เทพอสูรบรรพกาล -Ancient Strengthening Technique - AST บทที่ 263 – พายุที่กำลังเข้ามาใกล้
- หน้าแรก
- เทพอสูรบรรพกาล -Ancient Strengthening Technique
- AST บทที่ 263 – พายุที่กำลังเข้ามาใกล้
ฝากติดตามเพจด้วยนะครับ แฟนเพจ แจ้งเตือนก่อนใคร กดเลย
https://www.facebook.com/AncientStrengtheningTechnique
บทที่ 263 – พายุที่กำลังเข้ามาใกล้
ช่วงเวลาที่ชิงสุ่ยกำลังจะก้าวออกไปข้างนอก สายตาของเขาได้มองไปที่ดอกไม้แห่งชีวิต มันได้กำลังเปล่งบานออกมา หัวใจของเขาเต็มไปด้วยคงามงงงวย …
ชิงสุ่ยก้าวไปอย่างช้าๆ ไปสู่ดอกไม้อันสดใสเต็มไปด้วยพลังแห่งชีวิต เขาจำมันได้ดีมันคือ – ดอกไม้แห่งชีวิต มันมีความสามารถในการยืดอายุไข และเป็นส่วนประกอบของตัวยาที่สำคัญอีกด้วย
ชิงสุ่ยตัดสินใจที่จะถอนมันออกมา หลังจากพิจารณามันอย่างรอบคอบ ก่อนที่เขาจะออกจากดินแดนหยกยุพราชอมตะ มันจะออกดอกอีกครั้งในปีถัดไป
หลังจากชิงสุ่ย ออกมาเขาได้เดินออกมานอกห้องและมองไปที่ห้องซึ่งชางห่าย หมิงเยวี่ยพักอยู่ มันยังคงสว่างไสวเหมือนวันก่อนๆ ดังนั้นเขาจึงได้ตัดสินใจและมุ่งหน้าเดินไปทางห้องแห่งนั้น
สายลมแห่งฤดูร้อนได้พัดเข้ามา ชิงสุ่ยได้เดินเข้าไปที่ห้องขนาดใหญ่ซึ่งเป็นที่พักของสาวงามทั้งสอง ทันทีที่เขาเดินเข้าไปในห้องนั่งเล่น เขาพบว่าหมิงเยวี่ยกำลังนอนหลับอยู่ในบนเก้าอี้ตัวน้อย
ชิงสุ่ยรู้ว่าเธอนั้นอ่อนล้าเป็นอย่างมาก และเจ็บปวดอย่างที่สุดคือหัวใจของเธอ เขาวางดอกไม้แห่งชีวิตไว้ข้างบนของโต๊ะที่อยู่ข้างๆเก้าอี้ที่หมิงเยวี่ยนั่งอยู่ เขาลังเลอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่เขาจะอุ้มหมิงเยวี่ยไว้ในอ้อมแขนของเขา
มันเป็นความรู้สึกที่ดีอย่างมาก กลิ่นหอมจากร่างกายอ่อนนุ่มมันช่างมีเสน่ห์อย่างมาก ชิงสุ่ยไม่เคยทำอะไรแบบนี้กับเธอมาก่อน ทันใดนั้นหมิงเยวี่ยตื่นขึ้นมาในอ้อมกอดของชิงสุ่ย เธอนั้นตกใจอย่างมาก ในขณะที่เธอค่อยๆเปิดตาขึ้น และเห็นว่าเป็นชิงสุ่ยจิตใจของเธอค่อยๆสงบลง"ข้าหลับไปในขณะที่รอเจ้ากลับมา!" หมิงเยวี่ยกล่าวอย่างเฉื่อยชาและเขินอาย
ชิงสุ่ย ยิ้มและค่อยๆอุ้มเธอไปยังที่ห้องพัก เมื่อถึงห้องเขาได้ปล่อยเธอลงและกล่าว “อย่าลืมนะข้ายังอยู่ที่นี้ เจ้าอย่าลืมลงกลอนประตูละ … "
หมิงเยวี่ย โกรธขึ้นเล็กน้อย ใบหน้าของเธอเปลี่ยนเป็นสีแดงและมองที่ชิงสุ่ยด้วยความไม่พอใจก่อนที่จะเข้าไปในห้องของเธอ หลังจากได้ยินเสียงลงกลอนที่ชัดเชน ชิงสุ่ยไม่สามารถห้ามไม่ให้หัวเราะออกมาได้
ชิงสุ่ยหยิบดอกไม้แห่งชีวิตขึ้นมาและเดินเข้าไปในห้องนอนของลิ่วลี่ เขาค่อยๆนั่งลงบนเตียงและเริ่มกังวล เขาควรทำยังไงกับดอกไม้แห่งชีวิต มันจะช่วยเธอได้หรือไม่?
อย่างไรก็ตามชิงสุ่ยก็ต้องการลองให้เธอทานมัน ถ้ามนุษย์สามารถทานมันได้โดยตรง มันสามารถเพิ่มอายุการไข้ของพวกเขาได้ถึง 10 ปีถึงแม้ว่าจะไม่สามารถช่วยอะไรลิ่วลี่ได้มาก แต่ก็คงมีผลอะไรเกิดขึ้นบ้าง
ชิงสุ่ยยืนอยู่หน้าห้องของชางห่าย หมิงเยวี่ย และเคาะประตูห้องของเธอ
ประตูเปิดนั้นได้ถูกเปิดออกทันที ชางห่าย หวิงเหวี่ยในตอนนี้กำลังสวมชุดชั้นในบางๆอยู่ เสื้อผ้าบางๆไม่สามรารถปกปิดเรือนร่างที่สวยงามของเธอไปได้ ดวงตาของชิงสุ่ยเปล่งประกายออกมา กลิ่นหอมเหมือนกล้วยไม้จางๆได้ลอยออกมาจากห้องของเธอ
ชิงสุ่ยกำลังมองหาเส้นโค้งที่มีเสน่ห์บนร่างกายของเธอ หน้าอกของเธอกระเพื่อมขึ้นลงเล็กน้อยมันเป็นภาพที่สวยงามอย่างมาก ถึงเขาจะไม่ได้เห็นมันทั้งหมดเพราะมีชุดชั้นในปิดบังอยู่ แต่มันก็ยังดูสมบูรณ์แบบอย่างมาก ชิงสุ่ยกำลังจินตนาการว่ามันนั้นใหญ่กว่ามือของเขาหรือไม่
"ชิงสุ่ย, เจ้ากำลังมองอะไร … " หมิงเยวี่ยแสดงท่าทีที่โกรธออกมาไปทางชิงสุ่ย ขณะที่เขากำลังจ้องที่หน้าอกของเธอทันทีที่ประตูเปิด
“โอ้! มันน่าอัศจรรย์มาก! ขนาดของมันใหญ่ใช้ได้เลย! "ชิงสุ่ยยิ้มกว้างขณะมองไปที่ใบหน้าที่สวยงามของชางห่าย หมิงเยวี่ย
"เจ้าบ้านี้ " หมิงเยวี่ยส่ายศีรษะเล็กน้อย
"ไปกันได้แล้ว มีบางอย่างที่ข้า ต้องการให้เจ้าช่วย "ชิงสุ่ยกล่าว
หมิงเยวี่ย ได้เข้าไปในห้องของลิ่วลี่ และได้นั่งลงข้างเตียงของลิ่วลี่ หลังจากที่ได้เห็นใบหน้าที่ซีดเซียวของลิ่วลี่ เธอจับไปที่มือลิ่วลี่ด้วยจิตใจที่หวั่นไหว
หมิงเยวี่ยมองไปที่ดอกไม้ที่ชิงสุ่ยมอบให้อย่างละเอียดอ่อน มันมีเสน่ห์ที่หน้าดึงดูดอย่างมาก มันช่างงดงามและเต็มไปด้วยชีวิตชีวามาก
"ดอกไม้ดอกนี้อาจสามารถทำให้ลิ่วลี่ตื่นขึ้นมาเร็วๆนี้" ชิงสุ่ยยิ้มให้หมิงเยวี่ยและกล่าว
"ห๊ะ!" ชางห่าย หมิงเยวี่ยรีบหยิบมันขึ้นมา
หลังจากมองไปที่ลิ่วลี่หมดสติ เธอก็ถามว่า "ข้าจะป้อนให้นางได้อย่างไร?"
"ผ่านปาก … "
ห้องนั้นเงียบสงบอย่างมาก แทบไม่ได้ยินแม้กระทังเสียงลมหายใจ หลังจากชิงสุ่ยกล่าว!
หมิงเยวี่ยมองไปที่ชิงสุ่ย หลังจากนั้นเธอก็ถามว่า: ทำไมเจ้าถึงไม่ทำมันด้วยตัวเองละ?
"มันไม่เหมาะสม … "
"เจ้ารังเกียจลิ่วลี่หรือ … " หมิงเยวี่ยกล่าวด้วยท่าทีเศร้าสร้อย
"ข้าเป็นคนแบบนั้นในสายตาเจ้าอย่างนั้นหรือ?" ชิงสุ่ยมองไปที่หมิงเยวี่ยอย่างขมขื่น
"ไม่ ข้าแค่พูดดู!" ชางห่าย หมิงเยวี่ยหัวเราะออกมา
"เจ้าสามารถออกไปข้างนอกได้มั้ย ในขณะที่ข้าป้อนนาง … " หมิงเยวี่ย รู้สึกกระวนกระวายใจ เมื่อคิดถึงการป้อนด้วยปากต่อปาก
"ไม่" ชิงสุ่ยยิ้มกว้าง
"เจ้า…"
"ข้ายังต้องช่วยใช้ปราณในการดูดซับพลังของมันให้กับนาง" ชิงสุ่ยยิ้มแย้มๆ ขณะที่ถูกจมูกของเขา
ชิงสุ่ย นั่งอยู่ที่ด้านหลังของลิ่วลี่ และยกมือ "ทักษะทวิบ่มเพาะ" ของเขาได้เริ่มโคจรพลังให้กับลิ่วลี
"เจ้าไม่ได้รับอนุญาตให้มอง!" หมิงเหวี่ยกล่าวซ้ำ
"ข้าจะไม่มอง!" ชิงสุ่ยหัวเราะ เขาเห็นความไม่เต็มใจในสายตาของหมิ่งเยวี่ย
"ดอกไม้แห่งชีวิตนี้จะเสียพลังอย่างรวดเร็ว ยิ่งเจ้าล่าช้าเท่าไรมันยิ่งได้ผลลัพธ์ที่แย่ลง! "ชิงสุ่ย มอง ดอกไม้แห่งชีวิตในมือของหมิงเยวี่ย
"ห๊ะ!" หมิงเยวี่ยร้องออกอย่างตกใจ! เธอรีบหยิบกลีบของมัน แล้วนำมันเข้าไปไว้ในปากของเธอก่อนที่จะเคี้ยวเบาๆ สักสองสามครั้ง
ชิงสุ่ยจ้องที่ริมฝีปากที่สดใส ไม่มีคำพูดใดที่จะอธิบายถึงเส้นโค้งที่มีเสน่ห์ของริมฝีปากของเธอได้ เขาแทบจะไม่เชื่อว่าจะมีผู้หญิงที่มีความงามตามธรรมชาติเกิดขึ้นอยู่ในระดับนี้ได้
อึก!
ชิงสุ่ย ไม่สามารถห้ามตัวเองได้ เขาลดศีรษะลงอย่างน่าอับอาย เขาหลงใหลในริมฝีปากนั้นมากจนกลืนน้ำลายโดยไม่รู้ตัว
ร่างกายที่บอบบางของ หมิงเยวี่ยตื่นตระหนก เธอยิ้มให้กับชิงสุ่ยที่กำลังอับอายอยู่ มันแย่มากที่ชิงสุ่ยพลาดที่จะเห็นรอยยิ้มที่สวยงามที่มีพลังทำลายล้างสูงของเธอ เมื่อถึงเวลาที่เขามองไปที่ชางห่าย หมิงเยวี่ยได้กดริมฝีปากของเธอกับริมฝีปากของลิ่วลี่อย่างแน่น
ชิงสุ่ยหลงใหลในฉากที่เหมือนกับความฝันนี้ เขากำลังจิตนาการว่าคนที่หมิงเหวี่ยป้อนเป็นเขาแทนลิ่วลี่ …
ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วยาม เพื่อป้อนดอกไม้แห่งชีวิตนี้ให้กับลิ่วลี่ ชิงสุ่ยได้จ้องมองพวกเธอตลอดทั้งเวลาที่เธอป้อนมันกับลิ่วลี่ ทันทีที่เสร็จ เธอก็รีบวิ่งกลับไปที่ห้องของตัวเองโดยไม่ต้องพูดอะไรในทันที
ชิงสุ่ยยังคงใช้ "ทักษะทวิบ่มเพาะ" ประสานกับหยินและหยาง เพื่อรักษาให้ลิ่วลี่ ปราณจากเคล็ดเสริมกายาบรรพกาลถูกส่งเข้าสู่ร่างกายของเธออย่างต่อเนื่อง เพื่อกระตุ้นพลังชีวิตของเธอและในเวลาเดียวกันช่วยให้เธอดูดซับพลังของดอกไม้แห่งชีวิต
ชิงสุ่ยรู้สึกตื่นเต้นอย่างมากเพราะลิ่วลี่เริ่มค่อยๆแข็งแรงขึ้นมา เข็มทองเก้าเล่มบนหน้าอกของเธอก็เริ่มสั่นไหว
ชิงสุ่ยได้พยามอย่างต่อเนื่องจนถึงรุ่งเช้า หมิงเยวี่ยตื่นขึ้นมาในตอนเช้า และเธอก็พบว่าชิงสุ่ยยังคงอยู่ในจุดเดียวกับที่เธอทิ้งเขาไว้เมื่อวาน
"ชิงสุ่ย ลิ่วลี่จะตื่นขึ้นมาเร็ว ๆ นี้หรือไม่?" หมิงเยวี่ยถามอย่างเงียบ ๆ ขณะมองไปที่ ลิ่วลี่ที่นอนอยู่
เธอในตอนนี้ราวกับกำลังนอนหลับสนิทอยู่ แตกเธอนั้นต่างจากเมื่อวานอย่างเห็นได้ชัด ใบหน้าของเธอไม่ซีดขาวอีกแล้ว แต่เธอก็รู้สึกหงุดกับบาดแผลบนใบหน้าของเธอ
เธอนั้นชอบชิงสุ่ยอย่างมา ถึงแม้ว่าเธอฟื้นขึ้นมา แต่บาดแผลเป็นบนในหน้าของเธอยังคงอยู่ … แม้ว่าชิงสุ่ยจะไม่สนใจอะไรเกี่ยวกับมัน แต่เธอคงจะไม่สามารถยอมรับแผลเป็นนั้นได้ เธอรู้จักบุคลิกของลิ่วลี่ดี หมิงเยวี่ยรู้สึกถึงความเจ็บปวดที่อยู่ในใจของเธอ
“อีกประมาณ2ชั่วยามเห็นจะได้” ชิงสุ่ยเอื้อมไปถึงดึงเข็มทองทั้งเก้าของเขาออก
เป็นครั้งแรกที่ชิงสุ่ยละเลยการบ่มเพาะของเขาในตอนเช้า เขาได้เฝ้ารอการตื่นขึ้นมาของลิ่วลี่อย่างเงียบๆ ชางห่ายและภรรยาของเขา ได้มาที่นี้ในตอนเช้า พวกเขารู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ยินข่าวเรื่อง ลิ่วลี่ที่กำลังจะตื่นขึ้นมาเร็ว ๆ นี้
"ข้าจะต้มโจ๊กให้กับลิ่วลีน้อย! มันจะมีประโยชน์อย่างมาก! "ภรรยาของชางห่ายหันหลังกลับออกไปเมื่อพูดเสร็จ
"ชิงสุ่ย เฒ่าตาบอด จะมาในวันพรุ่งนี้"
มือของชิงสุ่ยสั่นไหวด้วยคำพูดของชางห่าย รอยยิ้มที่ชื่นขมถูกฉาบลงบนใบหน้าของชางห่าย
พวกเขาได้ตกลงไปในห่วงแห่งความคิด ในขณะที่ลิวลี่ค่อยๆเปิดตาของเธอขึ้น การกระทำนั้นได้เรียกร้องความสนใจของทุกคนกลับมา
“ลิ่วลี่!”
“ลิ่วลี่!”
………
พวกเขาทั้งสี่ตะโกนออกมาอย่างมีความสุข!
"ข้ายังไม่ตายหรอ!" ลิ่วลี่ ยิ้มทันที รอยยิ้มของเธอทำให้ร่างกายบาดเจ็บและใบหน้าที่เจ็บปวดของเธอเจ็บปวดขึ้นมา เธอจับไปลงไปบนใบหน้าของเธอได้อย่างรวดเร็ว
ชิงสุ่ย และคนอื่น ๆ รู้สึกกระวนกระวายมองการเคลื่อนไหวของเธอ เพราะเป็นเรื่องยากสำหรับทุกคนที่จะยอมรับความจริงที่ว่าผู้หญิงที่มีความงามที่ไร้คู่แข่งได้กลายเป็นผู้หญิงที่น่าสะพรึงกลัวและอับลักษณ์ไปแล้ว
"ข้าน่าเกลียดมั้ย?" ลิ่วลี่ ถามเบา ๆ หลังจากนั้นสักครู่ เสียงของเธอก็ผ่อนคลายมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากมองไปที่ความรู้สึกผิดที่แสดงออกบนใบหน้าของหมิงเยวี่ย เธอหัวเราะออกมาเบา ๆ
"ไม่น่าเกลียดไม่แม้แต่น้อยเลย!"
………………
"ข้าหิวมาก ท่านแม่มีอะไรให้ข้ากินไหม?"
"แน่นอนสิข้าได้เตรียมของกินไว้แล้ว" ภรรยาของชางห่าย พูดอย่างเร่งรีบ ก่อนที่จะออกไปข้างนอก
ชิงสุ่ยรู้สึกไม่ดีในใจเพราเขารู้ว่าลิ่วลี่รู้สึกเสียใจอย่างมากในใจของเธอ แต่เธอซ่อนมันเอาไว้เพราะเธอไม่ต้องการให้คนอื่นเสียใจ เธอดังนั้นเธอแกล้งทำว่าเธอไม่สนใจเกี่ยวกับมัน แต่เธอกลับไม่รู้ว่าเธอยิ่งแกล้งทำเป็นว่ารู้สึกอะไรมันกลับทำให้คนรอบข้างนั้นรู้สึกเสียใจมากกว่า
"ไม่เลย เจ้ายังคงงดงามอยู่ ! "ชิงสุ่ยกล่าวขณะนั่งอยู่บนเตียงของเธอ
ชิงสุ่ย ไม่ต้องการพูดถึงสิ่งที่จะช่วยรักษาแผลเป็นบนใบหน้าของเธอ
ในที่สุดภรรยาของชางห่ายได้ยกข้าวต้มเข้ามา ในตอนนี้เธอเพิ่งฟื้นขึ้นมาดังนั้นจึงไม่เหมาะที่จะให้เธอทานอาหารที่หนักเกินไป ภรรยาของชางห่ายจึงได้เตรียมอาการที่สามารถทานได้อย่างๆง่ายและสามารถย่อยได้ง่าย
"ข้าสบายดีพักท่านไปพักผ่อนเถอะ ข้าต้องการพักผ่อนต่อแล้ว "ลิ่วลี่ท่านได้เล็กน้อยและพูดเบาๆ ออกมาหลังจากทานข้าวต้มนั้น
ไม่มีใครพูดอะไร ชางห่ายและภรรยาของเขาปลอบโยน ลิ่วลี่เพียงเล็กน้อยก่อนที่พวกเขาจะทิ้งรอยยิ้มไว้ ส่วนหมิงเยวี่ยได้นั่งลงข้างลิ่วลี่
"ถ้าเจ้าอยากร้องก็ร้องมาเถอะ!" หมิงเยวี่ย มองไปที่ลิ่วลี่ด้วยดวงตาที่เต็มไปด้วยน้ำตาของเธอ
"พี่หญิงท่านเป็นอย่างไรบ้าง? ทำไมข้าถึงต้องร้องไห้? ผู้ที่สามารถรอดมาจากประตูความตายนั้น เป็นสิ่งโชคดีที่สุดแล้ว! "ลิ่วลี่ หัวเราะเบา ด้วยอาการบาดเจ็บของเธอทำให้เธอเจ็บปวดขึ้นมา
“ลิ่วลี่ พี่สาวคนนี้จะหาทางรักษาเจ้าให้ได้ ถ้าข้ามิอาจหาหนทางได้ ข้าก็จะอยู่เคียงข้างเจ้าตลอดไป "หมิงเยวี่ย กล่าวเบา ๆ
ทุกคนเข้าใจคำพูดคลุมเครือของเธอ แต่ไม่มีใครพูดอะไรออกมา พวกเขากังวลว่ามันอาจจะกระตุ้น ลิ่วลี่เรื่องบาดแผลบนใบหน้าของนาง
"มีปัญหาอะไร? รอยแผลเป็นนั้นสามารถรักษาได้ และนางจะกลับมาสวยงามกว่าเมื่อก่อนเป็นแน่ แต่ตอนนี้ควรให้นางพักผ่อนก่อนดีว่า" ชิงสุ่ยหัวเราะ
"จริงเหรอ?" หมิงเยวี่ยประหลาดใจอย่างมาก
ชิงสุ่ย มองเห็นแสงแห่งความหวังโดยไม่ได้ตั้งใจในดวงตาของ ลิ่วลี่
"ข้าเคยโกหกพวกเจ้าหรือ? เราขาดแคลนแค่ยาบางชนิดเท่านั้น แต่ข้ามันใจว่าเราสามารถหาได้ในเร็ว ๆ นี้ จากนั้นรอยแผลเป็นของลิ่วลี่ไม่เพียง แต่จะถูกลบออกไป แต่เธอจะดูสวยงามมากยิ่งขึ้นและสามารถคงสภาพนั้นไว้กว่า30ปี
"น่าอัศจรรย์ … " ชางห่าย หมิงเยวี่ย กล่าวอย่างมีความสุข แม้ว่าเธอจะมองไปที่ชิงสุ่ยด้วยข้อท่าทีสงสัยเล็กน้อย แต่เธอก็ดูมีความสุขมากขึ้นเมื่อมองไปที่ลิ่วลี่
ลิ่วลี่รู้สึกว่าสิ่งที่พวกเขาพูดนั้นพวกต้องการให้เธอมีความสุขเท่านั้น ยาเหล่านั้นแทบจะไม่มีจริง ถึงมีก็เป็นสิ่งที่มาอยู่ในตำนานเท่านั้น และส่วนประกอบของมันนั้นหายากว่าอัญมณีที่มีค่ามากมาย
ชิงสุ่ยแค่คาดการเท่านั้น แม้ว่าเขาจะสังเคราะห์ ยาเม็ดวิศิษฐ์โฉม แต่ก็ไม่แน่ใจว่ามันจะกำจัดแผลเป็นได้
หลังจากชิงสุ่ยและหมิงเหวี่ยจากไป ลิ่วลี่ก็ไม่สามารถควบคุมน้ำตาของเธอได้ เสียงสะอื้นที่แผ่วเบาของเธอได้ดังออกมา