หน้าแรก Amnovel
  • หน้าแรก
  • นิยายทั้งหมด
  • เติมเงิน
  • ติดต่อเรา
ค้นหา
ค้นหาขั้นสูง
เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก
  • หน้าแรก
  • นิยายทั้งหมด
  • เติมเงิน
  • ติดต่อเรา
  • เข้าสู่ระบบ
เข้าสู่ระบบ
Prev
Next

เทพอสูรบรรพกาล -Ancient Strengthening Technique - AST บทที่ 252 - พวกเราเป็นครอบครัวเดียวกัน... สิ่งยั่วยวน? สร้อยคอ

  1. หน้าแรก
  2. เทพอสูรบรรพกาล -Ancient Strengthening Technique
  3. AST บทที่ 252 - พวกเราเป็นครอบครัวเดียวกัน... สิ่งยั่วยวน? สร้อยคอ
Prev
Next

ฝากติดตามเพจด้วยนะครับ แฟนเพจ แจ้งเตือนก่อนใคร กดเลย

https://www.facebook.com/AncientStrengtheningTechnique

บทที่ 252 – พวกเราเป็นครอบครัวเดียวกัน… สิ่งยั่วยวน? สร้อยคอ

 

"ไม่ใช่เพราะข้าเป็นห่วงเจ้าหรือ? เจ้าไม่ได้ให้ความสบายใจแก่ผู้อื่น ในขณะที่น้ำในทะเลมีคลื่นแรงโหมกระหน่ำ แต่การที่ต้องไปเผชิญกับมันช่างเป็นเรื่องที่น่าสังเวชจริงๆ…"

 

เขามองไปที่รอยยิ้มของเทพธิดาซึ่งเป็นเหมือนดอกไม้เบ่งบานสะพรั่งด้านหน้า ก่อนที่ชิงสุ่ยจะตกอยู่ในความงุนงง ชิงสุ่ย ไม่ได้เคยคาดหวังว่าจะได้เห็นรอยยิ้มอันพร่างพราวจากเธอ มันน่าสนใจยิ่งกว่าสิ่งของที่สวยๆงามๆ

 

เสียงหัวเราะของเธอมีเอกลักษณ์และน่าสนใจ แตกต่างจากเสียงที่ยั่วยวนใจของห่าวหยุนลิ่วลี่และยอดเยี่ยมกว่าเสียงอันแหบแห้งของอีเย่เจี้ยนเก้อ เสียงของเธอเป็นบางสิ่งที่อยู่ระหว่างอีเย่เจี้ยนเก้อและห่าวหยุนลิ่วลี่ มันมีเสน่ห์อันโดดเด่น!

 

อาจเป็นเพราะเธอรู้สึกถึงแสดงการออกของชิงสุ่ย ชางห่ายหมิงเยวี่ยเบือนหน้าหนีอย่างไม่ได้ตั้งใจ อย่างไรก็ตามเธอพูดด้วยน้ำเสียงที่ดูยั่วยวนว่า "เจ้ารู้เสมอว่าจะพูดไร้สาระอย่างไร"

 

การได้ยินเสียงของชางห่ายหมิงเยวี่ยนำมาซึ่งความรู้สึกที่ไม่เหมือนใคร ชิงสุ่ยมีความสุขมาก อย่างน้อยตอนนี้อารมณ์ของเธอก็เครียดน้อยลง หลังจากที่ทุกข์และกังวลอย่างต่อเนื่อง มันถือเป็นเรื่องไม่ดีสำหรับร่างกาย เหตุผลที่เธอมาที่นี่เพื่อที่จะผ่อนคลายลง อาจจะเป็นเพราะเธอไม่ต้องการที่จะกังวลกับคู่ผัวเมียชางห่ายมากจนเกินไป

 

"ไปเถอะ ถึงเวลากินอาหารแล้ว ถ้าไม่เช่นนั้นพวกเขาคงจะตามหาพวกเราเป็นแน่" ชางห่ายหมิงเยวี่ยกล่าวเบาๆ ขณะที่เธอมองไปที่ชิงสุ่ยซึ่งกำลังมองไปที่เธอและยิ้มอย่างอบอุ่น เธอชอบรอยยิ้มของชิงสุ่ย มันคล้ายกับพ่อของเธอและเธอชอบความรู้สึกนี้

 

คู่ผัวเมียชางห่ายเห็นภาพเหตุการณ์ของชิงสุ่ยกับชางห่ายหมิงเยวี่ยที่หาดูได้ยาก พวกเขารู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้เห็นว่าพวกเขามีความสัมพันธ์อันดีกัน ห่าวหยุนลิ่วลี่รู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้เจอชิงสุ่ย

 

หลังจากได้เห็นชิงสุ่ยแล้วรอยยิ้มของชางห่ายก็ไม่ลดลงเลย เขาเห็นเงาของตัวเองในตัวชิงสุ่ยหรือบางทีชิงสุ่ยอาจจะโดดเด่นยิ่งกว่าเขาในตอนที่ยังหนุ่มๆ ที่สำคัญที่สุดคือชิงสุ่ยมีความฉลาดและมีไหวพริบ เขาสามารถมองเห็นสิ่งต่างๆและปัญหาต่างจากคนที่อายุพอๆกับตัวเอง เมื่อต้องแก้ปัญหาเขาสามารถสงบสติอารมณ์ได้ ที่สำคัญที่สุดคือเขาค่อนข้างดูลึกลับมาก ชางห่ายอยากจะเห็นว่าชายหนุ่มคนนี้สามารถปีนขึ้นไปได้ไกลแค่ไหนในอนาคต

 

"ท่านผู้อาวุโส ในอนาคตข้าอยากจะกลับไปที่บ้าน" หลังกินอาหารเสร็จชิงสุ่ยก็กล่าวขึ้นมา ทุกคนมองเขาด้วยความประหลาดใจ

 

"นี่คือบ้านของเจ้า เจ้าสามารถกลับมาได้ทุกเมื่อที่เจ้าต้องการ เราหวังว่าเจ้าจะอยากอยู่ที่นี่ต่อ" ชางห่ายหมิงเยวี่ยยิ้มและพูด เสียงอันระทึกใจและคำพูดอันอบอุ่นของเธอทำให้ชิงสุ่ยรู้สึกมีความสุขมาก

 

หลังจากที่ตะลึงงันชั่วครู่!

 

"จะไม่มีใครแตะต้องห้องของเจ้า มาเถอะ ให้เราไปช่วยห่มผ้าให้เจ้า! "ชางห่ายหมิงเยวี่ยดึงห่าวหยุนลิ่วลี่ ขณะที่เธอมองไปที่ชิงสุ่ยกล่าวออกไป

 

ชิงสุ่ยถูจมูกของเขาขณะที่เขายิ้มและมองไปที่คู่ผัวเมียชางห่ายที่กำลังยิ้มอยู่ หลังจากนั้นเขาก็ไปกับหญิงสาวทั้งสองคนที่รู้ว่าพวกเขาพูดผิด ชิงสุ่ยไม่เข้าใจว่าทำไมชางห่ายหมิงเยวี่ยถึงแสดงท่าทีที่ผิดปกติในวันนี้

 

ขณะที่พวกเขาเดินไป ชิงสุ่ยมองไปที่ชางห่ายหมิงเยวี่ยอย่างงงงวย ในตอนท้ายชางห่ายหมิงเยวี่ยไม่สามารถทนกับการมองของชิงสุ่ยได้อีกต่อไป เธอหันศีรษะไปทางชิงสุ่ยและพูดอย่างไพเราะว่า "อย่าปล่อยให้จินตนาการของเจ้าเตลิดไป ข้าเพียงแค่แสดงความขอบคุณสำหรับคำพูดของเจ้าก่อนหน้านี้"

 

ชิงสุ่ยยังคงเงียบและเขาก็ยิ้มด้วยความสนุกสนาน ดวงตาที่ชัดเจนของเขาจ้องมองไม่กะพริบในความรู้สึกอายเล็กน้อยของ ชางห่ายหมิงเยวี่ย

 

หลังจากพูดจบแล้วชางห่ายหมิงเยวี่ยก็หันศีรษะของเธออย่างรวดเร็วหลังจากที่ได้เห็นสายตาของชิงสุ่ย เธอรู้สึกอายมากยิ่งขึ้น ดวงตาที่ไร้เดียงสาและน่ารักของเขาเป็นการถูกลงโทษสำหรับเธอ คำพูดของเธอก่อนหน้านี้ก็ทำให้รู้สึกถึงการหลอกลวงตัวเองและการปฏิเสธที่ดูเงอะงะของเธอทำให้รู้สึกเหมือนเธอพ่ายแพ้…

 

ชิงสุ่ยไม่รู้จะทำอย่างไร เขาหัวเราะออกมาเมื่อเขาเห็นท่าทีของชางห่ายหมิงเยวี่ย มันทำให้เธอรู้สึกไม่พอใจ!

 

ห้องที่ชิงสุ่ยเคยอาศัยอยู่เป็นระยะเวลาหนึ่งยังคงสะอาดมาก ไม่มีฝุ่นละออง เมื่อเขาเดินเข้ามาและเห็นร่องรอยของการทำความสะอาด เขาก็ไม่ได้พูดอะไร

 

ในที่สุดหญิงสาวทั้งสองคนก็เดินไปข้างหน้าเพื่อเปลี่ยนผ้าปูที่นอน

 

เมื่อมองไปที่ร่างกายอันงดงามที่กำลังโค้งงอของทั้งคู่ ชิงสุ่ยรู้สึกถึงความสำเร็จในด้านลามก เมื่อไหร่ที่เขาจะสามารถปักหลักและมีสถานที่อันอบอุ่นกับหญิงสาวที่เขาชอบ? ในอนาคตเมื่อพวกเขามีลูกเป็นของตัวเองก็คงจะมีความสุขมากที่พวกเขามาคอยเอาใจและเล่นกับลูกๆของพวกเขา

 

ชิงสุ่ยคิดถึงการหมั้นหมายกับสือฉิงจวง ถ้าพวกเขาแต่งงานกันและมีสถานที่อันอบอุ่นเป็นของตัวเองพร้อมกับมีลูกก็จะเป็นครอบครัวที่เต็มไปด้วยความสุขของทั้งสามคนหรือพวกเขาอาจจะมีลูกอีกสองสามคนด้วยกัน

 

อย่างไรก็ตามในไม่ช้าชิงสุ่ยก็นึกถึงการแสดงออกที่ขัดแย้งกันของมารดา ความรู้สึกของความไร้อำนาจเป็นเรื่องที่เลวร้ายมาก การถูกบังคับให้แยกออกจากเลือดเนื้อเชื้อไขของตนเองเป็นความทุกข์ทรมานที่รุนแรงที่สุด

 

ชิงสุ่ยส่ายหัว ก่อนที่เขาจะเพิ่มขีดความสามารถของเขา เขาอยากจะหยุดตัวเองจากการคิดเรื่องเหล่านี้ซึ่งจะทำให้เขาบ้าคลั่งได้ เมื่อเขาเงยศีรษะขึ้นอีกครั้งเขาสังเกตเห็นว่าหญิงสาวทั้งสองคนกำลังยืนอยู่ตรงหน้าเขา ดวงตาที่อบอุ่นใจของพวกเธออบอุ่นกว่าดวงอาทิตย์ที่ร้อนแรง

 

"ชิงสุ่ยอย่านึกถึงมัน ทุกอย่างจะไม่เป็นไร" ห่าวหยุนลิ่วลี่รู้ว่าชิงสุ่ยคิดถึงสิ่งที่ไม่มีความสุขและอาจเกี่ยวข้องกับหญิงสาวของตระกูลเยียน แต่เธอก็ไม่แน่ใจและไม่รู้ว่าชิงสุ่ยคิดอะไร

 

"ข้าสบายดีแค่ปล่อยให้จินตนาการของข้ามันฟุ้งซ่าน!" ชิงสุ่ยกล่าวอย่างใจเย็นและส่งมอบกระดาษสองชิ้นที่เขาเตรียมไว้ให้กับหญิงสาวทั้งสองคน

 

วิธีการฝึกฝนเคล็ดกวางย่างก้าวไปจนถึงรูปลักษณ์กระเรียนได้ถูกเขียนไว้ทั้งหมดในนั้น ที่สำคัญที่สุดชิงสุ่ยได้จดบันทึกประสบการณ์และความคิดของเขาไว้ด้วย นี้จะช่วยให้พวกเธอเข้าใจถึงเคล็ดวิชาต่างๆได้อย่างรวดเร็ว ชิงสุ่ยต้องการให้พวกเธอสามารถยกระดับการเพาะการฝึกตนให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ เพราะมันจะเป็นประโยชน์สำหรับพวกเธอในเหตุการณ์ที่กำลังจะเกิดขึ้นเร็วๆนี้

 

ชางห่ายหมิงเยวี่ยรับมันมาด้วยความรู้สึกงงๆ หลังจากที่ได้รับมันและเปิดดู ห่าวหยุนลิ่วลี่ก็มองไปที่ชิงสุ่ยอย่างมีความสุขและกล่าวว่า "ขอบคุณชิงสุ่ย!"

 

เธอสามารถบอกได้ว่าเคล็ดวิชากวางย่างก้าวที่อยู่ในนั้นเพียงแค่รูปลักษณ์เดียวก็สามารถช่วยในการเรียนรู้แก่เธอได้เป็นอย่างมาก เธอรู้ว่าระดับการฝึกตนของเธอจะทำให้เคล็ดวิชากวางย่างก้าวสูงขึ้นไปอีกระดับ นอกจากนี้หลังจากที่เห็นว่ามีเทคนิคอื่นๆที่คล้ายคลึงกับเคล็ดวิชากวางย่างก้าว เธอก็รู้ว่าเทคนิคเหล่านี้อาจจะแข็งแกร่งกว่าเคล็ดวิชากวางย่างก้าวด้วยซ้ำไป

 

เมื่อเห็นว่าห่าวหยุนลิ่วลี่มีพฤติกรรมเช่นนี้ ในขณะที่ตัวเธอเองก็ถูกดึงดูดหลังจากอ่านมันเพียงนิดน้อย ชางห่ายหมิงเยวี่ยรู้ว่าเหตุผลที่ห่าวหยุนลิ่วลี่พัฒนาได้ดีขึ้นเป็นอย่างมากเพราะเหตุใด เธอยิ้มและพยักหน้าตอบ

"เกือบลืมไปเลย ขอบคุณสำหรับรองเท้า!" ชางห่ายหมิงเยวี่ยกล่าวอย่างมีความสุข

 

ชิงสุ่ยตะลึงงันก่อนที่เขาจะยิ้มและพูดว่า "ไม่ต้องมากพิธีหรอก เราไม่ใช่ครอบครัวเดียวกันหรือ? "

 

ชางห่ายหมิงเยวี่ย "….."

 

ในทางกลับกันห่าวหยุนลิ่วลี่ยิ้มรับ ดวงตาอันงดงามของเธอมองไปที่ชิงสุ่ย เสน่ห์ที่เย้ายวนใจที่เธอเปล่งออกมานั้นบริสุทธิ์มาก ทำให้ชิงสุ่ยเกิดแรงกระตุ้นที่อยากจะเธอกอดและบีบลงไปบนยอดเม็ดบัวหิมะและรูปที่สวยงาม

 

ชิงสุ่ยจ้องมองไปที่ยอดเม็ดบัวหิมะของห่าวหยุนลิ่วลี่ เขาเลียริมฝีปากอย่างไม่ได้ตั้งใจ นี่เป็นเพียงเรื่องไร้สาระ เขารู้ว่าการแสดงออกเช่นนี้ของเขามักจะรู้สึกดีถ้าเป็นชางห่ายหมิงเยวี่ย อย่างไรก็ตามคราวนี้เมื่อชิงสุ่ยใช้ปีศาจร้ายในตัวเขากับห่าวหยุนลิ่วลี่ ก่อนที่เขาจะสามารถดำเนินการกระทำใดๆเขาก็แทบจะลำสักเลือดออก

 

ห่าวหยุนลิ่วลี่ไม่เพียงแต่หลีกเลี่ยงการจ้องมองของชิงสุ่ย แต่เธอกลับขยับเนินภูเขาทั้งสองอันนุ่มนวลไปมา ดวงตาที่งดงามของเธอเต็มไปด้วยเสน่ห์อันเย้ายวน เธอมองไปที่ชิงสุ่ยก่อนที่เธอจะเอาลิ้นสีชมพูออกมาและเลียริมฝีปากของเธออย่างละเมียดละไมเช่นเดียวกับที่ชิงสุ่ยทำ…

 

ชิงสุ่ยไม่รู้ว่าจะทำอย่างไร ถ้าชางห่ายหมิงเยวี่ยไม่ได้อยู่รอบๆ เขาก็จะเลือกจัดการกับหญิงสาวคนนี้ที่กำลังเล่นอยู่กับไฟ อย่างไรก็ตามเขาสามารถทนกับมันในตอนนี้ได้ ไม่มีอะไรที่เขาสามารถทำได้มากไปกว่านี้…

 

"ข้าจะไปที่ร้านตีเหล็กในตอนบ่าย เจ้าสองคนสามารถฝึกซ้อมไปก่อนได้เลย ตอนนี้เจ้าจะต้องทำความคุ้นเคยกับความสามารถของพวกมัน" หลังจากที่ตกลงไปในความงุนงงในช่วงเวลาสั้นๆ ชิงสุ่ยก็ตัดสินใจที่จะไปที่ร้านตีเหล็ก

 

หลังจากที่เขาได้ระฆังสะท้านจิตมาไว้ในมือแล้ว ชิงสุ่ยก็มีความคาดหวังบางอย่าง ดังนั้นเขาจึงไม่ต้องการเสียเวลาใดๆเลยในวันนี้ มันเหมือนกับว่าเขาได้รับระฆังสะท้านจิตมาไว้ในมืออย่างไม่คาดคิดหรือไม่ ชิงสุ่ยยังคงหวังว่าวันหนึ่งเขาจะมีกล่องห้วงมิติหรือเครื่องเคลื่อนย้ายระยะไกลในอนาคต ถ้ามันมีอะไรเกิดขึ้นก็จะไม่ต้องเสียเวลาในการไปในที่ต่างๆและจะสามารถหลบหนีได้อย่างง่ายดาย

 

ย้อนกลับไปที่ร้านตีเหล็ก ชิงสุ่ยนึกถึงรูปลักษณ์พยัคฆ์ที่ฮูยูฝึกฝน ชิงสุ่ยต้องการให้ฮูยูหนีไปเพราะว่าไม่ต้องการให้เขามีส่วนร่วมในปัญหานี้ อย่างไรก็ตามในที่สุดเขาก็ลดละความคิดนี้ เขากลัวว่าบางสิ่งบางอย่างอาจเกิดขึ้นกับฮูยู

 

เขาค้นพบชิ้นส่วนแร่นภาสัมฤทธิ์ ชิงสุ่ยเริ่มทุบและถลุง เขานึกถึงสร้อยคอของวิหคเพลิง ชิงสุ่ยได้เพิ่มแร่นภาสัมฤทธิ์ลงไปมากขึ้น ในขณะที่เขาใช้ ประติมากรรมดินเผาเงินเพื่อสร้างสร้อยคอขนาดใหญ่

 

“อ่าาาาาา ยังคงต้องคำนวณถึงขนาดคอของสัตว์อสูรที่พอเหมาะ… เป็นเรื่องที่ยอดเยี่ยมจริงๆที่คอของวิหคเพลิงไม่ได้มีขนาดใหญ่จนเกินไป ถ้าไม่ใช่เช่นนั้นแล้ว ข้าก็คงไม่รู้ว่าจะหลอมมันขึ้นมาอย่างไร"

 

ชิงสุ่ยวางประติมากรรมดินเผาเงินขนาดยักษ์ไว้อย่างระวัดระวัง ก่อนที่เขาจะเริ่มหลอมแร่นภาสัมฤทธิ์ส่วนที่เหลืออีกเล็กน้อยและเริ่มขั้นตอนการถลุง ชิงสุ่ยไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากล็อกประตูร้านเพื่อไม่ให้ใครมารบกวน ชิงสุ่ยใช้เตาเพื่อหลอมแร่นภาสัมฤทธิ์เป็นเวลานานจนทำให้เหลือเพียงส่วนแก้นแท้ที่สำคัญเท่านั้น

 

เมื่อชิงสุ่ยมันเทลงไปในประติมากรรมดินเผาเงิน เขาเริ่มเสริมสร้างพลังงานให้กับสร้อยคอของด้วยลมปราณจากเคล็ดเสริมกายาบรรพกาล เขาค่อยๆรอให้แร่นภาสัมฤทธิ์ปกคลุมไปทั่วและแข็งตัว

 

หลังจากที่เย็นลงแล้ว ชิงสุ่ยไม่ได้สนใจความจริงที่ว่าสร้อยคอนภาสัมฤทธิ์ยังร้อนระอุอยู่แม้แต่น้อย เขาหยิบมันขึ้นมาและขึ้นรูปสร้อยคอ ความกว้างของสร้อยคอมีความกว้างเพียง 4 นิ้ว ชิงสุ่ยวางมันไว้บนแท่นหลอมก่อนที่เขาจะเริ่มใช้ค้อนอย่างชำนาญ

 

เมื่อผ่านการตีหลายครั้ง ชิงสุ่ยได้ค่าประสบการณ์มากมาย สิ่งสำคัญที่สุดคือชิงสุ่ยนั้นคุ้นเคยและเชื่อมั่นในเทคนิคพันค้อนกัมปนาทของเขา

 

นี่เป็นครั้งแรกที่เขาพยายามที่จะหลอมของชิ้นใหญ่ขนาดนี้ ดังนั้นกระบวนการนี้จึงไม่ราบรื่นเท่าไหร่ สิ่งที่เขาเคยทำมาก่อนหน้านี้เป็นของที่เล็กกว่าเช่นกระบี่เล่มยาว มันใหญ่ที่สุดเท่าที่เขาเคยทำ ในบรรดาพวกมันทั้งหมดแม้แต่ของชิ้นเล็กๆก็ที่ไม่สามารถตีขึ้นรูปด้วยค้อนได้ ดังนั้นเขาจึงต้องใช้เทคนิคพันค้อนกัมปนาทด้วยมือของเขาเอง

 

หลังจากใช้ค้อนอยู่ครู่หนึ่ง ชิงสุ่ยมองไปที่ของชิ้นใหญ่อันนี้ เขาอาจจะสามารใช้ค้อนทุบได้ไม่ถึง 1,000 ชิ้น ซึ่งแตกต่างจากกระบี่ยาวและรองเท้า ซึ่งอาจจะสามารถใช้ค้อนทุบได้ถึง 1000 ชิ้น ซึ่งอาจจะพูดได้ว่าต้องใช้ค้อนทุบหลายพันครั้ง

 

เขาทิ้งความคิดที่ซับซ้อนเหล่านั้น ชิงสุ่ยเริ่มกระบวนการตีอย่างพิถีพิถันโดยหวังว่าจะได้เข้าสภาวะอันสงบเช่นเดียวกับที่เขาเคยรู้สึกก่อนหน้านี้!

 

อย่างไรก็ตามยิ่งเขาคิดอะไรมากเท่าไร สิ่งต่างๆก็ไม่ได้เป็นไปตามที่เขาต้องการ ชิงสุ่ยไม่สามารถเข้าสู่สภาวะเดียวกันได้และเขาก็ยังเห็นได้ชัดเจนว่าเขาใช้เวลาในการตีไปพอสมควร

 

สร้อยคอนภาสัมฤทธิ์มีสีเขียวสว่างไสวมาก มันกว้าง 4 นิ้วและดูเรียบๆมาก ไม่ได้มีการพิมพ์หรือการออกแบบลวดลายใดๆ

 

เขาสงสัยว่ามีเทคนิคการแกะสลักที่สามารถเพิ่มพลังได้หรือไม่!

Prev
Next

ความคิดเห็นสำหรับ "AST บทที่ 252 - พวกเราเป็นครอบครัวเดียวกัน... สิ่งยั่วยวน? สร้อยคอ"

4 15 โหวต
คุณชอบเรื่องนี้ไหม?
ติดตาม
เข้าสู่ระบบ
แจ้งเตือนของ
กรุณาเข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่คุณอาจชอบ

Badge in Azure
Badge in Azure
มีนาคม 12, 2022
The Alchemist God ทะลุมิติเทพศาสตรา
The Alchemist God ทะลุมิติเทพศาสตรา
มกราคม 12, 2023
Bringing Culture to a Different World
Bringing Culture to a Different World
พฤษภาคม 17, 2022
00731-sis-con-with-dimensional-chat-group
Sis-Con with Dimensional Chat Group ซิสค่อนต่างโลก
มีนาคม 12, 2022
ฉันมีแผงหน้าจอศิลปะการต่อสู้สุดเจ๋ง !
ฉันมีแผงหน้าจอศิลปะการต่อสู้สุดเจ๋ง ! (จบแล้ว)
กันยายน 10, 2024
จิ้งจอกน้อยจอมซ่าส์กับหม่ามี้หมอเทวดาพลิกสวรรค์
จิ้งจอกน้อยจอมซ่าส์กับหม่ามี้หมอเทวดาพลิกสวรรค์
พฤษภาคม 17, 2022
Tags:
กำลังภายใน
ประวัติการเข้าชม
You don't have anything in histories
หมวดหมู่นิยาย
  • sci-fi (24)
  • Video Games (11)
  • กำลังภายใน (36)
  • จีนกำลังภายใน (1)
  • ดราม่า (3)
  • ตลก (3)
  • นิยายลิขสิทธิ์ (18)
  • นิยายแต่ง (3)
  • ย้อนยุค อนาคต (7)
  • สยองขวัญ (2)
  • เกมส์ออนไลน์ (5)
  • แฟนตาซี (161)

© 2025 Madara Inc. All rights reserved

Premium Chapter

คุณจำเป็นต้องเข้าสู่ระบบก่อน

wpDiscuz