หน้าแรก Amnovel
  • หน้าแรก
  • นิยายทั้งหมด
  • เติมเงิน
  • ติดต่อเรา
ค้นหา
ค้นหาขั้นสูง
เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก
  • หน้าแรก
  • นิยายทั้งหมด
  • เติมเงิน
  • ติดต่อเรา
  • เข้าสู่ระบบ
เข้าสู่ระบบ
Prev
Next

เทพอสูรบรรพกาล -Ancient Strengthening Technique - AST บทที่ 290 – ทิพย์เหมันต์ อย่าทำอะไรกับคนอื่น ในสิ่งที่เจ้าไม่อยากให้คนอื่นทำกับเจ้า

  1. หน้าแรก
  2. เทพอสูรบรรพกาล -Ancient Strengthening Technique
  3. AST บทที่ 290 – ทิพย์เหมันต์ อย่าทำอะไรกับคนอื่น ในสิ่งที่เจ้าไม่อยากให้คนอื่นทำกับเจ้า
Prev
Next

ฝากติดตามเพจด้วยนะครับ แฟนเพจ แจ้งเตือนก่อนใคร กดเลย

https://www.facebook.com/AncientStrengtheningTechnique

บทที่ 290 – ทิพย์เหมันต์ อย่าทำอะไรกับคนอื่น ในสิ่งที่เจ้าไม่อยากให้คนอื่นทำกับเจ้า

 

เมื่อถึงจุดหมายปลายทางของพวกเขา ชิงสุ่ยเอื้อมมือออกไปจับที่มือของลิ่วลี่ และยิ้มออกมาขณะที่พวกเขากำลังอยู่ท่ามกลางแสงจ้าสีทอง

 

ชางห่าย หมิงเยวี่ยเต็มไปด้วยรอยยิ้มที่ด้านข้าง ขณะที่ ลิ่วลี่โกรธเล็กน้อย "ชิ  เจ้าจะไม่ชมข้าสักหน่อยหรอ?"

 

ลิ่วลี่ ขยับไปมาเล็กน้อยอย่างช้าๆ มันเป็นภาพที่แสนงดงาม  “ทักษะดังกล่าวมันนั้นมีคุณสมบัติที่ดีในการลอบจู่โจม แต่พวกเจ้าต้องระมัดระวังอย่างมากเมื่อใช้ทักษะนี้กับฝ่ายตรงข้าม  สถานะของพวกเจ้าจะถูกเปิดเผย แต่อย่างน้อยทักษะดังกล่าวก็สามารถที่สร้างบาดแผลหรืออันตรายให้อีกฝ่ายได้ "ชิงสุ่ยยิ้มอย่างนุ่มนวลและกล่าวว่า

 

"อือออ, ก่อนหน้านี้ผู้อาวุโสบอกข้าแล้ว แต่ ข้าเพียงแค่ต้องการที่จะแสดงมันออกมาเพียงเล็กน้อยให้เจ้าดูเท่านั้น  เพื่อที่จะให้เจ้ากล่าวชมข้าเท่านั้น  ถึงแม้เจ้าจะไม่ชมข้าก็ตาม "ลิ่วลีกล่าวอย่างขมขื่น

 

ในขณะนั้นชาง หวู่ย่าได้มองไปที่พวกเขา เขานั้นเต็มไปด้วยรอยยิ้ม หลังจากที่ทั้งสามคนได้แสดงทักษะ ย่างก้าวอำพรางเมฆออกมา  และเขาก็ได้ยิ้มอย่างกว้างขึ้น  โดยเฉพาะเมื่อเห็นชิงสุ่ยใช้ย่างก้าวอำพรางเมฆ ๆของ ชิงสุ่ยมีความประหลาดอย่างมากเมื่อเขาใช้มัน ทักษะของเขานั้นแตกต่างกับคนอื่นๆ

 

อาจเป็นเพราะเขามีพรสวรรค์ที่ยอดเยี่ยมจึงทำให้มันมีความประหลาดที่แตกต่างกับคนอื่นๆ อย่างไรก็ตามหลังจากที่เขาคิดถึงเรื่องนี้เขาได้หยุดที่จะคิดเกี่ยวกับมันลง  ชิงสุ่ยนั้นมีความสามารถที่ยิ่งใหญ่และมันจึงทำให้เขามักเหนือกว่าคนอื่นๆ

 

วันนี้ทั้งสามคนยังคงเรียนรู้ทักษะย่างก้าวอำพรางเมฆต่อ พวกเขาไม่ได้โลภที่จะเรียนทุกๆอย่าง เพราะมันจะไม่สามารถทำให้พวกเขาสำเร็จอย่างใดอย่างหนึ่งได้  นั่นเป็นเหตุผลที่ ชาง หวู่ย่า ไม่ได้พูดอะไรมากนักในตอนนี้ เขาได้แต่มองไปที่พวกเขาจากด้านข้าง โดยที่เขาได้ให้คำแนะนำในจุดที่บกพร่องให้แก่พวกเขามันทำให้พวกเขาใช้เวลาน้อยในการทำความเข้าใจ

 

วันนี้ชิงสุ่ยได้วางแผนที่จะมุ่งหน้าไปยังบริเวณอนุสรณ์สถานศิลาหิน แต่เขาก็ตัดสินใจที่จะไม่ไปที่นั้น มันยังไม่ใช่เวลาที่เหมาะสมในตอนนี้  อย่างไรก็ตามนี้เขาก็มาถึงที่ด้านหลังของภูเขาแล้วในขณะนี้

 

"ลืมไปซะ ซักวันข้าจะมาเอามันไป ในเมื่อวันนี้เป็นวันหยุดของข้าๆขอเดินรอบๆแถวนี้แล้วกัน " ชิงสุ่ยหาข้ออ้างให้ตัวเองไปยังทิศทางตรงกันข้ามจากบริเวณอนุสรณ์สถานศิลาหิน ด้านหลังของภูเขาเป็นพื้นที่รกร้างแม้ว่าจะมีความกว้างใหญ่มากนัก อย่างไรก็ตามที่ตรงนี้เป็นที่เหมาะที่จะมีคู่รักมานัดพบ

 

ระหว่างทางเดินเขาประหลาดใจอย่างมาก มีคู่สามีภรรยาได้เดินรุกลึกเข้าไปในพื้นที่ห่างไกลในพื้นที่ห่างไกล ชายคนนั้นใช้ร่างกายที่แข็งแกร่งของเขาอุ้มหญิงสาวที่มีขนาดตัวที่เล็กขึ้น เธอนั้นมีผิวขาวหยกสวยงาม พวกเขานั้นกำลังสัมผัสกันอย่างใกล้ชิด พวกเขากำลังผ่านชิงสุ่ยไป

 

แต่เนื่องจากการปรากฏตัวอย่างฉับพลันของชิงสุ่ย ผู้ชายคนนี้ได้ตกใจและหยุดการกระทำของเขาลง ชายคนนั้นจ้องมองไปที่ชิงสุ่ยด้วยความโกรธและปิดกั้นร่างกายเปลือยเปล่าของสุภาพสตรีด้วยตัวเขา

 

ชิงสุ่ยรีบขอโทษทันทีและจากไปอย่างรวดเร็ว เขาคิดว่า "มันคงจะดีกว่าถ้าข้าไม่ไปรบกวนเขา เขาคงไม่สามารถอยู่ในท่าทางนั้นได้ตลอด ข้ารู้สึกเสียใจมากจริงๆ ที่ไปขัดขวางระหว่างพวกเขาแล้ว "

 

มีพืชปกคลุมอยู่อย่างหนาแน่นบนเนินเขาที่รกร้างแห่งนี้ ซึ่งมันเป็นเหตุผลที่ทำให้คนส่วนใหญ่ใช้ที่นี้เป็นสถานที่นัดเจอกัน พวกเขามันจะทำเรื่องอย่างว่ากันในที่ลับตาหรือบริเวณก้อนหินขนาดใหญ่เช่นคู่จากก่อนหน้านี้

 

นอกเหนือจากกินผู้ชายก็คิดแต่เรื่องผู้หญิงกับเรื่องอย่างว่าเท่านั้นนั้นเป็นเรื่องที่สำคัญที่สุดของผู้ชาย  ชิงสุ่ยยิ้มส่ายศีรษะ ขณะที่เขากำลังมุ่งหน้ากลับ เขาเห็นการป่าสนที่มีขนาดใหญ่มากในระยะไกล

 

สถานที่ตรงนั้นดีมากทีมันเป็นจุดที่สูงที่สุด และมีต้นสนสองใบตั้งอยู่กิ่งก้านของพวกมันได้แพร่กระจายปกคลุมล้อมรอบทุกๆอย่าง ในบริเวณนั้น

 

แต่ในขณะนั้นสิ่งที่ดึงดูดชิงสุ่ยคือสิ่งที่อยู่บนกิ่งก้านที่ดูคล้ายน้ำค้างแข็งสีขาว ขณะที่พวกมันนั้นดูสวยงามมาก ชิงสุ่ยได้ตรงไปที่ป่าสนโดยไว

 

มันคือน้ำแข็ง?

 

ทันใดนั้นคำว่าน้ำทิพย์เหมันต์ปรากฏขึ้นในใจของชิงสุ่ย "สิ่งขาวๆบนกิ่งไม้สนนี้ใช้น้ำทิพย์เหมันหรือไม่?"

 

"ข้าสามารถเรียกเจ้าว่าที่รักได้มั้ย?" เสียงที่เย้ายวนและกึกก้องดังออกมาจากที่ไหนสักแห่งซึ่งไม่ไกลหรือไกลจากเขา

 

ชิงสุ่ย รู้สึกประหลาดใจ เมื่อตอนที่เขามาที่นี่เขาได้สัมผัสกับความยิ่งใหญ่ของต้นสนนี้ จนทำให้เขาไม่ได้ทันสังเกตเห็นว่ามีใครอยู่ใต้ต้นสนนั้น

 

อย่างไรก็ตามเขาสามารถบอกเสียงนั้นเป็นของใคร เขาจ้องไปที่ต้นกำเนิดของเสียง และในขณะที่เขารู้สึกประหลาดใจอย่างมาก เมื่อหันศีรษะไปมองกลับแสดงท่าทางที่เป็นปกติออกมา

 

กงซุน เจี้ยนหวู่!

 

เธอเป็นผู้หญิงที่ส่งจดหมายท้าทายมาให้เขาก่อนหน้านี้ เธอนั้นมีกลิ่นอาคล้ายกับปิศาจจิ้งจอก วันนี้เธอแต่งตัวในชุดกระโปรงสีดำที่รัดรูป ทำให้เห็นเส้นโค้งที่ยอดเยี่ยมที่มีทรงเสน่ห์หน้าหลงใหล ควบกับดวงตาคู่สวยที่สามารถดึงดูดจิตวิญญาณของเหล่าผู้พบเห็นได้ และเส้นโค้งของรอยยิ้มที่อ่อนหวานของเธอก็มีเสน่ห์มากเช่นกัน!

 

ริมฝีปากสีแดงของเธอซึ่งห่างออกไปเล็กน้อยเผยให้เห็นว่ามีฟันสีขาวหิมะที่สวยงาม เมื่อชิงสุ่ยได้เห็นภาพดังกล่าวเขารีบหันหน้ากลับมา  เขากลัวที่จะแสดงท่าทางโง่เง่าของตัวเองออกไป ความงามของหญิงสาวคนนี้ช่างดึงดูดอย่างมากและกลิ่นอายที่ไหลออกมาจากทั่วร่างกายของเธอแสดงให้เห็นว่าเธอได้รับการฝึกฝนมาเป็นอย่างดี

 

ชิงสุ่ย รู้ว่าสุภาพสตรีคนนี้เป็นผู้หญิงที่มีความงามที่สามารถทำให้การเกิดการล่มสลายของอาณาจักรได้ และเป็นตัวปัญหา หากเทียบกับบันทึกประวัติศาสตร์ของสามก๊ก, เธอคือเตียวเสี้ยนดีๆนั้นเอง

 

ชิงสุ่ย ตระหนักว่าเขานั้นไม่ได้มีความประทับใจกับผู้หญิงคนนี้เท่าไร เขานั้นเคยถูกขับไล่ออกไปโดนเธอมาก่อน และเขารู้สึกว่าเธอนั้นไม่ใช่หญิงสาวที่ดีเท่าไร

 

หญิงสาวสวยงามเช่นนี้ น่าจะเป็นคู่เคียงที่ดีกับหนุ่มชายเมื่ออยู่บนเตียง แม้แต่ชิงห่าน ยี่ก็ยากที่จะชนะเธอ ในขณะที่หญิงสาวคนนี้ไม่มีร่างกายศักดิ์สิทธิ์ กายานพเก้าเช่นเดียวกับห่านชิง ยี่ แต่ความสามารถในการดึงดูดและการล่อลวงผู้ชายก็ไม่ด้อยไปเลย

 

 

"ทำไมเจ้าถึงมาที่นี่?" ชิงสุ่ยถามกลับโดยไม่ตอบคำถามของเธอ เขาไม่ต้องการมีส่วนเกี่ยวข้องกับเธอ นอกจากนี้เขายังอยู่ในสถานะที่ไม่ค่อยดีกับตระกูลกงซุนของเธออยู่ด้วย

 

"ฮ่าๆ ที่นี้เป็นที่รู้กันดีว่าเป็นพื้นที่ส่วนตัวของข้า!" เธอกล่าว ท่าทางของชิงสุ่ยในตอนนี้ได้แสดงออกถึงความเย็นชา  กงซุน เจี้ยนหวู่ไม่สนใจเรื่องนี้แม้แต่อย่างน้อย แต่กลับเธอยังยิ้มสดใสเหมือนดอกไม้ออกมา

 

เธอชอบที่จะเห็นการจ้องมองของชิงสุ่ย  เธอนั้นรู้ความสุขเมื่อได้ยินคำพูดที่เย็นชาของเขา เป็นเพราะไม่มีเคยใครปฏิบัติต่อเธออย่างนี้มาก่อน

 

"ป่าต้นสนหลังเขาแห่งนี้เป็นพื้นที่ส่วนตัวของเจ้างั้นหรอ?" ชิงสุ่ย งงงวย

 

"ถูกต้อง วังเสน่หาให้สถานที่นี้เป็นรางวัลเป็นแก่ข้า ทุกคนใน คฤหาสน์ดาราจันทรา รู้เรื่องนี้ดี "รอยยิ้มของเธอเปลี่ยนไปและเสียงที่หยาบกระด้างของเธอถูกส่งออกมา

 

ถึงตอนนี้ชิงสุ่ยจะดูมีความสุข แต่เขานั้นกำลังทรมาณอยู่

 

ทำไมเจ้าถึงต้องการป่าต้นสนด้านหลังของภูเขาด้วยละ? ชิงสุ่ยถาม

 

"เพื่อการบ่มเพาะ!" กงซุน เจี้ยนหวู่ กล่าวอย่างตรงไปตรงมา

 

"เจ้าต้องการดูดซับปราณจากน้ำทิพย์เหมันต์ในที่นี้ใช่มั้ย? ชิงสุ่ยถามด้วยความสนใจ

 

"น้ำทิพย์เหมันต์? อืม เจ้าก็รู้ดีว่าข้ามาที่นี้เพื่อดูดซับพลังปราณนี้! "

 

"โอ้ เจ้ารู้ไหมว่าต้นไม้นี้อายุเท่าไหร่?" ชิงสุยคิดและถามอย่างรวดเร็ว

 

"ข้าคิดว่ามันคงมีอายุสัก 3000 ปี!" กงซุน เจี้ยนหวู่ กล่าวขณะที่เธอมองไปที่ชิงสุ่ยด้วยความงงงวย

 

"แย่มาก ๆ แม้มันจะมีอายุกว่า3000ปี แต่น้ำทิพย์ที่ได้กับมีคุณภาพต่ำเท่าๆกับสมุนไพรที่อายุมากกว่า 1000 ปีเท่านั้น "ชิงสุ่ยคิดกับตัวเอง

 

"อืม งั้นข้าออกไปแล้ว ข้าไม่รบกวนเจ้าแล้ว!" ชิงสุ่ย รู้สึกว่าเขาพูดมานานพอกับผู้หญิงคนนี้

 

"อือ ก่อนจะไป ข้าขอช่วยอะไรสักอย่างได้ใหม่?"  แม้กงซุน เจี้ยนหวู่กำลังขอร้องเขาอยู่ แต่การแสดงออกและเสียงของเธอกับเงียบสงบและเป็นธรรมชาติราว

 

"ช่วยหรือ?" ชิงสุ่ย ถามอย่างงงงวย

 

"ถ้าเจ้าสามารถเอาชนะน้องชายคนที่สองของข้า  ข้าหวังว่าเจ้าจะปล่อยเขาไปและไม่ทำร้ายเขา ได้ไหม?"กงซุน เจี้ยนหวู่กล่าวอย่างจริงจัง

 

"นั้นเจ้าก็บอกกับน้องชายคนที่สองข้าเจ้าอย่าทำร้ายข้าสิ?" ชิงสุ่ยถามอย่างใจเย็นและมองไปที่ใบหน้าที่สวยงาม ซึ่งดูหายใจติดขัดมากขึ้น เมื่อรู้สึกเครียด

 

"ข้า…"

 

"สมาชิกจากตระกูลกงซุนของเจ้า ให้สำคัญกับครอบครัวของกับเจ้าอย่างมากนะ แต่ข้าก็ไม่สามารถรอจนกว่าจะถูกรังแกได้? อย่าทำอะไรกับคนอื่น ในสิ่งที่เจ้าไม่อยากให้คนอื่นทำกับเจ้าสิ " ชิงสุ่ยกล่าวว  เขายิ้มและหันจากไปทิ้ง

 

"อย่าทำอะไรกับคนอื่น ในสิ่งที่เจ้าไม่อยากให้คนอื่นทำกับเจ้าสิ… "

 

เมื่อชิงสุ่ยกลับมาที่บ้านของเขาท้องฟ้าก็มืดไปหมดแล้ว ทุกๆครั้งที่เขาผ่านบ้านของ เยียน หลิงเก้อ ก็ไม่สามารถหยุดคิดถึงสาวที่แสนบริสุทธิ์และน่ารัก มันเป็นเรื่องเศร้าที่เขาจะต้องสร้างความเดือดร้อนให้เธอในอนาคต  เมื่อคิดถึงเรื่องนี้,เขามักจะคิดว่า ตระกูลเยียนนั้นเกินเยียวยาแล้ว

 

ชิงสุ่ยพยายามอย่างหนักเพื่อปล่อยวางความรู้สึกเครียดแค้นนี้ แต่บางครั้งมันก็ยากที่จะลืม กว่าความปรารถนาของเขาจะสำเร็จเขาคงจะต้องใช้เวลาอีกหลายสิบปีหรือแม้กระทั่งทั้งชั่วชีวิตของเขา

 

ในพริบตาก็ผ่านไปสองวันแล้ว ในช่วงสองวันที่ผ่านมาชิงสุ่ยยังคงมุ่งหน้าไปยังสถานที่ของ ชาง หวู่ย่าเพื่อฝึกฝน ย่างก้าวอำพรางเมฆ และในวันนี้เขาได้เข้าไปในดินแดนหยกยุพราชอมตะในตอนกลางคืนเพื่อฝึกซ้อม

 

เขาสามารถประสบความสำเร็จในระดับ 'ส่องใจ' สำหรับ ทักษะย่างก้าวอำพรางเมฆ   ซึ่งถ้ามีใครบางคนที่สามารถเข้าถึงระดับนี้ได้ภายในเวลาเพียงหนึ่งเดือนมันทำให้คนอื่นๆตกใจจนขากรรไกรค้างได้ แต่อย่างไรก็ตามชาง หวู่ย่ากลับพบสิ่งที่น่าอัศจรรย์มากกว่านั้น เขาพบว่าชิงสุ่ยนั้นสามารถไปถึงระดับดังกว่าได้ในเวลาสองวัน …

 

ดินแดนแห่งปัญญาของโลกเก้าทวีปนั้น ถูกแบ่งออกเป็นผู้เริ่มต้น เชียวชาญ ส่องใจ  ปรมาจารย์  บรรพบุรุษ กระจ่างจิต จิตซ้อนเร้น เทวะสวรรค์  และเทวะพินิจ! แต่ละดินแดนถูกแบ่งแยกออกไปเป็น ระดับพื้นฐาน ระดับสามัญ  ระดับผู้เชี่ยวชาญ และระดับผู้บรรลุ!

 

อย่างไรก็ตามเทคนิคการเลียนแบบสัตว์อสูรเก้าชนิดของชิงสุ่ยเป็นทักษะที่ไม่สามารถใช้ระดับในโลกเก้าทวีปตัดสินได้ มันแบ่งออกเป็น ประสบความสำเร็จในระดับขั้นแรก ประสบความสำเร็จระดับยิ่งใหญ่ และประสบความสำเร็จในระดับสมบูรณ์แบบ อย่างไรก็ตามชิงสุ่ย รู้สึกว่าดินแดนแห่งสัจธรรมของทักษะเลียนแบบสัตว์อสูรเก้าชนิดน่าจะใกล้เคียงกับดินแดนกระจ่างจิตในโลกของเก้าทวีป

 

ในตอนเช้าเมื่อเขาตื่นขึ้นมา เขาก็ลุกขึ้นและมุ่งหน้าไปที่ลานประลองเพื่อเริ่มฝึกซ้อมในตอนเช้า วันนี้เป็นวันที่เขาต่อสู้กับ กงซุน เจี้ยนหยุ่น จากตระกูลกงซุน ในโลกนี้เมื่อฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งได้ท้าทายอีกฝ่ายหนึ่งไม่ว่าจะเห็นด้วยหรือไม่ก็ตามผู้ท้าชิงจะปรากฏขึ้นให้ตรงต่อเวลาและที่สถานนัดหมาย คนที่ท้าทายต้องมาภายในเวลาสองชั่วยาม ถ้าไม่มาหรือมาช้ากว่านั้นจะถูกติดสินและโดนริบของพนัน

 

ตอนนี้ชิงสุ่ย กำลังฝึกฝนในตอนเช้าอยู่ เขาทำราวกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น ในขณะที่กงซุน เจี้ยนหยุ่นกำลังรออยู่ใกล้ ๆลานประลองตราบใดที่ ชิงสุ่ย ย่างก้าวขึ้นไปบนเวที การต่อสู้ครั้งนี้จะเริ่มขึ้นในทันที จะไม่มีใครรับผิดชอบชีวิตของพวกเขาได้อีกต่อไปและไม่มีใครที่สามารถปกป้องพวกเขาได้อีกต่อไป นี่คือความโหดร้ายของการท้าทายในโลกแห่งนี้

 

ถ้าเขาไม่ยอมรับคำท้า เขาจะถูกเรียกว่าคนขี้ขลาดและไม่สามารถมองหน้าใครติดได้อีกต่อไป  และเมื่อยอมรับคำท้า ผลลัพที่เกิดจะขึ้นอยู่กับฝ่ายที่ชนะ คนชนะจะเป็นคนตัดสินให้อีกฝ่ายมีชีวิต พิการหรือตายก็ได้

ยังมีเวลาก่อนการต่อสู้เริ่มขึ้น ชิงสุ่ยไม่ได้ขึ้นไปบนเวที ในขณะที่กงซุน เจี้ยนหยุ่นที่อยู่บนเวทีแล้วในขณะนี้  เขาเพียงแค่มุ่งความสนใจไปที่การฝึกไทชิของตัวเองเท่านั้น

 

"พวกเจ้าคิดว่าเขาจะยอมรับข้อท้าทายของ นายร้อยกงซุนหรือ?"

 

 

Prev
Next

ความคิดเห็นสำหรับ "AST บทที่ 290 – ทิพย์เหมันต์ อย่าทำอะไรกับคนอื่น ในสิ่งที่เจ้าไม่อยากให้คนอื่นทำกับเจ้า"

4 15 โหวต
คุณชอบเรื่องนี้ไหม?
ติดตาม
เข้าสู่ระบบ
แจ้งเตือนของ
กรุณาเข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่คุณอาจชอบ

เพลิงพิโรธสวรรค์
เพลิงพิโรธสวรรค์
ธันวาคม 6, 2023
e1d05327c9d1dc4
ไรเดอร์แหวกมิติ
กุมภาพันธ์ 22, 2023
Global Online Survival เอาชีวิตรอดในโลกออนไลน์
Global Online Survival เอาชีวิตรอดในโลกออนไลน์
มีนาคม 12, 2022
god of soul system – ไปผจญภัยในโลกone piece กันเถอะ 397+
god of soul system – ไปผจญภัยในโลกone piece กันเถอะ 397+
มีนาคม 12, 2022
เกิดใหม่ในโลกโปเกมอนกับการเดินทางสู่ความยิ่งใหญ่
เกิดใหม่ในโลกโปเกมอนกับการเดินทางสู่ความยิ่งใหญ่
มิถุนายน 5, 2023
Realms In The Firmament
Realms In The Firmament
มีนาคม 12, 2022
Tags:
กำลังภายใน
ประวัติการเข้าชม
You don't have anything in histories
หมวดหมู่นิยาย
  • sci-fi (24)
  • Video Games (11)
  • กำลังภายใน (36)
  • จีนกำลังภายใน (1)
  • ดราม่า (3)
  • ตลก (3)
  • นิยายลิขสิทธิ์ (18)
  • นิยายแต่ง (3)
  • ย้อนยุค อนาคต (7)
  • สยองขวัญ (2)
  • เกมส์ออนไลน์ (5)
  • แฟนตาซี (161)

© 2025 Madara Inc. All rights reserved

Premium Chapter

คุณจำเป็นต้องเข้าสู่ระบบก่อน

wpDiscuz