เทพอสูรบรรพกาล -Ancient Strengthening Technique - AST บทที่ 280 – การแต่งงานของหญิงสาวทั้งสองคน? ราชวังเทวโลกทั้ง 9 คฤหาสน์
- หน้าแรก
- เทพอสูรบรรพกาล -Ancient Strengthening Technique
- AST บทที่ 280 – การแต่งงานของหญิงสาวทั้งสองคน? ราชวังเทวโลกทั้ง 9 คฤหาสน์
ฝากติดตามเพจด้วยนะครับ แฟนเพจ แจ้งเตือนก่อนใคร กดเลย
https://www.facebook.com/AncientStrengtheningTechnique
บทที่ 280 – การแต่งงานของหญิงสาวทั้งสองคน? ราชวังเทวโลกทั้ง 9 คฤหาสน์
เธอคือหญิงสาวที่แสนสง่าผ่าเผย ความงามที่อยู่เหนือผู้ใดในโลกและความงามที่อาจทำให้เกิดการล่มสลายของอาณาจักรและเมือง!
"ผู้อาวุโสเฟย!" จากกลุ่มหญิงสาวที่เรียงแถวอยู่ มีหญิงสาวคนหนึ่งที่สูงสง่าเดินออกมา
"จงบอกกับสาวกหน้าใหม่ทั้งสองว่ามีใครคนหนึ่งกำลังรอพบพวกนางอยู่" ผู้อาวุโสเฟยยิ้มและพูด
หญิงสาวรับทราบและรีบรุดขึ้นบันไดหินที่มีความสูงกว่า 1,000 ขั้นไป เผยให้เห็นรูปร่างอันสง่างามของเธอเมื่อเดินขึ้นบันไดหินและดูเหมือนว่าผู้อาวุโสเฟยจะเป็นที่รู้จักกันดีในวังเทวโลกอันยิ่งใหญ่ ชิงสุ่ยสังเกตเห็นได้ว่าเหล่าสาวกมากมายต่างรู้จักถึงตัวตนของผู้อาวุโสเฟย
ในเวลาไม่นานก็มีกลุ่มคน 3 คนลงมาจากยอดบนสุดของบันไดหิน เธอเป็นหญิงสาวคนก่อนหน้านี้ที่ลงมาพร้อมกับชางห่ายหมิงเยวี่ยและห่าวหยุนลิ่วลี่ พวกเธอปรากฏตัวต่อหน้าชิงสุ่ยและคนอื่นๆ
พวกเธอจ้องมองไปที่ชายทั้งสามคน!
"หมิงเยวี่ย ท่านผู้นี้เป็นอาจารย์ของพ่อเจ้าและท่านนี้คือ ‘ผู้อาวุโสเฟย’ เป็นศิษย์น้องร่วมอาจารย์" ชิงสุ่ยทำอะไรไม่ถูก ตอนแรกเขาสัญญากับชางห่ายหมิงเยวี่ยว่าเขาจะไม่หยิบเหรียญตราของพระราชวังเทวโลกออกมาและเขาก็ไม่ได้คาดคิดว่าชายชราคนนั้นจะรู้สึกถึงเหรียญตราที่ชางห่ายให้ไว้กับเขา
"ท่านเป็นอาจารย์ของพ่อข้าจริงๆหรือ? พ่อของข้าเกิดวันที่เท่าไหร่?" ชางห่ายหมิงเยวี่ยมองอย่างอ่อนหวานไปที่ชายชราโดยไม่กะพริบตา
"วันที่ 28 มีนาคม!"
"พ่อของข้ามีรอยแผลเป็นที่ใด?"
"ที่เท้าซ้ายของเขา มันมีสีแดงขนาดเท่าผลองุ่น ข้าเป็นคนที่คอยเลี้ยงดูเขา ฮ่าๆ” ชายชรามองไปที่ชางห่ายหมิงเยวี่ยด้วยรอยยิ้มอันอบอุ่น
"ผู้อาวุโส ท่านพ่อบอกว่าท่านคือปู่ของเยวี่ยเยวี่ย!" เธอเริ่มนึกถึงพ่อแม่ที่ตายแล้ว น้ำตาไหลลงบนใบหน้าของชางห่ายหมิงเยวี่ย
"เด็กดี อย่าร้องไห้ไปเลย เจ้าเป็นหลานสาวของชางหวู่ย่าแล้วตอนนี้ แม้ว่าชางห่ายจะไม่ใช่ลูกชายแท้ๆของข้า แต่เขาก็ใกล้ชิดกับข้าเหมือนกับเป็นลูกในไส้ เด็กน้อยเอ๋ย ชายชราผู้นี้ก็อายุมากถึง 300 กว่าปีแล้ว และข้าก็เหลือเพียงหลานสาวเช่นเจ้าคนเดียวเท่านั้น" ชายชรารู้สึกปลื้มปิติมาก
"ท่านปู่ นี่คือลิ่วลี่ นางเป็นหลานของท่านพ่อและท่านแม่!" ชางห่ายหมิงเยวี่ยดึงมือห่าวหยุนลิ่วลี่มา
"เด็กน้อย เจ้าช่างเหมือนกับหมิงเยวี่ย ทำไมเจ้าถึงสวมผ้าคลุมหน้า เจ้าได้รับบาดเจ็บบนใบหน้าหรือไม่?" ชางหวู่ย่าลูบเบาๆลงไปบนศีรษะของห่าวหยุนลิ่วลี่
"ท่านปู่ ใบหน้าของข้ามีรอยแผลเป็นที่เกิดจากคมกระบี่" ห่าวหยุนลิ่วลี่เปิดผ้าคลุมหน้าของเธอออก ซึ่งเผยให้เห็นรอยแผลเป็นที่น่าตกใจ
ชางหวู่ย่ามองดูรอยแผลเป็นของห่าวหยุนลิ่วลี่ เขาจ้องมองอย่างไม่กระพริบตาในขณะที่เขายิ้มอย่างอ่อนโยนและพูดว่า "ลิ่วลี่ ข้าคิดว่าข้าพอจะทำอะไรบางอย่างได้ ปู่ไม่สามารถรับประกันได้ว่าจะรักษาเจ้าให้หายได้ แต่มีเม็ดยาที่สามารถรักษารอยแผลเป็นนี้ได้แน่นอน มันจะทำให้ความงดงามของเจ้ากลับคืนมาและช่วยให้เจ้างดงามยิ่งกว่าเดิม แต่ก็เป็นเรื่องที่น่าเศร้าเพราะไม่มีใครสามารถกลั่นมันออกมาได้"
"ท่านหมายถึงยาเม็ดวิศิษฐ์โฉมหรือไม่?" ชิงสุ่ยถามด้วยสายตาอันเป็นประกาย
“อืมมมม? ชิงสุ่ย เจ้าเคยได้ยินเรื่องนี้ด้วยเช่นนั้นหรือ" ชางหวู่ย่าถามด้วยความประหลาดใจ โดยปกติแล้วนักปรุงยาจะรู้จักพวกมันและชางหวู่ย่าก็ถือว่าเป็นนักปรุงยาในระดับเทวะเซียนเทียน
"ข้ายังขาดผลวิศิษฐ์โฉมอยู่ ถ้าข้ามีมัน ข้าน่าจะสามารถเริ่มการกลั่นมันได้ในเร็วๆนี้" ชิงสุ่ยกล่าวด้วยความรู้สึกเสียใจ
"ฮ่าๆ ดีดี ดูเหมือนว่าข้าคงไม่ต้องกังวลกับปัญหาของลิ่วลี่แล้ว ชายชราผู้นี้รับรองได้ว่าชิงสุ่ยจะช่วยให้เจ้าฟื้นความงามได้ภายในสามปี ชายชราผู้นี้รู้สึกประหลาดใจยิ่งนักที่แม้ว่าเจ้าจะมีแผลเป็น แต่ก็ดูเหมือนว่ามันจะไม่ได้ส่งผลต่อความงามของเจ้าเลยแม้แต่น้อย เจ้ายังคงเป็นหญิงสาวที่แสนงดงามอยู่"
"ข้าเองก็คิดเช่นนั้น ข้ารู้สึกว่านางงดงามยิ่งกว่าเมื่อก่อน" ชิงสุ่ยยิ้มอย่างนุ่มนวลและพูด
ห่าวหยุนลิ่วลี่จ้องมองไปที่ชิงสุ่ยอย่างเย้ายวน
"ไปกันเถอะ พวกเราทุกคนคงจะต้องมีเรื่องให้สนทนากันอีกเยอะ" ชางหวู่ย่าหัวเราะและพูดกับคนอื่นๆด้วยโทนเสียงอันอ่อนโยนของเขาอย่างเป็นธรรมชาติมาก
พวกเขาเดินตามชางหวู่ย่าไปยังที่พักของเขา มันเป็นอาคารสูงสองชั้นขนาดเล็ก แต่ละชั้นมีเนื้อที่ประมาณ 200 ตารางเมตรและมีขนาดค่อนข้างกว้างขวางสำหรับผู้ที่พักอาศัยอยู่คนเดียว
ชั้นแรกคือห้องรับแขกและห้องครัว ชิงสุ่ยเห็นห้องครัวพร้อมด้วยอุปกรณ์ครบครันและมีทั้งผักและเนื้อสัตว์มากมาย เขาถามอย่างสงสัยว่า "ท่านอาจารย์อาวุโสทำอาหารทานเองหรือ?"
"โดยปกติแล้วมักจะมีคนจากวังเทวโลกคอยนำอาหารมาส่งที่นี่ทุกมื้อ แต่ตอนนี้ข้าก็อายุมากแล้ว ข้าเลยอยากจะลองอะไรแปลกใหม่และข้าก็ชอบที่จะทำอาหารด้วยตัวเอง ตราบเท่าที่ข้าปรุงอาหาร ข้าจะรู้สึกว่าอาหารอร่อย"
"เนื่องจากวันนี้ทุกคนอยู่กันพร้อมหน้าที่นี่ ท่านอาจารย์อาวุโสสามารถนั่งพูดคุยกับหมิงเยวี่ยได้ตามสบาย ข้าจะทำอะไรบางอย่างให้กับทุกคนทาน ข้าเองก็ชอบทำอาหารด้วยตัวเอง" ชิงสุ่ยยิ้มและพูด
"ฮ่าๆ ไม่เป็นไร ข้าไม่คิดว่าชิงสุ่ยจะทำอาหารได้ดีกว่าชายชราผู้นี้ แต่ข้าจะปล่อยให้เจ้าลองทำอาหารดู… "ชายชรากล่าวอย่างลังเล
"ท่านปู่ปล่อยให้ชิงสุ่ยทำอาหารเถอะ ฝีมือการทำอาหารของเขานั้นดีมากอย่างแน่นอน มันอาจจะดีเสียกว่าอาหารที่พ่อครัวเคยทำมาให้ท่านทาน!" ชางห่ายหมิงเยวี่ยยิ้มและพูด
“โอ้? อืมมม ตกลง ชิงสุ่ยไม่ใช่คนนอกแต่อย่างใด หลังจากที่เจ้าแต่งงานกับเขาแล้ว พวกเราทุกคนจะเป็นครอบครัวเดียวกัน ไม่สิ เรื่องแบบนี้ต้องรอดูไปก่อน ดูเหมือนว่าข้าจะแก่ตัวลงไปมากและชอบคิดอะไรฟุ้งซ่าน พวกเราเป็นครอบครัว เป็นครอบครัว!" ชางหวู่ย่าหัวเราะอย่างเบิกบานใจ
ชิงสุ่ย : "……."
ชางห่ายหมิงเยวี่ยตกอยู่ในความมึนงงขณะที่เธอฟังและจากนั้นเธอก็พูดอย่างอายๆว่า "ท่านปู่ ท่านพูดเรื่องอะไรกัน? ใครอยากจะแต่งงานกับเขากันล่ะ?"
ชางห่ายหมิงเยวี่ยสาดส่องสายตาไปทางชิงสุ่ย มันทำให้หัวใจของเขาเต้นระรัว ไม่ใช่เพราะว่าเขากลัว แต่เป็นเพราะเขาสัมผัสได้ถึงเสน่ห์อันเย้ายวนใจของเธอที่ปล่อยออกมา
"ไม่ใช่ชิงสุ่ยสามีที่พ่อแม่ของเจ้าหามาให้หรอกหรือ?" ชางหวู่ย่าถามด้วยความแปลกใจ
"ท่านปู่ ท่านพ่อและท่านแม่มีเจตนาเช่นนั้น… แต่…"
"ฮ่าๆ หญิงขี้อาย ปู่จะตัดสินใจให้เจ้า ชิงสุ่ยเป็นคนที่ดีมาก ปู่ได้มีชีวิตอยู่มาเป็นเวลา 300 ปี ปู่สามารถแยกแยะคนที่ดีและไม่ดีได้"
ชิงสุ่ยออกมาอยู่ที่ห้องครัวเป็นมานานแล้ว แต่เขาก็ยังสามารถได้ยินบทสนทนาในห้องรับแขงได้ ชิงสุ่ยไม่รู้ว่าตัวเองรู้สึกยังไง
“ท่านปู่มันไม่ใช่อย่างนั้น ชิงสุ่ยจะต้องแต่งงานกับลิ่วลี่" ชางห่ายหมิงเยวี่ยลากห่าวหยุนลิ่วลี่เข้ามาในการสนทนา
"ท่านปู่ชิงสุ่ยไม่ใช่ของข้า ระหว่างที่พวกเรามาที่นี่ ชิงสุ่ยกอดพี่สาวหมิงเยวี่ยอยู่เสมอๆ และแม้ว่าเขาจะไม่ได้หลบเลี่ยงข้าแต่พวกเขาก็ทำตัวใกล้ชิดกัน" ห่าวหยุนลิ่วลี่ไม่เปิดทางให้หนีแต่เธอกลับผลักดันปัญหาให้กับหมิงเยี่วย
"ฮ่าๆ ดูเหมือนว่าเขาจะเด็กชายที่ค่อนข้างเจ้าชู้ ปู่จะตัดสินใจให้เจ้า พวกเจ้าทั้งสองจะต้องแต่งงานกับเขาและยังคงความเป็นพี่น้องกันอยู่ เมื่อเจ้าพบใครบางคนที่เจ้าชอบ เจ้าจะต้องเด็ดขาดและจับตัวเขาไว้" ชางหวู่ย่ามองไปที่ชางห่ายหมิงเยวี่ยที่เอียงอายเป็นอย่างมากและหัวเราะเสียงดัง
"ท่านปู่หยุดหัวเราะเถอะ…"
จากประสบการณ์ชีวิตของชางหวู่ย่า ไม่อะไรที่เขาไม่สามารถมองเห็นได้ จากการแสดงออกและคำพูดของหญิงสาวทั้งสอง เขาสามารถเข้าใจถึงจุดสำคัญของปัญหาได้ แม้ว่าทั้งสองคนจะอายุ 20 กว่าปีแล้ว แต่ก็ไม่อาจบอกได้ว่าพวกเธอต้องการอยู่กับชิงสุ่ยหรือไม่ นั่นเป็นเหตุผลที่ชายชราได้ให้คำตอบอย่างตรงไปตรงมา ซึ่งมันจะทำให้พวกเธอตื่นตระหนกและคิดถึงสิ่งนี้
ในขณะนั้นกลิ่นแห่งสวรรค์ก็ล่องลอยโชยออกมาจากในครัว กลิ่นอับชื้นที่แทรกซึมเข้าไปในหัวใจทำให้อวัยวะของพวกเขารู้สึกสบายมากขึ้น มันเป็นความรู้สึกที่ยอดเยี่ยมราวกับว่าร่างกายจะลอยได้
"กลิ่นหอมมาก ข้าไม่คิดว่าชิงสุ่ยจะมีทักษะในการทำอาหารที่ยอดเยี่ยมเช่นนี้! ไม่ใช่เรื่องใหญ่โตอะไรที่จะเรียกเขาว่าเป็นของพระเจ้า ไม่ต้องสงสัยเลยว่าพวกเจ้าทั้งสองถูกเขาดึงดูดได้อย่างไร เขาเป็นคนที่ดูดี ระดับการฝึกตนของเขาก็ถือว่าค่อนข้างสูงในหมู่พวกเยาวชนและยังมีทักษะด้านการทำอาหารที่ยอดเยี่ยมเช่นนี้… ข้าคิดว่าข้าคงไม่สามารถมองข้ามเด็กหนุ่มคนนี้ได้" ชางหวู่ย่ากล่าวด้วยความประหลาดใจ
หญิงสองสาวทั้งสอง : "……."
ในขณะที่ชิงสุ่ยนำอาหารมังสวิรัติสามจานออกมาและอีกสองจานเป็นเนื้อพร้อมกับหม้อซุป มันดูปกติธรรมดา แต่กลิ่นหอมของมันทำให้รู้สึกว่ามันมีเสน่ห์
"กลิ่นหอมนี่ทำให้ข้าไม่สามารถอดทนต่อการทานมันได้และข้ายิ่งกลัวมากขึ้นว่าข้าอาจจะตายด้วยความหิวโหยหากในวันข้างหน้าข้าไม่ได้ทานมันอีก" ชางหวู่ย่าหัวเราะและพูด
"ท่านอาจารย์พูดถูกต้อง เพียงแค่กลิ่นหอมนี่เท่านั้น ข้าก็รู้สึกว่าข้าจะไม่สามารถทานอาหารที่ข้าเคยกินได้อีกแล้ว" เฟยหวู่จี้มองไปที่ชิงสุ่ย ชางห่ายหมิงเยวี่ย และห่าวหยุนลิ่วลี่
ชิงสุ่ยเกาศีรษะของเขาและยิ้มให้ ทุกครั้งที่มีผู้อาวุโสอยู่รอบๆตัว เขาจะมีนิสัยที่จะเกาหลังศีรษะแทนการถูจมูก มันดูซื่อสัตย์มากกว่า ทำให้ชางห่ายหมิงเยวี่ยและห่าวหยุนลิ่วลี่คิดว่าเขาเป็นคนที่มีเล่ห์เหลี่ยมมาก
"ชิงสุ่ย เจ้าชอบหมิงเยวี่ยและลิ่วลี่หรือไม่?" ชางหวู่ย่าส่งตะเกียบไปให้ทุกคนและพูดออกไปลวกๆเหมือนไม่ใข่คำถาม
"ข้าทำ ข้าคิดว่าคงไม่มีชายใดที่จะไม่…"
"เจ้าค่อนข้างเป็นคนที่ซื่อสัตย์ ข้าชอบความซื่อสัตย์ของเจ้า เอาล่ะ ช่างมันเถอะ ตอนนี้ข้ามั่นใจแล้ว ชิงสุ่ยหากเจ้าจะไล่ตามหลานสาวทั้งสอง เจ้าคงต้องใช้ความพยายามอย่างมาก"
หญิงสาวทั้งสอง : "…."
ชิงสุ่ยยิ้มอย่างอึดอัดใจและเมื่อเขาเห็นหญิงสาวทั้งสองมองมาทางเขา เขาก็รีบหันหนีทันที ทำให้ชางหวู่ย่าและเฟยหวู่จี้หลุดหัวเราะออกมา
ในขณะที่ทานอาหารมีเสียงของการเยินยอไม่ขาดสาย แม้กระทั่งจากชางห่ายหมิงเยวี่ยและห่าวหยุนลิ่วลี่ พวกเขาทั้งหมดพูดถึงการทำอาหารของ ชิงสุ่ยที่ดีฝีมือดีขึ้นกว่าเมื่อก่อน
ชิงสุ่ยยิ้มอย่างจริงใจให้กับหญิงสาวทั้งสอง ทำให้ทั้งสองคนถึงกับขบฟันของเธอ!
คราวนี้ชิงสุ่ยใช้ส่วนประกอบที่เขาทำขึ้นเอง รวมทั้งเครื่องปรุงรสสำหรับทำอาหารจานเนื้อด้วยเช่นกัน มันเป็นน่าเสียดายที่พวกมันยังไม่ค่อยสมบรูณ์เท่าไหร่ อย่างไรก็ตามชิงสุ่ยยังมีสมุนไพรที่มีผลคล้ายๆกันและยังมีผลไม้ที่มีกลิ่นหอมหลายชนิดซึ่งได้เติบโตขึ้นในดินแดนหยกยุพราชอมตะ มันเป็นผลไม้ที่สามารถใช้นำมาทำอาหารได้หลายอย่างหรือแม้แต่ใช้ในการหมักไวน์และดับกลิ่นอาหารคาว
เมื่อทานมันเข้าไป มันจะเติมเต็มปากของผู้ทานด้วยกลิ่นหอมสดชื่นเบาๆเช่นเดียวกับสะระแหน่!
"ท่านอาจารย์ ท่านอยู่พูดคุยกับหมิงเยวี่ยและลิ่วลี่เถอะ ข้าจะพาชิงสุ่ยไปดูคฤหาสน์ดาราจันทราและพาเขาไปเลือกซื้อเสื้อผ้าและสิ่งของต่างๆที่วังเทวโลกเอง" เฟยหวู่จี้ลูบท้องของเขาด้วยความพึงพอใจ ก่อนที่เขาจะยืนขึ้นและพูดกับชางหวู่ย่าด้วยความเคารพ
"เอาล่ะ ไปเถอะ!" ชางหวู่ย่าพยักหน้าและกล่าว
คฤหาสน์ดาราจันทราตั้งอยู่ทางด้านเหนือของคฤหาสน์สมบัติหลิงเซียว ชิงสุ่ยเดินตามเฟยหวู่จี้ไปเพียงสองก้าวและหยุดยืนขวางเขาไว้ขณะเดิน!
"ผู้อาวุโสเฟย ตอนนี้ข้าอยู่ที่วังเทวโลก ท่านสามารถเล่าสถานการณ์ภายในวังเทวโลกได้หรือไหม?" ชิงสุ่ยถามอย่างระมัดระวัง
"ฮ่าๆๆๆ เจ้าเรียกข้าว่าท่านลุงก็พอ ไม่ต้องกังวลสายตาผู้อื่นที่จะมองเจ้า!"
“ข้าเกรงว่ามันจะไม่ค่อยเหมาะสม” ชิงสุ่ยตอบ
“งั้นก็ตามแต่เจ้าต้องการเถอะ”
"วังเทวโลกมีประวัติอันยาวนาน นิกายหลักๆต่างก็มีข้อดีของพวกเขา แต่ก็ยังมีข้อเสียเช่นกัน ราชวังเทวโลกทั้ง 9 คฤหาสน์ มีผู้คนอาศัยอยู่เป็นจำนวนมากและมีความซับซ้อนมาก นั่นเป็นเหตุผลที่ต้องมีกฎระเบียบที่เข้มงวดเป็นอย่างมากในการคัดเลือกผู้คน แม้กระนั้นก็ตามมันก็ไม่ได้มีประโยชน์อะไรมากนัก ราชวังเทวโลกแต่ละแห่งแสดงถึงฝ่ายต่างๆ บางทีก็มีพวกตระกูลหลักๆเป็นรากฐาน บางทีก็เป็นพวกนิกายต่างๆ" เฟยหวู่จี้กล่าวเปรยๆเยาะเย้ยตัวเอง
"ผู้อาวุโสเฟยกำลังจะบอกว่ามีความขัดแย้งที่รุนแรงในวังเทวโลกเช่นนั้นหรือ?" ชิงสุ่ยถามด้วยความรู้สึกว่ามันน่าเหลือเชื่อ