หน้าแรก Amnovel
  • หน้าแรก
  • นิยายทั้งหมด
  • เติมเงิน
  • ติดต่อเรา
ค้นหา
ค้นหาขั้นสูง
เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก
  • หน้าแรก
  • นิยายทั้งหมด
  • เติมเงิน
  • ติดต่อเรา
  • เข้าสู่ระบบ
เข้าสู่ระบบ
Prev
Next

เทพอสูรบรรพกาล -Ancient Strengthening Technique - AST บทที่ 257 - ความยุ่งเหยิงที่ไม่มีที่สิ้นสุด ทุกสิ่งทุกอย่างที่ดีกำลังจะถึงจุดจบลง

  1. หน้าแรก
  2. เทพอสูรบรรพกาล -Ancient Strengthening Technique
  3. AST บทที่ 257 - ความยุ่งเหยิงที่ไม่มีที่สิ้นสุด ทุกสิ่งทุกอย่างที่ดีกำลังจะถึงจุดจบลง
Prev
Next

ฝากติดตามเพจด้วยนะครับ แฟนเพจ แจ้งเตือนก่อนใคร กดเลย

https://www.facebook.com/AncientStrengtheningTechnique

บทที่ 257 – ความยุ่งเหยิงที่ไม่มีที่สิ้นสุด ทุกสิ่งทุกอย่างที่ดีกำลังจะถึงจุดจบลง

 

ชิงสุ่ยไม่เคยคาดคิดเลยว่ากำไลจะเพิ่มพลังทำลายล้าง มันเพิ่มพลังการทำลายล้างให้กับผู้สวมใส่ถึง 10 ส่วน

 

เขาสามารถเพิ่มความเสียหายที่เกิดขึ้นกับฝ่ายตรงข้ามได้ 10 ส่วน ในกรณีที่จำเป็นเพียงแค่เพิ่มขึ้น 10 ส่วน มันก็อาจจะเพียงพอที่จะทำให้ศัตรูถึงแก่ความตาย

 

นี่คือพลังอำนาจในการทำลายล้าง แม้ในบางครั้งมันอาจจะดูไม่ค่อยสำคัญ แต่บางทีพลังทำลายล้างเหล่านี้ก็เป็นฟางเส้นสุดท้ายที่นำพาไปสู่ความตายในที่สุด

 

ชิงสุ่ยหยิบกำไลขึ้นมาและใส่มันลงไป ทันทีที่เขาสวมก็รู้สึกว่ามีพลังที่รุนแรงแผ่ซ่านเข้ามาในร่างกายของเขา มันเป็นพลังที่จะก่อให้เกิดความเสียหายเพิ่มเติมในระหว่างการโจมตี

 

สิ่งที่ทำให้ชิงสุ่ยมีความสุขอย่างหนึ่งก็คือเขาสามารถเปิดใช้งานคุณสมบัตินี้ได้ทันที มันจะช่วยให้เขาประหยัดเวลาลงได้ครึ่งหนึ่ง ในขั้นต้นชิงสุ่ยคิดว่าเขาสามารถใส่อุปกรณ์เหล่านี้ได้ไม่จำกัดจำนวน มันจะดียิ่งขึ้นถ้าเขาสามารถใส่มากกว่าสิบชิ้นในแต่ละแขนของเขา อย่างไรก็ตามเขารู้ว่าความเป็นไปได้ในเรื่องนี้มันน้อยมาก

 

ชิงสุ่ยยังคงทำการหลอมสิ่งต่างๆและฝึกฝนลมปราณจากเคล็ดเสริมกายาบรรพกาลให้ถึงจุดสูงสุด หลังจากนั้นเขายังคงทำอาวุธและกำไลอย่างไม่หยุดยั้งในช่วงเวลาหนึ่ง เมื่อเสร็จสิ้นการหลอมรองเท้า 2 คู่, ชุดเกราะปราการศึกวงแหวนทองคำ 1 ชุด, ชุดเกราะต่อสู้สำหรับหญิงสาว 3 ชุด และกำไล 5 ชิ้น มันก็ได้เวลาที่เขาจะต้องจากดินแดนหยกยุพราชอมตะ

 

ชุดเกราะต่อสู้สำหรับหญิงสาวมีคุณสมบัติเหมือนกับชุดเกราะปราการศึกวงแหวนทองคำ นี่เป็นครั้งแรกที่ชิงสุ่ยรู้สึกเหนื่อยล้ามาก นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมเขาถึงฟุบหลับไปในทันทีหลังจากที่เขาออกมาจากดินแดนหยกยุพราชอมตะ

 

เมื่อชิงสุ่ยตื่นขึ้นมาตอนเช้า เขาก็นึกถึงสิ่งที่เกิดขึ้นในวันก่อนและเอาของที่เขาหลอมไว้ออกมา ชุดเกราะปราการศึกวงแหวนทองคำและชุดเกราะต่อสู้สำหรับหญิงสาวทำให้เขารู้สึกมีความสุขเพียงแค่มองไปที่พวกมัน

 

ชิงสุ่ยคิดว่าเขาควรจะเรียกหญิงสาวทั้งสองคนมาพร้อมๆกัน เมื่อเขานึกถึงฉากที่ยอดเยี่ยมเมื่อคืนที่เขากระทำกับพวกเธอ มุมริมฝีปากของเขาก็ขดงอขึ้นเพราะมันทำให้เขารู้สึกเคลิบเคลิ้ม

หลังจากนั้นเป็นต้นมาชิงสุ่ยก็ยังคงยิ้มพร้อมกับมองไปที่หญิงสาวทั้งสองคนที่กำลังเดินลงมาจากชั้นบนซึ่งไม่ห่างจากเขามากนัก อาจกล่าวได้ว่าช่วงเวลาที่หญิงสาวงดงามมากที่สุดก็คือตอนที่พวกเธอลุกขึ้นมาจากเตียงในตอนเช้า ท่วงท่าที่เฉื่อยชาและสั่นไหวไปมายามที่อยู่บนเตียงนั้นสวยงามยิ่งนัก อย่างไรก็ตามมันเป็นเรื่องน่าเสียดายที่มีคนจำนวนน้อยที่จะได้เห็น ในปัจจุบันไม่มีชายใดที่จะสามารถมองเห็นสภาพแบบนั้นของชางห่ายหมิงเยวี่ยและห่าวหยุนลิ่วลี่ได้ในตอนที่พวกเธอยังคงอยู่บนเตียง

 

เมื่อหญิงสาวทั้งสองเห็นชิงสุ่ยถือชุดเกราะและสิ่งของอื่นๆมากมาย พวกเธอก็เดินเข้ามาหาอย่างอยากรู้อยากเห็น ถึงแม้มีหยุดชะงักไปบ้างเล็กน้อย อาจเป็นเพราะพวกเธอรู้สึกไม่สบายใจนิดหน่อยเมื่อนึกถึงฉากในคืนที่ผ่านมาโดยเฉพาะกับตัวชางห่ายหมิงเยวี่ย

 

"ชิงสุ่ย สิ่งของพวกนี้คืออะไรกัน?"

 

"ยอดเยี่ยมเลยที่พวกเจ้าทั้งสองคนอยู่ที่นี่ พวกเจ้าเอามันไปคนละหนึ่งชุดและส่วนที่เหลือสำหรับท่านผู้อาวุโส" ชิงสุ่ยยิ้มและพูดกับหญิงสาวทั้งสอง

 

"นี่สำหรับพวกเราหรือ?"

 

"ถ้าไม่ใช่แล้วจะเป็นของผู้ใดกัน? นี่สำหรับพวกเจ้าและของอีกสองชุดสำหรับผู้อาวุโสทั้งสอง" ชิงสุ่ยแนะนำอีกครั้ง

 

ชางห่ายหมิงเยวี่ยทำท่าเหมือนจะพูดอะไรบางอย่าง แต่เธอก็หยุดมันเอาไว้และรับของมาจากมือของชิงสุ่ย ห่าวหยุนลิ่วลี่เองก็รีบหยิบเอามันไป ชิงสุ่ยมีความสุขมาก เขารู้ว่าชางห่ายหมิงเยวี่ยคงจะต้องการถามเขาว่าพวกมันถูกหลอมขึ้นมาตั้งแต่เมื่อไหร่ แม้ว่าเธอจะไม่ได้พูดอะไรออกมาก็ตาม

 

"ข้าสามารถลองมันดูตอนนี้ได้เลยหรือไม่?" ห่าวหยุนลิ่วลี่กระพริบตาอันงดงามและพูดขณะที่เธอนึกถึงคุณสมบัติพิเศษของพวกมันเหล่านั้น

 

ชิงสุ่ยยิ้มและพยักหน้า!

 

ห่าวหยุนลิ่วลี่หยิบชุดของเธอและเดินเข้าไปในห้อง!

 

"เจ้าอยากที่จะลองมันดูบ้างหรือไม่?" ชิงสุ่ยมองไปที่ชางห่ายหมิงเยวี่ยที่อยู่ข้างๆเขา เขารู้สึกว่าเธอคงจะดูงดงามและน่าหลงใหลมากจนไม่อาจจะห้ามใจได้หากว่าเธอใส่มัน

 

ชางห่ายหมิงเยวี่ยมองไปทางชิงสุ่ยอย่างแปลกประหลาด ชิงสุ่ยถูเบาๆไปที่จมูกของเขาและหยิบกำไลที่มือของเขาส่งให้ชางห่ายหมิงเยวี่ย

 

"นี่ของเจ้า ทุกคนจะได้รับมันคนละหนึ่งชิ้น"

 

ชางห่ายหมิงเยวี่ยไม่ได้รับมันเอาไว้ เธอเพียงแค่จ้องมองไปที่กำไล มันมีสีดำสวยงาม เมื่อมองดูแล้วช่างน่าลึกลับซับซ้อน ชางห่ายหมิงเยวี่ยไม่ได้หยิบมันขึ้นมา แต่เธอกลับแบมืออันเรียวงามดั่งหิมะออกมา

 

จิตใจของชิงสุ่ยเริ่มว้าวุ้นจากการแสดงออกของเธอ เขาวางมันลงบนฝ่ามือที่งดงามดั่งหิมะและมองอย่างงุนงงไปที่ใบหน้าอันงดงามราวเทพธิดา

 

ชางห่ายหมิงเยวี่ยขยับตัวออกห่างจากชิงสุ่ย ในขณะนั้นห่าวหยุนลิ่วลี่ก็ได้เดินออกมาในชุดซึ่งประกอบไปด้วยชุดเกราะต่อสู้สีทองคำและรองเท้าสีมรกต แม้ว่าชิงสุ่ยจะได้เตรียมใจกับความงดงามเช่นนี้ไว้บางแล้ว แต่เขาก็ยังคงตกตะลึงกับความงามอันน่าอัศจรรย์ของเธอ

 

ดวงตาที่มีเสน่ห์ของห่าวหยุนลิ่วลี่เป็นประกายเมื่อเธอมองไปที่ชิงสุ่ย เธอทำให้เขารู้สึกเสียวซ่านราวกับว่าเขากำลังถูกกัดเซาะด้วยพลังบางอย่าง

 

"อสูรสาว!" ชิงสุ่ยรู้สึกว่าคำพูดนี้อธิบายได้ดีที่สุดเกี่ยวกับการกระทำของเธอ เธอให้ความรู้สึกราวกับว่าเธอมีเปลวเพลิงซึ่งจะทำให้คนอื่นถูกกักขังอยู่ในป่าแห่งจินตนาการ

 

"ข้าดูดีหรือไม่?" ห่าวหยุนลิ่วลี่นั่งคุกเข่าด้านหน้าชิงสุ่ยและหมุนวนไปรอบๆ ผมสีดำยาวสลวยของเธอที่ปกคลุมไหล่ช่วยเสริมเสน่ห์ของหญิงสาวให้กับเธอ

 

"แน่นอน เจ้าดูดี!" ชิงสุ่ยพูดและหยิบกำไลยื่นให้เธอไปชิ้นหนึ่ง เมื่อเขาเห็นห่าวหยุนลิ่วลี่ทำท่าทางยั่วยวนเล็กน้อยขณะที่เธอเอื้อมมืออันเรียวบางออกมา ชิงสุ่ยก็มองไปทางชางห่ายหมิงเยวี่ยอย่างอึดอัดใจ

 

ในขณะที่ชางห่ายหมิงเยวี่ยเองก็ยิ้มราวกับว่าเธอไม่ได้เห็นอะไร!

 

"สำหรับสองสามวันนี้ อย่าปล่อยให้เรื่องต่างๆพวกนี้มาคอยเป็นปัญหากวนใจเลย นำของที่เหลือเหล่านี้ไปให้พวกผู้อาวุโสทั้งสองด้วย ข้าหวังว่าพวกเขาจะได้รับประโยชน์จากมัน" ชิงสุ่ยมอบสิ่งของที่เหลืออยู่ในมือให้กับชางห่ายหมิงเยวี่ย

 

ห่าวหยุนลิ่วลี่รู้สึกประหลาดใจมากที่ได้ใส่รองเท้าที่ชิงสุ่ยทำให้เป็นครั้งแรก เธอไม่ได้ถามอะไรแม้ว่าจะรู้สึกประหลาดใจก็ตาม เธอรู้สึกดีใจมากที่ทราบว่าทุกอย่างถูกสร้างขึ้นโดยชิงสุ่ย มันราวกับว่าเป็นเรื่องที่ดูปกติมาก

 

"เยวี่ยเยวี่ย หลังจากที่เจ้าใส่มันแล้วอย่าลืมเอามาให้ข้าดูด้วยหล่ะ!" ชิงสุ่ยร้องขอกับงหญิงสองสาวทั้งสองคนที่เดินจากไปได้ไม่ไกล

 

สิ่งที่เขาได้รับคือเสียงหัวเราะของห่าวหยุนลิ่วลี่และสายตาที่คอยแอบชำเลืองมองของชางห่ายหมิงเยวี่ย!

 

เมื่อชิงสุ่ยเห็นชางห่ายหมิงเยวี่ย เขารู้ว่าเหตุการณ์ในอดีตทำให้เธอเปลี่ยนไปหรือทำให้เธอหยิ่งน้อยลง!

 

ระหว่างทานอาหารเช้าคู่ผัวเมียชางห่ายมองไปที่ชิงสุ่ยด้วยรอยยิ้มบนใบหน้า แม้กระทั่งชางห่ายหมิงเยวี่ยก็รู้สึกเขินอายเล็กน้อยเมื่อได้ท่าทางของพวกเขา

 

"ขอบใจชิงสุ่ยสำหรับสิ่งของพวกนี้ มันทำให้ข้าสามารถต่อกรกับผู้อื่นได้เพิ่มขึ้นอีกกว่าสิบกระบวนท่า! "ชางห่ายยิ้มและกล่าว

 

"ท่านผู้อาวุโสไม่จำเป็นต้องขอบคุณข้าเลย คราวนี้มันเป็นการต่อสู้ที่เดิมพันด้วยชีวิต" ชิงสุ่ยยิ้มและพูดออกมาด้วยใจจริง หญิงสาวทั้งสองคนที่กำลังมองดูฉากที่เกิดขึ้นไม่อยากจะเชื่อสายตาของตัวเองสักเท่าไหร่ โดยเฉพาะกับชางห่ายหมิงเยวี่ยที่หลายครั้งมักจะต้องเจอกับรอยยิ้มอันลามกของชิงสุ่ยที่มีต่อเธอ อย่างไรก็ตามการได้เห็นความจริงใจในรอยยิ้มของเขาตอนนี้ก็ทำให้เธอคิดว่ามันช่างน่าเหลือเชื่อที่เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น

 

"เอาล่ะ แต่ถ้าสถานการณ์ที่เกิดขึ้นดูแล้วไม่ค่อยจะสู้ดี พวกเจ้าทุกคนจะต้องเชื่อฟังคำสั่งของข้า" ชางห่ายมองไปทางชิงสุ่ยและพูดอย่างจริงจัง

 

ชิงสุ่ยถอนหายใจและพยักหน้า เขารู้ว่าเมื่อเกิดอะไรขึ้นชางห่ายจะต้องบอกให้เขาพาชางห่ายหมิงเยวี่ยหนีไป

 

สายตาของชางห่ายหมิงเยวี่ยเศร้าสลดเล็กน้อย แต่เธอก็ไม่ได้พูดอะไรสักคำ อย่างไรก็ตามสายตาอันดื้อรั้นของเธอก็บอกให้คนอื่นๆทราบถึงการตัดสินใจของเธอเอง

 

ชางห่ายยิ้มเล็กน้อย เมื่อถึงเวลาเขาก็มีวิธีการที่จะทำให้ชิงสุ่ยพาเธอหนีไป

 

ชิงสุ่ยไปที่ร้านตีเหล็กในตอนเช้าและเห็นฮูยูอยู่ไม่ไกล เมื่อฮูยูเห็นชิงสุ่ย เขาก็เดินเข้าไปหาอย่างมีความสุข!

 

"ข้าเข้าใจขั้นตอนการไหลเวียนของลมปราณแล้ว ข้าเข้าใจการไหลเวียนของลมปราณแล้ว!" ฮูยูกล่าวซ้ำไปซ้ำมา

 

ชิงสุ่ยยิ้มและกล่าวว่า" ตอนนี้ท่านสามารถเรียนรู้เทคนิคการทุบด้วยค้อนได้แล้ว"

 

ชิงสุ่ยไม่ได้ปิดประตูร้านตีเหล็ก เขากลัวว่าชายวัยกลางคนที่สง่างามจะกลับมาอีกครั้ง การสัญจรของผู้คนในถนนและภายในร้านยังคงมีข้อจำกัดอยู่บ้าง

 

ชิงสุ่ยแนะนำจุดหลักๆของเทคนิคพันค้อนกัมปนาทให้กับฮูยู เขาสอนการใช้พลังและสาธิตให้เห็นอย่างช้าๆ ก่อนที่เขาจะมองดูความพยายามของฮูยูในการหลอมอยู่ข้างๆ

 

ปัจจุบันฮูยูได้หายจากอาการป่วยของเขาแล้ว หลังจากได้รับการรักษาจากชิงสุ่ย การเสริมสร้างกล้ามเนื้อของเขามีความแข็งแรงมากขึ้นกว่าเดิม

 

จนกระทั่งผ่านไปครึ่งวัน ชิงสุ่ยรู้สึกว่าฮูยูสามารถใช้เทคนิคพันค้อนกัมปนาทได้แล้ว แต่ก็ยังไม่มีความคล่องแคล่วมากเท่าไหร่ เขาวางแผนที่จะให้ผลเสริมปราณอีกสองผลแก่ฮูยูค แต่ก็รู้สึกเสียดายที่เขาจะไม่มีอะไรเหลือแล้ว นอกเหนือจากผลเสริมความว่องไวที่เก็บไว้เผื่อในกรณีฉุกเฉิน ผลไม้พวกนี้ถูกเก็บไว้เพื่อช่วยตัวเขาและสร้างเส้นทางหลบหนี นั่นเป็นเหตุผลที่เขาเก็บมันไว้จำนวรหนึ่ง ในตอนนี้มันสามารถเพิ่มความว่องไวได้ถึง 15 นาที

 

หลังจากที่จมดิ่งลงไปในความคิดครู่หนึ่ง ชิงสุ่ยก็กลับมาจ้องมองที่ฮูยูอีกครั้งและกล่าวว่า "ท่านพี่ฮู ข้าไม่จำเป็นต้องใช้ร้านตีเหล็กอีกต่อไป ข้าอาจจะไม่ได้กลับที่นี่อีก ท่านต้องฝึกฝนเทคนิคการทุบค้อนให้ดีเช่นเดียวกับการฝึกลมปราณ"

 

"ทำไมเจ้าถึงต้องจากไป?" ฮูยูถามด้วยความรู้สึกแปลกใจและเสียใจ

 

ชิงสุ่ยพยักหน้า "สิ่งที่ดีทั้งหลายบางครั้งมันก็ต้องจุดจบ  ข้ามีความสุขมากที่ได้พบกับท่านพี่ฮู ถ้าโชคชะตายอมให้เราเจอกันอีกครั้ง ข้าจะแวะมาที่นี่เพื่อบอกลาท่าน"

 

ฮูยูขมวดคิ้วและถอนหายใจ หลังจากนั้นสักครู่เขาก็กล่าวว่า "น้องชายชิงสุ่ยเจ้าบอกว่าสิ่งที่ดี เช่นนั้นหากเจ้าผ่านมาที่นี่สักวันหนึ่ง เจ้าต้องแวะมาเยี่ยมพี่ชายของคนนี้ให้ได้ ถ้าไม่มีเรื่องร้ายอะไร ข้าก็คงจะไม่ไปจากที่นี่"

 

หลังจากพูดแบบนี้แล้วฮูยูก็โห่ร้อง เขารู้สึกขอบคุณต่อหนุ่มน้อยคนนี้และรู้ว่ามันเป็นไปไม่ได้ที่ชิงสุ่ยจะอยู่ในร้านนี้ตลอดไป

 

อย่ากังวลข้าจะกลับมาเยี่ยมท่านในอนาคต ดูแลตัวเองด้วย!"

 

ชิงสุ่ยบอกลาอย่างไม่รู้สึกเศร้าหมอง ฮูยูเป็นเหมือนพี่ชายคนโตของเขา เขาไม่ต้องการให้ฮูยูไม่สบายใจ

 

ชิงสุ่ยจากไป ตอนแรกเขาต้องการจะห้ามไม่ให้ฮูยูออกจากเมืองทักษิณภายในครึ่งปีนี้ แต่เมื่อได้ยินว่าเขาไม่มีแผนที่จะออกไปไหน เขาก็รู้สึกโล่งใจ หลังจากเรื่องทุกอย่าง ชิงสุ่ยกังวลว่าคนเหล่านั้นที่เขาติดต่อด้วยจะตกเป็นเหยื่อของนิกายเทพกระบี่ หากพวกเขาไม่ได้ออกไปจากที่นี่พวกเขาก็อาจจะปลอดภัย

 

เมื่อชิงสุ่ยกลับมาที่คฤหาสน์ชางห่าย เขารู้สึกมั่นใจว่าชางห่ายหมิงเยวี่ยและห่าวหยุนลิ่วลี่ ได้เข้ามาในหัวใจของเขาแล้วและเขาก็ไม่สามารถที่จะตัดขาดจากพวกเธอได้

 

ชิงสุ่ยนึกไม่ออกถึงเหตุผลที่อยู่เบื้องหลังการผจญภัยครั้งนี้ ในตอนต้นเขาได้วางแผนที่จะมาถึงมหาทวีปเมฆามรกตเพื่อเก็บประสบการณ์และฝึกฝนตัวเอง เขาไม่ได้คาดหวังให้ชางห่ายหมิงเยวี่ยและห่าวหยุนลิ่วลี่มาอยู่ร่วมกับเขา เมื่อเวลาผ่านไปความรู้สึกก็เริ่มเปลี่ยนแปลง ชิงสุ่ยไม่ได้มีเพื่อนมากมายนัก เขาได้รับการปฏิบัติจากชางห่ายหมิงเยวี่ยและห่าวหยุนลิ่วลี่ ในฐานะเพื่อนของพวกเธอ

 

ในบางช่วงเวลาชิงสุ่ยรู้สึกว่าความสัมพันธ์ของพวกเขาไม่ใช่เรื่องง่ายๆเพียงแค่เป็นเพื่อนกัน แต่ก็ไม่ใช่เรื่องของความรัก ชิงสุ่ยไม่ได้คาดหวังเรื่องนี้ แต่มันก็เป็นความสัมพันธ์ที่ซับซ้อนและยุ่งเหยิง

 

เมื่อเขากลับไปและเห็นว่าชางห่ายหมิงเยวี่ยกำลังยืนอยู่ที่บ่อน้ำอีกครั้งในช่วงเวลาที่ตกต่ำ ชิงสุ่ยรู้ว่าเธอรู้สึกกังวลเกี่ยวกับเรื่องที่กำลังจะเกิด

 

"เยวี่ยเยวี่ยไม่ต้องเป็นห่วง มาเถอะ ข้าจะกอดเจ้าเอาไว้…"

Prev
Next

ความคิดเห็นสำหรับ "AST บทที่ 257 - ความยุ่งเหยิงที่ไม่มีที่สิ้นสุด ทุกสิ่งทุกอย่างที่ดีกำลังจะถึงจุดจบลง"

4 15 โหวต
คุณชอบเรื่องนี้ไหม?
ติดตาม
เข้าสู่ระบบ
แจ้งเตือนของ
กรุณาเข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่คุณอาจชอบ

Heavenly Curse ยอดเซียนเต๋า เขย่ายุทธภพ (นิยายแปล)
Heavenly Curse ยอดเซียนเต๋า เขย่ายุทธภพ (นิยายแปล)
พฤษภาคม 17, 2022
The Great Mage Returns After 4000 Years
The Great Mage Returns After 4000 Years
มีนาคม 12, 2022
Castle of Black Iron
Castle of Black Iron
พฤษภาคม 17, 2022
Bank of the Universe
Bank of the Universe
ตุลาคม 21, 2024
แม่สาวชาวสวน **(จบแล้ว)**
แม่สาวชาวสวน **(จบแล้ว)**
มีนาคม 12, 2022
love code at the end of the world
love code at the end of the world
มีนาคม 12, 2022
Tags:
กำลังภายใน
ประวัติการเข้าชม
You don't have anything in histories
หมวดหมู่นิยาย
  • sci-fi (24)
  • Video Games (11)
  • กำลังภายใน (36)
  • จีนกำลังภายใน (1)
  • ดราม่า (3)
  • ตลก (3)
  • นิยายลิขสิทธิ์ (18)
  • นิยายแต่ง (3)
  • ย้อนยุค อนาคต (7)
  • สยองขวัญ (2)
  • เกมส์ออนไลน์ (5)
  • แฟนตาซี (161)

© 2025 Madara Inc. All rights reserved

Premium Chapter

คุณจำเป็นต้องเข้าสู่ระบบก่อน

wpDiscuz