนรวย

 

"ทำไมเจ้าต้องทำให้พวกเรา และตระกูลกงซุนยุ่งยากด้วย?" กงซุน เจี้ยนหยุ่น ขมวดคิ้วและถามชิงสุ่ย ด้วยเสียงหัวเราะเมื่อพวกเขาอยู่ในเวที ชิงสุ่ยยิ้มให้เขา มันเป็นความรู้สึกที่ตลก เขาก็ไม่รู้ว่าทำไม แต่ชิงสุ่ยชอบคนแบบนี้ที่สุด

 

"เจ้าเป็นลูกชายคนโตของตระกูลกงซุน?" ชิงสุ่ย ถามด้วยความรังเกียจ เขาไม่เคยชอบให้คนที่มักใช้คำพูดเหยียดหยาม

 

"แน่นอนว่าไม่ ทำไมเจ้าถึงถาม? "กงซุน เจี้ยนหยุ่น ถามออกมา แต่ท่าทางของเขายังคงอวดดี

 

"แล้วทำไมเจ้าถึงยืนอยู่ที่นี่ด้วยความโง่เขลาเช่นนี้? เจ้ารู้อะไรบ้าง? เจ้าคิดว่าเจ้านั้นเก่งกาจมาเลยรึ? เจ้าคิดว่าเจ้ามีความสามารถที่จะท้าทายคนอื่นได้อย่างนั้นรึ "ชิงสุ่ยกล่าวด้วยรอยยิ้ม

 

"ทั้งหมดนี้ก็เพื่อที่จะเอาชนะเจ้า!" กงซุน เจี้ยนหยุ่นกล่าวอย่างเป็นธรรมชาติ

 

โทนเสียงที่เขาพูดกับชิงสุ่ยนั้นเป็นสิ่งที่เป็นธรรมชาติอย่างมาก  มันทำให้ชิงสุ่ยรู้สึกรำคาญอย่างมาก รอยยิ้มอันเย้ายวน ทำให้กับชิงสุ่ยถึงกับพูดไม่ออก

 

เขาเป็นคนหยิ่งหรือเขาเป็นคนปัญญาอ่อนกันแน่?

 

"เจ้าเคยคิดไหมว่าจะเกิดอะไรขึ้นถ้าเจ้าไม่สามารถเอาชนะข้าได้" ชิงสุ่ยยิ้มแย้ม

 

กงซุน เจี้ยนหยุ่นรู้สึกหดหู่แล้วส่ายหัวว่า "ไม่มีทางเป็นไปได้ ข้ามั่นใจได้ว่าจะได้ชัยชนะในครั้งนี้ "เสียงของเขานั้นมั่นใจว่าเขา สามารถเอาชนะชิงสุ่ย

 

"อัจฉริยะทุกคนมีความมั่นใจในตัวเองสินะ?" ชิงสุ่ยไม่สามารถหยุดคิดได้  กงซุน เจี้ยนหยุ่นนับได้ว่าเป็นอัจฉริยะ  บางทีอาจจะเป็นเพราะชื่อเสียงนี้ของเขาที่ทำให้เขาภูมิใจมากเกินจนหยิ่งผยอง

 

ชิงสุ่ย ไม่ต้องการพูดอะไรอีก การพูดคุยกับบุคคลประเภทนี้ ทำให้เลือดในร่างกายของเขาเดือดขึ้น ทำไมต้องทำในสิ่งที่ยากด้วย ชิงสุ่ยยืนอยู่อย่างเงียบที่นั่นและพยักหน้าเขา

 

กงซุน เจี้ยนหยุ่น ดึง "กระบี่ออกมา" เป็น "มันเป็นกระบี่ยาว" ความยาวของมันยาวประมาณสามฟุต แต่มันจะดูคล้ายสว่านมากกว่ากระบี่  ด้ามของกระบี่นั้นกว้างอย่างมาก  ปลายของมันไม่ได้มีลักษณะเหมือนปลายของกระบี่แต่อย่างใด

 

"หยิบอาวุธของเจ้าขึ้นมา!" กงซุนเจียนหยุ่นเตือน เขาเมื่อเขามองไปที่มือที่ว่างเปล่าของชิงสุ่ย

 

"ไม่จำเป็น. รีบเขามา "ชิงสุ่ยกล่าวอย่างสงบ

 

คำพูดของชิงสุ่ยเป็นเหมือนหินที่ถูกโยนลงไปในน้ำและมันทำให้เกิดคลื่นสะท้อนมากมาย! ทันทีที่ทุกคนรอบๆลานประลองได้ยินเขาพูด

 

"บ้าไปแล้ว! เขาคิดว่าเขาอยู่ในระดับเทวะกษัตริย์หรืออย่างไร? "มีเสียงตะโกนออกมา

 

 

"นี่สินะที่เค้าเรียกว่าศักดิ์ศรีลูกผู้ชาย! เขามีความคิดที่กล้าแกร่งจริงๆ! เขาเข้มแข็งอย่างมาก! ถ้าเขาสามารถรอดไปได้วันนี้ข้าจะแต่งงานกับเขา "หญิงสาวที่แต่งชุดยั้วยวนพูดเล่น

 

"ลืมมันไปซะ. แม้ว่าเขาจะสามารถรอกชีวิตไปได้ แต่ข้าค่อนข้างมั่นใจว่าเขาคงจะไม่เอาหญิงสาวอย่างเจ้า หญิงสาวที่อยู่ในห้องของผู้ชายคนอื่นทุกๆวัน "ชายคนหนึ่งพูดด้วยความรังเกียจ

 

"ความอับอายขายหน้านี้เหมือนกับเธอได้ได้ลิ้มรสผลไม้รสเปรี้ยว แม้ว่าข้าจะเปลี่ยนชายไม่ซ้ำหน้าในชีวิตแต่ละวัน แต่เจ้าก็ยังคงไม่ได้รับโอกาสเช่นนั้น! "หญิงสาวคนนั้นเยาะเย้ย

 

"เจ้าอยากตายรึ!"เขาเริ่มโกรธ

 

"ข้ากล้าพนัน ถ้าเจ้าทำเช่นนั้นมาดูสิว่าเจ้าจะมีชิวิตได้อีกกี่วัน "หญิงสาวมองเขาอย่างรังเกียจมากขึ้น

 

ชายคนนั้นได้เงียบลง !

 

 

 

……………………………………………………………

 

 

 

ในตอนนี้ใบหน้าของ กงซุน เจี้ยนหยุ่น แดงกล่ำไปด้วยความโกรธ เขายืนมองอีกฝ่ายที่มีความหล่อเหล่าอยู่ด้วยความตะลึง   ชายที่ยืนตรงข้ามเขานั้นมีอายุน้อยกว่าเขาแน่นอน มีคนที่อายุน้อยกว่าไม่มีกี่คนที่สามารถชนะเขาได้และคนพวกนั้นก็มีอายุใกล้เคียงกับเขา

"เจ้าเป็นเป็นคนแส่หาเรื่องตายเองนะ อย่ามาโทษข้า!"

 

กงซุนเจี้ยนหยุ่น ตะโกนออกมาแล้วก็ขยับตัวไปพร้อมกับกระบี่ของเขา เขาใช้ทักษะย่างก้าวอำพรางเมฆของวังเทวโลก แม้ว่ามันจะดูรวดเร็วในสายตาของคนทั่วไป แต่มันไม่ได้เป็นเช่นนั้นในสายตาของชิงสุ่ย สำหรับเขาที่ผสานทักษะย่างก้าวอำพรางเมฆ กับ ก้าวขจัดวิญญาณในช่วงสองวันที่ผ่านมาและเขาได้ฝึกซ้อมอย่างบ้าคลั่งเป็นเวลา 1 เดือนในดินแดนหยกยุพราชอมตะ

"ช้า! ช้าเกินไป! "ชิงสุ่ยส่ายไปที่เงาของฝ่ายตรงข้าม ชิงสุ่ยรู้ว่านี่เป็นเพราะเขาคุ้นเคยกับ ทักษะย่างก้าวอำพรางเมฆมากแล้ว หลังจากที่ทุกอย่างเขาได้ฝึกฝนนับครั้งไม่ถ้วน

 

ชิงสุ่ย ส่ายหน้าและขยับตัวออกไป นอกจากนี้เขายังใช้ทักษะย่างก้าวอำพรางเมฆ มันไม่ได้มีอะไรที่พิเศษเพียงแค่มันนั้นรวดเร็วอย่างมาก จนทำให้คนอื่นนั้นงวยงงกับความเร็วดังกล่าว

 

ในตอนนี้ชิงสุ่ยได้ใช้รูปแบบพยัคฆ์ออกมา จากความรู้ที่เขาได้รับจากจารึกพยัคฆ์บนอนุสรณ์สถานศิลาหิน ทำให้รูปแบบพยัคฆ์ของเขานั้นทรงพลังขึ้น มันนั้นประสิทธิภาพยิ่งขึ้นและเป็นที่น่าประทับใจอย่างมาก

 

พยัคฆ์ทะลายคีรี!

 

ชิงสุ่ย เร่งปราณในร่างให้ขึ้นสู่จุดสูงสุดภายในระยะเวลาเพียงชั่วครู่และตรงไปยัง กงซุน เจี้ยนหยุ่น ด้วยย่างก้าวอำพรางเมฆของเขา เขาได้ทุบลงไปบนไหล่ของกงซุน เจี้ยนหยุ่น และตามโดยกระบวนท่าไทชิ!

 

กร๊อกกก!

 

เกิดเสียงกระดูกหักแตกออกจากกันอย่างเห็นได้ชัดแจ้ง! กงซุน เจี้ยนหยุ่นถูกโยนออกมา จากผลกระทบอันทรงพลัง แต่นุ่มนวลจากไทชิของชิงสุ่ยลอยไปในทิศทางที่กงซุน เจี้ยนหวู่ยืนอยู่

 

ชิงสุ่ยยืนอยู่ในที่เกิดเหตุและมองไปที่ กงซุน เจี้ยนหยุ่นที่กำลังดิ้นรนเพื่อลุกขึ้นยืน  ข้างๆกงซุน เจี้ยนหวู่

 

กงซุน เจี้ยนหวู่รีบตรวจสอบอาการของกงซุน เจี้ยนหยุ่น และก็ค้นพบว่ากระดูกหักของเขาได้หักลง เขาต้องใช้เวลาในฟื้นตัวเกือบๆหนึ่งเดือน จากรูปลักษณ์ของเธอตอนนี้ แสดงออกถึงความห่วงใยเขาอย่างมาก

 

"ขอบคุณสำหรับที่เจ้ายั้งมือ!" เธอกล่าวอย่างจริงใจกับชิงสุ่ยด้วยรอยยิ้ม

Prev
Next

ความคิดเห็นสำหรับ "AST บทที่ 291 – ทักษะต่อสู้ที่รุ่นแรง จู่โจม!"

4 15 โหวต
คุณชอบเรื่องนี้ไหม?
ติดตาม
เข้าสู่ระบบ
แจ้งเตือนของ
กรุณาเข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่คุณอาจชอบ

ลุงหนวดที่ทรงพลัง
ลุงหนวดที่ทรงพลัง
กรกฎาคม 28, 2022
The Soul Purchasing Pirate
The Soul Purchasing Pirate
มิถุนายน 19, 2024
3d07e6908d2216d
ข้าคือราชา “จอมขุด”
ธันวาคม 5, 2022
สาวน้อยปลูกผัก ( Transmigration with QQ Farm )
สาวน้อยปลูกผัก ( Transmigration with QQ Farm )
มีนาคม 12, 2022
Reincarnation of the Heaven
Reincarnation of the Heaven
มีนาคม 12, 2022
HxH: God of Choice System
HxH: God of Choice System
ธันวาคม 1, 2023
Tags:
กำลังภายใน
ประวัติการเข้าชม
You don't have anything in histories
หมวดหมู่นิยาย
  • sci-fi (24)
  • Video Games (11)
  • กำลังภายใน (36)
  • จีนกำลังภายใน (1)
  • ดราม่า (3)
  • ตลก (3)
  • นิยายลิขสิทธิ์ (18)
  • นิยายแต่ง (3)
  • ย้อนยุค อนาคต (7)
  • สยองขวัญ (2)
  • เกมส์ออนไลน์ (5)
  • แฟนตาซี (161)

© 2025 Madara Inc. All rights reserved

Premium Chapter

คุณจำเป็นต้องเข้าสู่ระบบก่อน

wpDiscuz